|
|
|
|
|
|
เงื่อนงำ จากท่าทางแปลกๆ บนเตียง
เวลาที่คุณอยู่บนเตียงกับฝ่ายหญิง เคยรู้สึกว่าเธอทำตัวแปลกๆ คล้ายอึดอัดอะไรบางอย่างบ้างหรือไม่ หรือแสดงกิริยาที่ไม่เข้ากับสถานการณ์
ความรู้สึกนั้นอาจมีเงื่อนงำแห่งความจริงแฝงอยู่ เธออาจอึดอัดอะไรบางอย่าง แต่ไม่พูดออกมา ไม่กล้าพูด หรือไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ถึงเธอจะไม่พูด เธอก็ได้แสดงอากัปกิริยาบางอย่างออกมา อากัปกิริยาเหล่านั้นนั่นแหละเป็น เงื่อนงำ หรือ เบาะแส บอกคำตอบได้เลาๆ ลองทบทวนดูซิว่า คุณเคยเจออากัปกิริยาหรือท่าทางต่อไปนี้บ้างหรือไม่
เธอไม่ยอมมองมาที่คุณ หากฝ่ายหญิงยอมให้คุณร่วมรัก อย่าว่าแต่ใบหน้าเลย แม้แต่ร่างกายคุณส่วนอื่นๆ เธอก็ไม่ได้มองมา หรือทุกครั้งที่คุณโน้มตัวเข้าไปเพื่อที่จะจูบ แต่เธอก็จะเบือนหน้าไปทางอื่นและหลับตา
เหตุผลที่เป็นไปได้ : อาจเป็นไปได้ว่าเธอเขินอายและไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน หรือไม่ก็ถ้าเธอพยายามเบือนหน้าเลี่ยงริมฝีปากคุณ อาจเป็นไปได้ว่าคุณมีกลิ่นปาก หรือไม่เธอก็มีกลิ่นปากเสียเอง หรือไม่ก็เธออาจระคายเคืองกับหนวดเคราที่ไม่ได้โกนให้เกลี้ยงเกลาของคุณ
วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ตรวจสอบอนามัยช่องปาก ลองโกนหนวดให้สะอาด แล้วเปรียบเทียบปฏิกิริยาใหม่ หากเธอเขินอายหรือยังไม่มีประสบการณ์
นักจิตวิทยาทางเพศแนะนำให้ฝ่ายชาย 'นำออกมาภายนอกเมื่อจุดสุขสุดยอด' เพื่อลดความรู้สึกรุนแรงที่เธอจะได้รับจากอาการไคลแมกซ์ของฝ่ายชาย ซึ่งจะทำให้เธอทำความรู้จักมากขึ้นกับกิจกรรมที่เรียกว่าการร่วมรัก และค่อยๆ คุ้นเคยมากขึ้น
ตอบสนองแบบปลงๆ หากคุณกำลังทำหน้าที่สามีอย่างสุดความสามารถเท่าที่คุณอยากให้ภรรยาได้รับ ความสุข แต่อาการตอบสนองของเธอเหมือนคนที่ปลงตกต่อทุกอย่างแล้ว หรือไม่ก็เอาแต่จ้องมองเพดาน นี่นับว่าควรมีการพูดคุยเพื่อหาคำตอบกันบ้าง
เหตุผลที่เป็นไปได้ : เธออาจเป็นผู้หญิงประเภทที่เฉยๆ กับเรื่องเซ็กซ์ หรือไม่ก็อาจสนใจรูปแบบการร่วมรักแบบอื่นๆ ที่คุณนึกไม่ถึง แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะบอกคุณ เช่น บางทีเธออาจชอบเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน หรือไม่ก็คุณอาจไม่เปิดโอกาสให้เธอมีจังหวะผ่อนคลายบ้างเลย เธอจึงออกอาการเซ็ง เหมือนคุณสนุกอยู่คนเดียว
วิธีแก้ไขเบื้องต้น : ลองเปลี่ยนตำแหน่งให้เธอเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน หรือเวลาที่เธออารมณ์ดี ลองเลียบๆ เคียงๆ ให้เธอเล่าถึงจินตนาการทางเพศที่เธอใฝ่ฝันถึง
เธอไม่เคลื่อนไหวไม่ขยับตัว คุณร่วมรักอย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งเร่งทั้งผ่อนจังหวะ ทั้งจูบ ขบ กัด(เบาๆ) นวด ถูไถ แต่เธอนอนนิ่งเหมือนหุ่น
เหตุผลที่เป็นไปได้ : เธออาจไม่ชอบมีเซ็กซ์ เธออาจไม่ชอบมีเซ็กซ์กับคุณ และที่อาจจะเชื่อยากอยู่สักหน่อยคือมีผู้หญิงบางคนที่คิดว่าแค่นอนนิ่งๆ ก็หมายถึงการมีส่วนร่วมในการร่วมรักแล้ว
วิธีแก้ไขเบื้องต้น : เสนอให้เธอเปลี่ยนบทบาทกับคุณ เธอเป็นฝ่ายรุก คุณเป็นฝ่ายรับ คนที่เป็นฝ่ายรุกย่อมต้องเปลี่ยนอิริยาบถมีการขยับเคลื่อนไหวร่างกายบ้างล่ะ น่า
