|
|
|
|
|
|
สาเหตุที่ผู้หญิงหาย... ไม่โทรกลับ
แน่นอนว่าผู้ชายแทบทุก คนต้องเคยประสบเหตุการณ์เช่น นี้ : คืนนั้นในผับสุดฮิป คุณได้นั่งคุยกับสาวที่หมายตาอยู่ตรงบาร์เหล้า ดูเธอพูดคุยตอบรับเป็นอันดี คืนนั้นลงท้ายด้วยการที่เธอให้เบอร์โทรศัพท์อย่างไม่อิดเอื้อนใดๆ หลังจากนั้น 2-3 วันคุณโทรไปหาเธอ ปรากฎว่าไม่มีใครรับสายสลับกับบริการรับฝากข้อความ คุณจึงเกิดอารมณ์สับสนเพราะเธอไม่โทรกลับเลยสักครั้ง ด้วยเหตุกลใดก็ยังนึกไม่ออก ทั้งๆที่(ในความคิดของคุณคนเดียว)คุณออกจากหล่อเท่เร้าใจซะขนาดนี้
การให้เบอร์ผู้ชายเป็นการหาทางออกที่ง่าย
สำหรับผู้หญิงการหา ทางออกเอาตัวรอดที่มักใช้บ่อยคือ ทำตัวเป็นมิตรน่ารักเข้าไว้ ดังนั้นการทำตัวเป็นมิตรและให้เบอร์โทรศัพท์จึงง่ายกว่าการส่ายหน้าระอาใจ แล้วบอกว่า ขอโทษค่ะ ฉันไม่สนใจคุณ เหตุผลนี้อาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่นี่คือการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ชวนอึดอัดแบบไม่ต้องเสียอะไรเลย ถ้าผู้หญิงปฏิเสธที่จะแลกเบอร์โทรศัพท์ผู้ชายก็ต้องอยากรู้เหตุผล ซึ่งทำให้ผู้หญิงยุ่งยากใจหนักขึ้นไปอีก แค่รอยยิ้มและบอกเบอร์ไปก็ไม่ต้องเสี่ยงกับความลำบากใจ หลังจากนั้นก็เขี่ยผู้ชายออกไปด้วยการไม่รับสาย แต่ผู้ชายก็อย่าเพิ่งเลิกลุ้น เพราะนี่อาจเป็นกลเม็ด เล่นตัว ของผู้หญิงก็เป็นได้ ลองรอสัก 2-3 วัน อย่างมากไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ถ้าเธอยังไม่โทรกลับก็ถอดใจได้เลยค่ะ
มีอะไรบางอย่างในตัวผู้ชายที่เธอไม่ชอบ
ผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อนและเปลี่ยน ใจได้ตลอดเวลา เช่น วันนี้เพิ่งซื้อยีนส์มาใหม่ แต่พอกลับถึงบ้าน อ้าว...เกิดรู้สึกขึ้นมาว่ายีนส์ตัวนี้ทำให้บั้นท้ายบานเบอะอย่างกับเจนนิ เฟอร์ โลเปซ วันรุ่งขึ้นเลยรีบไปเปลี่ยนซะงั้น เปรียบไปก็เหมือนผู้ชายคือยีนส์ตัวใหม่ ตอนแรกก็รู้สึกว่าเจ๋งและเท่ซะเหลือเกิน ทั้งเซ็กซี่และมีอารมณ์ขันสุดๆ แต่พอมาเล่าให้เพื่อนสาวฟัง เพื่อนสาวก็อาจติงอะไรขึ้นมาบางอย่างที่มีผลกับการตัดสินใจรับสายของผู้ชาย เช่น เพื่อนสาวอาจบอกว่ารู้สึกพิกลกับการที่เขาเอ่ยถึงแฟนเก่าหรือ ไม่ เอ่ยถึงแฟนเก่า (ก็บอกแล้วว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อน) แน่นอนว่าผู้หญิงต้องเอาไปคิดแล้วก็สรุปว่าจะรับสายหรือโทรกลับผู้ชายคนนี้ ดีไหม เหตุผลอื่นคือเธอเจออะไรบางอย่างจากช่องทางอื่น เช่น เฟซบุ๊คของผู้ชาย อาจเป็นรูปที่ผู้ชายเมาเละกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับสาวๆในปาร์ตี้ และผู้หญิงรับไม่ได้ ทางที่ดีขอแนะนำให้เซ็ตโปรไฟล์เป็นไพรเวทค่ะ
มีชายอื่น
เป็นไปได้ว่าตอนที่แลกเบอร์กันผู้หญิงอาจกำลังคบผู้ชาย อีกคนแบบไม่ได้จริงจังอะไร หรือไม่ก็ยังไม่อยากผูกมัดกับใครเป็นพิเศษและคิดว่าก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ นาถ้าจะทำเฟลิร์ตบ้างนิดหน่อยพอสนุก แต่พอหลังจากวันที่แลกเบอร์กันได้ไม่นาน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตของเธอ นั่นคือเธอหันไปเดทกับผู้ชายคนนั้นอย่างจริงจัง เขาคือคนที่ทำให้เธอหายสาบสูญไปนั่นเอง ต่อให้มีศึกชิงนางเกิดขึ้นและลงท้ายได้ผู้หญิงกลับมาไว้ในครอบครอง ประเด็นสำคัญก็คือ สาเหตุที่ผู้หญิงหายไปในตอนแรกไม่ได้มาจากตัวผู้ชายแน่นอน
เตกีล่าแก้วที่สี่ทำให้เธอพูดไม่หยุด
กรณีนี้ประสบกันมานักต่อนัก คืนนั้นผู้หญิงเมาเสียจนไม่ทันคิดอะไร และทำสิ่งที่ไม่ทำในยามปกติ เช่น ให้เบอร์ผู้ชายที่เพิ่งเจอหน้า เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังตอนที่เธอสร่างเมา จึงเกิดความรู้สึกอับอาย และพาลคิดไปว่า นอกจากเผลอแลกเบอร์กันแล้วยังแลกอย่างอื่นด้วยหรือเปล่า หรืออีกกรณีคือจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าให้เบอร์ผู้ชายไป วิธีปลอดภัยที่สุดคือไม่รับสาย...ก็แค่นั้น
ขอแนะนำคุณผู้ชายว่า คราวหน้าที่เจอสาวสวยในผับบาร์ ควรสั่งโซดาให้ หรือรอดูท่าทีเสียก่อนว่าเมามายมากน้อยประมาณไหน อยู่ในภาวะที่สมควรแลกเบอร์กันหรือเปล่า จะได้ไม่เสียเวลาเสียเซล์ฟกับการที่เธอไม่ยอมรับสาย
Create Date : 03 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 3 เมษายน 2553 20:57:02 น. |
Counter : 177 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เหตุผลที่สาวโสดปิ๊งชายมีเจ้าของ!
