Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
UPNEWS# 54 (บันเทิงHK) เจ้าสาวปีฉลู /ศิลปะแห่งวัว/ Top 10 in memory/Redcliff 2/ เกือกม้าทองคำ

สวัสดีปีวัว เดี๊ยนว่าเป็นวัวกระทิงดุ....ดุจนเกรียมเจ้าค่ะ หวังว่าต้นปีมีเรื่องร้าย ๆ ปลายปีก็จะมีอะไรดี ๆ เข้ามาบ้างเด้อ จขบ.มีภาพสาวอุ้มตุ๊กตาวัวน่ารักน่าชังมาฝากด้วย กวาดสายตาดูเอาละกาน ภาพนิ่งทิงนองนอย


ปีใหม่ก็เป็นเรื่องของปีใหม่ คริก ๆ จขบ. คิดถึงความเก๋า ความเก่า เลยจัดอันดับไว้เป็นที่ระลึกซะเอง กับหนังจีนดีและดังในอดีตกาลผ่านมา หลังจากคัดเข้าคัดออกจนมึนเฮดไปหลายรอบ ก็ต้องให้มันเข้าวินมาได้ 10 เรื่อง แยกเป็นโบราณกับสากล.......เหนื่อยยิ่งกว่าตัดสินนางงาม






อันดับ 1 มังกรหยกภาค 2 หนังจีนอมตะนิรันดรของท่านกิมย้ง ไม่มีใครในยุทธภพจะไม่รู้จักเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่ง ผู้สร้างตำนานรักที่ทุกคนต่างพากันฟันธงว่ามันผิดประเพณี ศิษย์จะรักอาจารย์ได้เยี่ยงไร แต่เด็กหนุ่มเอี้ยก้วยผู้ซึ่งฟ้าลิขิตให้ชะตาต้องกับสุสานโบราณ ฝึกวิชาจนเติบโตเป็นจอมยุทธอินทรีผู้ผดุงคุณธรรม ใครเล่าจะรอเซียวเหล่งนึ่งได้ถึง 16 ปี คงมีแต่เอี้ยก้วยของท่านกิมย้งเพียงผู้เดียว ยกให้ทั้งสองยุคเป็นที่ชอบสุด ๆ สร้างแล้วดังเปรี้ยงทั้งสองเวอร์ชั่นเลย







อันดับ 2 ดาบมังกรหยก ชอบในความมีเสน่ห์ของเตียบ่อกี้ เป็นจอมยุทธหนุ่มที่อ่อนโยน สุภาพ ถ่อมตัว มีสัมมาคารวะ ที่สำคัญมีแต่สาวมาตกหลุมรักรอบกาย ทำให้จิตใจโลเล สับสนไม่รู้จะเลือกซ้ายหรือขวา จะแลหน้าแลหลังให้ป่วนหัวจายย ไม่ว่าจะรักที่ต้องพลัดพรากกันไปกับเสี่ยวเจียว รักที่ต้องครอบครองของจิวจี้เยียก และรักที่ต้องเสียสละยศถาบรรดาศักดิ์ขององค์หญิงมองโกล ทำให้ต้องลุ้นในวินาทีสุดท้ายว่าพระเอกจะเลือกตำแหน่งหรือความรัก ก็แน่นอน Happy Ending สมใจ






อันดับ 3 ชอลิ้วเฮียงถล่มวังค้างคาว จอมยุทธชอออกท่องยุทธภพ พร้อมด้วยสามสาวคู่ใจ ไม่เพียงแต่ความฉลาดล้ำ วิทยายุทธเลิศของจอมยุทธชอแล้ว พวกสาว ๆ ก็เก่งกาจด้วย แต่มันมีสีสันมากกว่าเดิมตอนที่องค์หญิงจอมแก่นหนีออกจากวังมาท่องยุทธภพกับพี่ชอลิ้วเฮียง ทำตัวแสนงอน หลงรักจอมยุทธชอ จนไม่อยากกลับวัง พี่ชอก็สุดแสนจะหล่อบาดจิตในห้วงนั้น ดูแล้วก็อยากเป็นสาว ๆ ของพี่ชอลิ้วเฮียงกับเค้าเหมือนกัน








