All Blog
*-* มาดูกันว่า ตอนนี้หมิ่งหมิง...1ขวบ 1เดือน ทำไรได้บ้างแล้ว*-*
บันทึกเรื่องของหมิ่งหมิงดีกว่าเรา ไม่ได้บันทึกมานานแล้ว เดี๋ยวนี้หมิ่งหมิง 1 ขวบกับอีกเดือนกว่าๆแล้วนะ

หมิ่งหมิงเดินช้าค่ะ ตอนนี้เพิ่งจะก้าวเป็น เราจะคอยจับมือสองข้าง แล้วพาหมิ่งหมิงเดิน ให้เค้าก้าว ตอนแรกๆ ยังก้าวไม่เป็น ไม่ค่อยยอมก้าว แต่ตอนนี้ก้าวได้ดีขึ้นมากเลย เกือบคล่องละ พอเค้าก้าวได้นะ ก็จะให้พาก้าวเรื่อยเลย พอพาก้าวก็จะยิ้มไม่หุบปากเลย กำลังเห่อความสามารถใหม่ๆ ของตัวเอง เราก็เมื่อยสิ

เราคิดว่าหมิ่งหมิงกำลังหัดพูดนะ จากตอนแรกเค้าจะพูดออกเสียงว่า อา......ยาวๆ หรือแอ๊..........ยาวๆ ประมาณนี้ ตอนนี้เค้าเริ่มจะใช้ลิ้นช่วยออกเสียงแล้ว แต่ไม่เป็นเสียงเดียว แบบว่าเค้าจะออกเสียงเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่แทนที่ลิ้นจะอยู่เฉยๆ กลับเอาลิ้นมาส่ายไปมาแบบมั่วๆ (คงสังเกตเวลาผู้ใหญ่พูดมั๊ง เพราะหมิ่งหมิงช่างสังเกตมาก) ฟังเผินๆ คิดว่าเค้าพูดได้ แต่ฟังจริงๆ มั่วนี่หว่า (นี่ก็กำลังเห่ออีกเช่นกัน พูดแบบนี้ทั้งวันเลย)

หมิ่งหมิงฟังภาษาคนรู้เรื่องเยอะมากๆเลย เพียงแต่ยังพูดไม่ได้ หูดี ตาก็ดีด้วย เห็นอะไรแว๊บนึง รู้เลย เวลาพาหมิ่งหมิงไปนอกบ้าน ระหว่างทางจะมีธงชาติปักไว้ตามบ้านหรือที่ต่างๆ พอเค้าเห็นปุ๊บ ชี้ให้เราดูปั๊บ ขนาดบางธงชาติปักไว้จนขาดวิ่น เหลือซากอยู่นิดเดียว ยังรู้เลยว่าเป็นธงชาติ เค้าชอบธงชาติมากมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ก็เริ่มจากชอบเพลงชาติไทยนั่นแหละ เดี๋ยวนี้ชอบธงชาติเพิ่มขึ้นอีก

ชอบดูโฆษณาทีวี โดยเฉพาะเครื่องดื่มดาการะ พอโฆษณานี้มาทีไรหัวเราะท่าทางของคนในโฆษณาทุกที ไม่รู้ขำอะไรนักหนา จนตอนนี้เราหาเพลงประกอบโฆษณานี้มาโหลดเข้ามือถือ เปิดให้ฟัง ฟังทีไรโยกตัวเหมือนในทีวีเลย และยังร้องเพลงนี้ด้วยนะ (หุหุ แต่ฟังไม่รู้เรื่อง) ร้องไปเต้นไป เอากะเค้าสิ

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก เวลาร้อน เค้าจะอารมณ์เสีย เราชอบจับหมิ่งหมิงแช่น้ำ พอได้แช่น้ำเท่านั้นแหละ อารมณ์เปลี่ยนเลย ยิ้มไม่หุบเช่นเคย จนเดี๋ยวนี้เดินผ่านกาละมังหรือภาชนะที่ใส่น้ำเยอะๆ ทีไร ชี้จะเล่นน้ำอยู่นั่นแหละ

-----------------------------------------------



หมิ่งหมิงร้อน จะเล่นน้ำ





เล่นน้ำจนพอใจแล้ว อาม่าก็จัดการเอาดินสอพองมาโปะๆ ซะทั่วไปหมด ไม่รู้ดีหรือเปล่า แต่อาม่าบอกว่าตอนเด็กๆ เวลาอากาศร้อนๆ ก็ทำให้เราแบบนี้เหมือนกัน เพราะดินสอพองมันเย็น เราเถียงไม่ออกเลย ก็ยอมๆ ซะหน่อย





เสร็จแล้วออกมาเป็นแบบนี้ จนคนอุ้ม (เรานั่นเอง) ตัวเปื้อนดินสอพองเต็มไปหมด





ไปกินข้าวที่เดอะมอล์ล นั่งเรียบร้อยสุดๆ จริงๆ ยกขึ้นโต๊ะ 2 ข้างเลย แต่ถ่ายเก็บขาได้แค่ข้างเดียว เพราะกางเกือบ 180 องศา




Create Date : 11 เมษายน 2553
Last Update : 12 เมษายน 2553 12:38:54 น.
Counter : 879 Pageviews.

