Group Blog
All Blog
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวบล๊อคที่รักทุกท่าน

ห่างหายจากการเขียนบล๊อคไปเสียนาน พอดีเมื่อวานลาพักร้อนได้หนึ่งวัน ก็เลยถือโอกาสเดินทางไปวัดญาณสังวรารามเพื่อกราบท่านพระอาจารย์สุชาติสักหน่อย ผมได้รู้จักท่านจากคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมถ่ายภาพท่านหนึ่ง ซึ่งเคยไปบวชอยู่กับท่านมาสิบห้าวัน ซึ่งเพื่อนเล่าให้ฟังว่าท่านมีเมตตามาก และท่านยังถูกยกย่องโดยหลวงตามหาบัวว่าเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกองค์ ทำให้กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ




ในการเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นผมก็ค้นหาคิวรถตู้ที่มีเส้นทางผ่านไปที่วัดนี้ ก็พบว่าคิวรถตู้ที่ชื่อว่า "เมืองท่ามหานคร" ซึ่งมีท่ารถตั้งอยู่ตรงใกล้ ๆ กับโชว์รูมรถยนต์ซูซูกิตรงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับ ในทุก ๆ การเดินทางผมจะพกกล้องถ่ายรูปไปด้วยเสมอ ๆ แม้ว่าระยะหลัง ๆ จะเริ่มขี้เกียจไปบ้างจึงอยากหากล้องคอมแพคเล็ก ๆ สักตัวมาไว้ในประจำการแต่ก็ยังไม่มีสักที แต่ก็มีกล้องมือถือของซัมซุงกาแล็คซี่ฟิตมาขัดตาทัพไปก่อน

การเดินทางของผมเริ่มจากออกจากบ้านประมาณแปดโมงเช้าด้วยรถมอเตอร์ไซด์เวฟคู่ชีพ โดยขี่ไปจอดทิ้งไว้ที่เซ็นทรัลเวิล แล้วต่อรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีอนุสาวรีย์แล้วเดินลงบันไดฝั่งขวามือเดินย้อนมาหน่อยหนึ่งก็พบกับคิวรถ จึงเดินไปหานายท่าเพื่อทำการจองตั๋ว ราคาค่าโดยสารก็อยู่ที่หนึ่งร้อยสี่สิบบาทถ้วนครับ นั่งรออยู่ในรถประมาณสิบห้านาที รถก็ออกจากท่ามุ่งหน้าสู่จุดหมายครับ

ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถก็คิดขึ้นได้ว่า เรามีเงินติดกระเป๋ามาแค่สามร้อยหกสิบบาทม้นจะพอเป็นค่าเดินทางกลับมากทม.หรือเปล่า เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันดีว่าตามต่างจังหวัดตู้เอทีเอ็มมันไม่ได้เยอะเหมือนใน กทม. ผมก็ชักหวั่น ๆ ซะแล้ว การเดินทางไปต่างจังหวัดโดยที่ไม่นำรถไปเองค่อนข้างจะใช้เงินในการเดินทางค่อนข้างจะใช้เงินมากพอสมควร ผมมีประสบการณ์เหล่านี้จากการเดินทางในครั้งก่อน ๆ



ในใจก็คิดว่าจะหาเบิกเอาจากตู้เอทีเอ็มแถว ๆ วัดก็ได้ ระหว่างทางก็ยังลุ้นอีกว่าขออย่าให้เจอฝนตกเลย ไม่งั้นแผนที่จะถ่ายรูปสวย ๆ คงต้องจบแน่ ๆ ปรากฏว่าพอรถเดินทางเข้าเขตพัทยาก็เริ่มมีฝนโปรยเป็นละอองลงมาให้ได้คิดในใจงานกร่อยซะแล้ว พอใกล้จะถึงวัดฝนก็ยิ่งเม็ดหนาขึ้น หนำซ้ำคนขับรถก็ยังไม่รู้จักสถานที่ในเส้นทางเดินรถดีพอเพราะเป็นมือใหม่ พาผมเลยไปหนึ่งซอยแต่หนึ่งซอยของต่า่งจังหวัดนี่มันประมาณสี่ห้ากีโลเมตร ซวยแล้วสิครับฝนก็ยังตกไม่หยุดด้วยพอลงรถก็พบร้านของชำเลยเดินเข้าไปซื้อน้ำสะอาดดื่มและถือโอกาสสอบถามเส้นทางไปต่อด้วย ก็ได้ข้อมูลจากเจ้าของร้านใจดีว่ามีสามล้อรับจ้างจอดอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ กับร้าน สนนราคาก็ประมาณหนึ่งร้อยบาทต่อเที่ยวในการไปส่งที่วัด สงสัยจะเงินไม่พอในการเดินทางซะแล้วไหมเนี่ย แต่ก็พบว่าเพราะฝนตกสามล้อรับจ้างเลยไม่ยอมออกมาทำงาน ทีนี้จะไปยังไงละเนี่ยเพราะเจ้าของร้านบอกว่าระยะทางจากวัดกับปากซอยห่างกันประมาณถึงสิบเอ็ดกิโลเมตร จะเป็นลมฝนก็ตก คิดว่าจะได้ไปกราบท่านไหมเนี่ย

