|
|
|
|
|
|
13 ข้อกับเรื่องบนเตียง ...
จริงแล้วปัญหาของคู่ชีวิตกับเซ็กส์นั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก และมีผลไปสู่การดำเนินชีวิตด้านอื่นๆ อย่างที่คนมีคู่คงจะรู้แจ้งแก่ใจดีอยู่แล้ว หลายปัญหามักมีที่มาจากความเข้าใจผิดๆ ที่คุณอาจเคยได้ฟังมาแต่ครั้งไหนก็ไม่รู้ ลองมาดูว่าใน 13 ข้อเข้าใจผิดที่นักจิตวิทยารวบรวมได้นี้ ข้อไหนตรงกับความคิดของคุณบ้าง แล้วลองเปลี่ยนความเข้าใจเสียใหม่ นำไปใช้พัฒนาชีวิตคู่ของคุณให้ราบรื่นขึ้นกว่าเดิม
1. รักแท้จะต้องเป็นรักครั้งแรกเท่านั้น
ในวันนี้ที่คุณใช้ชีวิตคู่ อยู่กับคนที่คุณเลือกแล้ว แต่ก็ยังไม่วายถวิลหาหนุ่ม (หรือสาว) คนแรกที่คุณหลงรักจนหัวปักหัวปำ เพราะใจน่ะพร่ำบอกตัวเองแต่ว่ารักนั้น เป็นรักแรกต้องเป็นรักแท้แน่นอน แท้ที่จริงแล้วคุณกำลังปิดประตู ใส่กลอนหัวใจตัวเอง ใส่หน้าคู่ชีวิตปัจจุบันของคุณอยู่หรือเปล่า
ลองคิดดูดีๆ ว่าใครกันที่อยู่เคียงข้างกับคุณในวันนี้ เวลานี้ และเป็นคนที่คุณควรจะมีความสุขด้วยกัน อย่าให้ความเชื่อเข้าข้างตัวเอง อย่างไร้เหตุผล มาทำลายชีวิตคู่ปัจจุบันของคุณเองเลยครับ หันมาใส่ใจ ให้ความสุขกับคนข้างกายให้เต็มที่เพื่อวันนี้ และวันหน้าจะดีกว่า
2. น่าเกลียดถ้าผู้หญิงบอกรักผู้ชาย
สังคมที่เปลี่ยนไปในวันนี้ เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น กว่าคนรุ่นก่อน ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องปิดปากเงียบ ปล่อยให้ผู้ชายเดาความคิดของคุณ ว่าคิดอย่างไรกับเขา รับรองเขาไม่รู้หรอก แถมอาจเข้าใจมั่วไปกันใหญ่อีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม การที่ผู้หญิงวิ่งโร่ไปจีบผู้ชายจนออกนอกหน้า ยังคงดูไม่เหมาะนัก กับวัฒนธรรมไทย และอาจจะดูเป็นคน "ง่าย" ในสายตาชายได้โดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย
วิธีที่ดีคือ แสดงออกให้ฝ่ายชายรู้ว่าสนใจ แต่สงวนท่าทีไม่ให้เกินงาม เช่น การให้ความใส่ใจช่วยเหลือ หรือการพูดคุย นั้นจะช่วยให้คุณรักษาคุณค่ากุลสตรีที่ฝ่ายชายจะต้องให้เกียรติ แต่หากคุณตกลงใจคบกันเป็นคู่แล้ว การที่สองฝ่ายผลัดกันบอกรักแก่กันและกัน ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด แต่คำรักหวานๆ ที่มอบกันนั้นยังช่วยหล่อเลี้ยง และจรรโลงชีวิตคู่ให้ชื่นมื่นด้วย
3. ผู้ชายจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กส์ และเป็นผู้นำเสมอ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงบนเตียงแล้ว ฝ่ายหญิงควรเลิกความคิดที่ว่าผู้ชายต้องเป็นผู้นำเสมอไป เพียงเพราะคิดว่าเขา "เชี่ยวชาญกว่า" จริงๆ แล้วผู้ชายไม่ได้ "เชี่ยว" เรื่องนี้ไปเสียหมดหรอก หากคุณไม่บอกเขาว่าคุณต้องการอะไร
เรื่องบนเตียงของคู่ก็ต้องรับผิดชอบกันทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งเป็นฝ่ายกระทำ หรือถูกกระทำ (ในกรณีที่สมยอมกันทั้ง 2 ฝ่ายนะครับ) ดังนั้นฝ่ายหญิงจึงต้องกล้าที่จะลองรับบทบาทเป็นผู้นำคุมเกมเองบ้าง หาวิธีที่ทำให้คุณ และเขามีความสุข แล้วชีวิตเซ็กส์ของคุณจะได้ไม่จืดชืดไงล่ะ
4. ผู้หญิงพูดเรื่องเซ็กส์จะเป็นคนสำส่อนน่ารังเกียจ
หากคุณใช้ชีวิตร่วมกับคู่ชีวิต ความต้องการเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องที่คุณ 2 คนต้องเคลียร์กันให้หมด ว่าแต่ละฝ่ายพึงพอใจแบบไหน ไม่ชอบใจอะไร เพื่อให้แต่ละฝ่ายปรับตัวเข้าหากัน และมีความสุขด้วยกันทั้งคู่ จริงๆ แล้วผู้ชายจะดีใจ ภูมิใจด้วยซ้ำ หากว่าเขาได้ทำให้คนที่ตนรักได้บรรลุความสุขในเรื่องบนเตียง