0 comment
*-* มาดูกันว่า วันๆ หมิ่งหมิงทำไรมั่ง *-*
มาดูกันค่ะ ว่าวันๆ หมิ่งหมิงทำอะไรบ้าง

***********************************************

เริ่มจากตอนเช้า ตื่นมาก็กินนม เสร็จแล้วเติมอาหารสมองด้วยการอ่านหนังสือ abc





อ่านไปอ่านมาหิวน้ำ นั่งกินน้ำ ถือขวดเองด้วยนะ





กินไปกินมาเริ่มขี้เกียจถือ





พอสายๆ ก็ลงมาหน้าร้าน ช่วยต้อนรับลูกค้า





แล้วหนูก็ต้องยิ้มหวานๆ อวดฟัน 4 ซี่





แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าหมิ่งหมิงชอบอู้งานโดยการเล่นหนังยางมัดของอยู่ หยิบเข้าหยิบออกอยู่นั่นแหละ เป็นชั่วโมงเลย





บางทีต้องไปถ่ายเอกสารบ้าง แต่หมิ่งหมิงตัวเล็ก เลยนั่งบนเครื่องถ่ายมันซะเลย





บางทีลูกค้าก็ให้เจาะกระดูกงูเข้าเล่มให้
เครื่องนี้หมิ่งหมิงก็ชอบเล่น โยกขึ้นลง ดึงโน่นนี่ทุกปุ่มเลย





พอบ่ายๆ อาม่าบอกให้หมิ่งหมิงไปช่วยทำรถลาก ด้วยความรักอาม่าหมิ่งหมิงก็ต้องไปช่วย โดยเริ่มจากลังกระดาษ เอามาวัด มาตัด ด้วยมาดเข้มๆ





จนได้แบบนี้





เสริมที่พิงกันตกรถซะหน่อย





ลองให้พี่หมีนั่งดูซิ อืม! ใช้ได้เลย เอาเชือกผูกกับลัง ก็ลากได้แล้ว





วันนี้งานยุ่งมาก อากาศก็ร้อน รมณ์เสีย หงุดหงิด พองานเสร็จ ขอหมิ่งหมิงเล่นน้ำก่อนนะ

...แต่ต้องไม่ทิ้งมาดเข้มๆ... ดีนะที่มีแก้มเยอะ ไม่งั้นแว่นหล่นแน่

ขอบคุณที่เข้ามาชมกันนะคะ




Create Date : 07 เมษายน 2553
Last Update : 12 เมษายน 2553 12:38:36 น.
Counter : 668 Pageviews.

0 comment
*-* หมิ่งหมิง 1 ขวบแล้วค่า *-*
วันนี้ขวบนึงแล้วนะหมิ่งหมิง หม่าม๊ารู้สึกว่าเพิ่งจะคลอดหนูไปเมื่อไม่นานนี้เอง

ท่ายิ้มหวานของหนู หวานสุดๆ แล้วนะ



เหตุเกิดจาก :
หม่าม๊าไม่คิดเลยนะว่าจะมีหนูได้ในวันนี้ หม่าม๊าอยู่กะป๊าหนูมา 5 ปี หนูก็ไม่มาเกิดซะที ทั้งๆที่หม่าม๊าก็พยายามแล้ว จนวันนึงอาม่าของหนูบอกหม่าม๊าว่าให้ไปให้คุณหมอสมบูรณ์ที่ รพ.กรุงเทพ ช่วย เพราะอาม่าเห็นจากทางทีวี ดูโหงวเฮ๊งแล้วน่าจะเก่ง (อาม่าตาแหลมเหมือนกันนะเนี่ย) หม่าม๊าเลยไปตามที่อาม่าหนูบอก พอไปปรึกษาคุณหมอครั้งแรก หม่าม๊าก็ตัดสินใจเลยว่าจะให้คุณหมอช่วย เพราะคุญแล้วคุณหมอท่าทางเก่งจริงๆ หม่าม๊าไปตามคุณหมอนัดทุกครั้ง ทำตามคุณหมอบอกทุกอย่าง จนหนูได้เกิดมานี่ไง