จึงเดินข้ามถนนมาอีกฝั่งนั่งรอให้ฝนหยุดตก เพื่อรอลุ้นให้รถสามล้อออกมาวิ่งวินแต่จนแล้วจนรอดรถสามล้อก็ไม่ออกมาวิ่ง ในใจยิ่งร้อนรน สงสัยงานนี้ต้องมีเสียเหงื่อตากฝนเดินไปวัด ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ต้องไปให้ถึง แต่ก็ยังโชคดีที่มีพี่เจ้าของอู่รถและต่อเรือใจดีอาสาพาไปส่งให้ที่วัด ผมเลยโล่งใจไปเปราะอีกทั้งยังประหยัดเงินไปได้อีกหนึ่งร้อยบาทด้วย ต้องขอบพระคุณพี่เขาจริง ๆ






แต่เนื่องด้วยฝนที่ยังตกไม่หยุดก็เลยทำให้ไม่สามารถเก็บภาพได้มากนัก ผมเริ่มต้นจากเข้าไปกราบพระประธานที่โบสถ์ก่อน ซึ่งเลื่องลือกันว่าศักดิ์สิทธินักในการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่มากราบท่านครับ ที่นี่ห้ามเดินบนพรมต้องคลานเข่าเข้าไปกราบพระท่านครับและห้ามถ่ายภาพครับ ซึ่งก็ขัดแย้งกับป้ายหน้าโบสถ์ว่าให้ถ่ายได้แต่ห้ามยืนเสมอพระประธานครับ ไม่ให้ถ่ายผมก็ปฏิบัติตามไม่ถ่ายครับ จากนั้นจึงเดินเข้าไปกราบพระบรมสารีริกธาตุที่เจดีย์ด้านในครับ ภายในเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ครับ ใช้สีอ่อนโทนสว่างในการวาดลวดลายไทยภายในพระเจดีย์ครับ เจดีย์สูงสามชั้น ชั้นบนสุดก็เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุผมก็เข้าไปกราบและนั่งสมาธิอยู่ประมาณสักเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ที่นี่ก็ห้ามถ่ายภาพเช่นกันซึ่งผมก็ปฏิบัติตาม ในเจดีย์ยังมีการจัดแสดงแผนภูมิของพระธาตุของพระพุทธเจ้าสมณโคดม และอรหันต์สาวกทั้งหลาย ให้ความรู้ในเรื่องพระธาตุดีมากครับ แต่เสียดายที่แสงสว่างภายในค่อนข้างน้อย ตัวหนังสือกำกับพระธาตุก็ค่อนข้างเล็กและสีเลือนไปตามเวลาจึงทำให้มองไม่ค่อยเห็น อยากให้มีการเข้ามาดูแลบ้าง

