bloggang.com mainmenu search




หลังจากที่หายเงียบไปนาน วันนี้เลยมาอัพเดตความคืบหน้าของบ้านกันหน่อย ตอนนี้ก็เข้าเดือนที่หกแล้ว สำหรับการสร้างบ้านหลังน้อยของครอบครัวเรา ตอนนี้ก็เริ่มทาสีบ้านแล้วล่ะ

ตอนเลือกก็เลือกสีเหลืองอ่อน แต่ไหนออกมาเข้มแบบนี้ล่ะ ตอนแรกที่ทาใหม่ๆ แม่โทรมาเสียงตกอกตกใจ บอกว่า บ้านเราเหมือนวัดเลย สีไม่สวยเลย ฟังแล้วเครียดไปเลย แต่พออีกวันแม่ก็บอกว่า สวยล่ะ เมื่อวานมันเพิ่งทา วันนี้มันอ่อนลงมาแล้ว

พอปลายอาทิตย์ก็กลับบ้านไปดูงาน ก็เลยได้ประสบการณ์ว่าควรเลือกสีอ่อนกว่านี้อีกหน่อย เพราะเวลาทาสีบ้านเค้าทาสองรอบ ความเข้มของสีก็จะมีเพิ่มขึ้น สำหรับบ้านหลังนี้ก็ไปเลือกสีเองที่ Homemart ใช้สีของ ICI ก็เกรดปานกลาง ต้องบอกก่อนว่าราคาใกล้กับสีเกรดต่ำมากๆ เพิ่มขึ้นอีกนิดเดียวเอง สำหรับใครที่ทาสีบ้านลองเทียบราคาสีแต่ละเกรดก่อนตัดสินใจนะคะ เพราะตอนแรกจะประหยัดงบเลยเลือกเกรดต่ำราคา 16,000 แต่ไปๆ มาไปดูราคาสีกันก่อนดีกว่า เลยรู้ว่าเกรดปานกลางก็ประมาณ 22,000 บาท เลยเลือกเกรดปานกลางดีกว่าเพราะเป็นเทคโนโลยีนาโนเทคด้วย โดยเราเลือกสีสำหรับทาบ้านดังนี้
สีทาภายนอก ใช้สีไข่ไก่ (ในรูปอ่อนจริงๆ นะ)
สีทาภายใน ใช้สีฟ้าอ่อน (รู้งี้เลือกฟ้าแก่ๆ กว่านี้สักหน่อยก็ดีง่ะ ทาออกมาอ่อนไปเลย)
สีทาฝ้าใน ใช้สีควันบุหรี่ ส่วนใหญ่เค้าจะใช้สีนี้ตามรหัสของช่าง เราก็ไม่กล้าเปลียนสีกลัวไม่สวย แต่จริงๆ แล้วฝ้าเลือกสีอะไรก็ได้ รู้งี้เลือกสีขาวดีกว่าจะได้ตัดกับฟ้า
สีทาฝ้านอก ใช้สีไข่ไก่
สีทาขอบหลังคา ใช้สีน้ำตาลเข้ม









เรื่องของสีทาบ้าน ใครบอกว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ชอบอะไรก็เอาสีนั้น ไม่ง่ายเหมือนกันนะ เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีเทคโนโลยีการผสมสี มีเป็นร้อยเฉดเลยล่ะ ซึ่งมันก็เยอะมากจนทำให้คนเลือกตัดสินใจยากไปเลย

เรามาดูกันสิว่าภาษาสีเค้าหมายความว่าอย่างไรกันบ้าง
สีชมพู : ความสงบ เสริมความสุภาพ อ่อนโยน ความรัก เสน่หา
สีเหลือง : ชื่นบาน ยินดี เสริมสร้างพลังงาน
สีขาว : ความบริสุทธิ์ เสริมชีวิตชีวาให้กับสีอื่นๆ
สีดำ : วินัย อำนาจ พลัง เสริมสร้างความเป็นอิสระ
สีส้ม : ยินดี เด็ดขาด กระตุ้นการเจริญอาหาร การสนทนาพูดคุย
สีแดง : อำนาจ กระตุ้น แข่งขัน แสดงออกถึงความดูดดื่ม หลงใหล
สีเขียว : สมดุล สดชื่น เสริมสร้างความรู้สึกทางอารมณ์
สีน้ำเงิน : สงบ สดชื่น เย็น สร้างความรู้สึกสงบ พักผ่อน

การเลือกสีทาบ้านนั้นเค้ามีเครื่องมือง่ายๆ ที่เรียกว่า "วงล้อ" เจ้าวงล้อนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือยอดนิยมของมัณฑนากรเลยเชียว มาดูการใช้งานของมันกันดีกว่า โดยทั่วไปแล้วเราจะแบ่งสีออกเป็น 4 ประเภท นั่นก็คือ สีหลัก สีรอง สีผสม และสีเอกรงค์ ซึ่งการนำไปใช้งานนั้นก็จะแตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้