เธอปิดบังร่างกาย เธอไม่ยอมให้ร่างกายเปลือยเปล่าต่อหน้าคุณ ต้องการปิดไฟทุกครั้งที่มีเซ็กซ์ หรือต้องมีผ้าห่มคลุมตัวอยู่เสมอ
เหตุผลที่เป็นไปได้ : ไม่ต้องสงสัยเลย ที่เป็นดังนั้นก็เพราะว่าเธอไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง และคิดว่าฝ่ายชายคงหมดอารมณ์ถ้าได้เห็นจุดบกพร่องของร่างกายตามที่เธอคิด
วิธีแก้ไขเบื้องต้น : เปิดเผยให้เธอรู้ว่าร่างกายคุณเองก็มีข้อบกพร่องเหมือนกัน เช่น มีพุง มีปานแดง(แต่อย่าชี้หรือเอาออกมาโชว์ต่อหน้าต่อตา เดี๋ยวเธอจะตกใจ) พร้อมกับบอกเธอ แต่คุณก็มั่นใจว่าเธอรักคุณ ในทางกลับกัน ให้ความมั่นใจ ว่าคุณก็ชื่นชอบเรือนร่างของเธอเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่รู้สึกอย่างนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม (แต่ไม่ต้องพูดออกไปล่ะ)
เธอไม่เคยยื่นหมูยื่นแมว คุณทำออรัลเซ็กซ์ให้เธอ มั่นใจว่าปรนเปรอ และเล้าโลมอย่างที่เธอต้องการเต็มที่แล้ว แต่เธอไม่เคยทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้คุณเลย คุณทำทุกอย่างที่รู้ว่าเป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเธอ และเธอก็มีความสุขอย่างล้นเหลือ แต่เธอไม่เคยที่จะทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นบ้างเลย
เหตุผลที่เป็นไปได้ : อันดับแรก เป็นไปได้ที่เธอคิดว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายชายเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายปลุกเร้า อารมณ์ผู้หญิง ไม่ใช่หน้าที่ของผู้หญิง อันดับต่อมา ผู้หญิงบางคนคิดว่าผู้ชายสามารถตื่นตัวทางเพศได้ทันทีเมื่อเห็นผู้หญิง ดังนั้นเธอก็เลยคิดว่าไม่เห็นต้องทำอะไรอีกแล้วเมื่อผู้ชายต้องการร่วมรัก
วิธีแก้ไขเบื้องต้น : บอกเธอไปเลยว่าคุณก็ชอบให้มีคนทำออรัลเซ็กซ์ให้ และคิดว่าคงจะวิเศษขนาดไหนถ้าได้รับความรู้สึกนี้จากเธอ รวมทั้งบอกด้วยว่าคุณชอบ และรู้สึกเร้าอารมณ์มากๆ อีกเหมือนกันเวลาที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มต้นรุกเร้าคุณบ้างเป็นครั้งคราว
Create Date : 09 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 9 มีนาคม 2553 23:13:30 น. |
Counter : 173 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
รักนี้... ไม่มีวันหมดโปรโมชั่น
สาวๆ หลายคนคงเคยตั้งข้อสงสัยเอาไว้ว่า "ทำไมความรักของผู้ชายถึงได้หมดโปรโมชั่นกันง่ายดายนัก" จากที่เมื่อก่อนตอนรักกันใหม่ ๆ เคยเช้าถึงเย็นถึงตามรับตามส่ง อยู่ด้วยกันก็เอาอกเอาใจสารพัดชนิดที่ป้อนข้าวป้อนน้ำกันถึงปาก เอาใจกันดุจดังเจ้าหญิงน้อย ๆ ไฉนเลยพอวันเวลาผ่านไปความเอาใจใส่จากชายหนุ่ม
เริ่มจะลดน้อยถอยลง เลิกงานดึกดื่นก็ปล่อยให้ต้องกลับบ้านคนเดียว โดยที่เจ้าตัวกลับบอกหน้าตาเฉยว่าติดปาร์ตี้อยู่กับเพื่อน จากที่เคยจูงมือพะเน้าพะนอก็กลายเป็นเดินนำลิ่ว แล้วยังหันกลับมาบ่นอีกว่าทำไมคุณถึงได้เดินช้าจัง แถมยังมีอาการห่างเหินหมางเมินกันอย่างเห็นได้ชัด
ความรักของคุณหมดโปรโมชั่นแล้วหรือ?