หม่าม๊าไม่เคยถ่ายรูปตอนท้อง มีแต่รูปท้องล้วนๆ รูปเดียวเอง



(ป๊า) เห็นครั้งแรก :
ตอนที่หนูกำลังจะเกิด (ผ่าคลอด) หม่าม๊ากลัวมาก เป็นวันที่กลัวที่สุดในชีวิตด้วยล่ะ ขออนุญาตคุณหมอเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยแล้ว พอจริงๆ ระหว่างที่หม่าม๊ายังเตรียมร่างกายเพื่อรอคุณหมออยู่ ป๊าหนูก็รออยู่หน้าห้อง ใส่ชุดคลุม ใส่หมวก ใส่รองเท้าเตรียมเข้าห้องคลอดเต็มที่ พอหม่าม๊าพร้อม เจ้าหน้าที่พร้อม ป๊าหนูก็พร้อมปุ๊บ คุณหมอก็เข้ามาทำการผ่าตัด ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็เสร็จ หม่าม๊าได้ยินเสียงหนูร้องครั้งแรกด้วย ตื่นเต้นมาก พยายามมองตามเสียงก็รู้ว่าอยู่ทางไหน แต่มองไม่เห็นเพราะเค้าทำความสะอาดหนูอยู่ แล้วหม่าม๊าก็หลับไม่รู้เรื่องเลย พอเข้าห้องพัก เค้าถึงจะเอารูปถ่ายหม่าม๊าที่หลับอยู่กะหนูที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จมาถ่ายรูปคู่กัน หม่าม๊าน่าเกลียดมาก หยั่งกะผ่านสงครามมาใหม่ๆเลย ไม่กล้าเอารูปให้ใครดู

ระหว่างเตรียมตัวผ่าอยู่ หม่าม๊ากลัวมากอยู่แล้วนะ ตอนที่บล๊อคหลัง แรกๆ ยังไม่ชา ซักแป๊บเดียวยาเริ่มออกฤทธิ์ หม่าม๊าหายใจอึดอัดมาก หายใจเหมือนไม่ได้หายใจเลย ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ เพราะเค้าไม่บอกหม่าม๊าว่ามันจะเป็นอย่างงี้ หม่าม๊าดิ้นใหญ่ เค้าต้องมาช่วยกันจับ ในใจคิดว่าไม่ไหวแล้ว ไม่คลอดแล้ว จะกลับท่าเดียว วินาทีนั้นหม่าม๊าแทบตายแน่ะ หนูจะรู้มั๊ยนะ หม่าม๊าทรมานมาก ไม่กี่วินาที แต่รู้สึกว่านานม๊ากกกเลย พอผ่านช่วงนั้นไปแล้วเริ่มดีขึ้น (รอดตายแล้วเรา)

เอ๊ะ! คุณหมอผ่าเสร็จแล้วทำไมป๊าหนูไม่เห็นเข้ามาเลย มารู้ทีหลังว่า ป๊าหนูรอจะเข้าเต็มที่ แต่แป๊บเดียวก็ผ่าเสร็จ เค้าเรียกไม่ทัน พอเค้าเอาหนูออกจากห้องคลอดไปยังตู้อบ เค้าก็รีบเรียกป๊าหนูไปดู ป๊ารีบวิ่งตามหนูไปใหญ่เลย ป๊าเห็นหนูคนแรกเลยนะ

มีประวัติของหนูติดอยู่บนรถกะบะเด็กอ่อนด้วย



(หม่าม๊า) เห็นครั้งแรก :
พอเข้าห้องพัก ช่วงหัวค่ำ หม่าม๊าถึงได้เห็นหนูครั้งแรก เจ้าหน้าที่เข็นรถกะบะเด็กอ่อน (เค้าเรียกรถอะไรนะ) เข้ามา หม่าม๊ามองตามวินาทีที่เข็นรถเข้ามาจนเค้าอุ้มหนูขึ้นจากรถและจนเอามาให้หม่าม๊าอุ้ม ดูมันช่างนานมากจริงๆ อยากเห็นหน้าหนูไวๆ พอเห็นแล้ว เอ๊ะ! ทำไมเหมือนหม่าม๊าจังนะ ต่อมาหน้าหนูก็ค่อยๆเหมือนป๊าหนูมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็ยังเหมือนป๊าหนูมากเหมือนเดิม แต่หม่าม๊าแอบเข้าข้างตัวเองว่าหนูเหมือนหม่าม๊า แล้วหนูก็ดูดนมหม่าม๊าครั้งแรก โอ๊ย! เจ็บ ทำไมหนูดูดแรงจังล่ะ หิวเหรอ หม่าม๊าเจ็บหัวนมมากเลย ดูดจนหัวนมหม่าม๊าแตก มีเลือดออก เจ็บมาก

เกิดมาก็ปากแหลมๆ เล็กๆ แก้มป่องๆ ทันทีเลย



ปับป๊าขี้เห่อ :
หม่าม๊ามารู้ตอนในห้องพักว่าป๊าหนูน่ะ แอบส่ง sms บอกเพื่อนๆ ไปทั่วเลย เดือนนั้นค่ามือถือหมดไปหลายเลยล่ะ

