วันที่ห้า - ประกาศยอมแพ้

สรุปว่า ผมยอมแพ้ครับ... กับการต่อสู้เจ็ดวันห้ายูโรครั้งนี้...

ตอนนี้ผมตัดสินใจใช้ตัวช่วยไปแล้ว และอีกสักครู่คงไปกดเงินจากบัญชีมาใช้ ซึ่งยังไม่ติดลบนะ ยังอยู่ในส่วนเดดิตอยู่ แค่วัดดวงว่า การโอนเงินของสำนักงานทุน (CROUS) กับการตัดค่าโทรศัพท์ ของฟรองเทเลคอม ใครจะไวกว่ากัน ซึ่งตอนนี้มั่นใจแล้ว ว่าฟรอง เทเลคอม ไม่น่าจะไวกว่าได้ เพราะจนป่านนี้ก็ยังไม่ส่งใบเสร็จมาให้ผม จริงๆส่งใบเสร็จมาซะก็สิ้นเรื่อง ผมจะได้รู้ว่าจะหักเท่าไร ผมเอาออกมาใช้ได้เท่าไร ไม่ใช่ทิ้งไว้เกือบร้อยกันเหนียวแบบนี้

เหตุที่ต้องยอมแพ้ ประการแรก เพราะต้องยอมรับว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะสามารถใช้เงินเพียงห้ายูโรได้ในหนึ่งอาทิตย์ ในประเทศที่ค่าครองชีพสูงเป็นปกติเช่นนี้ ขนาดในประเทศไทยยังยากที่จะเป็นไปได้เลย ที่จะใช้เงินสองร้อยห้าสิบบาทให้ได้ครบเจ็ดวัน แม้ผมจะไม่ได้อดอาหารขนาดจะเป็นจะตาย แต่ก็ถือว่าต้องกินอย่างจำกัดจำเขี่ยเต็มทน

เหตุที่สองที่สำคัญที่สุด คือการต่อสู้ครั้งนี้ ทำให้ผมได้พบน้ำใจของบุคคลหลายๆคน มีทั้งเรื่องไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งผมทำให้เพื่อนฝูงและคนที่รักหลายคนเป็นห่วง ข่าวแพร่ไปถึงใต้สุดของฝรั่งเศสยันกรุงเทพฯ ถึงข่าวการถังแตกของผม ซึ่งผมปลาบปลื้มในน้ำใจของพี่พ้องน้องเพื่อนและผู้ใหญ่หลายคนจนอยากร้องไห้ ด้วยได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เรียกว่า "น้ำใจ" ที่มันเป็นสิ่งที่มีคู่กับมวลมนุษย์ชาติมานับแต่สร้างโลก และสิ่งนั้นก็เปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ โดยไม่สูญหายไปไหน เหมือนกับคำพูดของ Baronne Bertha von sutter ที่ว่า คำกริยาที่สวยงามที่สุดของมนุษย์ รองจากคำว่า "รัก" (aimer) คือคำว่า "ช่วยเหลือ" (aider) นั่นแหละครับ

ผมตัดสินใจยุติเรื่องราวการต่อสู้อันดื้อดึงไร้สาระของตนเอง เมื่อวานนี้ ด้วยตระหนักว่า มันชักจะไปกันใหญ่ ทำให้คนเป็นห่วงเรามากเกินกว่าความจำเป็น

เพื่อนผมคนนึงจะนั่งรถไฟมาจากอีกเมือง เพื่อมาทำอาหารดีๆให้ผมกิน เพราะกลัวว่าผมจะขาดสารอาหารสำคัญจนโง่ลงไป (กว่านี้) เพื่อนคนนึงโทรมาไต่ถามจากเอ็กซ์ด้วยความห่วงใย รวมทั้งน้องเด็กไทยที่อยู่ร่วมที่พักเดียวกันคนหนึ่งซึ่งรู้ข่าวว่าผมกำลังอยู่ในช่วงจำกัดชีวิต มาบอกว่า เดี๋ยวตอนเย็น จะทำอาหารมากินที่ห้องผมแกล้มเหล้า และเป็นการฉลองที่สอบผ่าน DELF ไปในตัวด้วย โดยผมไม่ต้องทำ หรือจัดหาอะไรเลย (นอกจากสุราที่มีประจำอยู่ตลอดกาลแล้ว) เดี๋ยวจะช่วยกันทำอาหารมากินกันเอง

ผมจึงต้องขอหยุดพฤติกรรมที่เฉียดๆจะเป็นการบำเพ็ญทุกขรกิริยาไว้แต่เพียงเท่านี้... เพราะไม่อยากสร้างความเป็นห่วงให้ใครๆ มากไปกว่านี้อีกแล้ว

ท่านที่รัก, หลายท่านคงได้รับการแนะนำก่อนมาเรียนต่างประเทศ (ไม่ว่าจะประเทศไหน) ว่าไม่ควรอยู่ สุงสิง หรือสมาคมกับคนไทยมากจนเกินไป จะทำให้ภาษาต่างประเทศที่เราหวังจะไปเรียนนั้นไม่ดีนั้น...