เทรนด์ ใหม่มาแรงตอนนี้คือ ฉันรักผัวเขา หรือ หลงรักคนมีเจ้าของ
เหตุผลที่สาวโสดปิ๊งชายมีเจ้าของ
จนถึงขนาดยอมเป็นมือที่สามหรือยอมเป็นกิ๊กก็ ยังดี ความจริงเรื่องแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณนานเน เพียงแต่ที่กลายเป็นเทรนด์มาแรงก็เพราะคนดังระดับ เอ-ลิสต์ อย่างแองเจลิน่า โจลี่ ยังออกมายอมรับว่า ตัวเองแย่งสุดหล่อ แบรด พิตต์มาจากอกเจ๊เจนนิเฟอร์ อะนิสตัน (ก็น่าแย่งอยู่นะ) ซึ่งเท่ากับช่วยยืนยันเทรนด์นี้ไปในตัว ทำให้เกิดคำจำกัดความของพฤติกรรมแย่งสามีชาวบ้านว่า the Angelina Jolie effect
นอกจากนั้นยังมีผลการศึกษาจากสถาบันชั้นนำหลายสำนักใน อเมริกาบอกว่า ผู้หญิงโสดจะติดเนื้อพึงใจผู้ชายที่แต่งงานแล้วหรือมีแฟนแล้วมากกว่าผู้ชาย โสดถึง 4 เท่า เฮ้อ...ช่างเป็นเทรนด์คนบาปทำร้ายหัวใจลูกผู้หญิงด้วยกันจริงๆ สาวๆที่เห็นดีเห็นงามกับเทรนด์นี้ลองคิดดูใหม่ว่าถ้าตัวเองโดนบ้างจะรู้สึก เช่นไร
ต่อไปนี้คือเหตุผลที่ผู้ชายมีเจ้าของเป็นที่ หมายปองของสาวโสด
1. ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
ใน สวนอีเด็น อีฟเคี้ยวแอปเปิ้ลต้องห้ามอย่างเอร็ดอร่อย นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ผู้หญิงอยากได้ของต้องห้าม ประมาณว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ วู้ย ตื่นเต้นหวาดเสียวดีจริงๆ ซึ่งเป็นอาการเดียวผู้หญิงยุคนี้ที่ยืนจ้องรองเท้าดีไซเนอร์สุดหรูแบบถอนสาย ตาไม่ได้ หรือน้ำลายไหลกับเพชรคอลเลคชั่นพิเศษหนึ่งเดียวในโลก อาการเหล่านี้ประมาณเดียวกับผู้หญิงที่วิ่งไล่ตามผู้ชายซึ่งมีเจ้าของแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนหรือกระเป๋าถือใบเก๋...ยิ่งเอื้อมถึงยากเท่าไร ก็ยิ่งดึงดูดใจให้ไขว่คว้ามาครอบครองมากขึ้นเท่านั้น
2. ชายไม่โสดดูปลอดภัยกว่า
ผู้หญิงจะไว้ใจผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว มากกว่าผู้ชายโสดกรุ้มกริ่ม ไว้ใจขนาดกล้าเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟัง ขอคำปรึกษาปัญหาหัวใจ แถมยังทำเฟลิร์ทได้โดยไม่กลัวว่าจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ ผู้ชายที่หลุดวงโคจรไปแล้วดูไม่มีอันตราย แบบนี้ละที่มักลงเอยกลายเป็นว่าผู้หญิงจะหันมาตกหลุมรักผู้ชายพวกนี้เสียเอง ไปๆมาๆก็ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า เพราะกลายเป็นตัวสำรองหรือมือที่สามซะงั้น
3. คุณสมบัติเพียบพร้อม
น่า แปลกที่ผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว มักมาพร้อมกับคุณสมบัติดีๆมากมาย เช่น เรียนจบจากมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้า หรือไม่ก็เป็นหนุ่มนักเรียนนอก ที่บ้านมีฐานะใช้ได้ เล่นดนตรีเป็น รสนิยมเลิศ และวิสัยทัศน์กว้างไกล ดูเหมือนรอบรู้ไปซะทุกเรื่อง ด้วยคุณสมบัติรอบด้านเช่นนี้สาวๆย่อมหลอมละลายหวั่นไหวเป็นธรรมดาโลกใคร ใครทนไหวก็แย่แล้ว
4. ดูจริงใจไม่มีเจตนาแอบแฝง
