|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
@Norge : ^^บุญคุณทดแทน...ขายชีวิต^^
ช่วงแรกๆ ที่แบนศรีได้ย้ายมาที่นอร์เวย์ ก็ได้เสาะแสวงหาเพื่อนคนไทย เพราะตัวไกลบ้าน แต่อยากหัวใจใกล้คนจากถิ่นฐานเดียวกัน ก็ได้พบพี่น้องคนไทยมากหน้าหลายตาค่ะ ก็มีน้อง "มุข" (นามสมมติ) นาางแต่งงานมาตั้งแต่อายุ 23 กับคุณสารุ่นปู่วัยเกษียณ ซึ่งสาของนางขี้หึงมากกกกกถึงมากที่สุด
ก็ด้วยเหตุผลง่ายๆ เลยค่ะ พวกเขาพบรัก(หรือเปล่า?)ในที่อโคจร บาร์อะโกโก้แห่งหนึ่ง เจอกันครั้งแรกสาเฒ่าก็ซื้อชั่วโมงนางแบบเหมาสามเดือน ตลอดช่วงเวลาที่สาเฒ่ามาพักผ่อนที่เมืองไทย หลังจากนั้นก็มาเยี่ยมอีกสองครั้ง นางไปเยี่ยมอีกสองครั้ง ก็ทำวีซ่าบินลัดฟ้ามาเป็นมาดามทันที
น้องมุขนางก็เล่าให้แบนศรีฟังว่า เดิมทีนางเรียนหนังสือค่อนข้างเก่งนะคะ ถึงแม้จะโรงเรียนวัด แต่นางก็ภูมิใจที่เรียนไม่เคยต่ำกว่าที่สามของห้องตลอด แต่ด้วยความจนจึงต้องออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา หน้าแล้งก็ไปรับจ้างทั่วไปบ้าง แต่รายได้หามาไม่พอกับที่ใช้ เพราะ...เหมือนกับแพทเทิร์นที่เรามักเห็นคือ พ่อน้องมุขติดพนัน ส่วนแม่ติดหวย เล่นกันแบบสุดใจขาดดิ้น
สุดท้ายที่นาถูกยึด ทางเดียวที่จะมีรายได้จุนเจือครอบครัวและดูแลน้องชายที่วันๆ ได้แต่แวนซ์ไปแวนซ์มาก็ไม่พ้นไปทำงาน ณ ที่อโคจร เต้นอะโกโก้ขายเรือนร่างในแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง
แบนศรีเคยถามนางว่า พ่อแม่นางรับได้หรอที่นางมาขายเรือนร่างกับผู้ชายเป็นร้อยเป็นพันคนแบบนี้?
นางตอบว่า "พ่อแม่รังเกียจมากพี่แบนศรี พวกเขาไม่ยอมให้หนูกลับไปเยี่ยมบ้าน เพราะอับอายคนในหมู่บ้าน แต่ถ้าจะเลิกทำงานนี้ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีคนใช้หนี้ที่พ่อแม่ทำไว้ ไหนจะน้องของหนู ตอนนี้เกเรออกจากโรงเรียน ติดยาอีก เฮ้อ"
แต่ชีวิตที่ต่างแดนของน้องมุขก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง สาเฒ่าทำร้ายร่างกายนางเวลาเมาขาดสติ แถมยังชอบหนีไปเที่ยวเมืองไทย เพื่อเมาสุราและเมรีปีละสองครั้ง นางจะหือจะอืออะไรก็ไม่ได้ ไม่งั้นสาเฒ่าจะไม่ส่งเงินกลับบ้านให้ น้องมุขพยายามหางานทำ แต่ก็หายาก ด้วยสมัยนั้นไม่มีการบังคับให้เรียนภาษานอร์เวย์ฟรีดังเช่นปัจจุบัน งานที่ทำได้ก็มีแค่ทำความสะอาดหรืองานนวด ซึ่งงานทำความสะอาดก็ต้องแย่งกัน งานนวดนั้นสามีนางก็ไม่ให้ไปทำ ด้วยงานนี้มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสำหรับสาวไทยที่นี่นัก
นางก็ได้แต่อยู่บ้านเครียดไปวันๆ เป็นนกน้องในกรงทองที่โดนเด็ดปีก จนสุดท้ายนางก็ได้พบเจอเพื่อนที่นำไปในทางที่ไม่ดี เข้าสู่วงการพนัน ติดหนี้มากมาย สุดท้ายสาเฒ่าก็ขอเลิก เพราะไม่อยากรับผิดชอบหนี้ของน้องมุข และตัณหายังไม่หมด สาเฒ่าจะแต่งงานพาสาวเอ๊าะกว่าสวยกว่าอึ๋มกว่ามาแต่งอยู่ด้วยแทน
