ตอนที่แล้ว จขบ.พาไปเที่ยว "น้ำตกร้อน" Unseen ประเทศไทยกันมาแล้ว มาตอนนี้ก็ต้องมา Unseen กันกับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต "สระมรกต" จขบ.จำได้ตอนเป็นล่ะอ่อนน้อยเตี่ยกับแม่พามาเที่ยวที่นี่เล่นน้ำสนุกมาก ตอนเด็กๆ เพื่อนเยอะไงมาเป็นทัวร์ลงทีคันรถบัสสนุกเลยเป็นสาเหตุให้ชอบเที่ยวแต่ไหนแต่ไรมานั่นเอง
จากน้ำตกร้อนเดินทางมาสระมรกตใช้เวลาไม่กี่อึดใจถึงเร็วมากจะหลับอยู่แล้วเชียวมาถึงแระ ด้วยความที่ตอนนี้เที่ยงแล้วพอมาถึงสระมรกตก็ทานข้าวกันก่อนเลยค่ะ อาหารมื้อนี้รวมอยู่ในแพคเกจทัวร์ด้วย ร้านอาหารก็อยู่หน้าทางเข้าสระมรกตเลย
อาหารก็มีให้ห้าอย่างอารมณ์เพื่อสุขาภาพมาก ผัดผัดสารพัดผัก 3 อย่างแระ แกงเขียวหวาน 1 อย่างและของแถม
น้ำพริกกะปิมาแดนใต้ต้องได้ทานแน่นอนเมนูนี้ เติมพลังเสร็จก็พร้อมออกเดินทางกันค่ะ
ระยะทาง 1,400 เมตรก็เดินชมวิวทิวทัศน์กันไปเรื่อยๆ บรรยากาศดีมากเรียกว่าเดินมานี่สูดอากาศเข้าปอตเยอะๆ
โดยเฉพาะคนเมืองอากาศแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ สองฝั่งเขียวขจี
ด้วยความที่พี่เค้าบอกว่ามาสระมรกตต้องเดินให้ถึงบลูลากูนนะ ห้ามพลาดเด็ดขาดจากระยะทาง 1,400 เมตร
พวกเราเดินเลยมาสระมรกตมาอีกตามระยะทางบอกว่า 500 เมตร
ตลอดสองข้างทางจะได้เรียนรู้คำว่าต้นกำเนิดแห่งน้ำน้ำใสมากเพราะเป็นน้ำต้นทาง
จนมาเจอป้ายสระน้ำผุด 200 เมตร
เห็นป้ายก็ใจชื้นขึ้นมาทันทีอีกไม่ไกลแล้วล่ะ แต่เชื่อไหมว่า 200 เมตรเนี่ยต้องวัดผิดแน่นอน
เดินกันมาไกลมากก็ยังไม่ถึงสักทีเลยไม่แน่ใจว่าเป็น 200 เมตรแม้วเปล่าไกลเกิ๊น
มิน่าล่ะเค้าถึงบอกว่ามา "สระมรกต" แล้วยังไงต้องเดินให้ถึง "บลูลากูน"นะ
สวยจริงอะไรจริงเวลาตบมือก็จะมีน้ำผุดขึ้นมาจากน้ำสีฟ้าๆ นั่นแหละอะเมซิ่งมากๆ มิน่าเค้าถึงตั้งชื่อว่า "สระน้ำผุด"
น้ำดูนิ่งและเงียบสงัดมาก
ความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างสะกดสายตาทุกคู่ให้มองมัน
ด้วยความที่พวกเราอยู่บลูลากูนกันนานมากเวลาที่จะมาเล่นน้ำที่สระมรกตจึงไม่มีเลยได้แต่ยืนถ่ายรูป
นี่ทัวร์จีนยังไม่มายังพอมีที่ว่างให้ลงเล่นน้ำได้ อีกสักพักดิจะไม่มีช่องว่างเลยล่ะ ดีนะที่ทริปนี้เราสวนกับทัวร์จีนตลอดทุกที่เลยอ่ะ
จากนั้นก็ได้เวลาจ้ำๆ กันอีกแล้ว คือจะถึงเวลานัดหมายกลับไปที่พักแล้ว
ด้วยความที่ตอนมามาอีกทาง ตอนกลับก็กลับอีกทางเลยเดินได้เร็วเพราะเป็นทางตรง ตอนแรกคิดว่าจะมาไม่ทันกลุ่มฝรั่งซะแล้ว
ที่ไหนได้กลายเป็นพวกเรามาถึงก่อนอีก สงสัยฝรั่งมั่วแต่เล่นน้ำกัน ถึงบอกว่าทริปนี้เสียดายน่าจะไปปิดท้าย
ที่น้ำตกร้อนไม่งั้นล่ะฟินเลย เดินมาไกลๆ เหนื่อยๆ แช่น้ำร้อนนะสบายตัวเลย
พอกลับมาที่พักพี่เอพาพวกเรามาทานข้าวเย็นกันที่ "ร้านลาบขอนแก่น"
ด้วยความที่เห็นพี่บีเจ้าของที่พักพูดกันเรื่องส้มตำอาการอยากมาทันทีมาทะเลก็อยากกินแซ่บๆ ไทยสไตล์หน่อยม๊ะ
พี่เค้าเลยจัดเลยจ้าพามาร้านนี้แหละอยู่ไม่ไกลจากซอยอ่าวนาง 11/1
อาหารร้านนี้รสชาตินัวมากอ่ะแซ่บเข้าทางเลยขากลับทำเอารถพี่เค้ายางแตกเลย
คาดว่าสาเหตุจะมาจากน้ำหนักของ จขบ.นั่นเอง แหะๆ สงสารพี่เค้าเลยอุตส่าห์พามาเลี้ยงต้องกลับไปเปลี่ยนยางอีก
กราบงามๆ เลย "ขอบพระคุณมว๊าก"
Patthanid C.
Create Date :02 กันยายน 2558
Last Update :2 กันยายน 2558 9:38:12 น.
Counter : 3590 Pageviews.
Comments :1
- Comment
โดย: Kavanich96