ผู้หญิง ฟังคำหวานจากผู้ชายซ้ำซากเสียจนเลี่ยน คือพูดอะไรมาก็ไม่เชื่อแล้วละ ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือหลอกเพื่อหวังผลอย่างอื่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นจีบหญิงหลีสาวแทบทั้งนั้น ในขณะที่ผู้ชายซึ่งมีเจ้าของแล้ว (อันแสดงถึงความเชื่อมั่นในเรื่องของการผูกมัด) ไม่หวังฟันผู้หญิงแบบนั้น และเมื่อพูดถึงเรื่องอะไรที่ออกแนวซีเรียส วิญญาณผู้ชายเห็นแก่ตัวก็จะออกจากร่าง ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงจึงระวังตัวน้อยลง และปล่อยตัวตามสบายมากขึ้น
5. ผู้หญิงชอบอะไรที่ป๊อปปูล่า
ข้อนี้ เป็นนิสัยของผู้หญิงจริงๆ คือผู้หญิงจะอยากได้สิ่งที่ผู้หญิงอื่นมีไว้ในครอบครอง ความอิจฉาริษยาเป็นนิสัยตามธรรมชาติของผู้หญิงขึ้นอยู่กับว่าใครมีมากมีน้อย หรือหักห้ามใจได้แค่ไหน การที่ผู้ชายคนหนึ่งเป็นที่รักชื่นชมบูชาของผู้หญิงอีกคนหนึ่งทำให้เขาดูมี ค่ามีราคาขึ้นมาหลายเท่า ต่อให้ผู้ชายคนนั้นมีผู้หญิงมารักแค่คนเดียวในโลก ผู้หญิงคนนั้นก็เท่ากับช่วยยืนยันว่าเขาผ่านการทดสอบและสามารถเป็นคนรักได้ นี่จึงทำให้ชายมีเจ้าของดูฮ๊อตขึ้นมาเลยละ
6. ชอบบริหารเสน่ห์
ไม่ว่า ผู้ชายหรือผู้หญิงก็อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ ต้องการ เป็นหนุ่มฮ๊อตเป็นสาวฮ๊อตสุดๆในสายตาคนอื่น ผู้ชายบางคนยอมเอาความสัมพันธ์ที่มั่นคงของตัวเองเข้ามาเสี่ยง ด้วยการแอบไปมีค่ำคืนอันร้อนแรงกับสาวอื่น ในขณะที่ผู้หญิงจะกลับบ้านด้วยความรู้สึกว่าตัวเองเป็นแองจลิน่า โจลี่ หลังจากที่ไปกุ๊กกิ๊กกับผู้ชายมีเจ้าของ การเสริมสร้างความมั่นใจด้วยการไปลักกินผู้ชายของคนอื่นอาจลงท้ายกลายเป็นไป ตกหลุมรัก และกลายเป็นรักสามเส้าน้ำตาเช็ดหัวเข่าก็เป็นได้ ในทางกลับกันสาวก็อาจแก้ตัวได้ในกรณีที่ทำเฟลิร์ตแล้วผู้ชายไม่เล่นด้วยว่า ที่เขาไม่สนใจฉันเพราะเขามีแฟนแล้ว
7. ผู้หญิงชอบความท้าทาย
ผู้หญิง สมัยนี้เป็นผู้ชายเป็นของหวานหรือขนมขบเขี้ยว แต่ผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วนี่สิไม่ใช่ขนมหวานที่จะฉกฉวยเอามาได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าเจ๊าะแจ๊ะในช่วงแรกละก็ผู้ชายจะไม่ยอมง่ายๆ เพราะยังยึดมั่นอยู่กับคนรักตัวจริง ไม่ยอมเอาชีวิตคู่เข้ามาเสี่ยง แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน...
8. เขาเป็นคนมั่นใจในตัวเอง
ครั้งต่อไปที่ออกไปซิ่งนอกบ้าน ลองสังเกตดูจะรู้ว่า ผู้ชายที่มั่นใจตัวเองที่สุดในสถานที่นั้น จะไม่ใช่คนที่พยายามเรียกร้องความสนใจ หรือควักกระเป๋าเลี้ยงเหล้าก๊วนเพื่อนจนหมดตัว แต่จะเป็นผู้ชายที่ตระกองกอดอยู่กับหวานใจสวยเซ็กส์เอ๊กซ์แตกอย่างมีความสุข และสาวคนนั้นก็ทุ่มความสนใจอยู่ที่เขาคนเดียวไม่แลใครเลย นี่คือบทพิสูจน์ถึงความเป็นคนฉลาด ประสบความสำเร็จและมีเสน่ห์อย่างไม่สิ้นสุด ผู้ชายแนวนี้จะมีบุคลิกเป็นธรรมชาติ เท่ และดูสบายๆ ดูไม่กดดันและกังวลอะไร แถมยังโรแมนติคอย่างเหลือเชื่อจนดึงดูดผู้หญิงให้เข้ามาติดบ่วงได้ง่ายๆ.
Create Date : 03 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 3 เมษายน 2553 20:54:02 น. |
Counter : 209 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
13 ข้อกับเรื่องบนเตียง ...
