Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
เรื่องสั้นเฉพาะกิจ เมื่อน้องเก๊าสถามหา ฮ่าๆ



อ่านขำๆ นะคะ แค่อยากแซวใครหลายคนดังๆเท่านั้นเอง...ฮา



ณ.ห้องพักครูหมวดพละของโรงเรียนมัธยมชื่อดังคับกรุงเทพแห่งหนึ่ง ขณะที่มืออ้วนป้อมแถมดำอีกตังหากของผมกำลังจะตักเซี่ยงจี้เข้าปากอยู่นั้นเอง จู่ๆก็เหมือนกับว่าได้ยินเสียงบางอย่างแว่วดังมาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ที่แน่ๆต้องไม่ไกลจากตรงที่ผมนั่งแน่นอน เสียงที่ได้ยินนั้นแม้จะเบาและเล็กมาก แต่มันชัดเจนมากสำหรับผม


“นี่เค้าตั้งใจจะกินฉันจริงๆหรือนี่ ดูทำเข้าสิ อ้าปากเสียกว้างเชียว”

“นั่นซิ แต่ฉันว่าเค้าคงไม่กล้าหรอกนะ แต่ถ้าเค้ากล้ากินเธอลงคอ ฉันก็คงไม่รอดแน่เลยงานนี้’


เสียงเล็กใสกว่าเมื่อครู่โพล่งตามหลังมา คล้ายกับว่ากำลังไม่มั่นใจในสถานการณ์ตรงหน้า ทำผมที่อ้าปากกว้าง มือถือช้อนค้างไว้ ต้องเหลียวซ้ายแลขวาหาที่มาของเสียงประหลาดนั้นทันที และเท่าที่เห็นภายในห้องพักครู นอกจากโทรทัศน์จอใหญ่ที่เปิดละครค้างเอาไว้ เสียงดังสนั่นแล้ว ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดอีกเลย ยกเว้นผมคนเดียวเท่านั้น


แม้ว่าผมจะไม่ค่อยเชื่อในเรื่องที่ไม่มีเหตุผลมารองรับสักเท่าไหร่ แต่เมื่อหันไปมองรอบๆตัวแล้วไม่มีใคร ก็รู้สึกหนาวขึ้นมาเหมือนกัน แต่ก่อนที่สมองจะสั่งให้ขาสองข้างทำบางอย่าง ทันใดนั้นเอง เสียงเล็กๆของอะไรสักอย่างก็พูดขึ้นเสียก่อน


“เค้าทำเหมือนกำลังกลัวฉันเลยอ่ะ เซี่ยงจี้”

“เค้าไม่ได้กลัวเธอหรอกพิวรีน แค่เค้ายังไม่รู้จักเราเท่านั้นเอง”

“ทำไมเค้าถึงยังไม่รู้จักเราสักทีล่ะ ทั้งๆที่เรากับเค้าก็สนิทสนมกันถึงขนาดนี้แล้วนะ แล้วนี่ถ้ายูริคเค้ารู้...คงจะเสียใจน่าดูเลยนะ ที่เค้าทำเป็นไม่รู้จักเรา”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ที่จริงเค้ารู้จักเรามานานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เข้าใจว่าเป็นใครเท่านั้น”

“ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องบอกความจริงกับเค้าแล้วล่ะเซี่ยงจี้”

“ความจริงอะไร”

“ก็ความจริงที่ว่าเค้าเป็นโรคเก๊าท์ยังไงล่ะ แล้วพิวรีนอย่างฉันก็คือธาตุอาหารที่พบได้ในเนื้อสัตว์ ข้าวสาลี และในตัวเธอยังไรเล่าเซี่ยงจี้”

“มันไม่สำคัญหรอกนะพิวรีน เพราะถ้าเธอถูกย่อยจนกลายเป็นยูริคอย่างช้าๆโดยที่ไตสามารถขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะได้หมดพอดี ก็จบ”

“แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ ถ้าฉันดื้อเกิดอยากอยู่นานๆ ฉันก็จะรวมตัวกันกลายเป็นยูริคขึ้นมาใช่มั๊ยล่ะ แล้วที่นี้เค้าก็จะปวดตามข้ออย่างรุนแรงซินะ หุๆ ดีใช่มั๊ยล่ะเชี่ยงจี้ แล้วไอ้โรคนี้น่ะมันถ่ายทอดกันได้ด้วยนะ”

“จริงอ่ะ”

”จริงซิ ฉันจะไปโกหกทำไมกัน ทีนี้เค้าคงจะได้ยินแล้ว และยังคิดจะกินเพื่อนฉัน กับฉันอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ”


เสียงเล็กพูดเหมือนกำลังตัดพ้อต่อว่า ราวกับสาวอายุสิบหก ทำเอาคนที่ตั้งใจเงี่ยหูฟังแทบจะปล่อยก๊ากออกมา

อะไรกันเนี่ย มีเซี่ยงจี้มารำพัน ไม่ยอมให้ผมตักเข้าปาก แถมยังมีแม่พิวรีนมาพูดห้ามอีกคน

นี่มันเรื่องอะไรกันนี่?? หรือว่าผมจะหูฝาดไป หรือไม่เป็นเพราะวันนี้ผมคงจะสอนมากจนเกินไป

โอ้...ไม่นะ เมื่อครู่ผมยังมีความสุขกับการได้กินต้มเครื่องในที่แวะซื้อมาจากปากซอยอยู่เลย แถมเมื่อวานก็เพิ่งจะกินของโปรดเป็นข้อไก่ทอดอีกด้วย นี่ยังไม่รวมตับไตเครื่องในหมูของโปรดที่กินติดต่อกันมาทั้งอาทิตย์แล้วด้วยนะ