รูปนี้ถ่ายตอนที่หนูเกิดเลย แต่ในห้องพักแล้ว หนูน่ารักชะมัด



ในห้องพัก :
เพื่อนป๊ามาเยี่ยมกันเยอะแยะไปหมด ส่วนเพื่อนม๊าไม่มีเลย เพราะตั้งแต่คบกะป๊าหนู หม่าม๊าก็ไม่ติดต่อเพื่อนอีกเลย เลยไม่มีใครรู้

ผ่าตัดใหม่ๆ หม่าม๊าขยับตัวยากมาก กลัวแผลผ่าตัดจะแยกมากเลย อยากให้แผลสวยๆ ก็เลยพยายามรักษาตัวเองให้ดี เพราะคุณหมอเย็บแผลสวยมากอยู่แล้ว

ป๊าหนูกะอาม่ามานอนที่โรงพยาบาลด้วยตลอดเลย ป๊าหนูดูเหนื่อยๆ แต่ก็เต็มใจเหนื่อยนะ ตอนแรกๆ ป๊าไม่กล้าอุ้มหนู กลัวทำหนูร่วง พอหลังๆ ชักเริ่มอยากอุ้ม (สงสัยถ้าขืนกลัวต่อไป คงจะไม่ได้อุ้มมั๊ง) ก็เลยพยายามอุ้ม จนชิน

ป๊าหนู กะอาม่า มานอนเป็นเพื่อนหม่าม๊าทุกคืนเลย



กลับบ้าน :
ทุกคนเห่อหนูกันหมด

น่าเอ็นดูซะขนาดนี้



เกี่ยวกับนม :
หัวนมหม่าม๊ายังแตกอยู่ พยายามให้หนูดูดนม ทนเจ็บ ประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ หม่าม๊าสั่งที่ปั๊มนมมา ตอนแรกไม่รู้เรื่องที่ปั๊มนมเท่าไหร่ รู้ยี่ห้อเดียวคือพีเจ้นท์ แบรนเนมอื่นๆ ไม่เคยรู้จักเลย มารู้ก็ในชานเรือนตอนหลังคลอดหนูนี่แหละ ก็เลยซื้อปั๊มมือมาอันนึง ไม่ซื้อปั๊มไฟฟ้า เพราะกลัวไฟดูด กลัวปั๊มแรง (ไม่รู้ว่ามีแบบปรับแรงได้) หม่าม๊าเลยปั๊มมือดีกว่า และปั๊มมืออันนี้ก็ใช้มาจนถึงวันนี้ และคิดว่าจะใช้เป็นวันสุดท้ายด้วย

บางทีปั๊มนมไปก็เมื่อยมือ ในใจฝันถึงปั๊มไฟฟ้า แต่ก็แค่แวบเดียวก็มาอยู่กับความจริง บางทีกลางคืนปั๊มนมไปยังเผลอหลับก็มี บางทีปั๊มไปหนูก็มางอแงให้หม่าม๊าอุ้มอยู่นั่นแหละ จนไม่เป็นอันปั๊มเลย ระหว่างปั๊มนมก็มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย

แต่หม่าม๊าก็ทนปั๊มนมให้หนูกินได้เหลือเฟือเลยนะ ก็หนูน่ะ แรกๆ ก็ดูดเต้าหม่าม๊าดีอยู่หรอก พอหลังๆ หม่าม๊าเอาขวดนมสลับให้หนูดูด หนูก็ชักไม่เอาเต้าหม่าม๊าแล้ว หม่าม๊าก็ว่าดีเหมือนกัน กินขวดหม่าม๊าสะดวกดี แต่มีบางทีที่อยากให้หนูดูดเต้า เพราะอยากกอดหนูอยู่ในอกบ้าง มันดีคนละแบบแฮะ

หม่าม๊าเลยพยายามถือขวดนมให้หนูดูดด้วยตัวเอง จะได้อยู่ใกล้ๆหนูด้วย จนทุกวันนี้ขวบแล้ว หม่าม๊ายังถือขวดให้หนูดูดอยู่เลย จนหนูถือขวดเองยังไม่เป็นเลย มันก็ดีคนละแบบอีกนั่นแหละ

เด็กซนคนนี้กินนมแม่ปั๊มใส่ขวดค่ะ



หมิ่งหมิงหรือลิง :
หนูซนมากเลยนะ รู้ตัวป่ะ แถมดื้อด้วย สอนอะไรจนเป็นแล้ว ต่อไปถ้าให้ทำอีก ถ้าหนูไม่อยากทำหนูก็ไม่ทำ ถ้าหนูนึกอยากทำหนูก็ทำ หม่าม๊าจะอวดคนอื่นไม่เคยสำเร็จเลย เพราะหนูไม่ค่อยทำให้คนอื่นดู

เนื่องจากหนูเป็นเด็กผู้หญิง อาม่าพยายามสอนให้หนูทำมือหมุนๆ แบบนอยจ๊ะนอย ตั้งแต่หนูสองเดือน จนทุกวันนี้หนูยังทำไม่ได้เลย ทำได้แต่จับปูดำ อาม่าบอกจับปูดำต้องเด็กผู้ชาย หนูเป็นผู้หญิงต้องนอย แต่อาม่าสอนไม่สำเร็จซะที แต่หม่าม๊ารู้ว่าหนูพยายามแล้ว แต่คงจะมือแข็ง ทำไม่ได้มั๊ง

