ตุลาคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
อาหารอินเดียสุดหรูที่ MAYA Restaurant & Bar @ Holiday Inn Sukumwit 22
Khanna-Barra-Cigarra  MAYA authentic inspired indian


 “Khanna Barra Cigarra” (คานนา บาร่า ซิการ่า) ซึ่งเป็นภาษาฮินดี 

หมายถึง อาหาร เครื่องดื่ม และซิการ์ 

Khanna คือห้องอาหารที่ให้บริการอาหารชั้นเลิศสไตล์นอร์ทอินเดีย 

Barra คือบาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของมายาพร้อมดนตรี

และ Cigarra คือซิการ์เลาน์


ที่นี่คือห้องอาหารมายา ที่ให้บริการอาหารอิเดีย มีบาร์เครื่องดื่ม และส่วนเทอเรซสำหรับสูบซิก้าร์

ห้องอาหารมายาอยู่บนชั้นที่ 29 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท22 ค่ะ

วิวจากห้องอาหารสวยมาก มองเห็นถนนสุขุมวิทยามค่ำคืน








บรรยากาศในร้านตกแต่งเป็นแบบโมเดิร์นที่ซ่อนเอากลิ่นอายของความเป็นอินเดียได้อย่างดี

ใช้ลวดลายของผนังฉลุ การสาดไฟภาพสไตล์อินเดียขึ้นไปบนฝ้าเพดาน

การใช้โคมระย้าแบบคลาสสิกเข้ามาช่วยให้ความนุ่มนวลและหรูหรามากขึ้น






โต๊ะที่นั่งรับประทานอาหารมีหลากหลายแบบ ทั้งเป็นโซฟาเข้ามุมเป็นซุ้มส่วนตัว

เป็นโต๊ะเก้าอี้ธรรมดา เป็นโซฟานั่งดื่มสบายๆ

ยังมีโต๊ะกลมใหญ่เบ้งสำหรับการเลี้ยงรับรองที่ดูเป็นทางการ

และยังมีห้องจัดเลี้ยงแบบส่วนตัว ที่จะรวมหรือแยกห้องก็ได้สำหรับแขก 8-10 ที่นั่ง









และระเบียงด้านนอกสำหรับสูบบุหรี่และซิการ์ ที่บรรยากาศดีมาก

เสพวิวได้สวยสุดใจ สวยมากเวลาพระอาทิตย์ใกล้ตกค่ะ




ที่เด็ดที่สุดและน้ำตาลชอบมากก็คือ ครัวกระจกใสแหน่วนี่ล่ะค่ะ

เป็นครัวทำอาหารจริงที่โชว์ได้ มองเห็นถึงความตั้งใจ ความปราณีต และ ความสะอาด





ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอคือ เตาทันดูร์ (Tandoor) 

มันคือสิ่งที่น่าตาเหมือนโอ่งบ้านเรานี่ล่ะค่ะ แต่มันคือเตาอบแบบอินเดีย

ที่นี่มีถึง 3 เตาแยกตามประเภทอาหาร เตามังสวิรัติ เตาเนื้อ เตาขนมปัง






เครื่องดื่มที่นี่มีให้บริการมากมายหลายแบบนะคะ

มีทั้งค็อกเทลและม็อกเทล ส่วนใหญ่จะออกแนว Fruit & Herbs ค่ะ

ทั้งค็อกเทลมะขามผสมเตกิล่า แตงโมกะว๊อดก้า และ ม็อกเทลแตงกวากะพริก

ลิ้นจี่กับมะพร้าวและมินต์ และยังมีแตงโมกะกี่วี่ ทั้งหมดจะรู้สึกได้ถึงความสดชื่นและหอมหวานค่ะ








เสิร์ฟเครื่องดื่มแกล้มกับขนมแป้งทอดค่ะ

รสชาติเค็มๆมันๆ คล้ายๆครองแครงกรอบบ้านเรานี่ล่ะค่ะ แต่มีกลิ่นเครื่องเทศแรงกว่านิดหน่อย




