เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
7 เมษายน 2558
 

นายกฯ "หลี่เสียนหลง" เล่า ลีกวนยูเลี้ยงลูกอย่างไร?


นายกฯ "หลี่เสียนหลง" เล่า ลีกวนยูเลี้ยงลูกอย่างไร?

ของสุทธิชัย หยุ่น

     ขอนำเรื่องราวดีๆของครอบครัวผู้นำสิงคโปร์ ซึ่งคุณสุทธิชัย หยุ่น ได้นำมาเผยแพร่
อ่านแล้วชอบมาก ดิฉันเตือนใจ เจริญพงษ์ ขออนุญาตนำมารวบรวมไว้ ขอขอบพระคุณมากคะ

ภาพนี้อดีตนายกฯลีกวนยูและภรรยากับนายกฯหลี่เสียนหลงแห่งสิงคโปร์

ตอนเด็ก ทั้งพ่อแม่ลูกมีรอยยิ้มแห่งความสุขของการเป็นครอบครัวที่ 

“เคร่งครัด, เอาจริง และมุ่งมั่น”

มีคนอยากรู้มากว่าลีกวนยูที่เพิ่งจากไปในวัย 91 มีวิธีเลี้ยงลูกอย่างไร?

คงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ดีไปกว่าลูกคนโตที่เป็นนายกฯปัจจุบัน

คือหลี่เสียนหลงซึ่งเคยให้สัมภาษณ์เมื่อสองปีก่อนว่า

“คุณพ่อเคร่งครัดในการเลี้ยงดูลูกมาก เป็นคุณพ่อที่ประเสริฐยิ่ง 

ส่วนใหญ่ท่านให้คุณแม่ดูแลพวกเรา เพราะท่านยุ่งกับงานการเมือง

และความรับผิดชอบในหน้าที่มาก แต่เราในฐานะลูกจะรู้สึกเหมือนกับว่า

ท่านอยู่กับเราตลอดเวลา และเราก็รู้ว่าท่านคาดหวังอะไรจากเรา 

ท่านเข้มเรื่องวินัย และถ้าท่านไม่เห็นด้วยกับอะไรบางอย่าง, 

ท่านไม่ต้องพูดเราก็รู้ได้ และเมื่อเราต้องการท่าน, 

ท่านก็จะอยู่กับเรา ทุกครั้งที่มีวิกฤต, ท่านเป็นกุญแจสำคัญของครอบครัว 

ตอนที่ผมป่วยเป็นมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง และเมื่อภรรยาคนแรกของผมเสียชีวิต 

เราพึ่งพาการสนับสนุนและกำลังใจจากคุณพ่อ...ไม่ใช่เพียงจากถ้อยคำของท่าน

 แต่แค่ท่านอยู่กับเรา เราก็รู้ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเป็นปกติ....”

นายกฯหลี่เสียนหลงบอกว่าคุณพ่อเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิต 

เป็นทั้งผู้สอนสั่งและผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตของตน อีกทั้งยังเป็นตัวอย่าง

ของการดำรงชีวิตอีกด้วย

ตอนเด็ก ๆ ความทรงจำที่ประทับใจคืออะไร?

คุณพ่อมักพาลูก ๆ ไปดูรถไฟตอนเย็น ๆ เพื่อดูรถไฟเข้าออกจากสถานี

 “ตอนนั้นผมอายุสัก 5-6 ขวบได้กระมัง เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น

ที่ได้เห็นรถไฟและได้แลกของระลึกจากนายสถานีรถไฟด้วย เวลาเราไปพักร้อน 

คุณพ่อและคุณแม่จะพาไป  Cameron Highlands และเราก็จะหยุดพักที่กัวลาลัมเปอร์ พักที่โรงแรมรถไฟ และเราเด็ก ๆ ก็ได้วิ่งไปดูรถไฟกัน...”

ลีกวนยูเล่นกอล์ฟ จึงเชียร์ให้ลูกหัดตีบ้าง พ่อลูกจึงเล่นกอล์ฟกัน

เป็นประจำในระยะหนึ่ง 

การได้พูดคุยกับคุณพ่อระหว่างตีกอล์ฟคือช่วงเวลาของการเรียนรู้แลกเปลี่ยนระหว่างพ่อกับลูก

“คุณพ่อไม่ได้ทำกิจกรรมตลกคะนองอะไรมากมาย แต่ท่านมีเวลาให้กับครอบครัว”

ถามถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างพ่อกับลูก 

หลี่เสียนหลงบอกว่า “คุณพ่อไม่ใช่คนแสดงออกอะไรมากมาย 

และครอบครัวของเราก็ไม่ใช่ประเภทสนิทสนมด้วยการจับต้อง 

แต่สมาชิกในครอบครัวต่างมีความเคารพและเชื่อมโยงกัน 

คุณพ่อเอาจริงเอาจังกับลูก ๆ และเราเคารพนับถือท่านอย่างสูงสุด 

ถ้าเปรียบเทียบกับครอบครัวปัจจุบัน ครอบครัวเราอาจจะเรียกได้ว่า

มีความสัมพันธ์กันแบบค่อนข้างเป็นทางการ ทุกวันนี้ ความสัมพันธ์ในครอบครัว

อาจจะเกร็งน้อยว่าทั้งในการปฏิบัติต่อพ่อแม่ หรือวิธีการพูดหรือเถียงกับผู้ใหญ่ 

แต่สำหรับเราก็ต่างกันเพราะเราเป็นคนละรุ่น (generation) กัน”

นายกฯหลี่เสียนหลงเล่าว่าเรื่องการเรียนหนังสือ 

คุณพ่อไม่ต้องยุ่งมากนัก เพราะลูกทั้งสามต่างก็เรียนหนังสือ

กันอย่างจริงจังด้วยตัวเองอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ต้องคอยกวดขัน

หรือตรวจสอบ

“ผมไม่ใช่นักเรียนที่สอบได้คะแนนดีที่สุดของห้อง แต่ตราบเท่าที่ผมทำดีที่สุด

 ก็โอเค”

เคยถูกคุณพ่อลงโทษไหม?

“ก็มีบ้างเป็นครั้งคราว คุณแม่เป็นคนดูแลวินัยของพวกเรา 

แต่ถ้าคุณพ่อไม่พอใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรา, เราก็จะรู้เอง”

อะไรคือคำแนะนำที่สำคัญที่สุดจากคุณพ่อ?

“ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 

แต่สิ่งที่ผมได้อาจจะมาจากการได้เฝ้าดูคุณพ่อทำงาน ต่อสู้ 

และรับรู้ถึงการที่ท่านต้องเผชิญกับประเด็นและความท้าทายทั้งหลายทั้งปวง 

ท่านเป็นสิ่งบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม ท่านสอนให้เห็นว่าการทำนโยบาย

ต้องให้เข้าใจได้ และทำในสิ่งที่จะต้องทำ...ผมเห็นท่านทุ่มเทกับการเรียนภาษา

โดยเฉพาะภาษาจีนกลางอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วก็ประทับใจมาก ท่านฟังเทป 

ฟังคุณครู และฝึกแล้วฝึกอีกจากเทป...ท่านฝึกฝนภาษาจีนกลางและฮกเกี้ยน

อย่างไม่ลดละ แม้เมื่อท่านมีอายุมากแล้วก็ยังเรียนทุกวัน เพราะท่านไม่ต้องการ

จะลืมสิ่งที่ท่านได้พยายามร่ำเรียนมาตลอดชีวิต นั่นเป็นตัวอย่างชีวิตส่วนตัว

ที่น่าทึ่งจริง ๆ “

นายกฯหลี่เสียนหลงเล่าว่าแม้จะเป็นผู้อาวุโสในคณะรัฐมนตรี 

แต่บ่อยครั้งก็มีความคิดเข้มข้นไม่เบา

“ผมเฝ้าดูท่านในคณะรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกที่อายุมากที่สุด 

บางครั้งท่านมีความคิดสุดขั้วกว่าเพื่อน เช่นเรื่องคาสิโน 

ท่านต่อต้านอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่หลายปี แต่ในท้ายที่สุด 

พวกเราก็สรุปว่าบ้านเมืองเปลี่ยนไปแล้ว และจอร์จ เยียว (รัฐมนตรีการค้า

และอุตสาหกรรมขณะนั้น) ก็ยืนยันด้วยเหตุและผลว่าทำไมเราต้องเดินหน้า 

เพราะโลกเปลี่ยนแล้วและเราก็ต้องเปลี่ยนตาม 

ผมคิดว่าท่านยังรักษาความเป็นนักคิดนักต่อสู้ของยุคสมัยแม้จะอายุมาก

เป็นเรื่องน่าทึ่งมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...”

นี่คือความทรงจำของลูกที่เป็นนายกฯกับพ่อที่เป็นผู้ก่อตั้งประเทศ

 ยังมีรายละเอียดน่าสนใจระหว่างพ่อกับลูกคู่นี้

ที่จะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป


.................................................................................................................................



Create Date : 07 เมษายน 2558
Last Update : 19 กันยายน 2558 5:59:18 น. 0 comments
Counter : 1053 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

justice0009
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add justice0009's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com