BlogGang.com : : scimovie : คลังข้อสอบวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 24 เรื่อง น้ำเพื่อชีวิต

คลังข้อสอบวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 24 เรื่อง น้ำเพื่อชีวิต

คลังข้อสอบวิทยาศาสตร์ ระดับประถมศึกษาตอนปลายถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้นภายในบล๊อกนี้(//free4u.bloggang.com)จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์แก่นักเรียนและผู้สนใจที่ต้องการเพิ่มพูนความรู้และต้องการทดสอบความสามารถ ซึ่งผู้จัดทำได้รวบรวมข้อทดสอบจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และสร้างขึ้นมาเอง มารวบรวมไว้และจำแนกเป็นเรื่องย่อยๆ เพื่อง่ายต่อการค้นหา(จาก google) ถ้าหาก webmaster หรือ Blogmaster มีความประสงค์ที่จะคัดลอกไปวางไว้ที่หน้าเว็บของท่านก็สามารถทำได้ ขอเพียงมีลิ้งค์อ้างอิงแหล่งที่มาเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และขอบคุณในความร่วมมือมาในที่นี้ด้วย

คลังข้อสอบวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 24 เรื่อง น้ำเพื่อชีวิต

คำชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาคำถามให้เข้าใจแล้วเลือกหาคำตอบที่คิดว่าถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1.นายทองแดงหนัก 75 กิโลกรัม ในร่างกายของนายทองแดงมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ
ก. 25 กิโลกรัม
ข. 38 กิโลกรัม
ค. 50 กิโลกรัม
ง. 56 กิโลกรัม

2.ต่อไปนี้ข้อใดเป็นแหล่งน้ำที่มีน้ำมากที่สุด
ก.น้ำในธารน้ำแข็ง
ข.น้ำใต้ดิน
ค.น้ำในบรรยากาศ
ง.น้ำในทะเลสาบและแม่น้ำ

3.วัฏจักรของน้ำ คือ
ก.การที่ไอน้ำกลายเป็นน้ำ
ข.การที่น้ำกลายเป็นไอน้ำ
ค.การที่น้ำแข็งกลายเป็นน้ำและน้ำกลายเป็นไอน้ำ
ง.ไม่มีข้อใดถูก

4.น้ำบาดาลที่เป็นชั้นน้ำปกติ เราจะขุดและฝังท่อลงไปเพื่อนำน้ำมาใช้นั้นจะต้องใช้เครื่องสูบเมื่อใด
ก.ปากท่ออยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดของชั้นน้ำใต้ดิน
ข.ปากท่ออยู่ต่ำกว่าระดับต่ำสุดของชั้นน้ำในดิน
ค.ปากท่ออยู่สูงกว่าระดับสูงสุดของชั้นน้ำใต้ดิน
ง.ปากท่ออยู่สูงกว่าระดับต่ำสุดของชั้นน้ำใต้ดิน

5.ระดับน้ำใต้ดินจะลดต่ำลงเมื่อใด
ก.บริเวณนั้นเกิดความแห้งแล้ง
ข.บริเวณนั้นมีฝนตกมากขึ้น
ค.บริเวณนั้นมีการสูบน้ำบาดาลมากขึ้น
ง.บริเวณนั้นมีการเพาะปลูกมากขึ้น

6.หลักการสำคัญที่สุดของการสร้างเขื่อนคือข้อใด
ก.กักและทดน้ำให้มีระดับสูงสุด
ข.มีช่องระบายน้ำออกไปได้
ค.มีเครื่องจักรในการผลิตไฟฟ้า
ง.เก็บกักน้ำไว้ให้การคมนาคมต้นน้ำสะดวก

7.เขื่อนใดที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก
ก.เขื่อนภูมิพล
ข.เขื่อนเจ้าพระยา
ค.เขื่อนสิริกิติ์
ง.เขื่อนแก่งกระจาน

8.ข้อใดเป็นวิธีการสร้างอาบเก็บน้ำ
ก.การขุดพื้นดินให้เป็นแอ่งสำหรับเก็บน้ำ
ข.การสร้างทำนบในที่ลุ่มเพื่อขังน้ำทีมีในฤดูฝน
ค.การทำประตูระบายน้ำ
ง.การสูบน้ำเข้ามาเก็บไว้ในแอ่งน้ำธรรมชาติ

9.อุณหภูมิที่ไอน้ำในอากาศควบแน่นเป็นละอองน้ำหรือหยดน้ำออกมาเรียกว่าอะไร
ก.จุดควบแน่น
ข.จุดเดือด
ค.จุดเยือกแข็ง
ง.จุดน้ำค้าง