ผมขอบอกท่านไว้ ณ ตรงนี้ว่า มันไม่จริงไปเสียทั้งหมด มันอาจจะมีส่วนบ้างตรงที่ว่าการอยู่กับคนไทยทำให้โอกาสในการพูดภาษาต่างประเทศของเราน้อยลงไปบ้าง แต่เรื่องแบบนี้ชั่วดีมันอยู่ที่ตัวเราเอง โปรดอย่าโทษสภาวะแวดล้อม ในเมื่อเราอยู่ในประเทศที่คนกว่า 90% พูดและใช้ภาษาฝรั่งเศส หรือภาษาอังกฤษ (หรือเยอรมัน เสปน อิตาลี จีน ญี่ปุ่น สวีเดน ฯลฯ) เรามีช่องทางเป็นร้อยในการฝึกฝนและใช้ภาษามากกว่าสิบแปดชั่วโมงต่อวันอยู่แล้ว... การอยู่กับคนไทยจะทำให้ภาษาของคุณวินาศลงไปขนาดนั้นเชียวหรือ ? นักเรียนไทยที่นี่ ผลสอบภาษาฝรั่งเศสดีกว่าคนชาติอื่นมาก ทั้งการสอบ TCF เพื่อเสนอผลเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย เด็กไทยทุกคนที่เข้าสอบได้ผลการสอบที่ดีในระดับมาตรฐานหรือสูงกว่า และมหาวิทยาลัยทั้งระดับธรรมดา หรือชื่อดัง หรือแม้กระทั่งสถาบันเทคโนโลยีชั้นสูงของฝรั่งเศส (IUT) ที่เพิ่งเปิดรับคนต่างชาติไม่กี่ปีมานี้ ตอบรับมาเกือบหมดทุกคนแล้ว การสอบระดับความสามารถในการใช้ภาษาฝรั่งเศส หรือ DELF ที่เพิ่งผ่านไป ก็สอบผ่านกันเกือบหมด บางคนสามารถสอบผ่าน DELF 1-4 ได้ในการสอบครั้งนี้ครั้งเดียว

หากท่านภาษาห่วยอย่างช่วยไม่ได้ กรุณาโทษตัวเอง เสียก่อนค่อยโทษพระเจ้า (Blame yourself or god คำพูดติดปากของดีลิต้าในเกมส์ไฟนอลแฟนตาซีแทคติก) หรือโทษว่าเพราะอยู่กับคนไทย

คนไทยนะครับ จะชั่วจะดี ก็นับถือพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน (แม้จะต่างสำเนียง) เคยร้องเพลงชาติเพลงเดียวกัน (ถึงจะแตกต่างเวอร์ชั่นกันไปบ้าง) ในต่างประเทศแบบนี้ ไม่มีใครสนใจคุณหรอกครับ จะชั่วจะดี คนไทยเราก็ยังดูแลกัน รักกัน (แม้ไม่ต้องเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย) อย่างน้อยคุณเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เขายังพาคุณไปหาหมอ ทำอาหารเยี่ยมไข้แบบไทยๆมาให้คุณกิน อันนี้ชายขาหักแถวเมืองเอ็กซ์คงซาบซึ้งดี หรือตายอืดในห้องพักยังไง เขาก็คงพังประตูมาเก็บศพ...

ถ้าเจอที่ดีๆ คนดีมีน้ำใจ ก็คบไว้เถิดครับ เพื่อนคนไทยในต่างประเทศ อย่าตั้งเงื่อนไขจอมปลอมมาจำกัดตนเองเลย...

สุดท้ายนี้ แม้ผมจะไม่สามารถใช้เงินห้ายูโรได้ครบเจ็ดวันตามที่ตั้งใจไว้ได้ แต่ความพยายามในการต่อสู้ครั้งนี้ ก็ให้บทเรียนแก่ผมหลายๆอย่าง อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้ว่า ผมสามารถใช้เงินได้น้อยที่สุดเท่าไรต่อสัปดาห์ คือ ห้ายูโรนั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่สิบห้าถึงยี่สิบยูโร ก็สามารถอยู่ได้แบบสบายๆ เว้นแต่อยากกินอะไรแปลกๆบ้าง ซึ่งก็จะพยายามจำกัดความอยากดังกล่าวไว้ไม่ให้เกิดขึ้นมากกว่าสองครั้งในหนึ่งเดือน

ผมได้เห็นคุณค่าของเงินทุกซองตีมมากขึ้น ผมเห็นเหรียญมีค่าไปหมดจนถึงหนึ่งซองตีม เพราะถ้าขาดมันไป เงินของผมในวันนั้นก็ไม่ครบห้ายูโร !