อาการเปลี่ยนไปของชายหนุ่มเป็นสิ่งที่คุณสาว ๆ ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือหากคนรักของคุณเปลี่ยนไปจริง ๆ คุณคงภาวนาขอให้เกิดขึ้นช้าที่สุดและน้อยที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่กระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไปนักหรือยังพอรับได้อยู่ ฉะนั้น ก่อนที่คุณจะมาตั้งคำถามว่า ความรักของคุณหมดโปรโมชั่นแล้วหรือ ทำไมคุณไม่ลองหาทางป้องกันด้วยการลองหันกลับมาถามตัวเองสักนิดดีกว่าว่า ... ทำอย่างไรความรักของคุณถึงจะไม่หมดโปรโมชั่น
อย่าเรียกร้องอะไรจากเขามากนัก
คุณเคยลองสังเกตตัวเองหรือเปล่าว่าเวลาที่คุณคบกับเขานาน ๆ เข้า คุณมักจะเรียกร้องอะไรจากเขามาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่น คุณอาจรู้สึกว่าคุณคบกับแฟนของคุณมาตั้งนานแล้ว ทำไมเขาถึงยังไม่พูดถึงเรื่องอนาคตของเราเสียที หรือว่าเรียกร้องไห้เขาไปไหนมาไหนกับคุณทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น การไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าไปงานเลี้ยงของคุณกับเพื่อนสมัยมัธยม หรือแม้แต่การที่ต้องไปทำงานและกลับบ้านด้วยกันทุกวัน ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาอาจจะทำตัวปกติอยู่แล้วเหมือนตั้งแต่ตอนเริ่มคบกันใหม่ ๆ บางทีความสัมพันธ์ที่มากขึ้นของคุณกับเขา กลับกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญในการแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ที่คุณแสดงออกต่อเขาเพิ่มมากขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็เป็นได้
อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว
จำเดทแรกของคุณได้หรือเปล่าว่าคุณแต่งตัวอย่างไร ไปเจอชายหนุ่มของคุณ ภาพของสาวสวยที่เป็นที่จับตามองของหนุ่ม ๆ รอบโต๊ะในดินเนอร์แรกคงสร้างความภูมิใจให้เขา ว่าเขาได้ควงกับผู้หญิงที่สวยที่สุด (ในเวลานั้น) ภาพความทรงจำเหล่านั้นคงกลายเป็นแค่อดีต หลังจากที่คุณคบกับเขาได้ไม่นาน ใบหน้าที่เคยสวยใสก็เริ่มกลายเป็นมันเยิ้ม เส้นผมที่เคยได้รับการดูแลและจัดแต่งทรงอย่างประณีต กลับกลายเป็นผมชี้ฟูกระเชอะกระเชิง ภาพของหญิงสาวที่เคยแต่งตัวด้วยกระโปรงชุดอย่างพิถีพิถัน ก็กลายเป็นเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ทุกวัน ๆ คุณอาจจะเถียงว่านี่แหละคือตัวตนที่แท้จริงของคุณ แต่อย่าลืมว่าชายหนุ่มของคุณเคยเห็นคุณในภาพที่สวย ๆ งาม ๆ เป็นใครก็คงอยากให้แฟนตัวเองดูดีอยู่เสมอ จริงไหมล่ะ
บางอย่างก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ต้องทำความเข้าใจว่าเรื่องบางเรื่องกาลเวลาก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้อะไร ๆ ต้องเปลี่ยนไป คุณอาจจะเคยคุยโทรศัพท์กับเขา เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน บางครั้งก็อาจจะคุยกันหลาย ๆ ชั่วโมง หรือคุยกับจนถึงเช้า แต่พอวันเวลาผ่านไป การได้ทำความรู้จักกันผ่านการพูดคุยย่อมลดลงเป็นธรรมดา ยิ่งเรารู้จักตัวตนของกันและกันมากขึ้น เราก็ยิ่งไม่เหลือเรื่องอะไรให้คุยกันมากมายเหมือนเมื่อก่อน