10.เพราะเหตุใดน้ำค้างจึงตกในเวลากลางคืน
ก.กลางคืนต้นไม้คายน้ำมาก
ข.กลางคืนไม่มีแสงสว่าง
ค.กลางคนอุณหภูมิต่ำลงถึงจุดน้ำค้าง
ง.ไม่มีข้อใดถูก

11.จุดหลอมเหลวและจุดเยือกแข็งของน้ำต่างกันอย่างไร
ก.จุดหลอมเหลวสูงกว่า
ข.จุดเยือแข็งสูงกว่า
ค.จุดหลอมเหลวเท่ากับจุดเยือกแข็ง
ง.ยังสรุปแน่นอนไม่ได้

12.เพราะเหตุใดน้ำแข็งจึงลอยน้ำได้
ก.มีมวลน้อยกว่าน้ำ
ข.เบากว่าน้ำ
ค.มีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ
ง.มีสถานะเป็นของแข็ง

13.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ต้องใช้พลังงานความร้อน
ก.การระเหยของน้ำ
ข.การควบแน่นของน้ำ
ค.การหลอมเหลวของน้ำแข็ง
ง.การเดือดของน้ำ

14.น้ำกระด้างถาวรมีสารใดละลายอยู่
ก.แคลเซียมซัลเฟต
ข.แคลเซียมไฮดรอกไซด์
ค.แคลเซียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
ง.แคลเซียมออกไซด์

15.สารใดที่ใช้แก้ความกระด้างของน้ำ
ก.ปูนขาว
ข.โซดาไฟ
ค.โซดาซักผ้า
ง.สารส้ม

16.น้ำอ่อนมีสมบัติอย่างไร
ก.มีสถานะเป็นของเหลว
ข.น้ำที่สะอาดไม่มีสิ่งเจือปน
ค.น้ำที่ผ่านการกรองแล้ว
ง.น้ำที่ให้ฟองกับสบู่

17.ข้อใดเป็นผลดีของน้ำกระด้าง
ก.มีรสดีชวนดื่ม
ข.ป้องกันโรคพิษจากตะกั่ว
ค.ทำให้เกิดหินงอกหินย้อย
ง.ถูกทุกข้อ

18.ถ้านักเรียนอยากทราบว่าน้ำในบ่อหลังบ้านเป็นน้ำกระด้างหรือไม่ควรทดสอบอย่างไร
ก.ชิมดูถ้ามีรสฝาดเป็นน้ำกระด้าง
ข.ใช้สารส้มแกว่งถ้าเกิดตะกอนเป็นน้ำกระด้าง
ค.กรองโดยใช้ผ้าขาวม้า ถ้าพบตะกอนเป็นน้ำกระด้าง
ง.เขย่ากับน้ำสบู่ไม่เกิดฟองเป็นน้ำกระด้าง

19.เมื่อใช้สารส้มแกว่งในน้ำขุ่น น้ำจะใสขึ้นเพราะเหตุใด
ก.สารส้มทำให้สารแขวนลอยละลายน้ำ
ข.สารส้มทำให้สารแขวนลอยตกผลึก
ค.สารส้มทำให้สารแขวนลอยตกตะกอน
ง.สารส้มทำให้สารแขวนลอยแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆ

20.กระดาษกรองใช้แยกสารชนิดใดออกจากน้ำได้
ก.ของแข็งที่ละลายอยู่ในน้ำ
ข.ของแข็งที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ
ค.สารที่ทำให้เกิดสีและกลิ่น
ง.ถูกทุกข้อ

21.ถ่านในหม้อกรองน้ำตามบ้านมีประโยชน์อย่างไร
ก.ทำให้น้ำใส
ข.ดูดซับเชื้อโรค
ค.ดูดสีและกลิ่น
ง.ดูดสารแขวนลอย

22.ในเครื่องกรองน้ำตามบ้านควรเรียงลำดับสิ่งต่าง ๆจากบนไปล่างดังนี้
ก.ทรายละเอียด ทรายหยาบ ถ่าน กรวดละเอียด กรวดหยาบ
ข.กรวดหยาบ กรวดละเอียด ถ่าน ทรายหยาบ ทรายละเอียด
ค.กรวดหยาบ กรวดละเอียด ทรายหยาบ ทรายละเอียด
ง.ทรายละเอียด ทรายหยาบ กรวดละเอียด กรวดหยาบ

23.กระบวนการต้มของเหลวให้กลายเป็นไอ แล้วทำให้ไอควบแน่นเป็นของเหลวเรียกว่า
ก.การกลั่น
ข.การควบแน่น
ค.การระเหย
ง.การระเหิด