จริงแล้วปัญหาของคู่ชีวิตกับเซ็กส์นั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก และมีผลไปสู่การดำเนินชีวิตด้านอื่นๆ อย่างที่คนมีคู่คงจะรู้แจ้งแก่ใจดีอยู่แล้ว หลายปัญหามักมีที่มาจากความเข้าใจผิดๆ ที่คุณอาจเคยได้ฟังมาแต่ครั้งไหนก็ไม่รู้ ลองมาดูว่าใน 13 ข้อเข้าใจผิดที่นักจิตวิทยารวบรวมได้นี้ ข้อไหนตรงกับความคิดของคุณบ้าง แล้วลองเปลี่ยนความเข้าใจเสียใหม่ นำไปใช้พัฒนาชีวิตคู่ของคุณให้ราบรื่นขึ้นกว่าเดิม
1. รักแท้จะต้องเป็นรักครั้งแรกเท่านั้น
ในวันนี้ที่คุณใช้ชีวิตคู่ อยู่กับคนที่คุณเลือกแล้ว แต่ก็ยังไม่วายถวิลหาหนุ่ม (หรือสาว) คนแรกที่คุณหลงรักจนหัวปักหัวปำ เพราะใจน่ะพร่ำบอกตัวเองแต่ว่ารักนั้น เป็นรักแรกต้องเป็นรักแท้แน่นอน แท้ที่จริงแล้วคุณกำลังปิดประตู ใส่กลอนหัวใจตัวเอง ใส่หน้าคู่ชีวิตปัจจุบันของคุณอยู่หรือเปล่า
ลองคิดดูดีๆ ว่าใครกันที่อยู่เคียงข้างกับคุณในวันนี้ เวลานี้ และเป็นคนที่คุณควรจะมีความสุขด้วยกัน อย่าให้ความเชื่อเข้าข้างตัวเอง อย่างไร้เหตุผล มาทำลายชีวิตคู่ปัจจุบันของคุณเองเลยครับ หันมาใส่ใจ ให้ความสุขกับคนข้างกายให้เต็มที่เพื่อวันนี้ และวันหน้าจะดีกว่า
2. น่าเกลียดถ้าผู้หญิงบอกรักผู้ชาย
สังคมที่เปลี่ยนไปในวันนี้ เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น กว่าคนรุ่นก่อน ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องปิดปากเงียบ ปล่อยให้ผู้ชายเดาความคิดของคุณ ว่าคิดอย่างไรกับเขา รับรองเขาไม่รู้หรอก แถมอาจเข้าใจมั่วไปกันใหญ่อีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม การที่ผู้หญิงวิ่งโร่ไปจีบผู้ชายจนออกนอกหน้า ยังคงดูไม่เหมาะนัก กับวัฒนธรรมไทย และอาจจะดูเป็นคน "ง่าย" ในสายตาชายได้โดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย
วิธีที่ดีคือ แสดงออกให้ฝ่ายชายรู้ว่าสนใจ แต่สงวนท่าทีไม่ให้เกินงาม เช่น การให้ความใส่ใจช่วยเหลือ หรือการพูดคุย นั้นจะช่วยให้คุณรักษาคุณค่ากุลสตรีที่ฝ่ายชายจะต้องให้เกียรติ แต่หากคุณตกลงใจคบกันเป็นคู่แล้ว การที่สองฝ่ายผลัดกันบอกรักแก่กันและกัน ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด แต่คำรักหวานๆ ที่มอบกันนั้นยังช่วยหล่อเลี้ยง และจรรโลงชีวิตคู่ให้ชื่นมื่นด้วย
3. ผู้ชายจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กส์ และเป็นผู้นำเสมอ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงบนเตียงแล้ว ฝ่ายหญิงควรเลิกความคิดที่ว่าผู้ชายต้องเป็นผู้นำเสมอไป เพียงเพราะคิดว่าเขา "เชี่ยวชาญกว่า" จริงๆ แล้วผู้ชายไม่ได้ "เชี่ยว" เรื่องนี้ไปเสียหมดหรอก หากคุณไม่บอกเขาว่าคุณต้องการอะไร
เรื่องบนเตียงของคู่ก็ต้องรับผิดชอบกันทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งเป็นฝ่ายกระทำ หรือถูกกระทำ (ในกรณีที่สมยอมกันทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ) ดังนั้นฝ่ายหญิงจึงต้องกล้าที่จะลองรับบทบาทเป็นผู้นำคุมเกมเองบ้าง หาวิธีที่ทำให้คุณ และเขามีความสุข แล้วชีวิตเซ็กส์ของคุณจะได้ไม่จืดชืดไงล่ะ
4. ผู้หญิงพูดเรื่องเซ็กส์จะเป็นคนสำส่อนน่ารังเกียจ
หากคุณใช้ชีวิตร่วมกับคู่ชีวิต ความต้องการเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องที่คุณ 2 คนต้องเคลียร์กันให้หมด ว่าแต่ละฝ่ายพึงพอใจแบบไหน ไม่ชอบใจอะไร เพื่อให้แต่ละฝ่ายปรับตัวเข้าหากัน และมีความสุขด้วยกันทั้งคู่ จริงๆ แล้วผู้ชายจะดีใจ ภูมิใจด้วยซ้ำ หากว่าเขาได้ทำให้คนที่ตนรักได้บรรลุความสุขในเรื่องบนเตียง
ดังนั้นคุณผู้หญิงควรจะเรียนรู้ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ บอกให้คู่ของตนได้รับรู้ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม หากรักกันจริง ทำไมเรื่องแค่นี้จะยอมทำให้ไม่ได้ จริงไหมครับ