หนูขี้โวยวายมากเลย อะไรไม่ได้ดังใจก็ร้องตะโกนดังๆ นึกจะขำก็ขำ บางทีอารมณ์ดี ไม่มีอะไรก็ฝืนหัวเราะ ชวนคนอื่นขำซะงั้น และมีอีกหลายอย่างที่หนูชอบใช้เสียง

หนูชอบฟังเพลงด้วยนะ เพลงแรกที่ฟังเป็นก็เพลงชาติไทยตอน 6 โมงเย็น พอเพลงชาติมาทีไร นิ่งฟังทุกที และยังเต้นด้วย แบบโยกไปมา ซ้ายขวาหน้าหลังตลอดเพลง พอเพลงจบ ก็ซนต่อได้ และเพลงแรกที่หนูร้องได้คือเพลงชาติอีกนั่นแหละ ร้องไม่เป็นภาษาหรอก แต่หม่าม๊ารู้ว่าหนูร้อง เพราะหลังๆ เพลงชาติมา หนูจะทำเสียงด้วย โยกตัวด้วย หลังๆ อีกที บางทีอยู่เฉยๆ อารมณ์ดี หนูก็จะทำเสียงเหมือนร้องเพลงและโยกตัวอยู่คนเดียว (ร้องเพลงแหง๋ๆ)

จับหนูนั่งนิ่งๆ ได้ไม่เกินนาที ก็ไม่นิ่งแล้ว ไปนู่นไปนี่ เล่นนู่นเล่นนี่ตลอด หนูรู้มั๊ย เวลาหนูรื้อห้อง หม่าม๊าไม่เคยห้ามเลย เพราะหม่าม๊ามีความสุขเวลาเก็บของที่หนูรื้อ ขณะเก็บไปมันรู้สึกว่า นี่หรือลูกเรารื้อของได้ด้วย ฝีมือลูกเราเองนะเนี่ย ซึ่งยังดีกว่าที่จะเห็นหนูนั่งนิ่งๆ ตลอดเวลา หม่าม๊าชอบให้หนูซนนะ แต่ไม่อยากให้ดื้อกะหม่าม๊าเลย

ตอนถ่ายรูปนี้ใหม่ๆ น่ารักดี พอมาดูอีกทีก็งั้นๆ (อ๊ะ! ล้อเล่ง)



พัฒนาการดี แต่ก็มีที่ช้าบ้าง :
ฟันขึ้นช้ามากเลย ขึ้นตอนสิบเอ็ดเดือน ขึ้นไล่เลี่ยกัน 4 ซี่เลย ชอบกัดหม่าม๊าจนเป็นรอยฟันสองซี่ (หรือสองจุด) อยู่เรื่อย แต่หม่าม๊าไม่ค่อยเจ็บ คงจะฟันยังสั้นอยู่มั๊ง

ไม่ยอมคลาน หม่าม๊าเห็นหนูคลานได้ แต่ทำไมหนูไม่คลานก็ไม่รู้

ไม่ยอมเดิน เห็นหนูก้าวเป็นนะ แต่ไม่ค่อยก้าว จับเดินแค่ไม่กี่ก้าวหนูก็ลงนั่งซะแล้ว ตัวหนักเหรอคะ หรือว่าเมื่อยขา

แต่ไม่เป็นไร เพราะเรื่องพวกนี้ ซักวันหนูก็ต้องทำได้อยู่แล้ว หม่าม๊าไม่เร่งหรอก เพียงแต่ใจร้อนอยู่คนเดียวเท่านั้น

ฟันเกือบขึ้นแล้วค่ะ แต่ ณ วันนี้ (1ขวบเป๊ะ) ฟันขึ้นครบ 4 ซี่หน้าแล้ว



รักนะ :
หม่าม๊ารักหนูมากเลย บางทีว่างๆ ก็นั่งดูหนูเล่นของเล่นไป หม่าม๊าก็คิดว่าทำไมลูกหม่าม๊าน่ารักจัง หม่าม๊ามีลูกได้ไงนี่ เด็กคนนี้เหรอเคยอยู่ในท้องเรา หนูจะรู้สึกรักหม่าม๊าบ้างมั๊ยนะ โตขึ้นหนูจะรักและเป็นห่วงและคอยเอาอกเอาใจหม่าม๊าบ้างมั๊ยนะ โตหนูจะติดแม่มั๊ยหรือจะติดเพื่อน หนูจะทันคนมั๊ย เอาตัวรอดได้มั๊ย ต่างๆนานา