นี่...อย่าบอกนะว่า...ผมจะกลับมาเป็นโรคเก๊าท์อีก ไม่มีทางผมไม่มีวันเชื่อหรอก
ออกไปเลยนะ ทั้งสองตัว นั่นแหละ ทั้งนายเซี่ยงจี้ ทั้งแม่พิวรีนพิวอะไรนั่น แล้วช่วยบอกนายยูริคด้วยนะ ว่าไม่มีมีทางได้แอ้มข้อเข่าของอาจารย์สามโทสิ่งแวดล้อมอย่างผมหรอก ขอบอก( แล้วจะบอกทำไมกันละเนี่ยฮา)

เขาบ่นอยู่ในใจ จนเกือบจะวางช้อนลงอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ได้ยินเสียงที่ใหญ่กว่าสองเสียงแรกพูดแทรกหาเรื่องขึ้นมา


”เก่งนักหรือ คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาใช่มั๊ย ได้เลย...งั้นเดียวยูริคอย่างฉัน...จัดให้”

ผมไม่ทันฟังว่าเสียงนั้นพูดอะไรออกมาบ้าง รู้แต่ว่าน้ำเสียงนั้นไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่ก็คงเหมือนผมนั่นแหล่ะ

ผมเหลือบมองดูนาฬิกาบนผนัง พอเห็นว่าใกล้เวลาที่จะต้องไปสอนแล้วจึงได้รีบงับเซี่ยงจี้ที่ค้างไว้เข้าปาก เคี้ยวจนไม่เหลือซาก ก่อนจะซดน้ำต้มเครื่องในตามเข้าไปจนอิ่ม

“โอ๊ย...”


ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงใครหรืออะไรบางอย่างร้องขึ้นเบาๆ ซึ่งมันใกล้ตัวมาก ใกล้มากจนรู้สึกว่าได้ยินเสียงนั้นได้ชัดมาก มันต้องอยู่แถวๆนี้แน่นอน ผมมั่นใจ ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนล่ะ มีใครรู้บ้าง

ผมเคี้ยวเครื่องในในปากไปพลางนึกไปพลางว่า มื้อเย็นจะกินอะไรดีระหว่างข้อไก่ทอดกรอบ หรือตับย่างจิ้มแจ่ว

แค่นึกน้ำลายก็แตกฟองเลยทีเดียว ผมลุกขึ้นยืนเมื่อเคี้ยวคำสุดท้ายหมด กะว่าจะเดินไปรินน้ำในตู้เย็นมาดื่มสักหน่อย

โอ๊ย.. ข้อเท้าซ้ายอยู่ก้ปวดขึ้นมาอย่างกระทันหันเสียนี่ ...มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่

ทำไมอยู่ดีๆรอบข้อเท้าของผมก็ปวดขึ้นมาจนแทบเดินไม่ได้ จนต้องรีบหาที่นั่งเลยทีเดียว

อาการแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยเป็น แต่มันหายไปนานเป็นปีแล้วนี่นา แล้วนี่ทำไมมันถึงกลับกำเริบขึ้นมาได้อีก ผมไม่เข้าใจเลย แถมปวดตามข้อไม่พอ มันยังบวมลาม แถมร้อนแดงเจ็บมากเสียด้วย

โอ้...ไม่นะ อย่าบอกนะว่า เป็นเพราะเจ้ายูริคตัวเมื่อกี้นี้ ผมไม่ยอม มันจะมาทำกับผมเหมือนคนอื่นไม่ได้ มันคงอยากจะอยู่ตามข้อผมมากเลยใช่มั๊ย ได้เลย งั้นรอหน่อย เดี๋ยวพอถึงวันที่ 12 หรือ13 อันนี้ยังไม่แน่ใจ

ผมจะจัดการเหมาสิงห์ทุกขวดในตู้มาดวนกับมันเลยละกัน แต่ทางที่ดีถ้ามีคนรู้ใจคุยถูกคอมาร่วมก๊งด้วยเหมือนครั้งก่อนๆ ก็น่าจะดีไม่น้อย ต่อให้พิวรีนก็พิวรีนเถอะ แถมยูริคด้วยอีกเอ้า ผมไม่สนใจหรอก

ว่าแต่ว่าพรุ่งนี้ผมจะมาทำงานไหวมั๊ยเนี่ย...กรรมจริงๆ โรคเก๊าท์ดันมากำเริบเสียได้ สงสัยต้องรีบกลับไปนอน เผื่อจะหายทันไปดวนตามนัด

(ความจริงผมตั้งใจกลับไปนอนอยู่แล้วล่ะ) แต่ก่อนนอนต้องดื่มน้ำมากๆด้วยนะ เซี่ยงจี้กระซิบบอกมา







Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2554 10:10:00 น. 1 comments
Counter : 603 Pageviews.

 
ขออนุญาตกอบเอาไปวางที่ถนนนะครับ อ่านแล้วได้ทั้งสาระและบันเทิงดีมากครับ


โดย: kaburapat (kaburapat ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:28:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Setakan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





อยากให้คนที่เข้ามาได้รอยยิ้ม
และความสุขกลับไปค่ะ

..................

นิยายปี 53










นิยายปี 54










งานเขียนในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ส่วนหนึ่งส่วนใด โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร




TOP : Users Online hits
Friends' blogs
[Add Setakan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.