ฟาดเครื่องดื่มกันจนได้ที่ก็ย้ายมานั่งทานอาหารกันซักทีค่ะ

อย่างแรกๆที่วางบนโต๊ะเป็นเครื่องเคียงสำหรับทานกับอาหาร

มีมากมายหลายแบบ ทั้งซอสมะขาม มะม่วง มิ้นต์ บางอันก็รสชาติดี

บางอันก็แปลกๆค่ะ บางอันก็เหมือนน้ำพริกเผาเราแต่ไม่เผ็ด


ไล่จากซ้ายไปขวานะคะ
Mix Berries หวานๆเปรี้ยวๆ - Mango อมเปรี้ยวอมหวาน -  Tamarind เปรี้ยวหวานเผ็ดนิด ๆ
Pickled Papaya หวานๆหอมๆเคี้ยวได้ -  Mint Chili หอมและเผ็ดร้อน






กินกับข้าวเกรียบแขก Papadum ที่บางกรอบและอร่อยมากทีเดียว

เคี้ยวกันเพลิน.....555++






จานแรกมาแล้วค่ะ 

Aloo Moti Tikki มันบดผสมสาคูทอด 

เสิร์ฟกับหัวผักกาดดองเมล็ดมัสตาร์ด  ผิวด้านนอกทอดมาได้กรอบ

ด้านในนุ่ม อร่อยมากๆเวลาทานร้อนๆ พอเย็นลงกลับรู้สึกว่ามันค่อนข้างเค็มไปหน่อยค่ะ

แต่เอาไว้กินกับแกงก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ








จานที่สอง Murgh Chandi Kebab

ไก่หมักโยเกิร์ตย่างจากเตาทันดูร์ตกแต่งด้วยแผ่นเงินเปลวสำหรับแต่งอาหารทานได้

ไก่เนื้อแน่นและนุ่มมาก ไม่แห้งแข็งเลย ทั้งๆที่ไม่ค่อยมีมันและหนัง

เครื่องเทศไม่จัดนัก ไม่เผ็ดร้อนมาก ทานได้สบายๆ.....อร่อยมากค่ะจานนี้








จานที่สาม Sarson Salmon Tikka

ปลาแซลม่อนหมักเครื่องเทศย่างในเตาทันดูร์เช่นกันค่ะ

เนื้อปลานุ่มสุดๆ ไม่สุกจนเกินไป รสชาติดีมากๆ เครื่องเทศกำลังดีไม่แรงจนเกินไป

ไปทานมาสองครั้งสำหรับจานนี้ รสชาติและความนุ่มค่อนข้างเสมอต้นเสมอปลายนะคะ

ถึงครั้งที่ 2 ที่ไปทานจะรู้สึกว่าสุกไปหน่อย แต่ก็ยังนุ่มอยู่ดี







จานที่สี่เป็นแกงกันบ้างแล้วค่ะ Paneer Aur Mirch Ka Salan

เป็นแกงมังสวิรัติค่ะ ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ น่าจะเป็นชีส

หรือเต้าหู้ หรือถั่วอะไรสักอย่าง.....อันนี้รสดีค่ะ แต่ไม่ถูกปากน้ำตาล

ไม่ชอบอ่ะค่ะ 55555+++







จานที่ห้าก็ยังเป็นแกงค่ะ  Makhani Chooza 

แกงไก่เลาะกระดูกออกตุ๋นในเครื่องแกงที่มีมะเขือเทศและเครื่องเทศอื่น ๆ

เป็นแกงไก่แบบแขกที่รสชาติเข้มข้นมาก เครื่องเทศถึงใจสุดๆ

แต่ก็ไม่เลี่ยนและไม่เฝื่อนค่ะ ไก่ก็นุ่มมากเหมือนกัน น้ำแกงจะค่อนข้างข้น

ซดไม่ไหว แต่เอานาน (Naan) ขนมปังแบบอินเดีย จุ่มและปาดน้ำแกงจากจานเข้าปาก

หูยยย......ฟินอ่ะ





จานที่หกก็ยังเป็นแกงอีกอยู่ดี  Jhinga Khada Masala

เป็นแกงกุ้งค่ะ แกงแบบมาสซาล่า น้ำแกงจะข้นขลุกขลิก

รสชาติค่อนข้างจัดจ้าน.....เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของน้ำตาลค่ะ

จานนี้ของที่นี่เริ่ดไปเลย มันทั้งข้น ทั้งหอม และไม่เผ็ดร้อนจนเกินไป

แต่รสชาติจัดทีเดียว ทานเปล่าๆไม่ไหวแน่นอนค่ะ

ถ้าไม่ทานกะ Naan ก็ควรทานกับข้าว






ข้าวที่เห็นสีเหลืองๆด้านหลังเป็นข้าวบาสมาติ (Basmati Rice)