แต่ความจริงก็คือ หม่าม๊าเลี้ยงหนูให้ดีที่สุดได้แต่ตัว จริงมั๊ย ต่อไปจะเป็นยังไงหนูต้องเลือกเอง หม่าม๊าจะเลือกให้หนูไม่ได้ และหนูก็คงไม่อยากให้หม่าม๊าเลือกให้หรอก (ว่าแล้วก็ปลง)

หมิ่งหมิงกะหม่าม๊า ถ่ายโดยปับป๊า



หม่าม๊า ปับป๊า ขอให้หนูเป็นเด็กดีนะ

รักมากๆ เลย จุ๊บจุ๊บบบบบบบ

ถ่ายตอนหมิ่งหมิงอายุสามวัน



ปล. แต่ตอนนี้หมิ่งหมิงไม่สบาย ท้องเสียด้วย อดจัดงานวันเกิดเลย ขอให้หนูหายเร็วๆ นะ หม่าม๊าใจจะขาด



Create Date : 04 มีนาคม 2553
Last Update : 4 มีนาคม 2553 0:27:37 น.
Counter : 1007 Pageviews.

3 comment
*-* หมิ่งหมิงหายไปนานมาก กลับมานินทาหมิ่งหมิงให้ฟังค่ะ *-*
สวัสดีค่ะ

เราหายไปนานม๊ากกกกกกกกกกกกกกก หลายเดือนแล้วเนอะ ส่วนมากจะไปที่เปิดท้ายชานเรือนมากกว่า อิอิ น่าสนุกดี บล๊อกก๊งบล๊อกแก๊งค์ก็ไม่ได้เขียนละ ออกจะขี้เกียจ เลี้ยงหมิ่งหมิงอย่างเดียวก็เหนื่อย นี่ขนาดไม่ได้ทำงานนะ นับถือบรรดาแม่ๆที่ต้องทำงานไปด้วยมากๆเลย ทำได้ไงเนี่ย

เรานะ เลี้ยงหมิ่งหมิงคนเดียว มีแม่เราช่วยนิดหน่อย หมิ่งหมิงยังล้มหัวกระแทกพื้นบ้าง หัวชนโน่นนี่บ้าง ประตูหนีบมือบ้าง นิดๆหน่อยๆ แทบทุกวันเลย เผลอไม่ได้ พริบตาเดียวเอง ปัจจุบันนี้ขอบตาเขียวอยู่ค่ะ ซนมากเลย อยู่ไม่เฉย จับนั่งเก้าอี้กินข้าว (โลว์แชร์) ก็พยายามจะปีนออกซะให้ได้ ไม่เคยนั่งเฉยๆเลย ต้องยกขาขึ้นมาตลอด เดี๋ยวยืนเดี๋ยวนั่งเดี๋ยวปีนเก้าอี้อยู่นั่นแหละ ดีที่เป็นโลว์แชร์ ถ้าไฮแชร์นะ ล้มเจ็บกว่านี้แหง๋ๆเลย

เพราะว่าหมิ่งหมิงล้มประจำนี่แหละ ทำให้เราโดนว่าประจำเลย เราเครียดนะไม่ใช่ไม่เครียด ใครจะอยากทำลูกหกล้มอยู่เรื่อยๆล่ะ มันสุดวิสัยนี่ ลูกเจ็บตัว เราก็เครียดพอแล้ว ยังต้องมาโดนคนว่าอีก เฮ้อ! เราแย่มากหยั่งงั้นเลยเหรอเนี่ย

หมิ่งหมิงเริ่มเข้าใจคำพูดมากขึ้น สอนง่ายขึ้น สิ่งที่เรารออยู่ก็คือ อยากให้หมิ่งหมิงพูดได้และเดินได้ เค้าค่อนข้างช้านะ เราว่า พูดยังเป็นภาษาต่างดาวอยู่เลยค่ะ พยายามออกเสียงให้เค้าพูดตาม ก็ไม่พูด แต่ทีภาษาต่างดาวล่ะพูดมากจนขี้เกียจฟังเลย ส่วนเรื่องเดินก็ยังไม่ได้ เค้าเริ่มตั้งไข่เมื่อไม่กี่วันนี้เอง วันแรกที่เริ่มตั้งไข่ได้ซัก 1-2 วินาที ต่อมาวันที่สอง ตั้งไข่ได้เพิ่มเป็น 3-4 วินาที

หมิ่งหมิงชอบอ่านหนังสือล่ะ เค้าชอบเอาหนังสืออะไรก็ได้ที่คว้าได้มาให้เราอ่านให้ฟัง อ่านเป็นตัวๆ ไม่ได้อ่านเป็นคำเป็นประโยคนะ ตัวไหน ก.ไก่ ตัวไหน ข.ไข่ เค้าจะสนใจมากเลย นี่ว่าจะไปซื้อโปสเตอร์ที่มีตัวอักษร ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก มาติดข้างฝาให้เค้าดู เผื่อท่องได้ (เร็วไปมั๊ยเนี่ย)