5. หญิงมีเซ็กส์เพราะรักสนุกเหมือนที่ผู้ชายคิด
ความจริงข้อหนึ่ง ที่ทั้งคุณผู้ชาย และผู้หญิงควรรับรู้ไว้บ้างก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่ เมื่อทำความรู้จักผู้หญิงที่ตรงสเป็ค ใจก็มักจะคิดเลยเถิดไปถึงเรื่องอย่างว่า โดยตัวเองก็ไม่ค่อยรู้ตัว จากนั้นธรรมชาติก็มักจะชักนำให้ตามใจตัวเองอยู่เรื่อย ขณะที่ผู้หญิงการจะมอบกายใจ มีเซ็กส์กับใครก็มักจะตัดสินใจจากความรัก และไว้ใจในตัวคนๆ นั้น น้อยคนนักที่จะเป็นพวกรักสนุก ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษพอ จึงควรให้เกียรติ เคารพความคิดของผู้หญิงในข้อนี้ไว้ให้จงดีนะครับ อย่าเอาแต่เข้าข้างตัวเอง ว่าผู้หญิงเขาไม่คิดอะไรมากกับการที่คุณชวนเขาขึ้นเตียงน่ะ
6. เมื่อมีเซ็กส์ ผู้ชายได้ ผู้หญิงเสีย
หากเรื่องบนเตียงของคุณมีที่มาจากความสมยอมทั้งสองฝ่าย อย่าให้ความคิดว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเสีย ผู้ชายได้ มาทำให้คุณยึดติดกับคำๆ นี้ เพราะหลายกรณี ที่คู่ชีวิตมีปัญหามีอันต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน ฝ่ายหญิงที่ตอกย้ำความคิดว่าตนเป็นฝ่าย "เสียหายเพราะ เสียตัว" มักจะลงเอยด้วยความคั่งแค้น ไปจนถึงเศร้าหมองสลดหดหู่ ดูถูกดูแคลนกับชีวิตตัวเองจนไม่เป็นอันทำอะไร บางคนถึงกับประชดชีวิตด้วยวิธีต่างๆ พาลให้ไปกันใหญ่ ดังนั้นให้คิดใหม่เสียเถิดครับว่าไม่มีใครเสีย มีแต่ได้กับได้ (ได้ทำไปแล้วไงครับ) แล้วเดินหน้าต่อไปสร้างสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตดีกว่า
7. แม้เบื่อสุดขีดแต่ก็ยอมทนเพื่อเสียสละ
หากคุณและคู่ไม่สามารถมีความสุขกันได้ เช่นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่เคยถึงจุดสุดยอดเลยซักครั้ง แต่เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ จึงต้องโกหกกัน เรื่องแบบนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะร้อยทั้งร้อย สิ่งที่คุณคิดว่าเสียสละได้ ในที่สุดคุณก็จะเก็บกด เบื่อหน่าย หงุดหงิดแก้ไม่หาย พาลให้เกลียดกิจกรรมเซ็กส์กันไปเลย รังแต่จะมีผลเสียต่อชีวิตคู่ ทางที่ดี จึงควรบอกให้กันและกัน รู้ถึงปัญหา และหาทางปรับตัวหรือแก้ไขร่วมกัน หรือทดลองเปลี่ยนท่าทางต่างๆ สร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับกิจกรรมรักของคุณ เพื่อให้ได้รับความอิ่มเอมเต็มอิ่มไปพร้อมกัน
8. การทดลองสิ่งแปลกใหม่ให้กิจกรรมเซ็กส์เป็นเรื่องของคนลามกสำส่อน
คู่ที่ชั่วนาตาปีมีชีวิตบนเตียง อยู่กับท่ามาตรฐานเดิมๆ ซ้ำๆ จะนำพามาซึ่งความเบื่อหน่าย เหมือนกินกับข้าวแบบเดิมๆ ทุกวันใครจะไปทนได้นาน ลองศึกษาท่าทางวิธีการแบบใหม่ๆ จากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ ให้ชีวิตมันมีสีสันตื่นเต้นดูบ้าง อย่ามัวไว้ตัว คิดแต่ว่าเป็นเรื่องของคนทะลึ่งลามก หากคู่ของคุณเบื่อทนไม่ไหว แล้วไปทะลึ่งกับคนอื่นแทนคุณ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะจะบอกให้
9. การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นเรื่องลามก
บางคนมีความเชื่อเช่นนี้ ปัญหาคือเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศแล้ว ไม่อยากเป็นคนทะลึ่งลามก จึงไม่มีทางระบายออก กลายเป็นหนุ่มสาวอารมณ์เปลี่ยว ที่เก็บกด หงุดหงิด จิตเสื่อม ลองปรับเปลี่ยนความคิดสักนิด ทำใจให้สบาย ปล่อยตัวเองผ่อนคลายตามธรรมชาติ แล้วคุณจะสบายตัวขึ้น แต่อย่าหมกมุ่นมากไป จะไม่ดี
10. ผู้หญิงจะเซ็กส์เสื่อมหลังวัย 30
บางคนอาจเชื่อไปเองว่าผู้หญิงเมื่อล่วงเข้าวัย 30 แล้วความต้องการทางเพศจะค่อยๆ เสื่อมสูญไป คู่แต่งงานบางคู่จึงมักเกิดปัญหาระหองระแหงกันได้เมื่อแต่งกันมานาน ผู้ชายก็อาจโทษผู้หญิงว่าชืดชาเฉยเมย ทำให้ตนต้องหันเหไปหาอะไรใหม่ๆนอกบ้าน แต่จริงๆ แล้ว ลองทบทวนดูก่อนว่าอะไรที่ทำให้คุณผู้หญิงหมดอารมณ์กันแน่