อันดับ 4 ศึกลำน้ำเลือด จะกลับใจเอาไปขึ้นหิ้งที่อันดับ 1 ก็ยังทันนิ เป็นโปรดักชั่นที่เรียกว่ายิ่งใหญ่สมราคาคุย คุยฟ้งได้เลยว่า เจ๋งที่สุดของหนังโบราณแนวประวัติศาสตร์ของทีวีบี เรื่องราวสมัยราชวงศ์สุย ที่มีการพระราชโองการให้ขุดคลองยาวหลายกิโลเมตร (คือเดี๊ยนลาง ๆ ว่า 3 กม.) เกณฑ์ไพร่พลเป็นพันเป็นหมื่นเพื่อมาเสกสรรลำน้ำให้ฮ่องเต้หยังกว่าง ล่องเรือเสพสุราเคล้านารี......และตัวละครที่ค่อดทรพีสุดบรรยายก็หนีไม่พ้นองค์ชายหยังกว่าง ตัวพระเอกที่มีเชื้อสายขุนน้ำขุนนาง นามกรฉิวหยั่นเค่อ หรือฉายา ไอ้เคราดำ เป็นคู่กัด คู่รักที่สมน้ำเนื้อที่สุดขององค์หญิงหลานหลิง (นิคเนมหลานหนุงหนิง) ยังมีคุณชายหลี่ซื่อหมิง ที่มาดขรึม คมในฝัก คือจะให้บรรยายไงให้มันครบหมดทุกตัวละคร ทั้งเนื้อเรื่อง ทั้งโปรดักชั่น ทั้งดารา ขอมอบดาวล้านดวงไว้ให้ ณ ที่นี้ ด้วยผลงานคุณภาพคับจอแก้วแห่งยุคหนังจีนเฟื่อง






อันดับ 5 เจาะเวลาหาจิ๋นซี พี่เซี่ยงเส้าหลงโด่งดังคับกรุงเทพเมืองฟ้าอมรอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน หลังจากหนังจีนทิ้งห่างความดัง ชอบมากกับแนวเรื่องปัจจุบันย้อนสู่อดีต ด้วยเครื่องย้อนกาลเวลา (เครื่องไทม์แมชชีนอ่ะ คิดได้ไง) เพื่อตามหาจิ๋นซี แต่ไปหลงยุคไหนของพี่แกไม่รู้ กลายเป็นอัจฉริยะสุดยอดของคนหมู่มากที่พากันชื่นชม พี่เซี่ยงของเรามีกลยุทธในการเอาตัวรอดทุกรูปแบบได้สุดยอดมาก และเพื่อภารกิจค้นหาจิ๋นซีให้เป็นผลสำเร็จ พี่เซี่ยงสามารถปลุกปั้นดินให้เป็นดาวจักรพรรดิได้อีกด้วย สวมรอยได้เนียนดั่งฟ้าเป็นใจ ดาวรุ่งที่เรียกว่าเกิดสูสีกับพี่เซี่ยงก็คงจะเป็นหนุ่มหลินฟงในบทจิ๋นซีฮ่องเต้...ทั้งดำ..ทั้งโหด...ได้ใจทุกอารม์นี่แหละ แต่สุดท้ายพี่เซี่ยงไม่กลับปัจจุบัน และครองรักกับภรรเมียทั้งสอง เค้าเรียกจบแบบแหวกบทประพันธ์มั้ยคะ ยกความสนุกให้ 7 ดาวเลยค่ะ







อันดับ 6 เพื่อนรักเพื่อนแค้น เนื้อเรื่องดี ดาราเด่น แสดงได้ใจ รวมทั้งเพลงประกอบ ของดีไม่ต้องคุยมาก กดไปตามลิงค์นี้ ถ้าอยากระลึกถึง