หมิ่งหมิงไม่ชอบดูการ์ตูน แต่ชอบดูสัตว์ โดยเฉพาะหมากับเด็ก

ตอนนี้อยากอยู่สองอย่าง อย่างแรกอยากให้หมิ่งหมิงเดินได้ซะที ตัวหนัก อุ้มเมื่อยมาก เค้าติดอุ้มด้วย อีกอย่างก็อยากให้พูดเป็นภาษา ไม่งั้นเวลาเค้าต้องการอะไรก็ไม่รู้เรื่อง แต่เวลาที่เค้าต้องการอะไร จะทำมือทำไม้ จนเราเข้าใจได้เลยล่ะ เช่น เวลาหมิ่งหมิงหยิบกิ๊บมาอันนึง ถ้าเค้าอยากให้เราติดให้ เค้าจะเอากิ๊บมายื่นให้เรา แล้วก็เอาไปทำท่าติดที่หัวเค้าเองให้เราดู เราก็จะรู้ ขำตอนที่มีครั้งนึง เค้าหยิบที่เสียบปลั๊กกันเด็กเอานิ้วแหย่ (ไม่รู้เรียกอะไร) แล้วเค้าคิดว่าเป็นกิ๊บ จะให้เราติดให้ได้เลย พอเราทำท่าวางไว้ที่หัวเค้า แค่นั้นเค้าก็ยิ้มพอใจใหญ่เลย

หมิ่งหมิงชอบทำน้ำลายไหล เวลายิ้มหรือเล่นเพลินๆ เราก็จะบอกให้เค้าหยิบผ้าอ้อมมา เค้าก็ไปหามาจนได้ พอได้แล้วเราก็บอกว่าชิกฉุ่ย (ภาษาจีน แปลว่า เช็ดปาก) เค้าก็จะเช็ดปาก คือฟังเริ่มรู้เรื่องมากขึ้นแล้วล่ะ มีหลายอย่างที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ เค้าก็ทำได้ ทำให้เราแปลกใจ มันน่าเอ็นดูดีเนอะ เด็กๆเนี่ย

นิสัยอย่างนึงของหมิ่งหมิงคือ ชอบอึในเวลากินข้าว เวลากินข้าว บางทีเราก็จับถอดแพมเพิร์ส แล้วจับนั่งกระโถนไปป้อนข้าวไปก็มี พอเค้าอึปุ๊บ เค้าก็จะลุกจากกระโถนปั๊บ ต้องคอยระวังไม่ให้กระโถนคว่ำ ไม่งั้นเลอะแน่ แต่บางทีเราขี้เกียจก็กินทั้งๆ ใส่แพมเพิร์สนั่นแหละ พออึแล้วเค้าก็ไม่ยอมนั่งเก้าอี้เลยนะ เค้าจะลุกยืนให้อุ้มอย่างเดียวเลย เราก็จะรู้ ต้องไปล้างให้เค้าทันที ไม่งั้นไม่เป็นอันทำไร แล้วเราก็จะใส่แต่กางเกงอย่างเดียว ให้โล่งๆบ้าง พอกินข้าวเสร็จเล่นซักพักค่อยใส่แพมเพิร์ส

เพราะว่าหมิ่งหมิงก้นแดงง่าย เป็นผื่นผ้าอ้อมบ่อยๆ เพราะเค้าขี้ร้อน ใส่แพมเพิร์สแล้วเหงื่อออกก้นตลอดเลย เราเอามือล้วงเข้าไปในแพมเพิร์ส โห! ร้อนมากเลย อบด้วย สงสารเนอะ บางทีเราเห็นร้อนมากๆ ก็ง้างตรงขอบยางออก แล้วเอาพัดๆ ให้เค้า จับดูพอเหงื่อแห้งเราเลิกพัด และเดี๋ยวนี้เค้าไม่ฉี่บ่อยแล้ว ประมาณชั่วโมงนึงสองชั่วโมงฉี่ครั้งนึง ก็เลยไม่ลำบาก ฉะนั้นวันนึงเราใช้แพมเพิร์สแค่สองสามอันเอง ไม่เปลืองดี นี่แหละข้อดีของการเป็นแม่ Full Time มีเวลานั่งล้วงก้นลูกด้วย

เราเริ่มให้นมถั่วเหลืองเสริมแล้วค่ะ เพราะนมเราน้อยลงแล้ว ไม่พอกินในวันนึง พอเราเอานมถั่วเหลืองให้กินตอนนี้นมแม่เลยเหลือวันละถุง เก็บในสต๊อก อีกไม่นานพอเราไม่ปั๊มนมแล้ว เราก็จะเอาสต๊อกมาให้กินจนหมด อยากให้หมิ่งหมิงกินนมจากกล่องได้เอง เคยลองให้กิน เค้าบีบกล่องเล่น แล้วเวลาดูด พอดูดเข้าปากแล้วชอบพ่นออกทุกทีเลย ไม่รู้ทำไม เดี๋ยวโตอีกหน่อยพูดรู้เรื่องคงได้เองแหละ (หรือเปล่าหว่า)

ไว้จะมาคุยเรื่องหมิ่งหมิงให้ฟังอีกนะคะ

---------------------------------------------



หนูจะครบขวบแล้วนะคะ




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 0:12:23 น.
Counter : 447 Pageviews.