ไอ้ที่จะมาคุยกันเป็นชั่วโมงคงไม่มีอีกแล้ว คงเหลือแค่เพียงการโทรหา เพื่อแสดงความเป็นห่วงเป็นใยหรือถามไถ่เรื่องราวชีวิตประจำวันก็เท่านั้น หรือเรื่องของ "เวลา" ที่เขาเคยมีให้คุณตลอด พอคบกันไปลักระยะหนึ่งเขาอาจจะมีตำแหน่งที่สูงขึ้น ต้องมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น อาจทำให้เวลาที่เขามีให้คุณต้องลดน้อยลง คุณก็ต้องเข้าใจเขาด้วย เพราะนั่นก็หมายถึงอนาคตของคุณทั้งสองคนจะได้มั่นคงมากขึ้นตามไปด้วย
รักเขาอย่างที่เขาเป็น
บางทีความรักในช่วงเริ่มต้นของคุณอาจทำให้คุณมองข้ามตัวตนในแบบที่เขาเป็น คุณมักจะมองแต่เรื่องที่ดี ๆ มองแต่สิ่งที่คุณพอใจจะมอง โดยลืมที่จะมองในด้านแย่ ๆ ของเขา อย่าลืมว่าไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างได้หรอก อย่างเช่น การแต่งตัวของชายหนุ่มของคุณ บางครั้งคุณอาจคิดว่าตอนนี้เขาชอบใส่กางเกงยีนส์ตัวโตกับเสื้อตัวโคร่ง แต่ต่อไปคุณจะจับเขาแต่งเนื้อแต่งตัวเสียใหม่ ให้เป็นหนุ่มขาเดฟเสื้อลายดอกเหมือนหนุ่มเกาหลีตามแบบที่คุณชอบได้ อย่าฝันไปหน่อยเลย เขาไม่มีวันแต่งตัวตามแบบที่คุณต้องการได้หรอก หรือคุณอาจเคยมองข้ามเรื่องที่เขาเป็นคนพูดจาโผงผาง รู้สึกดีที่เขาพูดกับเราแบบตรงไปตรงมา แต่ถึงเวลาที่เขาต้องเข้ากับญาติผู้ใหญ่ของเรา เรื่องเพียงเท่านี้อาจทำให้เขาเข้าหน้าญาติผู้ใหญ่ของคุณไม่ติดก็ได้
ความรักไม่ใช้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ที่จะมีโปรโมชั่นให้เลือกมากมายและมีวันหมดอายุ แต่ความรักควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนความพอดีระหว่างคนสองคน คนสองคนที่มีนิสัยที่พอดีกัน มีสถานะทางสังคมพอดีกัน มีพื้นฐานครอบครัวที่พอดีกัน และที่สำคัญทั้งสองคนต้องมีความรักที่พอดีกัน ไม่ควรปล่อยให้ใครต้องรักใครมากกว่า ไม่ควรปล่อยให้ใครต้องเป็นผู้ให้มากกว่าที่ได้รับ หากเกิดความพอดีขึ้นระหว่างคุณทั้งคู่แล้วเชื่อได้เลยว่าโปรโมชั่นความรัก ของคุณจะไม่มีวันหมดอายุอย่างแน่นอน
Create Date : 05 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 5 มีนาคม 2553 22:33:05 น. |
Counter : 338 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
5 นิสัยแย่ๆ ที่หนุ่มๆ ควรปรับปรุงตัว
การที่คนสองคนจะรักกัน และ อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนั้น มันจึงไม่มีเรื่องของการจำกัด เวลามาเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะวันไหน เวลาใด ถ้าหากคนสองคนตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐาน ของความเข้าใจซึ่งกันและกันแล้ว รับรองได้ว่า รักกันยาวนานแค่ไหนก็ไม่มีวันเฉา ... เชื่อซิ
ฉะนั้น หนุ่มๆ ทั้งหลายลองมาปรับนิสัยที่ไม่ดีบางอย่างที่ตัวเคยมีและเคยปฏิบัติอยู่เป็น ประจำให้มันเพลาๆ หรือลดลงไปบ้าง โดยเฉพาะนิสัยที่ชวนให้เกิดอารมณ์เสียนั้น จำเป็นต้องดูแลและระวังไว้เป็นพิเศษ
5 นิสัยแย่ๆ ที่ควรปรับปรุงตัว และไม่ควรที่จะนำมาใช้กับคนรักอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกัน อาการรักคุด ซึ่งอาจส่งผลให้คุณกับเธออยู่กันไม่ยืด มีดังต่อไปนี้