อันดับ 7 มรสุมสายเลือด อันธพาลหน้าตี๋ครองเมือง ครองจอทีวีก็ว่าได้เลยค่ะ อาเฮียหลีหมิงสมัย young กับลุคนักเลง เด็กมีปัญหา จิตใจเก็บกด กลายเป็นขวัญใจคนดูกับบทบาทของอาหลง เด็กชายที่นำมาฝากเลี้ยงกับครอบครัวสกุลหลิวอันอบอุ่นที่ประกอบด้วยพี่น้อง 3 คน คือ อากวง ,อากี และ อาอี๋ และเด็กหลงอีกหนึ่ง ก็คืออาหลง ที่เข้าใจผิดว่าครอบครัวหลิวฆ่าพ่อตัวเอง จึงหนีออกจากบ้านไปพร้อมกับอนาคตอันมืดมน และต้องไปติดคุกในสถานเยาวชน พร้อมกับความแค้นที่ไม่เคยลืม ก็โลกดันกลมอีก อาหลงต้องไปเจอกับอากวงที่เป็นหัวหน้าผู้คุม ได้ปะทะเฉือนอารมณ์กันอย่างสะใจ (กวนทีนได้สาแก่ใจทั้งสองฝ่าย) นอกจากอาหลงจะเป็นพระเอกในแนวร้าย ยังมีบทของอากีที่ขอแจ้งเกิดแบบเลวบริสุทธิ์ (เฮียหลินเหวินหลง แจ้งเกิดในใจเดี๊ยนก็เรื่องนี้ค่ะ) จะขอพูดถึงอาอี๋ ก็มาแบบสาวมีความรู้มีปริญญา ตรงข้ามกับพระเอกที่เรียนน้อยแต่ชั่วโมงบินนักเลงสูง กับเหตุการณ์ที่อาหลงเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตอาอี๋ไว้ ทำให้อาอี๋หลงรักอาหลงหมดหัวใจ (ปริญญากี่ใบก็มิอาจทดแทนได้) ขอยกไว้ที่ฉากสุดท้ายว่าจะจบด้วยน้ำตาท่วมจอหรือไม่ เพราะนางเอกรอพระเอกเพื่อมาเข้าพิธีแต่งงาน ......รอจนวินาทีสุดท้าย....อาหลงมาแต่งงานตามสัญญาพร้อมร่างกายอันบอบช้ำเลือดไหลริน (โศกค่ะความโศกเริ่มครอบงำ) แต่ถึงที่สุดแล้วพระเอกก็คือพระเอกค่ะ อาหลงฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตกับนางเอกได้อย่างมีความสุข







อันดับ 8 เลือดเจ้าพ่อ (เลือดคนละสี) พูดถึงเรื่องนี้ขอนึกก่อนเลยว่า เดี๊ยนพิสมัยวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองนอกเมืองนา ยกกองไปถ่ายทำได้ไฮโซมากถึงเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้กลิ่นอายความเดิ้นมีอยู่มากมายในตอนช่วงต้นเรื่อง บทพระเอกฉีเฮ่าหนาน มีมิติมากมายหลายด้าน (ยกนิ้วให้คนเขียนบทตัวละครตัวนี้เลย) หลากอารมณ์ที่ต้องแสดงออกว่าจิตใจมันขัดแย้งกันเหลือประมาณ ระหว่างความสัมพันธ์ทางสายเลือด.....พ่อแท้ ๆ ที่ให้กำเนิดเป็นตำรวจที่ต้องมาทำคดีของเจ้าพ่อมาเฟีย ที่ชุบเลี้ยงฉีเฮ่าหนานจนเติบโต เรียกว่าทั้งร่ายกายและจิตใจอุทิศให้พ่อเลี้ยงมาเฟียคนนี้ไปจนหมดแล้ว ส่วนความรักที่เฮ่าหนานไม่เคยใส่ใจในตัวแฟนสาว ทำให้เธอต้องจบชีวิตตัวเองอย่างน่าเศร้า.....จิตใจที่ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ของเฮ่าหนานก็ด้วยความรักที่อี้หมิงมอบให้เขามาโดยตลอด ทำให้พ่อแท้ ๆ กับเฮ่าหนานหันมาเข้าใจกันได้ในที่สุด แต่สุดท้ายเฮ่าหนานก็ไม่อาจลืมบุญคุณของพ่อเลี้ยงมาเฟีย ความกตัญญูของเฮ่าหนานที่มีต่อพ่อเลี้ยง ยิ่งทำให้คนรอบข้างทุก ๆ คนโดนทำร้าย จนเฮ่าหนานเกือบต้องสูญเสียอี้หมิงไป (เรียกว่าสูญเสียไปได้มั้ย เพราะมันช่างรันทดใจ ที่เขียนบทให้นางเอกตาบอดในตอนจบ)