สภาพโดยทั่วไปของวัดก็สงบร่มรื่นดีตั้งอยู่บนภูเขา ต้นไม้เยอะมาก บริเวณใกล้เคียงกับวัดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกคือ วิหารเซียน ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค วัดเขาชีจรรย์ หลังจากนั้นผมจึงไปเดินทางตามหาพระอาจารย์สุชาติซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการเดินทางครั้งนี้ผมจึงไปเดินสำรวจเส้นทางรอบ ๆ บริเวณวัดดู ก็พบว่าเป็นเส้นทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างยากลำบากมาก ระหว่างเดินสำรวจผมก็เห็นมีกุฏิหนึ่งพระบวชใหม่นั่งอยู่รูปหนึ่งมีญาตินั่งอยู่รอบ ๆ ก็เลยตัดสินใจว่าไปสอบถามคนบริเวณนั้นดีกว่า เพราะถ้าเดินทางหาเองคงไม่เจอแน่ ๆ ผมจึงเดินไปที่ร้านค้าบริเวณนั้นเพื่อสอบถามดูก็พบว่าท่านพักอยู่บนภูเขาต้องจ้างมอเตอร์ไซต์ขึ้นไป ใช้เงินอีกแล้วครับ พอดีลูกเจ้าของร้านค้าเลยอาสาโทรไปถามแม่ของเธอซึ่งขี่รถขึ้นลงไปหาพระอาจารย์เป็นประจำ แม่เธอบอกว่าพระอาจารย์พักอยู่ด้านล่างที่กุฏิห้า นั่นมันเป็นกุฏิที่ผมเพิ่งเดินผ่านมานี่น่า จุดใต้ตำตอซะแล้ว ผมดีใจมากจึงรีบเดินเข้าไปหาท่านพอไปถึงท่านก็ทักว่าเมื่อกี้เห็นเดินผ่านไปนี่ ผมก็เลยเรียนท่านว่าผมไม่ทราบว่าเป็นท่าน




จากนั้นท่านก็ถามผมว่ามาหาท่านทำไม มีธุระอะไร ตอบไม่ถูกจริง ๆ ก็เรียนไปตรง ๆ ว่ามากราบท่าน เพราะมีเพื่อนเล่าถึงท่านให้ฟัง ท่านก็ยังถามอีกว่าผมมีอะไรจะถามท่าน ผมก็ปัญหาเรื่องการปฏิบัติสมาธิและความคิดที่ฟุ้งซ่านชอบคิดทางที่ไม่ดีบ่อย ๆ และก็แนะนำว่าให้ฝึกจิต จะทำสิ่งให้ใดขอให้รู้ตัวอยู่เสมอ แล้วผมก็เรียนถามเรื่องเทคนิคในการเดินจงกรมซึ่งเป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างสงสัยเวลาปฏิบัติด้วยตนเอง ท่านก็ตอบปัญหาของผมด้วยความเมตตาเป็นอย่างดี



หลังจากนั้นท่านก็ถามผมว่าเดินทางอย่างไรทำอาชีพอะไรแล้วท่านก็คุยเรื่องกล้องกับคอมพิวเตอร์กับผม เหลือเชื่อว่าท่านรู้เรื่องพวกนี้ดีเอามากจนผมตกใจ นี่ถ้าอธิบายนี่แย่เลยครับ จากนั้นผมจึงขออนุญาติท่านถ่ายภาพหนึ่งภาพและลากลับครับ แต่การเดินทางกลับก็ยังคงมีปัญหาเหมือนกับการเดินทางเข้ามาวัด ผมจึงตั้งใจเดินก็เดินไม่รีบอยู่แล้วภาระกิจมันเสร็จสิ้นไป ต้องอดทนเข้าไว้ ผมเดินมาเป็นระยะทางน่าจะเกือบสามกิโลเมตร ใช้เวลาไปประมาณเกือบสี่สิบนาทีได้ ก็มีรถของพี่ผู้หญิงที่ขายล็อตเตอรี่อยู่ในวัดผ่านมาแล้วก็ตะโกนถามว่าทำไมเดินละ ผมก็ตอบว่าไม่มีรถ แล้วก็ขี่กลับรถและขี่กลับไป ผมก็คิดในใจว่าจะไม่คนใจดีให้ติดรถออกไปขึ้นรถที่ถนนใหญ่บ้างเลยหรือเนี่ย