1. ผิดนัด " หนึ่งทุ่มตรงเจอกันนะครับ ที่ร้าน...." ลูกผู้ชายกับคนรัก เอ่ยคำไหนเป็นคำนั้น อย่าลืมว่า คุณไม่ได้นัดกับเพื่อน ที่จะสามารถไปสายได้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงไปจนถึง 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เพราะคนรักของคุณคงไม่รอนานขนาดนั้นด้วยความเข้าใจอย่างแน่นอน ถึงแม้คุณจะอ้าง ว่ามาสายยังดีกว่าไม่มาก็เถอะ แต่ถ้าไม่สายเลย เธอจะรักคุณยิ่งกว่าจริงไหมล่ะ ส่วนไอ้ประเภทโรคเลื่อนนี่ก็เช่นกัน เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จากชั่วโมงเป็นวัน จากวันเป็น สัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน อย่างนี้ก็เตรียมตัวไปหาแฟนใหม่ได้เลย
2.โกหกเป็นนิจ ว่ากันว่า ผู้หญิงเกลียดที่สุดคือ นิสัยโกหกของผู้ชายนี่แหละ ซึ่งสำหรับพวกเรามันก็เหมือน กับการแก้ตัวแบบรักษาน้ำใจกันมากกว่า แต่สำหรับพวกเธอ เมื่อมันไม่ตรงความจริงเมื่อไหร่ หรือบังเอิญมีผู้หวังดีมายืนยันอีกต่างหาก แม้จะเพียงครั้งเดียว แต่เธอก็ไม่เชื่อคุณอีกต่อไป ทางที่ดี พูดกันตรงไปตรงมาเลยครับ ไปไหนมา ไปกับใคร เอาให้รู้กันไปเลยว่าเธอรับความเป็นตัวคุณได้หรือเปล่า รู้กันตั้งแต่เริ่มคบ นานไปจะได้ไม่ต้องไปนั่งโกหกให้ปวดหัวกันทั้งสองฝ่าย
3. หึงเกินเหตุ เวลา เธอหึงคุณ มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกภูมิใจนิดๆ แต่ถ้าเธอหึงมากเกินไป คุณก็อาจจะรู้สึกรำคาญเอาง่ายๆ เหมือนกัน ในทางกลับกันครับ ผู้หญิงก็ชอบให้ผู้ชายหึงเธอนิดหน่อย แต่ไม่ต้องมาก รักษาหน้าเธอไว้ด้วย ไม่ใช่เห็นเธอคุยกับใครก็ตาเขียวซะแล้ว หรือ แค่หมาเห่าคุณก็โมโหหึง อย่างนี้ตายเลยครับ หึงไม่เป็นเรื่องเป็นราว ขนาดคุณยังรำคาญ เธอก็รู้จักรำคาญเป็นเหมือนกัน
ความเชื่อใจกัน เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการใช้ชีวิตคู่ ถ้าไม่เชื่อใจกันแล้วก็คงไม่แคล้วต้องเลิกกันในเร็ววันแน่นอน
4. เอาแต่ใจตัวเอง แต่ลืมเอาใจเธอ จริงๆ แล้ว การแสดงให้เห็นถึงความรักของคุณที่มีต่อเธอ ถ้าตกลงใจเป็นคู่รักกันแล้ว ก็ควร จะดูแลเอาใจใส่ถนอมรักษาน้ำใจกันหน่อย อย่าเอาแต่ใจตัวเอง ประเภทตื่นเช้า ดื่ม กาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ แต่งตัว ขับรถไปทำงาน โดยลืมไปว่ายังมีเธออยู่ด้วยอีกคน
ลองคิด ดูเล่นๆ ว่า ถ้าเธอทำเหมือนไม่มีคุณอยู่ในบ้านบ้าง จะรู้สึกยังไง เอาแต่ใจตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมเอาใจเธอด้วย โดยเฉพาะในวันสำคัญของเธอ คุณกับเธอหรือเทศกาลเวลาที่เหมาะกับการเอาใจเป็นพิเศษ
5. ทำตัวเป็นหนุ่มโสด ถ้า รักความอิสระ ก็อย่าริมีแฟน หรืออย่าคิดเรื่องแต่งงานเลย มันจะปวดหัวเปล่าๆ เพราะ เธอจะตามสืบหาความจริงเสมอ ว่าคุณยังทำตัวเป็นหนุ่มหัวใจว่างหรือเปล่า และก็มักจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทะเลาะกัน จนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ
ฉะนั้น จะมีแฟนหรือแต่งงาน นอกจากควรเลือกคู่ที่เข้าใจความเป็นคุณอย่างแท้จริงแล้ว ก็ควรเลิกทำตัวเป็นหนุ่มโสดได้แล้ว ผู้หญิงต่อให้ใจกว้างเป็นแม่น้ำแค่ไหน ก็ต้องมีตลิ่งกั้นเป็นธรรมดา กว้างเท่ามหาสมุทรก็ ยังมีฝั่งยังไงเธอก็คงไม่อยากให้คุณทำตัวเป็นหนุ่มโสดหรอกน่า
ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นข้อแนะนำสำหรับหนุ่มๆ ที่มีแฟนหรือมีครอบครัวแล้ว ที่จะทำให้คุณและคนรักมีความสุขและหวานชื่นยามอยู่ร่วมกันมากขึ้น อย่างที่บอกไว้แต่ต้นแล้วนั่นแหละ ว่า ชีวิตคู่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างชื่นมื่น ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจกัน
Create Date : 05 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 5 มีนาคม 2553 22:31:27 น. |
Counter : 264 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
6 บัญญัติ… รักเขาด้วยความเข้าใจ
พื้นฐานสำคัญของความรัก ที่เรียกว่าความเข้าใจ มันฟังง่ายแต่ทำยากเหลือเกิน เพราะใจของแต่ละคนก็คิดกันคนละอย่าง บางคนเข้าใจได้ง่ายเพราะสื่อสารออกมา แต่บางคนปิดปากเงียบ แม้ว่าเรื่องปลีกย่อยหลายเรื่อง ในความเป็นตัวตนของหนุ่มที่คุณคบ จะต้องใช้เวลาและความใกล้ชิด
แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่สามารถใช้พฤติกรรมมาตรฐานทำความเข้าใจเขาได้ง่าย ๆ และนี่คือ 6 เรื่องของผู้ชายที่ผู้หญิงควรรู้
1. คะแนนติดลบ
ในขณะที่ความโกรธของผู้หญิงสามรถสูญสลายได้ทันใจ แค่เขายื่นดอกไม้ให้ช่อเดียว แต่ผู้ชายใจแคบกว่านั้น เขาจริงจังกับความเจ็บมากกว่า และไม่ว่าคุณจะทำดีสักแค่ไหน และเขาออาจเอ่ยปากให้อภัยไปแล้ว แต่คะแนนติดลบของคุณก็ยังฝังหุ่นอยู่ในใจของเขาตลอดเวลา เพราะฉะนั้น วิธีการที่คุณจะเรียกร้องความสนใจด้วยการทำให้หนุ่ม ๆ หึง หรือเจ็บปวด อย่าใช้เป็นดีที่สุด เพราะจะได้ไม่คุ้มเสีย ใช้มารยาหญิง ออดอ้อนดีกว่า น่ารักน่าใคร่กว่าเยอะ
2. ความเงียบไม่ใช่ไม่สนใจ
ผู้ชายเป็นพวกที่มีนิสัยคิดอะไรเป็นอย่าง ๆ และเมื่อเขา คิดเขาจะเงียบตัดขาดการรับรู้ใด ๆ หากบังเอิญว่าคุณกำลังเล่า หรือพรรณนาเรื่องราวต่าง ๆ แล้วเขาไร้รีแอคชั่นใด ๆ อย่าเพิ่งงอน หรือคิดเตลิดไปไกล เพราะที่จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่กำลังขบคิดสิ่งที่ค้างใจไม่เสร็จ วิธีแก้ก็คือควรนั่งเงียบ หรือหาอย่างอื่นทำให้ชิล ๆ เมื่อเขารู้ตัว หรือเคลียร์ปัญหาได้แล้วก็จะกลับมาเอง
3. ศักดิ์ศรีสำคัญกว่าการแก้ปัญหา
เสียทองเท่าฝูงกาไม่ยอมเสียหน้าให้ใคร นี่คือหนึ่งในปรัชญาของผู้ชาย เพราะเขาหาความภาคภูมิใจจากศักดิ์ศรี ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไรที่งี่เง่า หรือยิ่งทำยิ่งผิด ก็ต้องทำใจ แต่อย่าได้ไปบอก สั่ง หรือแนะนำแบบตรง ๆ เด็ดขาด เพราะเขาจะยิ่งทำหนักขึ้น และคุณก็จะยิ่งโกรธเขามากขึ้น มีคำกล่าวว่าผู้ชายเป็นหัว ผู้หญิงเป็นคอ ทำอะไรก็ได้ให้เขาคิดว่าหัวหันไปทางไหนก็เพราะหัวคิด ทั้งที่จริงคอต่างหากที่เป็นตัวหมุนทิศทาง ใช้ความอ่อนโยน และวิธีการอันแยบยลคอนโทรลเขา โดยให้คิดว่าทั้งหมดเกิดจากความคิดของเขาดีกว่า
4. เฉไฉฆ่าเวลา