อันดับ 9 ทีมล่าพระกาฬ ส่วนตัวไม่ค่อยจะผูกพันกับหนังแนวตำรวจซักเท่าไหร่ เพราะใจมันคิดว่าเป็นผู้กองต้องอย่างเท่ห์ อย่างเก่ง....แต่ดันต้องมาสยบกับเรื่องนี้ เพราะพี่กู่มาแนวตำรวจแบบที่จินตนาการไว้อ่ะ แสดงเป็นจ่าฉีเฟย ใส่เสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำเพิ่มความหล่อ บุคลิกแข็งกระด้าง ชอบฉายเดี่ยว แถมด้วยเสพติดบ๊วย (หรือมันคือบ๊วยผสมยาบ้า) หนุกหนานเมามันส์ อารมณ์ร่วมไปกับทุกคดีความที่พระเอกต้องผจญภัยในทุกตอน แต่อยากจะเอาหัวโหม่งโลกก็อีตอนจบ ที่แปะไว้ให้คิดว่าชีวิตรักของตัวละครจะไปทางไหนก็เลือกซักทาง......คือลืมเนื้อเรื่องแถมมึน







อันดับ 10 เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ความสัมพันธ์ของเพื่อนรัก 3 คน ที่มีสไตล์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อสามเสืออยู่ถ้ำเดียวกันทำให้เกิดเรื่องราวที่บานปลาย กลายเป็นความสนุกครบรส คลุกเคล้าความดี ความเลว ความรักหนุ่มสาว ความรักของเพื่อน ไว้ด้วยกัน ถึงเนื้อเรื่องจะยาว แต่ไม่เห็นจะมีใครท้อถอยในการชมค่ะ จะมีตำหนิบ้างก็ตอนที่ อาลิ (กู่เทียนเล่อ) เข้ามาแย่งซีนทุกคนไปในตอนท้ายเรื่อง ก็ขอให้นายลิเป็นพระเอกบ้างดิ่ ถึงมันจะตาย ก็มีดินกลบหน้าล่ะนะ

อยากอ่านเรื่องราว เชิญคลิก








หนุ่มฟงของแม่ยกไปร่วมงาน Count เดือน countdown 2009 ที่ Water Square Center ฟงก็ให้ความเห็นในปีหน้าว่า วิกฤติการณ์สถาบันการเงินจะมีผลกระทบต่อเนื่องในปี 2009 การจ้างงานก็จะลดลงกว่าปีก่อน พวกเราต้องวางแผนการออมทรัพย์ไว้จะดีกว่าเพื่อในอนาคตข้างหน้านะครับพี่น้อง (เป็นงานเป็นการล่ะค่ะท่านจอมยุทธฟง) และความหวังของผมคือยากจะซื้อบ้าน (ขออย่างหรู) ซักหลังในระดับราคา 2-3 แสนเหรียญก็พอ (คือต้องควักออกมาบ้าง มิฉะนั้นเงินจะล้มทับ) แต่ก็รู้สึกขัดแย้งกันอยู่ เพราะเศรษฐกิจก็ชะลอตัว อยากให้สถานการณ์ดีขึ้นก่อน แต่อีกใจก็อยากจะซื้อแบบไม่แพงมากจนเกินไป (ตกลงทั้งบ้านทั้งรถนี่คิวไหนจะถอยก่อนก็ไม่ทราบได้เจ้าค่ะ แต่ปีหน้าแฟนไม่แพงนะ จะขอก็รีบขอ)