เป็นข้าวพันธุ์ของอินเดียค่ะ เมล็ดจะยาวๆเรียวๆ ยาวกว่าข้าวไทย 2 เท่าได้

ที่นี่หุงข้าวกับแซฟฟร่อน (Safron) หรือภาษาไทยคือ หญ้าฝรั่น ค่ะ

ทำให้ข้าวมีสีเหลืองสวยและมีกลิ่นหอม.....หอมมากกกกกก

ปกติข้าวบาสมาติจะค่อนข้างแข็งนะคะ แต่ที่นี่หุงข้าวไงก็ไม่รู้ ข้าวนุ่มมากอ่ะค่ะ

ทานเพลิน.....พุงแทบแตก 55555++





นานน (Naan) ขนมปังอินเดียของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายดีค่ะ

เนื้อนุ่มหอมและอร่อย เสียแต่บางชิ้นเกรียมไปหน่อย

น่าจะอบนานไปหน่อย เลยออกมาเกรียมเชียว







มาถึงจานของหวานค่ะ ที่นี่มีขนมอินเดียแบบออริจินัลที่เอามาประยุกต์

ให้เป็นขนมหวานแบบสมัยใหม่ได้ดีทีเดียวค่ะ



Gulab Jamun Cheesecake

ใช้ Gulab Jamun ซึ่งคือแป้งทอดในน้ำเชื่อมกุหลาบ เอามาทำเป็นชีสเค้ก

ที่เห็นเป็นลูกกลมๆนั่นล่ะค่ะ....หวานเจี๊ยบ....อย่าบอกใครเชียว

ทั้งหวานทั้งหอมกุหลาบกับเนื้อชีสเค้กมันๆ เปรี้ยวนิดๆ โอ๊ยยย....อร่อยอ่ะ

จานนี้อร่อยมากค่ะ รสชาติกำลังดี ใครไม่ชอบหวาน....โบกมือลาจานนี้ไปก่อนนะคะ




Dark Chocolate and Rasmalai Terrine

ซึ่งนำเอา Rasmalai หรือ cottage cheese หวานแบบอินเดีย

แล้วหุ้มด้วย Dark chocolate mousse โรยหน้าด้วยถั่วพิสตาชิโอ้


ปกติ Rasmalai นี่หวานจนแสบคอ เอามากินกะ Dark Chocolate Mousse ขมๆหน่อย

อร่อยดีเหมือนกันค่ะ....ไม่หวานเกินไป แต่เลี่ยนไปหน่อย ทานได้อย่างมาก 3 คำค่ะ





จานสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดค่ะ

Rasmalai

Rasmalai แบบออริจินัลค่ะ ของหวานแบบอินเดียที่เป็นที่สุดของขนมหวานแล้วค่ะ

น้ำตาลชอบจานนี้ที่สุดค่ะ เพราะ Rasmalia หวานจริง แต่นมที่แช่มานั้นค่อนข้างจืด

ทำให้ทานแล้วไม่หวานจนเกินไป ทั้งหอมนมด้วยค่ะ

"Simply is the best" จริงๆค่ะ








ตบท้ายกันด้วย Masala Chai ร้อน ๆ 

ชาเครื่องเทศMasala หอมๆร้อนๆ เผ็ดนิดๆ พอให้รู้สึกสดชื่นกำลังดี ไม่หนักเกิน 

เหมาะสำหรับการจบมื้ออาหารมากๆค่ะ

ใครไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศโบกมือลาชาแก้วนี้ไปเลยนะคะ






ใครที่ชอบทานอาหารอินเดียที่บรรยากาศดีๆ ไม่ควรพลาดร้านนี้นะคะ

MAYA เปิดให้บริการทุกวันค่ะ ที่ชั้น 29 โรงแรมฮอลิเดย์อินน์

ทุกวันอาทิตย์ก็จะมี Sunday Brunch ตั้งแต่ 11.30-15.00 น. ในราคา 700++ 

สามารถดูรายละเอียดได้ที่เวปไซต์

www.mayathailand.com


-------------------------------------------------------

ขอบคุณ Maya Restaurant & Bar ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลเรื่องอาหารเพิ่มเติมจากพี่ว่านน้ำค่ะ





Create Date : 12 ตุลาคม 2556
Last Update : 14 ตุลาคม 2556 22:29:00 น.
Counter : 5860 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bemynails
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่
งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง....

เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^


ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ


แอดเป็นเพื่อนกันใน facebook ได้ค่ะ

bemynails