ในขณะที่ผู้หญิงจะนั่งหมกมุ่นคิดแก้ปัญหาอะไรก็ตาม ต่อให้คิดไม่ออกก็ต้องบ่น ๆๆๆ หรือเครียดจนไม่มีอันทำอะไร แต่ผู้ชายจะมีวิธีการที่แตกต่างไปกว่านั้น เขาอาจไม่บ่น แถมยังทำเหมือนไม่สนใจอะไรด้วย จนน่าหมั่นไส้ เผลอ ๆ ก็ออกไปตีกอล์ฟ หรือนัดเพื่อนกินเหล้า ใครเคยกรี๊ดกับอาการแบบนี้ เลิกเหอะ เพราะไม่ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจ แต่มันเป็นวิธีของผู้ชายที่จะเฉไฉทำอย่างอื่น เหมือนกับเอาตัวเองออกมานอกวงปัญหา เพื่อให้ได้มุมมองใหม่ในการแก้ปัญหาต่างหาก คำแนะนำคือ ปล่อยเขาไป เดี๋ยวคิดออกเอง หรือถ้าคิดไม่ออกจริง ๆ เขาก็จะมาปรึกษากับเราเอง อย่าไปหาเรื่องทะเลาะ หรือสร้างแรงกดดันเลย
5. พูดเหมือนกันแต่คนละความหมาย
ในขณะที่คำพูดของผู้หญิงเกือบทั้งหมดมีลักษณะกินนัยเพื่อแสดงอารมณ์ หรือเรียกร้องความสนใจ แต่คำพูดของผู้ชายจะสื่อตรงตามคำพูดไม่ยอกย้อน ดังนั้น ถ้าเขาติติง หรือไม่ชอบอะไร ก็หมายความว่าเขาไม่พึงใจในสิ่งที่กล่าวจริง ๆ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ควรใจเย็น ๆ แล้วพูดคุยด้วยเหตุผล การประชดประชันไม่ได้ช่วยแก้แต่ยิ่งขยายปัญหา และในทางกลับกัน คุณควรหลีกเลี่ยงการพูดประชดประชัน หรือใช้คำพูดในแง่ลบแอบแฝงอยู่เสมอ ๆ เพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำให้เขาคิดตามคำพูดของคุณโดยไม่ตีความ เช่น การท้าให้เลิกบ่อย ๆ เพราะน้อยใจ อาจนำไปสู่การขอเลิกจริง ๆ โดยไม่คิดว่าที่จริงแล้วคุณน้อยใจ แต่ไม่มีความสุขกับการอยู่ด้วยกัน
6. อิสระเหนืออื่นใด
มุมมองของผู้หญิงคือการทุ่มเททุกอย่างให้ผู้ชาย แต่สำหรับผู้ชายแล้ว เขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้เหมือนผู้หญิง แต่เลือกจะให้สิ่งสำคัญเป็นเรื่อง ๆ เช่น ให้ความปลอดภัย การดูแลความมั่นคง โดยคิดเอาเองว่าเขามีสิทธิ์ชอบธรรมที่จะให้สิ่งสำคัญหลัก ๆ และมีอิสระในตัวเอง ด้วยการหาความสุขแบบส่วนตัวอย่างอิสระควบคู่ไปด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา หากสิ่งที่เขาทำ ไม่ได้เป็นการนอกใจ คุณก็ควรผ่อนปรนลงบ้าง และใช้เวลากับการหาความสุขเบา ๆ ให้ตัวเองด้วย จะดีกว่าการคัดค้าน
Create Date : 05 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 5 มีนาคม 2553 22:30:37 น. |
Counter : 185 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เงินๆ ทองๆ คำถามที่ต้องตอบก่อนใช้ ชีวิตคู่
"คำว่ารักแพ้ระยะทาง" ดูจะเชยไปแล้ว เพราะสถิติการหย่าร้างของคู่รักยุคนี้ มีอยู่ว่า 90% เลิกรากันเพราะปัญหาเรื่อง "เงิน ๆ ทอง ๆ"
สาวๆ คนไหนที่กำลังตัดสินใจเซย์ "เยส" เมื่อหนุ่มคนรักขอแต่งงาน ควรไตร่ตรองถึงปัญหานี้ก่อนเป็นสำคัญ และที่สำคัญ อย่ามัวเกรงใจที่จะถามไถ่ถึงการวางเผนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคนรัก ถ้าจะให้ดี ลองตั้งคำถามเกี่ยวกับการเงิน และช่วยกันตอบให้เคลียร์ก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ ซึ่งหากตอบคำถามร่วมกันได้หมด เชื่อแน่ว่าปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัว จะไม่มาพรากความรักของคุณได้แน่
ใครหนอที่จะจัดการเรื่องเงิน?