ผลงานละครปีนี้ จะโดนใจแม่ยก (ประเทศไทยหรือไม่เนี่ย) ยังไงซะขอแนวจอมยุทธไว้ก่อน อิอิ หนุ่มฟงก็ต้องร่ายรำกระบี่ต่อไป (อยากเห็นแกมบังคับอีกต่างหาก) ส่วนงานเพลงก็รุ่งกว่าที่คาดไว้อย่างมากมาย เพราะปล่อยของดีออกมาสองอัลบั้มแล้ว เรียกว่าในบรรดาดาราทีวีบีที่มาเป็นนักร้อง หนุ่มฟงได้รับการโหวตจากชาวเน็ตมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ว่าร้องเต้นเล่นละครดี ผลงานเข้าตาได้มาตรฐานสูงกว่าใครเพื่อน (ฉานเปล่าเอียง เขาโหวตมางี้) ตามมาด้วยสาวหมวยลินดา ....อันดับ 3 น้องหู และอันดับ 4 นายบอสโก้






เข้าสู่ปีวัว แต่ส่งหนุ่มปีแพะมาเป็นเพื่อนกาน แต่จะให้เด็กแม่ยกขี่แพะก็ดูจะโลโซไปนิสค่ะ แต่ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับม้า ผู้จัดเป็นอันต้องรีบเชิญหนุ่มหลินฟงไปเข้าร่วมทันใด ประเดิมปีวัวกับงานม้าแข่งที่ happy valley ออกเป็นคู่กับสาวอายุ (เหลือน้อย) ระดับซือเจ๊หวังหมิงฉวนค่ะ ยืนโพสต์ท่ากับเกือกม้าทองคำที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง......แบบนี้จะให้กลับบ้านได้หรือเปล่าคะท่านประธานชมรมม้าแข่ง หนักแค่ไหนก็ไม่ย่อท้อ






หนุ่มฟงเปิดเผยคิวงานต่อไปให้ฟังว่า ในวันที่ 3 ของปีใหม่จีน (ทำไมมันต้องฟังยากว่ะ ตรงกับวันที่ 28 Jan’09 ใช่มะเนี่ย) ผมจะไปโชว์ตัวรับเงินเข้ากระเป๋าที่มาเก๊า (คุณชายโกยค่ะโกย) ผมโดนลดเงินเดือนเพราะพิษแฮมเบอเกอร์ แต่ผมรู้สึกค่อนข้างโชคดี (ลดเงินนี่มันดีไง โชคดีที่ไม่โดนไล่ออก เอ๊ย ปลดออกซะม้าง) งานนี้หนุ่มฟงโดนรีเควสต์ให้ไปถ่ายรูปกับเหล่า jockey ฝึกหัด และขอให้หอมแก้มพวก jockey ด้วย......หน่มฟงส่งยิ้มล้ำหน้าไปก่อน แล้วส่ายหัวว่า ไม่อาวอ่ะ อายง่ะ ไม่จัดให้ตามที่ขอหรอก......แป่ว ! (ให้จูบม้ายังง่ายกว่าอีกย่ะ ฟงไม่ปฏิเสธ ไม่เชื่อลองขอดิ่)













