<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
29 มกราคม 2558

สูตรบริหาร ผู้นำไฟเซอร์(Pfizer) สไตล์สแกนดิเนเวียน




คนต่างหากที่สำคัญเพราะการจะเปลี่ยนโลกหรือจะสร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ย่อมอาศัยคน  

เชื่อว่าผู้นำส่วนใหญ่ หรือใครหลายต่อใครอีกหลายคนบนโลกใบนี้ ร้อยทั้งร้อยมักจะมีแจ๊ค เวลซ์ ,โดนัลด์ ทรัมป์ ฯลฯ เป็นโรลโมเดลอยู่ภายในใจ 

แต่ถือเป็นกรณียกเว้น สำหรับ"มร. คริสเตียน มัลเฮอร์บี" ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด



"เป็นตัวของตัวเองนั้นเป็นอะไรที่ดีที่สุด"
คือคำกล่าว

ประเด็นสำคัญ เขามองว่าคงไม่มีซีอีโอ หรือผู้นำคนใดที่เก่งกล้าสามารถ กระทั่งนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้เพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยทีมงาน เพื่อนร่วมงานทั้งสิ้น

ดังนั้นแทนที่จะเรียกว่าพนักงาน ไฟเซอร์ก็เรียกพวกเขาว่า "Colleague" หรือเพื่อนร่วมงาน

ที่จะมากขึ้นไปกว่าเดิมก็คือ มร. คริสเตียน วางแผนว่าในยุคที่เขาเป็นผู้นำจะต้องสร้างความใกล้ชิดระหว่างตัวผู้นำกับเพื่อนร่วมงานให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

ในทางสัญลักษณ์ ต่อจากนี้ไฟเซอร์จะไม่มี "ห้อง" ประจำตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยอีกต่อไป มร.คริสเตียนขันอาสาขอไปนั่งรวมกันกับเพื่อนร่วมงาน และได้ทำการตกแต่งพื้นที่บริษัทเสียใหม่โดยจะเน้นความโล่งมองเห็นกันได้ คือไม่มีห้อง และจะไม่มีฉากกั้นห้อง

ขณะที่ในการปฏิบัติหรือการลงมือทำนั้น ผู้นำคนนี้พยายามทะลายกำแพงด้วยการเปิดโอกาสในการพูดคุย และรับฟังเพื่อนร่วมงานทุกคน


เชื่อหรือไม่ว่า มร.คริสเตียนซึ่งเพิ่งมารับตำแหน่งผู้นำไฟเซอร์ประเทศไทยมาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง จะรับรู้และเข้าใจภาษาไทยในระดับที่ดี (อย่างไม่น่าเชื่อ) โดยเฉพาะในเรื่องของการฟังแล้วต้องขอบอกว่าใครก็อย่าได้นินทาเขาเป็นภาษาไทยเป็นอันขาด



ภาษาถือเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญต่อคนทุกระดับชั้น โดยเฉพาะผู้นำเบอร์หนึ่ง

" มีคนถามผมเสมอถึงคีย์ซัคเซสในการก้าวขึ้นเป็นตำแหน่งผู้นำ ซึ่งผมคิดว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ เรื่องแรก เราต้องเข้าใจวัฒนธรรมของคนในประเทศนั้นๆ เรื่องที่สองเราต้องเป็นผู้ฟังให้มาก เพราะการฟังจะช่วยทำให้เกิดการเรียนรู้และมองเห็นโอกาสได้อีกมาก และเรื่องสุดท้ายก็คือ การทำให้คนผูกพันรักในองค์กร เพราะที่สุดแล้วผู้นำคงไม่อาจสร้างและขับเคลื่อนองค์กรด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น"

มร.คริสเตียน บอกว่า เรื่องของวัฒนธรรมนั้นเมื่อไปอยู่ประเทศไทยก็ควรทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมประเทศนั้นๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยภาษาในการนำทาง ดังนั้นหากพูดหรือฟังภาษาไม่ได้ก็คงเป็นเรื่องยาก

ขณะที่เรื่องของ Engagement หรือสร้างความผูกพันของคนและองค์กร เขามองว่าน่าจะขึ้นอยู่กับวิธีปฏิบัติและการวางตัวของผู้นำ

ผู้นำไม่ควรทำตัวให้เข้ากับสำนวนที่ว่า "อยู่บนหอคอยงาช้าง"

ผู้นำจะซื้อใจคนได้ต้องลงไป "คลุกคลีตีโมง"