เป็นคำถามแรกของคู่รักที่กำลังจะตัดสินใจแต่งงาน และยังเป็นคำถามที่ทั้งคู่ต้องร่วมกันตอบ เพราะหากร่วมหอลงโรงกันแล้ว รายได้และทรัพย์สินหลังจากแต่งงาน จะตกเป็นของกองกลางทันที ดังนั้น การจัดการดูแลเรื่องรายได้ รายจ่าย และหนี้สิน จึงต้องได้รับการจัดการและร่วมกันปรึกษาของคนทั้งคู่ เพื่อไม่ให้ขาด-เกิน หรือเป็นหนี้จนต้องเดือดร้อนพ่อแม่
ฉันต้องไปทำงานด้วยไหม?
ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจลาออกจากงาน มาดูแลบ้าน สามี และเตรียมตัวมีลูก โดยยึดแต่รายได้ของสามีมาจุนเจือครอบครัว จนลืมนึกถึงชีวิตส่วนตัว ทำให้กิจวัตรหลายอย่าง เช่น การช้อปปิ้ง จิบกาแฟกับเพื่อนเป็นเรื่องแค่วันวาน เนื่องจากไม่มีรายได้เพียงพอกับค่าน้ำหอมขวดหรู
ดังนั้น อย่าลืมว่า การหยุดทำงานคือการไม่มีรายได้ ถึงจะให้คอยเจียดเงินจากค่าใช้จ่ายที่สามีจุนเจือ ก็คงต้องเก็บอีกนาน แต่หากเลือกไม่ได้ที่จะต้องลาออกจากงาน ก็ควรทำประกันสังคม หรือประกันชีวิตไว้ เพราะผู้หญิงน่ะอายุยืนกว่าผู้ชายจริงไหม...
รายได้ต้องหารครึ่งไหม?
รีบตกลงกันก่อนจะต้องมาทะเลาะกันว่า "ใครจะจ่ายค่าไฟเดือนนี้" วิธีง่าย ๆ ในการบริหารค่าใช้จ่ายในบ้าน คือการเปิดบัญชีรวม โดยหาจากเปอร์เซ็นต์รายได้ของคุณแต่ละคน ซึ่งดูจะเป็นธรรมมากที่สุด แต่สาว ๆ คนไหน ที่บริหารเสน่ห์เก่ง จนทำให้สามีแชร์เงินมาไว้กองกลางมากกว่าคุณก็ทำได้ แต่ที่สำคัญ! อย่าลืมแยกบัญชีส่วนตัว เพื่อคุณจะได้มีเงินเก็บและมีเงินใช้ส่วนตัวด้วยล่ะ
ค่าใช้จ่ายต้องมีลิมิตเท่าใด?
แม้คุณจะเหลือเงินเพิ่ม เพราะมีคนมาช่วยแชร์ค่าใช้จ่าย แต่ทั้งคู่ก็ควรตกลงกันว่า ในแต่ละเดือนควรมีงบประมาณในการใช้เงินเท่าไหร่ โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิต ที่ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ก่อนที่จะเป็นหนี้กองโต ต้องลำบากให้คนรักมาช่วยสะสาง
ต้องช่วยสะสางหนี้ของคนรักด้วยไหม?
หากแฟนหนุ่มดันมีหนี้ก้อนโต ก่อนมาขอคุณแต่งงาน อันนี้ก็ต้องรีบสะสางกันก่อนจะเซย์เยส เพราะตามหลักจริยธรรม คุณก็ต้องเข้ามาร่วมปลดหนี้กับเขาด้วย ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ทั้งคู่ควรปลดเปลื้องหนี้ของแต่ละคนให้หมด ก่อนที่จะมาร่วมสร้างหนี้ด้วยกันใหม่
คุยกันก่อนดีไหม ว่าอนาคตการเงินทั้งคู่จะเป็นอย่างไร?
ส่วนมากผู้ชายสไตล์ติสต์จะไม่ค่อยคิดวางแผนการเงินเท่าไหร่ ดังนั้น ใครไม่ได้มีแฟนเป็นนักธุรกิจ ควรคุยกันเรื่องอนาคตการเงินสักหน่อย แต่หากไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร คู่รักสามารถปรึกษาและวางแผนครอบครัวกับผู้เชี่ยวชาญก่อน ดีกว่าปล่อยชีวิตให้แขวนบนเส้นด้าย และต้องหาเช้ากินค่ำยันแก่
Create Date : 04 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 4 มีนาคม 2553 11:53:00 น. |
Counter : 191 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|