หลังจากนางหย่า แบนศรีก็ไม่ได้เจอนางอีกเลย จนไม่กี่อาทิตย์ก่อน ดิฉันเจอนางในเมืองแต่งตัวสวยและหิ้วกระเป๋่าราคาแพง จึงทักทายคุยกัน เห็นนางเดินควงฝรั่งรุ่นใหญ่ หุ่นและการแต่งตัวป๋าเปย์สุดฤทธิ์ ตอนแรกแบนศรีก็คิดว่านางคงแต่งงานใหม่มีชีวิตที่ดี ก่อนจะมาทราบจากปากนางแบบเปิดหมดใจว่า
"หนูไม่ได้แต่งงานใหม่หรอกพี่ หนู เอ่อ หนูทำงานทางโทรศัพท์"
งานทางโทรศัพท์ที่ว่าคงไม่ใช่โอเปอเรเตอร์ตอบลูกค้าแน่ค่ะคุณ...เพียงแค่นี้ดิฉันก็พอเข้าใจ
แบนศรีก็ถามนางว่า "หย่าแล้วไม่มีเงิน ทำไมไม่ให้นาฟช่วยล่ะ นาฟจะช่วยเราจนกว่าจะหางานได้นะ"
นางมองดิฉันด้วยสายตาสร้อยเศร้า ก่อนตอบว่า "เงินจากรัฐคงช่วยให้หนูพอกิน แต่ช่วยจ่ายค่ากินอยู่และค่าหนี้สินที่ครอบครัวหนูที่ไทยทำไว้ไม่ได้หรอกพี่"
แบนศรี "บอกให้ทางบ้านเขาหางาน พยายามประหยัดกันไปก่อนไม่ได้หรือ? มุขอุตส่าห์รอดพ้นจากชีวิตแบบนั้นมา เพื่อชีวิตดีๆ ที่นี่ได้ จะต้องกลับไปอีกทำไม"
น้องมุขมองดิฉันด้วยสายตาที่เจ็บปวด "หนูไม่ทำไม่ได้หรอกพี่ ถ้าหนูไม่ทำพ่อกับแม่ก็ว่าหนูอกตัญญู พวกเขาทำให้หนูเกิดมา หนูต้องทดแทนบุญคุณ"
คำพูดของน้องมุขทำให้แบนศรีสะอึก คำพูดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่แบนศรีได้ยิน มันเป็นคำพูดที่ได้ยินจากผู้หญิงไทยในต่างแดน โดยเฉพาะคนที่ต้องขายเรือนร่างเพื่อหาเงินดูแลครอบครัว
"กตัญญู" หรือ "อกตัญญู" มีเส้นบางๆ กั้นอยู่ การที่พ่อแม่สร้างหนึ่งชีวิตขึ้นมา แต่ไม่เคยแม้แต่สั่งสอนดูแล กลับสร้างขึ้นมาเพื่อหาเงินเลี้ยงดูพวกเขาอย่างเห็นแก่ตัวแบบนี้ จะเรียกว่าเป็นการให้ลูกทดแทนบุญคุณได้อย่างไร
น้องมุขทำงานมาตั้งแต่ยังไม่เข้ามัธยมต้น เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและใช้หนี้สินจากความโลภและตัณหาของผู้ที่ให้กำเนิดเช่นนี้ แบนศรีเชือว่าน้องใช้บุญคุณตรงนั้นไปหมดนานแล้ว พ่อแม่ของน้องต่างหากที่ติดหนี้บุญคุณนาง...
แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร แบนศรีก็เปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องไม่ได้ ได้แต่อวยพรขอให้น้องผ่านพ้นจากนรกบนดินแห่งนี้ไปได้สักที ขอให้ "บุญคุณ" ที่น้องมุข "ติดหนี้" จบลงโดยไว เพื่อให้นกน้อยปีกหักตัวนี้ ได้โบยบินมีชีวิตที่สดใสของตัวเองสักที
**************************** ด้วยรักและห่วงใย...แบนศรี ณ นอร์เวย์ 

Create Date : 12 ตุลาคม 2568 |
|
0 comments |
Last Update : 12 ตุลาคม 2568 0:27:27 น. |
Counter : 145 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
|