ภาระงานบ้าน งานในที่ทำงาน แล้วยังต้องดูแลลูกอีก กว่าหัวจะถึงหมอนก็เหนื่อยเสียแล้ว จริงๆ แล้ววัยไม่เกี่ยว แต่คุณต้องจัดการเวลาให้ดี อย่าเอาภาระเรื่องงานกลับบ้าน อย่าเอาเรื่องงานบ้านมาถกกันบนเตียง ล้วนแต่พาลให้หมดอารมณ์บรรเจิดไปเสียหมด หากคุณผู้ชายหมั่นแสดงความรักและห่วงใย ปลอบใจให้เธอคลายเหนื่อย ด้วยวิธีอันละมุนละไม เชื่อว่าปัญหาเฉยเมยเหล่านี้จะหายไปในไม่ช้า
11. ถึงวัยทองแล้วคิดมีเซ็กส์เป็นเรื่องบัดสี
บอกแล้วไงว่าวัยไม่เกี่ยว ตราบใดที่คุณสองคนเป็นคู่ชีวิต ที่ยังพร้อมจะมอบความรักให้แก่กัน แม้กายภาพจะไม่ค่อยเอื้ออำนวย อะไรๆ เคยลื่นก็กลายเป็นฝืด พลังเคยเต็มเปี่ยมก็ถดถอยลงไปตามวัย แต่อย่างน้อยการได้สัมผัสรัก ถ่ายทอดความอ่อนโยนให้แก่กัน ก็จรรโลงชีวิตให้สดใสได้ แถมยังช่วยให้ชีวิตกระชุ่มกระชวย อารมณ์ดี โปรดสังเกตว่าคู่ชีวิตที่ยังรักหวานแหววกันจนวัยทองแล้วเนี่ย ส่วนใหญ่จะสามารถถ่ายทอดความรักความอบอุ่นไปยังลูกหลาน ให้มีทัศนคติที่ดีในชีวิตคู่ได้อีกต่างหาก
12. ผู้ชายใส่ปลอก...ไม่สมชายชาตรี
ผิดถนัดหากคุณคิดเช่นนี้ โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ชายด้วยแล้ว คงไม่สนุกนักหากมีเซ็กส์ที่ไม่ระวัง แล้วนำพาปัญหาตามมาให้ปวดหัวในภายหลัง การใส่ถุงยางอนามัยไม่ได้แสดงว่าคุณไม่แมน แต่ทางตรงข้าม คุณกำลังเป็นสุภาพบุรุษที่รอบคอบ รู้จักคิด รู้จักการป้องกัน ทั้งตัวเอง (จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์) และคู่ของคุณจากโรคติดต่อ หรือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
13. รักสนุกแล้วค่อยคิดคุมกำเนิด สบายใจได้ 100%
เพราะคิดแบบนี้กัน ปัญหาสังคมจึงยังมีให้วิ่งตามแก้ทุกวัน โดยเฉพาะในกลุ่มหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ประสบพบพักตร์กัน แล้วเคมีในร่างกายระเบิดจุดประกายไฟปรารถนา พอเวลามีอะไรกันแล้วจึงนึกได้ ฝ่ายหญิงค่อยไปหายาคุมกำเนิด หลังมีเพศสัมพันธ์มากิน โดยคิดว่าสบายใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่เห็นมาแล้วนั้นมีพลาดเสียก็เยอะ พลั้งขึ้นมาเกิดตั้งครรภ์ตอนที่ยังไม่พร้อม หรือติดเอดส์ขึ้นมา ปัญหาอีกร้อยแปดก็จะรุมเร้าแน่ๆ
Create Date : 03 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 3 เมษายน 2553 16:52:24 น. |
Counter : 360 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เปลี่ยนคนรักให้เป็น 'เพื่อน' ...
เมื่อถึงวันหนึ่งที่ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เคยรักกันที่สุดต้องสะดุดหยุด ลงด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม คนเคยรักกัน จะเปลี่ยนแปรสถานภาพเป็น คนอื่น ที่เฉยชา ห่างเหิน และไม่เข้าใจกันเลยเชียวหรือ เป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนมาเป็น เพื่อนที่ดีต่อกันและถ้าเป็นเช่นนั้นได้จริงจะดีอย่างไร
เราเคยได้ยินอยู่เสมอ ๆ ว่า คู่รักที่แตกหักเลิกรากันไปแล้วจะไม่ค่อยพูดคุยสุงสิงกัน เจอหน้าหรือเดินสวนกันอย่างมากก็แค่ทักทาย ไม่มีการพูดคุยถามไถ่กันมากกว่านั้น หรือบางคู่แทบจะไม่ยอมมองหน้ากันอีกเลย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นอยู่ติดกันเป็นปาท่องโก๋
แต่ถ้าลองพิจารณาดูให้ดีแล้ว ถ้าไม่มีสาเหตุใดร้ายแรงถึงขั้นต้องเลิกคบกันไปเลย เราก็น่าจะยังคบหาเป็นเพื่อนกับคนที่เคยรักกันได้ แถมน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกว่าเพื่อนคนอื่นเสียด้วยซ้ำไป
ลองมาปรับความคิดใหม่ เปลี่ยนคนที่เคยรักให้เป็นเพื่อนเสียน่าจะดีกว่าไหม
คนพิเศษที่ได้เรียนรู้กันแล้ว!