ต้อนรับปีฉลู อู้ฟู่ไปด้วยเงินทอง เห็นจะเต็มไปด้วยเงินทองไหลมาเทมาสำหรับเฮียซุปเปอร์สตาร์ของฮ่องกงคนนี้ มีคงเลียวแหละคร่า เฮียหลิวเต๋อหัวจอมขยัน สมกับเป็นราศีวัวแห่งปี เฮียก็มีภารกิจวุ่นวายหลายอย่าง อาทิเช่น ถ่ายหนัง Future Cop , โปรโมทหนังใหญ่เรื่อง Looking For A Star , ถ่ายโฆษณาเป็นพรีเซ็นเตอร์สารพัดอย่างของความเป็นคนบันเทิง และตอนนี้เฮียหลิวก็กลายเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ประดุจศิลปินเอกแห่งเกาะไปซะแร้วค่ะ นั่นก็คืองาน Cow Parade Taipei 2009 ผู้จัดงานนี้ได้เล็งเห็นความดี คือความเป็นวัว (คือนิคเนมของพี่หลิว) อีกทั้งปี’09 ก็ตรงกับปีวัวพอดิบพอดี จึงได้เชิญเฮียหลิวมาดโชว์การครีเอทโมเดลวัว (ควาย) นี่แหละคร่า






เฮียหลิวบอกว่า งานพาเหรดคุณวัวได้ดำเนินมาจนครบรอบปีที่ 10 พอดีในปี 2009 ผมโชคดีมากที่ได้รับเชิญมาออกแบบคุณวัวในครั้งนี้ ผมก็จะพยายามดีไซน์ออกมาให้ perfect ที่สุด (ตามแบบตัวเอง) ผมก็จะวาดรูปลูกชายผม 2 คน ลงไปบนวัว คุณจะเห็น Andox & Blackie ยืนในทิศทางแตกต่างกัน (เรียกว่าไปกันคนละทิศละทาง) พ้อยท์สำคัญคือต้องวางตำแหน่งอย่างระมัดระวังเพื่อให้ดูดี (ต้องระวังกันม้ากเป็นพิเศษ เพราะวัวก็มีแค่ตัวเดียว) ขั้นตอนที่ยากที่สุดแต่ก็สนุกที่สุดก็คือตอนพ่นสเปรย์สีขาวลงไป.....เล่นเอาเลอะกระจายไปทั่วเลย (แต่ออกมาเป็นวัวกราฟฟิคนะเนี่ย เหมือนจะเล่นเทคนิคแบบจุด ๆ) เฮียหลิวบอกว่า ผมก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ หลังจากครีเอทวัวเสร็จก็ชักอยากตกหลุม....ตกหลุมรัก งานศิลปะเข้าให้แล้ว ทำให้ผมอยากติสแตรกขึ้นมาตะหงิด หวังว่าจะจัดเวลาไปเรียนให้ได้เลยครับ (เฮียจะไปเป็นศิลปินแห่งชาติอีกเลี้ยวค่ะคุณผู้ชม)


















การรอคอยได้สิ้นสุดลง หลังจากที่เดี๊ยนรมณ์ค้างไปตั้งกะปีที่แล้ว งานระดับบิ๊ก โปรดักชั่นอลังการของท่านจอห์นวู เรื่อง สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ ภาค 2 ได้ฤกษ์ทำสงครามผาแดงกันต่อแล้ว ด้วยทุนสร้างอันมหาศาล ทำรายได้ทั่วเอเชียถล่มทลายไป 100 กว่าล้านเหรียญ อีกทั้งความยาวหนัง 4 ชม. ท่านวู ได้ตัดสินใจแบ่งออกเป็นสองเฟส (ตอนแรกกะจะสร้างคอนโด) เหตุผลของท่านวูคือเพื่อที่จะมีช่วงเวลาให้ได้พัฒนาคาแรกเตอร์ของตัวละครมากยิ่งขึ้น เฟสแรกก็โชว์ความเป็นมาของแต่ละก๊กแต่ละเหล่า ความเป็นแม่ทัพสุดยอดของท่านจิวยี่ , ความฉลาดของท่านขงเบ้งในการวางแผนพิชิตกองทัพของโจโฉ (แต่ท่านขงเบ้งบอกโบร่ำโบราณกับวิธีจัดทัพ) ความหวานซ่อนเปรี้ยวของภรรเมียท่านจิวยี่ คือเสียวเกี้ยว , ความแก่นกะโหลก ห้าวเหมือนบุรษของแม่นางซุนซ่างเซียง , ความจงรักภักดีและฝีมือรบอันเกรียงไกรไร้เทียมทานของแม่ทัพจูล่ง และก็ฉากจัดทัพกระดองเต่าที่เป็นไฮไลท์มั่ก ๆ