2 comment
*-* หมิ่งหมิงหายป่วยแล้ว ไชโย!!!!!......*-*
หมิ่งหมิงหายป่วยแล้วค่ะ เป็นส่าไข้น่ะค่ะ พอไข้ลดผื่นก็ขึ้นเลย แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ ตอนแรกว่าจะพาหมิ่งหมิงไปฉีดวัคซีนวันเสาร์ (19 ธ.ค.) แต่เราโทรไปถามที่ รพ. พยาบาลแนะนำว่าอย่าเพิ่งฉีดเลย เพราะผื่นยังไม่หายดีและไข้ก็เพิ่งลดด้วย เอาไว้อีกสัปดาห์นึงค่อยมาฉีดก็ได้ เราก็ว่างั้นแหละ อีกใจก็คิดว่ากลัวจะช้าไปมั๊ย แต่พยาบาลบอกว่าวัคซีนสามารถเลื่อนได้ ก็เลยตกลงว่าจะไปฉีดวันเสาร์หน้า (26 ธ.ค.) ดีกว่า

ดีใจมากเลยที่หมิ่งหมิงหายแล้ว ตอนไข้สูงอยู่ เราเช็ดตัวหมิ่งหมิงทั้งวันเลย หาข้อมูลในเน็ต บางข้อมูลก็บอกว่าให้เช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น บางข้อมูลก็บอกให้เช็ดน้ำอุณหภูมิห้อง เราสับสน คิดเอาเองเลย เราใช้น้ำอุณหภูมิห้องค่ะ (ก็ตัวลูกร้อน ถ้าใช้น้ำอุ่นเช็ดมันจะหายร้อนได้ไง ถ้าใช้น้ำเย็นลูกก็จะสะดุ้งตกใจ) ผิดหรือถูกไม่รู้ แต่มันก็ทำให้ตัวเย็นลงได้นะ

ขณะที่หมิ่งหมิงเป็นไข้ เค้าทำอะไรเป็นอีกสี่อย่างแน่ะ คือ ยิ้มหวานได้ ชี้นิ้วได้ รักได้ (โดยเวลาอุ้ม ถ้าบอกว่า รักซิ หมิ่งหมิงก็จะเอาหัวมาซบกับหน้าอกคนอุ้ม แต่ถ้าคนที่ไม่อุ้มบอก เค้าก็จะเอาหัวมาซบที่อกคนที่ไม่ได้อุ้มนั่นแหละ ถ้าอยู่ไกล ก็จะยื่นหัวมาให้ถึงจนได้) อีกอย่างที่เค้าทำได้เองคือ จากคว่ำหน้า ลุกขึ้นนั่งเองได้ค่ะ แต่เรื่องคลานนี่ เรายังลุ้นอยู่เลย

รู้จักอยากได้ รู้จักปฏิเสธด้วยนะ ชอบชี้นิ้วเวลาอยากไปไหน อยากได้อะไร และถ้าหมิ่งหมิงไม่อยากได้ ไม่อยากกิน เค้าก็จะสั่นหัว พอสั่นหัวนะ ให้ยังไงเค้าก็ไม่เอา

ตั้งแต่หมิ่งหมิงหายไข้นี่ ดูเค้าเปลี่ยนไปมากเลย โตขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น ที่แน่ๆ ผอมอย่างเห็นได้ชัด กินน้อยลงอ่ะ ตอนก่อนจะไม่สบาย หมิ่งหมิงกินเก่งมาก ทั้งข้าว ทั้งนม พอป่วยก็กินน้อย นมไม่ค่อยกินเลย ตื่นนอนตอนเช้า จากเดิมเคยกินนมประมาณ 5-6 ออนซ์ แล้วต่อด้วยข้าว มาตอนนี้กินนมแค่ 2 ออนซ์เอง บางทีก็ไม่ถึง เราจะป้อนข้าวต่อ ก็กินน้อยมาก อยากกินอยู่ 2-3 คำ นอกนั้นต้องคอยตามป้อน หลอกล่อจนเหนื่อย ไอ่เราก็อยากให้กินเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ เสียลุคหมิ่งหมิงแก้มป่องหมด เฮ้อ!.. หายป่วยนี่ กลับมากินเก่งเหมือนเดิมละ ค่อยยังชั่ว


ยิ้มหวานหน่อยยยยยยยยยยยยย




Create Date : 21 ธันวาคม 2552
Last Update : 21 ธันวาคม 2552 22:26:07 น.
Counter : 554 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

หมูน้อยตัวโต
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]