คนรักคือคนที่พร้อมจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของกันและกัน เป็นคู่ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปตราบจนชีวิตจะหาไม่ โดยเฉพาะในทางกฎหมาย เมื่อผ่านการจดทะเบียนสมรสแล้ว ถือว่าคนสองคนนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันเลยทีเดียว
แล้วที่จะเป็นเช่นนั้นได้แสดงว่าจะต้องใช้เวลาเรียนรู้จนเข้าใจซึ่งกันและ กันเป็นอย่างดีมาแล้ว ซึ่งในขณะที่ความรักยังสดใสคงไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดว่าเป็นการสูญเสียหรือ สิ้นเปลืองเวลาแต่อย่างใด
แต่ทว่าวันหนึ่งเมื่อสัมพันธภาพขาดสะบั้นลง จะมีใครคิดบ้างไหมว่า ช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันจนรู้จักกันอย่างลึกซึ้งนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่สูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
หากเขาไม่เหมาะที่จะเป็นคนรักของเราจริง ๆ ก็น่าจะยังพอคบหาสมาคมเป็นเพื่อนฝูงกันต่อไปได้ไหมเพราะเราต่างก็ได้ใช้เวลา ศึกษาตัวตนกันมาแล้วระยะหนึ่ง
ทุกวันนี้ หลายคนเฝ้าเสาะหาเพื่อนใหม่ ผู้คนจำนวนมากเลือกหาวิธีการที่จะได้พบได้รู้จักผู้คนใหม่ ๆ เพื่อมาเป็นเพื่อน ทั้ง ๆ ที่เมื่อรู้จักกันแล้วก็ต้องมาศึกษาเรียนรู้กันอีกตั้งมากมาย
แล้วคนที่เราได้เรียนรู้แล้ว แถมยังเคยคิดหรือเตรียมการเอาไว้ว่าเขาจะเป็นคนที่เราจะใช้ชีวิตคู่ร่วม ทุกข์ร่วมสุขกันไปตลอดชีวิตล่ะ เราจะทิ้งเขาไปเหมือนขยะที่ไม่มีคุณค่าใด ๆ เลยหรือ
เดี๋ยวนี้แม้แต่ขยะก็ยังนำกลับมารีไซเคิลทำประโยชน์อื่นได้เลย นับประสาอะไรกับคนคนหนึ่ง แถมยังเป็นคนที่เราเคยรู้จักลึกซึ้งเป็นอย่างดีด้วย
การสูญเสียเขาจากความเป็นคนรักอาจจะเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ แต่การทิ้งเขาไปเปล่า ๆ น่าจะถือเป็นความสูญเสียที่มากมายพอสมควรสำหรับคนที่รู้จักกันอย่างดีแล้ว
เลิกคิดอย่างคนรัก
เมื่อครั้งเป็นคนรักกัน แน่นอนว่าเราต้องตั้งความหวังในตัวเขาไว้มากมาย แถมบางอย่างอาจสูงเลิศเลอเสียด้วยซ้ำไป แต่เมื่อไม่ได้เป็นคนรักกันแล้ว เราก็ไม่ได้ไปคาดหวังให้เขาเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ตามที่เราต้องการอีกต่อไป จึงน่าจะปรับเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยาก
ไม่ว่าเขาจะมาสายปล่อยให้เรารอจนก้นชา หรือทำตัวเปิ่นเฉิ่มอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเหมือนครั้งที่เป็นคนรักกันแล้ว
ลองคิดดูว่าใครจะไปเสียหน้าถ้าเพื่อนพูดจาไร้สาระเมื่ออยู่ต่อหน้าธารกำนัล ใครจะไปเดือดร้อนกับเพื่อนที่ใส่เสื้อยับเหมือนไม่ได้รีดหรือผมยุ่งกระเซิง ตลอดเวลากันเล่า แม้แต่วันสำคัญหรือโอกาสพิเศษ
ถ้าตอนที่รักกันอยู่ละก็ เราคงจะทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ ทั้งอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่างผสมปนเปกันเป็นค็อกเทลรสชาติไม่ได้เรื่องอยู่ใน หัวใจ แต่พอเขากลายเป็นเพื่อนแล้ว ถึงจะลืมอย่างไรก็ช่าง เพื่อนลืมก็ทวงเอาได้ตรง ๆ เลย ไม่เห็นต้องคิดมาก
คนเคยใกล้ชิดที่รู้ใจกว่า
คนรักกันย่อมเป็นคนที่ใกล้ชิดกันมาก ๆ หรืออย่างน้อยก็ใกล้ชิดกว่าคนอื่นในบางแง่มุม ซึ่งไม่ได้หมายความถึงเฉพาะความสัมพันธ์ทางร่างกาย แต่หมายรวมถึงความเข้าใจในจุดละเอียดอ่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ ทางอารมณ์และความรู้สึกบางประการที่คนทั่ว ๆ ไปไม่เข้าใจ หรือไม่แม้แต่จะเคยรับรู้
แม้ว่าเพื่อนที่มีอยู่จะสนิทสนมกันมาก หรือเป็นเพื่อนที่คอยรับรู้เรื่องราวของเราทุกเรื่องก็ตาม แต่จะมีสักกี่คนที่คอยง้องอน ดูแลเอาใจใส่ หรือแม้แต่คอยปรนนิบัติพัดวีให้
ที่สำคัญก็คือ เพื่อนมักไม่รู้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้น เพื่อนมักไม่รู้หรอกว่าเวลาเราเศร้าควรทำอย่างไร เวลาเสียใจเรื่องนี้ต้องทำอย่างโน้น เวลาเสียใจเรื่องโน้นต้องทำอย่างนั้น แต่แฟนหรือคนรักผ่านกระบวนการการเรียนรู้มาแล้วด้วยประสบการณ์โดยตรง จุดนี้จึงน่าจะเป็นข้อได้เปรียบ
เป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง
เพื่อนที่เปลี่ยนสถานะมาจากแฟนเก่าที่เลิกรากันไปแล้วมักจะเป็นที่ปรึกษาที่ ดี โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจและความรัก เพราะเขาเองเคยอยู่ในสถานะเช่นนั้นด้วยตัวเองมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาเปลี่ยนมาเป็นเพื่อน ก็ลองแต่งตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจเสียเลยเพื่อที่เราจะได้ทำความ เข้าใจกับความสัมพันธครั้งต่อ ๆ ไปได้ง่ายขึ้น
ปัญหาที่ที่ปรึกษาคนนี้ถนัดนักหนาเห็นจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัมพันธ์ ภาพระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว ที่เราอาจจะไปพบพานซ้ำรอยเข้าอีกเป็นรอบที่ 20 หลังจากเลิกราจากเขาไปแล้ว แต่ก็ยังคงแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ หรือวิเคราะห์ฝ่ายตรงข้ามไม่ถูกต้องเสียที