หลังจากบ่มจนฟิตเนสได้ที่ เดี๊ยนก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเฟสสองนี้จะได้พบฉากอลังการอย่างไรบ้าง ที่แน่ ๆ กองทัพเรือแปดแสนที่มีสายลับนกพิราบพาไปทัวร์ (สอดแนม)ในภาคแรก ท่านวูก็นำทีมดารานำแห่งสามก๊กเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วที่เมืองปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และจะฉายความยิ่งใหญ่ในวันพุธนี้ (7 Jan ’09) ไม่ว่าจะนำเสนอกลยุทธในด้านไหน เดี๊ยนขอจ้องหน้าผู้ชายสองคนไว้ก่อนคือ ท่านขงเบ้งและท่านจิวยี่ เราจะไปสำรวจทุกอณูบนใบหน้าท่าน ณ บัดนาวที่เข้าโรง และท่านจอห์นวู กลัวชาวต่างด้าว เฮ้ย ต่างชาติ จะนั่งดูจนรากยึดเก้าอี้ จึงได้นำเสนอเวอร์ชั่นตัดต่อใหม่เอี่ยมอ่อง สิริรวมความยาวเพียงแค่ 2 ชม.ครึ่งเท่าน้าน งานนี้คงจะรับทรัพย์มหาศาลจากฝาหรั่งอีกอื้อเลยทีเดียวเชียว











ความรักของสองเราฝ่ามรสุมสึนามิมาได้จนกระทั่งมีวันนี้ วันที่เราสองคนมาจดทะเบียนร่วมหอลงโรงกันนะจ้ะ ขอเชิญผู้อ่าน blog ร่วมเป็นสักขีพยาน (เค้าไม่ได้เชิญหล่อนหรอกนะยะ) แต่เราก็ขอไปร่วมยินดีกับเจ้าสาวปีฉลูกันหน่อย......โจวฮุ่ยหมิ่น & หนีเจิ้น คู่แต่งงานต้อนรับปีวัว (5 Jan’09) ซึ่งงานพิธีก็จัดได้อย่างเป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว อย่างมาก (ก้อเข้าสู่วัยแรกเยิ้มเลข 45 & 42 กันแล้ว เอาไปแทงหวยก็ตามใจนะ)





ข่าวรายงานว่าพิธีจดทะเบียนสมรสจัดให้มีขึ้นในเวลา 4 โมงเย็น เชิญแขกพิเศษและเพื่อนสนิทประมาณ 20 คน เข้าร่วมยินดีในพิธีนี้ เพื่อนที่แสนดีในวงการอย่างกู่จี้จี ,Jo Koo และผู้จัดการของเจ๊วิเวียน ก็ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานและการสาบานรักของบ่าวสาวในครั้งนี้ แต่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายไม่ได้มาร่วมพิธี......หลังจากคู่บ่าวสาวกล่าวคำปฏิญาณรัก และจรดปากกาขนนกลงในทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว เป็นอันว่าไอเลิฟยู forever…..บ่าวสาวก็แลกแหวนแต่งงานซึ่งกันและกัน (งานนี้ไม่ตบท้ายด้วย kiss เพราะก่อนหน้าหนีไปคิสมาพอแระ) พิธีนี้จัดขึ้นที่บ้านของเจ๊วิเวียน ตกแต่งบรรยากาศอย่างเรียบง่าย ประกอบด้วยเค้กแต่งงาน 3 ชั้น งานนี้เจ๊วิเวียนไม่มีหยาดน้ำตาแห่งความปิติ แต่ส่งยิ้มหวานตลอดงาน ทำให้บรรยากาศหวานซึ้งและอบอุ่น