ผู้นำต้องไม่แค่สั่ง แต่ต้องไปรับฟังไอเดียความคิดเห็นของพนักงานที่อยู่หน้างาน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่รู้ดี และรู้จริง ถึงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และมันก็ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับบริษัทที่มุ่งเน้นเรื่อง Customer Focus อย่างไฟเซอร์

และการให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็น วางแผนและร่วมตัดสินใจ ยังช่วยสร้างภาวะผู้นำที่ดี อีกด้วย

"ผมเชื่อว่าพนักงานทุกคนมีศักยภาพไม่แพ้กัน การให้เขาได้มีส่วนร่วมจะทำให้คนผูกพันกับองค์กรและรักในงานที่ตัวเองทำ"

มร.คริสเตียนบอกว่า นี่คือสไตล์ของผู้นำแบบ "สแกนดิเนเวียน" ซึ่งมีความโดดเด่นตรงที่การบริหารนั้นแบนราบ ไม่มีชนชั้นวรรณะ ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่

"ผมเน้นการทำงานเป็นทีม จะไม่มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะลูกน้อง แต่เราต้องลงไปทำงานกับเขา ช่วยกันแก้ไขปัญหากับเขา ในโรลของผู้นำต้องลงไปช่วยและหาสาเหตุด้วยกันว่าปัญหาเกิดจากสาเหตุอะไร จากคู่แข่ง หรือกระบวนการภายใน คือต้องหาสาเหตุจริงๆ ไม่ใช่ว่าถ้าเกิดข้อผิดพลาดก็ชี้ความผิดไปที่ลูกน้องหรือไล่เขาออก"

เป้าหมายของไฟเซอร์นั้น ก็คือ การเปลี่ยนโลก ซึ่งหมายถึงการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนทั่วโลก

กลยุทธ์สำคัญขององค์กรแห่งนี้นั้นมีอยู่สองข้อ ได้แก่ การมีสินค้าที่ดี และ การมีทีมงานที่ดี

การมีสินค้าที่ดี ก็ด้วยความแตกต่างในเรื่องของนวัตกรรม (เกิดจากการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน) ซึ่งมียาอยู่ 2 ชนิด ที่ไฟเซอร์จะนำสู่ตลาดเมืองไทย ในปี 2556 ก็คือ ยาป้องกันภาวะการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ และ ยารักษาโรคมะเร็งปอด


มร.คริสเตียนบอกว่า แต่คนต่างหากที่สำคัญเพราะการจะเปลี่ยนโลกหรือจะสร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ย่อมอาศัยคน

การสร้างทีมงานที่ดีนั้น ที่ไฟเซอร์จะเริ่มจากการหาคนที่มีทักษะความสามารถเข้ามาอยู่ในองค์กรแล้วอย่าลืมที่จะ Put The Right Man On The Right Job หรือ วางคนให้ถูกต้องกับงาน และควรต้องให้การสนับสนุนเพื่อทำให้เกิดการทำงานอย่างทุ่มเท

"ผมคิดว่าพนักงานของไฟเซอร์มี Passion มีความทุ่มเทในการทำงานทุกคน ก็เพราะเราช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน ทำให้คนมีคุณภาพชีวิต มีสุขภาพที่ดี ซึ่งถือเป็นสิ่งตอบแทนที่มีคุณค่าทางจิตใจ เลยเป็นแรงผลักดันให้คนหรือทีมงานของเราทำงานกันอย่างเต็มที่"

นอกจากนี้ไฟเซอร์ยังมีวัฒนธรรมองค์กรที่ชื่อว่า "OWNIT" ซึ่งมร.คริสเตียนอธิบายว่ามีความหมายอยู่ 5 เรื่อง ดังต่อไปนี้

เรื่องแรก ทุกคนควรทำตัวเป็นซีอีโอ หรือเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในงานที่ตัวเองทำ เพราะจะนำไปสู่การทำงานอย่างเต็มที่ ทุ่มเท ชนิดที่ไม่ต้องรอรับคำสั่ง

เรื่องที่สอง ต้องทำความเข้าใจในเรื่องความต้องการของตลาดและสามารถตอบสนองได้ดีและโดดเด่น

เรื่องที่สาม เพื่อนร่วมงานต้องเอื้ออาทรกัน เข้าอกเข้าใจ เห็นใจซึ่งกันและกัน พูดคุยกันอย่างสุภาพ

เรื่องที่สี่ มุ่งผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจร่วมกันของทีมงานที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

เรื่องสุดท้าย ก็คือความไว้วางใจ ซึ่งเกิดจากการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคน




Create Date : 29 มกราคม 2558
Last Update : 29 มกราคม 2558 11:15:00 น. 0 comments
Counter : 764 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1085247
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 1085247's blog to your web]