Group Blog All Blog
|
Kaizen Kaizen เมื่อวานนี้ได้ไปเข้าอบรมหัวข้อ Kaizen ที่ สสท. มา มีใครรู้จักKaizenบ้างไหมครับ ยกมือขึ้นหน่อย ก่อนจะไปอบรมได้รับการบอกเล่าจากท่าน หัวหน้าที่บริษัทว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการยกกล่องขึ้นลง และการจัดระเบียบงาน ไอ้เราก็งง ๆ ว่าถ้ามันเป็นเรื่องแค่นี้แล้วเราจะไปอบรมมันทำไมกันให้เสียกระตังค์ แต่ยังไงบริษัทเขาส่งเราไปก็ต้องไปตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาก เดินทางไปถึง สสท. ก็เกือบจะเก้าโมงเช้าแล้ว ใกล้จะได้เวลาเปิดอบรมแล้ว แต่ท่านวิทยากรก็ยังใจดีที่ยังคงรอเราอยู่ เริ่มต้นมาวิทยากรแกก็เล่าถึงเรื่องการยกกล่องเอกสารที่มันหนัก ๆ ยกทีแรก ๆ มันยังไม่ชินมันก็หนัก แต่พอเวลาผ่านไปพอเกิดความเคยชินเข้า ไอ้ของที่ว่าหนักมันก็จะเบาไปเอง แหมเหมือนกับที่ท่านหัวหน้าเล่าแปะเลยแฮะอวิทยากรชี้แจ้งขยายความเพิ่มเติม ก็ทำให้เราทราบว่าการทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาด เราจะหาวิธีการอื่นที่มาทำให้เราไม่ต้องยกกล่องที่หนัก ด้วยวิธีที่ประหยัดแต่ทุ่นแรงได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากรับฟังการบรรยายต่อ ๆ ไป เรื่อย ๆ ก็ทำให้คิดว่าไอ้เจ้าไคเซ็นนี่มันค่อนข้างจะเกี่ยวข้องกับการลดขบวนการในทำงานที่ ที่ยุงยากซับซ้อนและเสียเวลา ให้ทำงานง่ายขึ้นสบายขึ้น เพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นในขณะที่ใช้คนเท่าเดิม ไคเซ้นเริ่มที่ประเทศญี่ป่นและแพร่หลายไปยังอเมริกาและยุโรป จากนั่นก็เข้ามาที่บ้านเรา ในการทำไคเซ็นนั้นจะเริ่มจากพนักงานที่อยู่หน้างานเป็นอันดับแรก แล้วจึงค่อยขยายขึ้นสู่ลำดับที่สูงกว่า เพราะพนักงานระดับล่างจะเป็นผู้ที่พบปัญหาเป็น คนแรก ตามทฤษฏีปัญหามักก่อขึ้นจากจุดเล็กก่อนแล้วหยายตัวออก เราจึงต้องให้พนักงานระดับล่างเป็นผู้ที่ค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานของตน มีอะไรที่ผิดแปลกไปจากการทำงานปกติหรือทำให้เราทำงานลำบากเป็นอุปสรรคเกิดขี้น แล้วก็คิดค้นนำเสนอวิธีในการแก้ไข แล้วนำออกใช้ จากนั้นจึงติดตามประเมินผลที่ได้รับจากการแก้ไข ตามทฤษฏีไคเซ็นต้องทำบ่อย ๆ แก้ปัญหาบ่อย ๆ จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กร ในองค์ทีใหญ่จะมีทีมงานที่ทำหน้าในส่วนของไคเซ็นโดยตรง ซึ่งมักจะเป็นฝ่ายวิศวะกรรม เพราะกลุ่มคนพวกนี้จะเป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญในการมองและแก้ไขปัญหาในภาพขององค์รวมได้ดีกว่าพนักงานระดับล่าง ซึ่งพวกเขาจะมองเห็นแต่ปัญหาของตัวเอง แต่พวกวิศวะนี่จะสามารถแก้ไขปัญหาในรดับที่ใหญ่ขึ้นระดับองค์กรได้ และสามารถกำหนดเป็นตัวเลขชี้วัดได้ดีกว่า ในตอนท้ายอาจารย์สรุปว่าไคเซ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในงานทุก ๆ ด้านไม่เฉพาะกับงานด้านโรงงานอย่างเดียว แกเน้นยำว่าต้องฝึก ต้องทำบ่อย ๆ ต้องมองว่าสิ่งที่เราทุกวันนี้มันล้าสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นแรงกระตุ้นในการทำไคเซ็น คนเรามักจะมองว่าสิ่งที่ตัวเองทำทุกวันนี้มันดีอยู่แล้วมันจึงไม่มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้คนเราต้องตื่นตัวอยู่เสมอ แต่การทำไคเซ็นนี่ก็คำนึงถึงหลักจริยธรรมเหมือนกันน่ะครับ เพราะมิใช่ว่าพอทำไปแล้ว ไปเกิดผลกระทบทำให้บริษัทปลดคนออกเพราะ ใช้คนน้อยลง ไคเซ็นไม่ได้วัตถุประสงค์เพิ่อการนั้น แต่เพื่อให้ทำงานสบายขึ้นได้งานในปริมาณมากขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น พวกเรามองลองทำไคเซ็นในออฟฟิศหรือที่บ้านกันเถอะครับ อืมเคยได้ยินค่ะ ตอนเรียนมหาลัยอ่ะ พวกเมเจอร์อุตสาหการ พูดบ่อยๆค่ะ แต่มะรู้หรอก เพราะเราเรียนสิ่งแวดล้อม
โดย: no filling วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:18:44:34 น.
โดย: funkylady วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:23:45:14 น.
สวัสดีค่ะ
จำไม่ได้ว่าเคยได้ยิน แต่ก็ดีนะคะ ท่าทางจะช่วยได้เยอะ ลดขบวนการและขั้นตอนในงาน ประหยัดดี แต่อาจจะไม่ทุกชนิดของงานหรือองค์กรก็ได้ เนาะ โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:5:24:46 น.
ไปอบรม KAIZEN มาแล้วเหมือนกันค่ะ
ตอนนี้ก็ยังอยู่ในโครงการ KAIZEN ก็มาจาก 5 ส. นั่นแหละค่ะ แต่ว่าพอเราทำ 5 ส.แล้ว จัดระเบียบดีขึ้น มีรายละเอียดมากขึ้น สร้างสรรค์มากขึ้น สามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงานได้มากขึ้น ถึงเรียกว่า KAIZEN ค่ะ ถ้าทำได้ และทำได้ตลอดไป ก็จะดีมากเลยค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะรอดกันหรือเปล่า 24 มิย. นี้ อาจารย์ก็จะมาตามงานแล้วจ้า.. โดย: ไก่_CNX (rakakarn ) วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:14:01:21 น.
|
tomcat007
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
Link |