สักพักผมก็ได้ยินพี่แกตะโกนหาผมอีกครั้งว่าไปด้วยกันไหม ผมก็บอกว่าไปครับ แล้วพี่แกก็อาสาพาผมไปส่งที่ท่ารถตู้ครับผมงี้ดีใจบอกไม่ถูกเลยครับ ระหว่างทางพี่แกเล่าว่าแกขับตามรถทัวร์ออกมาคิดว่าจะตามไปขายของแต่รถทัวร์ดันไปอีกเส้นทางแกก็เลยกลับบ้าน และที่รับผมขึ้นรถก็คิดว่าผมเป็นคนดี ๆ แน่ เพราะเห็นมาเดินตามพระอาจารย์สุชาติ(แอบปลื้มเล็กน้อย) ผมจึงล่ำลาแกที่ท่ารถและกล่าวขอบคุณ จากนั้นผมก็เดินไปคิวรถตู้เพื่อจองตั๋วกลับบ้านแต่ปรากฏว่ารอบที่ผมจะได้รถกลับบ้านนั้นต้องรอถึงสี่โมงสี่สิบห้า ทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงเศษ ผมจึงตัดสินใจควักนามบัตรคิวรถตู้เมืองท่ามหานครแล้วสอบถามเรื่องรถที่จะผ่านมารับก็ปรากฏรถออกมาจากสัตหีบแล้วกำลังจะผ่า่นมาทางนี้พอดี โชคดีจริง ๆ ผมจึงได้รถและเดินทางกลับถึงกทม.ประมาณหกโมงเย็นเศษ ๆ ระหว่างที่จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อกลับไปเอามอเตอร์ไซต์ เสียค่ารถตู้ไปอีกหนึ่งร้อยสี่สิบบาท ทำให้ผมยังมีเงินเหลือติดตัวอีกนิดหน่อยรอดตายไป วันหลังผมต้องกดเงินไว้ล่วงหน้าด้วยก่อนเดินซะแล้วเข็ดจริงกับการเดินทางด้วยเงินน้อยแบบนี้


ผมก็ได้ยินน้องผู้หญิงคนหนึ่งเรียกให้ช่วยดูโครงการช่วยเหลือเด็กของยูนิเซฟซึ่งน้องแกก็อธิบายไปตามที่ได้รับการอบรมมา ซึ่งปกติผมจะเลี่ยงเจ้าหน้าที่พวกนี้เสมอ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะให้ช่วยบริจาคเงิน แต่วันนี้ผมกลับเดินเข้าไปรับฟังและตัดสินใจบริจาคให้โครงการผ่านบัตรเครดิตเดือนละห้าร้อยบาท แล้วก็สามารถเครดิตภาษีตอนสิ้นปีได้ด้วย ก็แปลกดีสำหรับการเดินทางในวันนี้ จีงขอจบทริปของผมในวันนี้ด้วยภาพสุดท้ายนี้ครับ



ขอบคุณความความดีที่เคยทำมา ทำให้เฮงมีผู้มาให้ความอนุเคราะห์ผมสำหรับการเดินทางในคราวนี้ครับ



Create Date : 27 สิงหาคม 2554
Last Update : 27 สิงหาคม 2554 16:39:14 น.
Counter : 5415 Pageviews.

5 comments
  
แวะชมบล็อคยามเย็นๆ
โดย: pragoong วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:17:54:39 น.
  
พระท่านน่ากราบไหว้จริงๆค่ะ
เมื่อมาดี ก้อต้องได้ดีตอบกล้บไปบ้างละนะ
แถวๆวัดไม่ว่าแถบไหน มักจะมีคนใจดีกับเราเข่นนี้เสมอเลยค่ะ

เดินเหนื่อยหน่อยนึง ถือว่าออกกำลังกาย และทำสมาธิไปในตัว
โดย: ณ ขณะหนึ่ง วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:18:50:09 น.
  

นำอาหารมาเสริฟค่า
โดย: โสมรัศมี วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:20:03:27 น.
  
ผ่านมาค่ะ อนุโมทนาด้วยค่ะ คุณโชคดีมาก
ส่วนตัว นับถือท่านอาจารย์สุชาติ และศรัทธาวัดญาณฯมาก ๆ ค่ะ
โดย: คนพัทยา IP: 180.183.184.96 วันที่: 24 กันยายน 2554 เวลา:1:15:31 น.
  
ขอบคุณมากค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
โดย: ปริม IP: 171.99.24.250 วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:17:25:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tomcat007
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]