จึงจำเป็นต้องใช้แฟนเก่าที่เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนคนนี้ให้คุ้ม และก็คุ้มจริง ๆ เพราะเขาจะรู้ปัญหาและสถานการณ์ดีราวกับเป็นแม่ของเราก็ไม่ปาน ยิ่งเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับแฟนใหม่หรือหนุ่มรายใหม่ของเราละก็
บางครั้งไม่ต้องเล่ารายละเอียดมากมาย แค่เกริ่นนำเพียงคร่าว ๆ เท่านั้นเพื่อนคนนี้ก็เข้าใจละเอียดราวกับว่าไปนั่งอยู่ในเหตุการณ์กับเรา และแฟนใหม่ด้วยอย่างนั้นเลย
ที่สำคัญเขายังสามารถแนะนำเราได้อย่างดีว่า “เธอไม่ควรจะทำอย่างนี้นะ” หรือ “เธอต้องพูดอย่างนี้ ทำอย่างนี้สิ” แถมบรรยายร่ายยาวได้เป็นฉาก ๆ ว่าที่เราทำอย่างนั้นอย่างนี้มันไม่ดีอย่างไร หนุ่มรายใหม่เขาจะรู้สึกอย่างไร ก็เขาเคยทั้งทำเองโดนมาเองแล้วทั้งนั้นนี่นา
เห็นมั้ยว่า จะหาเพื่อนคนไหนที่เข้าใจ รู้ใจ แถมรู้ซึ้งถึงเรื่องปลีกย่อยลึก ๆ แบบนี้เป็นไม่มีอีกแล้ว
ดังนั้น หากเลิกกับแฟนหรือคนรักรายล่าสุดเมื่อไหร่ละก็ หาทางเก็บเขาไว้เป็นเพื่อนเอาไว้ดีกว่าปล่อยให้สูญเสียคนรู้ใจไปเปล่า
Create Date : 02 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 2 เมษายน 2553 16:50:50 น. |
Counter : 325 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
10 เหตุผล... ที่คุณต้องเมกเลิฟ
1. ได้ออกกำลังกาย กิจกรรมทางเพศเป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกาย นี่เป็นข้อมูลจาก นพ. ไมเคิล คิริเกลียโน จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งเพนซิลเวเนีย การเมกเลิฟสัปดาห์ละสามครั้งเผาผลาญได้ราว 7,500 แคลอรี ในหนึ่งปี หรือเท่ากับการวิ่งถึง 75 ไมล์
2. เพิ่มการหายใจ ค่ำคืนแห่งรักสามารถเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเซลล์ และช่วยให้การทำงานของอวัยวะและเนื้อเยื่อมีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม
3. กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง กิจกรรมทางร่างกายใดๆ ก็ตามช่วยให้ระดับฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนเพิ่มขึ้น พญ. คาเรน โดนาฮีย์ ผู้อำนวยการโปรแกรมการเยียวยาเรื่องเพศและชีวิตสมรสที่ศูนย์การแพทย์มหาวิ ทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น ในชิคาโก บอกเช่นนั้น ฮอร์โมนเทสทอสเทอโรนเป็นที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษากระดูกและกล้ามเนื้อ ของผู้ชายให้แข็งแรง
4. ลดคอเลสเตอรอล การเมคเลิฟเป็นประจำ สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมของร่างกายลงได้เล็กน้อย พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนระหว่างไขมันดีกับไขมันไม่ดีในทางที่ดีขึ้น
5. ลดความเจ็บปวด พญ. เบเวอร์ลี่ย์ วิปเปิล ประธานของ American Association of Sex Educators ชี้ว่า เซ็กซ์สามารถทำให้ความเจ็บปวดจากโรคข้อ อาการปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดหัวลดลงได้ ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาในระหว่างเกิดความตื่นตัวทางเพศ และการออกัสซั่มช่วยเพิ่มความอดทนต่อความเจ็บปวดให้มากขึ้น
6. คุณค่าอาหารเสริมที่ไม่ต้องกิน DHEA (Dehydroepiandrosterone) หนึ่งในอาหารเสริมที่คนเรานิยมกินกัน เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาได้ในระหว่างการเมคเลิฟ โดยก่อนการออกัสซั่มและการหลั่ง ฮอร์โมน DHEA จะพุ่งสูงขึ้นกว่าเวลาปกติ 3-5 เท่า
7. ปกป้องต่อมลูกหมาก นักวิจัยบอกว่าปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากในผู้ชายอาจเพิ่มขึ้น หรือเลวร้ายลงด้วยการคั่งของของเหลวภายในต่อมลูกหมาก การหลั่งเป็นประจำจะช่วยชำระล้างของเหลวเหล่านี้ แต่จงระหว่างเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความถี่อย่างกะทันหัน ที่อาจกระตุ้นต่อมลูกหมากให้เกิดปัญหาขึ้นได้
8. คลายเครียด ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เซ็กซ์เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดระดับความเครียด
9. สร้างความผูกพัน การสัมผัสในแบบรักใคร่และสนิทเสน่หาจะเพิ่มระดับของออกซีโทซิน ที่เป็นฮอร์โมนซึ่งช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ ออกซิโทซินเป็นสารเคมีที่หลั่งโดยต่อมพิทูอิทารี และการหลั่งออกซีโทซินเป็นประจำอาจช่วยส่งเสริมให้มีการเมกเลิฟบ่อยขึ้น
10. เสริมฮอร์โมนแบบธรรมชาติ การเมกเลิฟเป็นประจำสามารถเพิ่มระดับเอสโตรเจนในผู้หญิง ปกป้องหัวใจ และช่วยให้เนื้อเยื่อในช่องคลอดมีความยืดหยุ่น พญ. คาเรน โดนาฮีย์ บอก
ข้อมูลจาก Lisa
Create Date : 02 เมษายน 2553 | | |
Last Update : 2 เมษายน 2553 16:31:30 น. |
Counter : 465 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|