ดังนั้นคุณผู้หญิงควรจะเรียนรู้ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ บอกให้คู่ของตนได้รับรู้ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม หากรักกันจริง ทำไมเรื่องแค่นี้จะยอมทำให้ไม่ได้ จริงไหมครับ
5. หญิงมีเซ็กส์เพราะรักสนุกเหมือนที่ผู้ชายคิด
ความจริงข้อหนึ่ง ที่ทั้งคุณผู้ชาย และผู้หญิงควรรับรู้ไว้บ้างก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่ เมื่อทำความรู้จักผู้หญิงที่ตรงสเป็ค ใจก็มักจะคิดเลยเถิดไปถึงเรื่องอย่างว่า โดยตัวเองก็ไม่ค่อยรู้ตัว จากนั้นธรรมชาติก็มักจะชักนำให้ตามใจตัวเองอยู่เรื่อย ขณะที่ผู้หญิงการจะมอบกายใจ มีเซ็กส์กับใครก็มักจะตัดสินใจจากความรัก และไว้ใจในตัวคนๆ นั้น น้อยคนนักที่จะเป็นพวกรักสนุก ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษพอ จึงควรให้เกียรติ เคารพความคิดของผู้หญิงในข้อนี้ไว้ให้จงดีนะครับ อย่าเอาแต่เข้าข้างตัวเอง ว่าผู้หญิงเขาไม่คิดอะไรมากกับการที่คุณชวนเขาขึ้นเตียงน่ะ
6. เมื่อมีเซ็กส์ ผู้ชายได้ ผู้หญิงเสีย
หากเรื่องบนเตียงของคุณมีที่มาจากความสมยอมทั้งสองฝ่าย อย่าให้ความคิดว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเสีย ผู้ชายได้ มาทำให้คุณยึดติดกับคำๆ นี้ เพราะหลายกรณี ที่คู่ชีวิตมีปัญหามีอันต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน ฝ่ายหญิงที่ตอกย้ำความคิดว่าตนเป็นฝ่าย "เสียหายเพราะ เสียตัว" มักจะลงเอยด้วยความคั่งแค้น ไปจนถึงเศร้าหมองสลดหดหู่ ดูถูกดูแคลนกับชีวิตตัวเองจนไม่เป็นอันทำอะไร บางคนถึงกับประชดชีวิตด้วยวิธีต่างๆ พาลให้ไปกันใหญ่ ดังนั้นให้คิดใหม่เสียเถิดครับว่าไม่มีใครเสีย มีแต่ได้กับได้ (ได้ทำไปแล้วไงครับ) แล้วเดินหน้าต่อไปสร้างสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตดีกว่า
7. แม้เบื่อสุดขีดแต่ก็ยอมทนเพื่อเสียสละ
หากคุณและคู่ไม่สามารถมีความสุขกันได้ เช่นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่เคยถึงจุดสุดยอดเลยซักครั้ง แต่เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ จึงต้องโกหกกัน เรื่องแบบนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะร้อยทั้งร้อย สิ่งที่คุณคิดว่าเสียสละได้ ในที่สุดคุณก็จะเก็บกด เบื่อหน่าย หงุดหงิดแก้ไม่หาย พาลให้เกลียดกิจกรรมเซ็กส์กันไปเลย รังแต่จะมีผลเสียต่อชีวิตคู่ ทางที่ดี จึงควรบอกให้กันและกัน รู้ถึงปัญหา และหาทางปรับตัวหรือแก้ไขร่วมกัน หรือทดลองเปลี่ยนท่าทางต่างๆ สร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับกิจกรรมรักของคุณ เพื่อให้ได้รับความอิ่มเอมเต็มอิ่มไปพร้อมกัน
8. การทดลองสิ่งแปลกใหม่ให้กิจกรรมเซ็กส์เป็นเรื่องของคนลามกสำส่อน
คู่ที่ชั่วนาตาปีมีชีวิตบนเตียง อยู่กับท่ามาตรฐานเดิมๆ ซ้ำๆ จะนำพามาซึ่งความเบื่อหน่าย เหมือนกินกับข้าวแบบเดิมๆ ทุกวันใครจะไปทนได้นาน ลองศึกษาท่าทางวิธีการแบบใหม่ๆ จากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ ให้ชีวิตมันมีสีสันตื่นเต้นดูบ้าง อย่ามัวไว้ตัว คิดแต่ว่าเป็นเรื่องของคนทะลึ่งลามก หากคู่ของคุณเบื่อทนไม่ไหว แล้วไปทะลึ่งกับคนอื่นแทนคุณ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือนนะจะบอกให้
9. การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นเรื่องลามก
บางคนมีความเชื่อเช่นนี้ ปัญหาคือเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศแล้ว ไม่อยากเป็นคนทะลึ่งลามก จึงไม่มีทางระบายออก กลายเป็นหนุ่มสาวอารมณ์เปลี่ยว ที่เก็บกด หงุดหงิด จิตเสื่อม ลองปรับเปลี่ยนความคิดสักนิด ทำใจให้สบาย ปล่อยตัวเองผ่อนคลายตามธรรมชาติ แล้วคุณจะสบายตัวขึ้น แต่อย่าหมกมุ่นมากไป จะไม่ดี
10. ผู้หญิงจะเซ็กส์เสื่อมหลังวัย 30
บางคนอาจเชื่อไปเองว่าผู้หญิงเมื่อล่วงเข้าวัย 30 แล้วความต้องการทางเพศจะค่อยๆ เสื่อมสูญไป คู่แต่งงานบางคู่จึงมักเกิดปัญหาระหองระแหงกันได้เมื่อแต่งกันมานาน ผู้ชายก็อาจโทษผู้หญิงว่าชืดชาเฉยเมย ทำให้ตนต้องหันเหไปหาอะไรใหม่ๆนอกบ้าน แต่จริงๆ แล้ว ลองทบทวนดูก่อนว่าอะไรที่ทำให้คุณผู้หญิงหมดอารมณ์กันแน่
ภาระงานบ้าน งานในที่ทำงาน แล้วยังต้องดูแลลูกอีก กว่าหัวจะถึงหมอนก็เหนื่อยเสียแล้ว จริงๆ แล้ววัยไม่เกี่ยว แต่คุณต้องจัดการเวลาให้ดี อย่าเอาภาระเรื่องงานกลับบ้าน อย่าเอาเรื่องงานบ้านมาถกกันบนเตียง ล้วนแต่พาลให้หมดอารมณ์บรรเจิดไปเสียหมด หากคุณผู้ชายหมั่นแสดงความรักและห่วงใย ปลอบใจให้เธอคลายเหนื่อย ด้วยวิธีอันละมุนละไม เชื่อว่าปัญหาเฉยเมยเหล่านี้จะหายไปในไม่ช้า
11. ถึงวัยทองแล้วคิดมีเซ็กส์เป็นเรื่องบัดสี
บอกแล้วไงว่าวัยไม่เกี่ยว ตราบใดที่คุณสองคนเป็นคู่ชีวิต ที่ยังพร้อมจะมอบความรักให้แก่กัน แม้กายภาพจะไม่ค่อยเอื้ออำนวย อะไรๆ เคยลื่นก็กลายเป็นฝืด พลังเคยเต็มเปี่ยมก็ถดถอยลงไปตามวัย แต่อย่างน้อยการได้สัมผัสรัก ถ่ายทอดความอ่อนโยนให้แก่กัน ก็จรรโลงชีวิตให้สดใสได้ แถมยังช่วยให้ชีวิตกระชุ่มกระชวย อารมณ์ดี โปรดสังเกตว่าคู่ชีวิตที่ยังรักหวานแหววกันจนวัยทองแล้วเนี่ย ส่วนใหญ่จะสามารถถ่ายทอดความรักความอบอุ่นไปยังลูกหลาน ให้มีทัศนคติที่ดีในชีวิตคู่ได้อีกต่างหาก
12. ผู้ชายใส่ปลอก...ไม่สมชายชาตรี
ผิดถนัดหากคุณคิดเช่นนี้ โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ชายด้วยแล้ว คงไม่สนุกนักหากมีเซ็กส์ที่ไม่ระวัง แล้วนำพาปัญหาตามมาให้ปวดหัวในภายหลัง การใส่ถุงยางอนามัยไม่ได้แสดงว่าคุณไม่แมน แต่ทางตรงข้าม คุณกำลังเป็นสุภาพบุรุษที่รอบคอบ รู้จักคิด รู้จักการป้องกัน ทั้งตัวเอง (จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์) และคู่ของคุณจากโรคติดต่อ หรือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
13. รักสนุกแล้วค่อยคิดคุมกำเนิด สบายใจได้ 100%
เพราะคิดแบบนี้กัน ปัญหาสังคมจึงยังมีให้วิ่งตามแก้ทุกวัน โดยเฉพาะในกลุ่มหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ประสบพบพักตร์กัน แล้วเคมีในร่างกายระเบิดจุดประกายไฟปรารถนา พอเวลามีอะไรกันแล้วจึงนึกได้ ฝ่ายหญิงค่อยไปหายาคุมกำเนิด หลังมีเพศสัมพันธ์มากิน โดยคิดว่าสบายใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่เห็นมาแล้วนั้นมีพลาดเสียก็เยอะ พลั้งขึ้นมาเกิดตั้งครรภ์ตอนที่ยังไม่พร้อม หรือติดเอดส์ขึ้นมา ปัญหาอีกร้อยแปดก็จะรุมเร้าแน่ๆ
Create Date : 03 เมษายน 2553 |
Last Update : 3 เมษายน 2553 16:52:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 361 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|