หลังจากเจ้าสาวแสนสวยได้จดทะเบียนกลายเป็น คุณนายหนีฮุ่ยหมิ่น อย่างเป็นทางการแล้ว เจ้าสาวปีวัวก็เปิดเผยความรู้สึกกับผู้จัดการส่วนตัวชื่อ Gary ว่า “วันนี้ฉันมีความสุขมาก และเจ้าบ่าวก็กล่าวขอบคุณที่ Gary ให้การสนับสนุนพวกเราทั้งคู่ สำหรับของจัดเลี้ยงในงานก็ไม่ได้จัดเตรียมอะไรมากมาย มีการเตรียมมิลค์คัสตาด 20 ถ้วยไว้สำหรับเสริฟแขกที่มาร่วมงาน งานนี้เจ้าบ่าวลงทุนไปที่ฟาร์ม (ฟาร์มไหนม่ายรู้) เพื่อไปลองชิมคัสตาดด้วยตัวเอง และขอให้คุณ Jo Koo สั่งมาเป็นพิเศษสำหรับงานนี้ (เอ่อ เศรษฐกิจร่อแร่อย่างนี้ คัสตาดคนละถ้วยก็อิ่มได้ล่ะนะ) ขอให้แขกทุกคนสำลักควัน เหอ....สำลักความหวานกันถ้วนหน้าเลยคร่า






เจ๊วิเวียนก็ได้ปล่อยภาพหวานออกมาให้ได้ยลกัน 3 ภาพ (เจ๊วิเวียนก็ว่าบุญแล้วล่ะย่ะ) พวกเราก็จะได้เห็นว่าเจ๊วิไม่ได้สวมชุดเจ้าสาวแนวเกาะอกคลุมโปง คลุมผ้ายาวบนหัวไง แต่สวมชุดเรียบหรูสีขาวในสไตล์ Audrey Hepburn ที่ดีไซน์โดย Dorian Ho มูลค่าชุดสองแสนเหรียญ มีการเล่นช่วงบนของชุดด้วยผ้าบางเนื้อละเอียดจากฝรั่งเศสพร้อมประดับด้วยคริสตัลของ Swarovski……..ส่วนเจ้าบ่าวก็สวมสูทตามมาตรฐานความหล่อของตัวเองค่ะ มาในชุดทักซิโด้สีดำ ถ่ายภาพคู่กันสบตาปิ๊ง ๆ หวานซึ้ง และข่าวยังมีเพิ่มเติมอีกว่า นิตยสารฉบับล่าสุดที่มีคอลัมน์ส่วนตัวของหนีเจิ้น ก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน แต่มีหรือนักข่าวจะนิ่งเฉย ได้โทรศัพท์ไปถามต้นสังกัดเจ๊วิเวียนในทันที ก็ได้รับข่าวจากตัวแทนว่า คู่แต่งงานใหม่มีโครงการไปไทยแลนด์แดน smile (ยิ้มไม่ค่อยออกช่วงนี้) เพื่อจะไปเยี่ยมลูกสาวที่ได้รับอุปถัมภ์ไว้ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเดินทาง......นึกว่าโครงการนี้จะล่มสลายซะแร้ว แต่คงควบฮันนีมูนด้วยเลยใช่มั้ยเจ๊วิเวียน หรือมูนกันจนเบื่อ ต้องเปลี่ยนจากดื่มน้ำผึ้งเป็นกาแฟแก้เครียด เพราะเดี๋ยวข่าวมือที่สามจะตามมาหลอกหลอน











ชมดาราสมัยเด็กเอ๋ยเด็กน้อยในห้องแดนมังกร














Create Date : 09 มกราคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2554 13:35:46 น. 1 comments
Counter : 3033 Pageviews.

 
แวะมาสวัสดีปีใหม่จ้า

อัพเทข่าวด้วย คลิปงานเกือกม้าเนี่ยมีให้โหลดที่บ้านฟงด้วยน้า ไปตามเก็บเอาละกันค่ะ


โดย: midori IP: 124.122.156.243 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:12:46:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าน้อยคาราวะ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




小花

Friends' blogs
[Add ข้าน้อยคาราวะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.