24.ในการใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ควรปฏิบัติอย่างไร
ก.จุดโดยนำไฟต่อจากไฟตะเกียงดวงอื่น ดับโดยใช้ปากเป่า
ข. จุดโดยนำไฟต่อจากไฟตะเกียงดวงอื่น ดับโดยใช้ฝาครอบ
ค.จุดโดยใช้ไม้ขีด ดับโดยใช้ปากเป่า
ง.จุดโดยใช้ไม้ขีด ดับโดยใช้ฝาครอบ

25.ในกระบวนการทำน้ำประปาต้องเติมสารส้มเพื่อ
ก.ทำลายเชื้อโรคในน้ำ
ข.กรองน้ำให้สะอาดขึ้น
ค.จ่ายน้ำไปได้ดีและไกลขึ้น
ง.ถูกทุกข้อ

26.ในหมู่บ้านจัดสรรมักจะเห็นถังน้ำขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ในที่สูงเพื่อ
ก.ประหยัดพื้นที่
ข.โฆษณาหมู่บ้านเพราะเห็นได้แต่ไกล
ค.จ่ายน้ำไปได้ดีและไกลขึ้น
ง.ถูกทุกข้อ

27.น้ำที่ใช้สำหรับชุมชนควรทำลายเชื้อโรคโดยวิธีใด
ก.ต้ม
ข.กลั่น
ค.กรอง
ง.เติมสารเคมี

28.โรคมินามาตะเกิดจากอะไร
ก.ขาดสารอาหารบางชนิด
ข.รับประทานอาหารมากเกินไป
ค.มีสารปรอทในร่างกายมากเกินไป
ง.มีสารตะกั่วในร่างกายมากเกินไป

29.การเทผงซักฟอกลงไปในแม่น้ำลำคลองจะเกิดน้ำเสียเพราะ
ก.ฟองจะคลุมผิวหน้าของพื้นน้ำไว้ทำให้ออกซิเจนละลายลงในน้ำไม่ได้
ข.องค์ประกอบของผงซักฟอกเป็นพิษต่อจุลินทรีย์ในน้ำ
ค.จุลินทรีย์ต้องใช้ออกซิเจนในน้ำทำลายสารอินทรีย์ที่เกิดมากขึ้น
ง.ออกซิเจนในน้ำเกิดปฏิกิริยาเติมออกซิเจนกับองค์ประกอบของผงซักฟอก

30.ถ้านำน้ำทิ้งจากโรงงานน้ำตาลซึ่งไม่มีระบบกำจัดน้ำเสียมาตรวจสอบหาค่า DO และ BOD จะพบว่าเป็นอย่างไร
ก. DO สูงกว่า 3 mg/l และ BOD สูงกว่า 100 mg/l
ข. DO สูงกว่า 3 mg/l และ BOD เท่ากับ 100 mg/l
ค. DO น้อยกว่า 3 mg/l และ BOD น้อยกว่า 100 mg/l
ง. DO น้อยกว่า 3 mg/l และ BOD สูงกว่า 100 mg/l

31.โรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งมีระบบกำจัดน้ำทิ้ง โดยใช้ใบพัดหมุนตีน้ำให้แตกกระจายอยู่ตลอดเวลาเพื่ออะไร
ก.เพิ่มอาหารให้กับจุลินทรีย์ในน้ำ
ข.เติมออกซิเจนให้กับน้ำ
ค.ควบคุมความเป็นกรดเบสของน้ำ
ง.ทำให้น้ำมีอุณหภูมิพอเหมาะ

32.โรคอิไต อิไต เกิดจากพิษของสารใด
ก.ตะกั่ว
ข.แคดเมียม
ค.ปรอท
ง.แมงกานีส

33.การวัดความเน่าเสียของน้ำเรามักวัดปริมาณของ
ก.ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ข.ก๊าซออกซิเจน
ค.ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
ง.สารอินทรีย์ในน้ำ

34.การปลูกป่าเป็นการอนุรักษ์น้ำเนื่องจาก
ก.ป่าไม้ทำให้ฝนตก
ข.ใบไม้คายน้ำให้บรรยากาศ
ค.ต้นไม้ช่วยชะลอการระเหยและไหลซึมของน้ำ
ง.ต้นไม้จะเก็บน้ำสะสมไว้ในลำต้น

Create Date : 07 ธันวาคม 2552

Last Update : 7 ธันวาคม 2552 9:52:50 น.

0 comments

Counter : 20209 Pageviews.