ผมขอยุติการอัพเดทบล๊อกในส่วน 5 € เจ็ดวัน ของผมไว้แต่เพียงเท่านี้ แต่ขอบอกว่า ... อีกสองสามวัน อย่าพลาดบล๊อกหน้าหลักของผม ดดยเฉพาะผู้สนใจกฎหมายและปัญหาบ้านเมือง ...

ผมจะทำอะไรบางอย่าง ที่คุณจะเชื่อไม่ลงว่า อดีตคอลัมนิสต์ ที่เติบโตมาได้เพราะหนังสือพิมพ์ผู้จัดการจะทำ...

รออ่านเถอะครับ รับรองไม่ผิดหวัง ถ้าคุณชอบ "เรื่องอย่างว่า..."


Create Date : 28 พฤษภาคม 2548
Last Update : 28 พฤษภาคม 2548 17:46:13 น. 11 comments
Counter : 499 Pageviews.  

 
^^

ดีแล้วค่ะ
ต่อไปก็คงต้องวางแผนการเงินให้ดีขึ้น

เอาใจช่วยให้ใช้ชีวิตในฝรั่งเศสอย่างมีความสุขค่ะ

จะรออ่านบทความอันต่อไปนะ


โดย: นกซิลล่า IP: 203.118.84.116 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:8:36:50 น.  

 
จะรออ่านครับ


โดย: POL_US วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:9:25:53 น.  

 
พี่ทำถูกแล้ว

จะรออ่าน น่าจะคิดและรู้สึกคล้ายๆผม (เดาเอา)



โดย: ปิ่น ปรเมศวร์ IP: 72.19.122.220 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:9:49:38 น.  

 
ผมก็ว่างั้น...

นี่ถ้าผมหมดอนาคตทางการเขียนหนังสือเพราะโดนเครือนั้นแบน พาไปสมัครงานที่เครือกรุงเทพธุรกิจหรืออะเดย์ หน่อยจิ

(ล้อเล่นเด้อ...)


โดย: บุญชิตฯ IP: 83.205.137.213 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:15:18:56 น.  

 
พี่บุญชิต

ผมนี่อาการหนักกว่า ตอนนี้ลบไป 200 ยูโรแล้ว

ไม่รวมหนี้สินที่ค้างคาอีก

กะว่ากลับเมืองไทยคราวนี้คงฟื้นฟูกิจการได้บ้าง


โดย: Etat de droit IP: 83.195.205.218 วันที่: 30 พฤษภาคม 2548 เวลา:5:40:09 น.  

 
จะรออ่านจ้า...


โดย: daisy IP: 203.185.131.3 วันที่: 30 พฤษภาคม 2548 เวลา:9:05:20 น.  

 
รออ่านครับพี่


โดย: ปริเยศ (Pariyed ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:21:25:20 น.  

 
ดีค่ะทำให้เรารู้จักค่าของคำว่าเงินมากขึ้นจริงๆ

แล้วก็รออ่านอยู่ค่ะ ...


โดย: KoPoK วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:1:27:28 น.  

 
คำกริยาที่สวยงามที่สุดของมนุษย์ รองจากคำว่า "รัก" (aimer) คือคำว่า "ช่วยเหลือ" (aider)

ชอบค่ะชอบ

ขอสมัครเป็นแฟนบล็อกนี้ด้วยคนนะคะ
ด้วยความสนใจในสิ่งเดียวกันหลาย ๆ ประการ


โดย: ผ้าเช็ดหน้า วันที่: 12 สิงหาคม 2548 เวลา:12:24:22 น.  

 
เหมือนดู reality เลยครับพี่


โดย: junahjazz IP: 203.113.67.165 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2548 เวลา:4:34:49 น.  

 
ห้ายูโร นี้พี่ทำเพื่อวัถุประสงค์อะไรครับ ทกสอบตัวเองหรือว่าไม่มีจริงๆๆครับ ตอนนั้นผมเคยทำครับเพราะไม่มีเงินจริงตอนนั้นใช้รวมทั้งกิน ทั้งถ่ายเอกสาร เดือนละ ไม่เกิน สามสิบห้ายูโร ไม่รู้ทำได้ไง แต่ไม่มีเงินนิทำไงได้ครับ


โดย: บอส IP: 91.163.251.147 วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:16:08:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Players
Location :
Aix-en-Provence France

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Players's blog to your web]