1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
อุบายการสัมผัสอาการแห่งจิตตั้งมั่น
ท่านทีฝีกตามทีผมบอกเรื่องรู้กายทั่ว ๆ ไปสัก 1 ปีหรือมากกว่า หัดดูทีวีแบบภาพ 3 มิติไปสัก 6 เดือนหรือมากกว่า น่าจะพอสัมผัสอาการแห่งจิตตั้งมั่นได้บ้างแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็ฝีกไปก่อนครับ แล้วมาทดลองดูอีกทีหนี่ง อาการแห่งจิตตั้งมั่นจะเหมือนกับอาการแห่งเครื่องเรดาห์ไม่ส่ง --คลื่น--ออกจากตัวเครื่องเรดาห์ แต่เครื่องเรดาห์ไม่ได้ปิด เครื่องยังทำงานอยู่ จิตทีไม่ตั้งมั่น พอตาเห็นรูป จิตจะส่งคลื่นออกไปยังสิ่งทีเห็น เหมือนเครื่องเรดาห์ส่งคลื่นออกไปจับวัตถุบนท้องฟ้าเช่นเครื่องบิน แต่จิตทีตั้งมั่น ไม่ได้แปลว่า จิตไม่ทำงาน แต่จะเป็นว่า แทนทีจิตจะส่งคลื่นออกไป แต่จะเป็นว่า คลื่น นั้นวิ่งเข้ามาสู่จิตเอง ตัวอย่างเช่น เมื่อตามองเห็น แสงจากวัตถุ จะวิ่งเข้ามาหาจิต -- ไม่ใช่จิตวิ่งไปหาภาพทีเห็น เมื่อหูได้ยินเสียง เสียงจากต้นเสียง วิ่งเข้าหาจิต - ไม่ใช่จิตวิ่งไปต้นเสียง เมื่อท่านเดินจงกรม รู้กายทั่วๆ การรู้กายทั่วๆ ได้ นั้นคือ จิตตั้งมั่นในบางขณะ ถ้าตาท่านเห็นภาพ จิตอาจวิ่งออกไปหาภาพ แต่ท่านอาจจะไม่รู้ เพราะท่านมองไม่เห็นจิต มองไม่เห็น มโน แต่ก็ยังดี ทีรู้กายได้อยู่ จิตถีงไม่ตั้งมั่นเต็มที แต๋ก็พอมีบ้างแต่ไม่เต็ม 100 เปอร์เซนต์ ทีนี้ วิธีการจะรู้อาการจิตตั้งมั่นได้ ผมบอกเทคนิคให้ ท่านสังเกตตอนแปรงฟัน เมือ่แปรงฟัน แปรงไปปกติ ครับ แต่ไม่ต้องคิดอะไร ให้สนใจการแปรงฟัน แต่ว่าอย่าสนใจแบบหนักแน่น แต่ให้สนใจการแปรงฟันตามปกติธรรมชาติของท่านเอง ท่านสังเกต เมื่อท่านแปรงฟันตามปกติ ตาเห็นได้อยู่ หูได้ยินได้อยู่ แต่ภาพท่ตาเห็ฯจะมัว ๆ หน่อย การรู้กายทั่ว ๆ ยังได้อยู่เหมือนเดินจงกรม แต่ท่านไม่ควรใส่ใจ จะทำให้รู้กายได้เบาๆ ทั่วๆ แต่เมื่อกำลังแปรงฟัน ก็จะรู้การสัมผัสภายในปากได้ด้วย ถ้าท่านได้อย่างนี้ ให้สังเกตอาการของท่านเอง ตอนนั้น จิตจะตั้งมั่นอยู่ อาการลักษณะเป็นอย่างไร ให้สังเกตไว้ ถ้าครั้งแรก สังเกตไม่ออก ให้ลองดูการแปรงฟันครั้งต่อไป ให้ทำไปเรื่อยๆ จนสังเกตได้ว่า เมื่อแปรงฟันอาการเป็นแบบนี้ ซี่งจะต่างจากตอนอื่นเช่นการดูทีวี น้้นต่างกันอย่างนี้ ให้หาความแตกต่างให้พบ ต่างแบบนี้นะ เดินจงกรม เป็นแบบนี้ ดูทีวี เป็นแบบนี แปรงฟันเป็นแบบนี้ ถ้าท่านพบความต่างได้ ขอให้สังเกตต่อไปว่า เมือ่ดูทีวี จะเหมือนมีอะไรพุ่งออกไปจับภาพที่ทีวีไหม เหมือนคลื่นเรดาห์ทีพุ่งออกมาจากเครื่องเรดาห์ เมื่อแปรงฟัน คลื่น มันหดกลับไปทีตัวใช่ใหม สังเกตได้ไหม ท่านต้องหัดสังเกตด้วยตนเอง ไม่มีใครบอกท่านได้ ถ้าท่านสังเกตออก คลื่นเรดาห์พุ่งออกเป็นอย่างนี้ แปรงฟัน คลื่นไม่พุ่่งออกเป็นอย่างนี้ มันยากหน่อย ถ้านีคือจุดทีท่านจะไปต้องถีง จึงจะมีการพัฒนาต่อไปได้ มันไม่ใช่ง่าย ๆ ผมเข้าใจ แต่ก็ไม่ยากจนทำไม่ได้ แต่ต้องใช้เวลาและฝีกฝนพื้นฐานมาก่อน ใครไม่เคยฝีกแบบทีผมบอก บ๊าย ๆ ได้ครับ ท่านจะไม่มีวันพบคลื่นเรดาห์อย่างแน่นอน
Create Date : 29 ธันวาคม 2557
Last Update : 16 มกราคม 2558 15:17:43 น.
0 comments
Counter : 1126 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****