1. สีหลัก สำหรับห้องที่ต้องการแสดงออกถึงความรู้สึกแข็งแรง มั่นคง การนำสีหลักมาใช้คือทางเลือกที่ดีที่สุด สีหลักในที่นี้ประกอบไปด้วย สีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง ซึ่งก็คือแม่สีที่เรารู้จักกันดีนั่นเองครับ สีเหล่านี้ถือเป็นสีบริสุทธิ์ ที่ไม่ได้เกิดมาจากการผสมสีอื่นๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้งานผสมผสานกันเป็นคู่ๆ หรือจะใช้ทั้ง 3 สีเลยก็ได้

2. สีรอง ได้แก่ สีเขียว สีส้ม และสีม่วง ซึ่งเกิดจากการผสมสีหลัก 2 สีในปริมาณที่เท่าๆ กันเข้าด้วยกัน สีรองนี้ สามารถปรับเปลี่ยนเฉดให้อ่อนลงหรือเข้มขึ้นได้ โดยการผสมสีขาวหรือดำเข้าไป เช่น ห้องที่มีสีส้มอ่อนๆ ตัดกับสีเขียวจางๆ ก็ดูเก๋ดีนะ

3. สีผสม เกิดจากการผสมสีหลักและสีรองที่ใกล้กันที่สุดบนวงล้อเข้าด้วยกัน ในปริมาณที่เท่ากัน ซึ่งได้แก่ สีน้ำเงิน-เขียว สีเหลือง-เขียว สีแดง-ส้ม สีแดง-ม่วง และสีน้ำเงิน-ม่วง โดยส่วนใหญ่เราจะนำสีเหล่านี้ไปใช้กับห้องที่ต้องการความรู้สึกโก้เก๋

4. สีเอกรงค์ คือ การนำสีเพียงสีเดียวมาใช้คู่กับสีขาว การปรับเปลี่ยนความอ่อน-เข้มของเฉดสีจะช่วยให้ห้องไม่ดูนิ่มนวลจนเกินไป เช่น การผสมผสานระหว่างสีฟ้าอ่อน สีน้ำเงิน สีเนวีบลู จะเกิดความหลากหลายมากขึ้น

ก็เก็บมาฝากสำหรับคนที่กำลังเลือกสีทาบ้าน กลับมาดูความคืบหน้าบ้านของเราต่อดีกว่า ตอนนี้หน้ามุกก็ปูเสร็จเรียบร้อยแล้ว





แต่เดี๋ยวก่อนเห็นความผิดปกติอะไรไหม กระเบื้องหน้ามุกทำไมไม่ลายเหมือนกัน นั่นดิ งง เหมือนกัน ช่างบอกว่าด้านนี้ไม่ค่อยมีคนเห็นไม่ต้องปูกระเบื้องก็ได้ ทาสีเอาอย่างเดียว อ้าว ไงงั้นง่ะ ทำไมไม่ทำให้เต็มไปเลย ก็เลยให้เค้าปูให้เต็ม โดยใช้กระเบื้องที่เหลือให้เอาเศษต่อกันไว้ในๆ ผ่านไปอาทิตย์หนึ่ง อ้าวทำไมสีนี้มาอยู่ข้างหน้าแล้วมีลายประหลาดนี่ล่ะ

สืบก็ได้ความว่าเค้าเอากระเบื้องที่จะให้ต่อ ไปติดข้างหลัง เอากระเบื้องข้างหลังที่ซื้อมาใหม่มาติดข้างหน้า แล้วมันไม่พอเลยติดไปก่อน เฮ้อ ไปวันแรกกรี๊ดแตกเลย ทำไมทำแบบนี้ง่ะ รื้อเลยรื้อทั้งแผงนี่ล่ะ เปลี่ยนใหม่ แต่ดันติดปัญหาหากระเบื้องลายเดิมไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องซื้อกระเบื้องลายใหม่มาเปลี่ยนที่ประหลาดแทน กรรมของฉันจริงๆ



สังเกตุจากรูปจะเห็นว่าช่วงด้านหน้ามีรอยคลื่นๆ ตรงนี้เห็นช่างบอกว่าเกี่ยวกับฉาบว่าฉาบเรียบแค่ไหน ไม่เกี่ยวกับช่างสี พอถามช่างปูนก็บอกว่า งานฉาบส่วนใหญ่ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ถ้าฉาบไม่เรียบจะขึ้นเงาสะท้อนแบบนี้ อันนี้ก็ไม่รู้ว่ายังไง ใครทราบช่วยชี้แจงทีว่าจริงหรือเปล่า





ส่วนครัวตอนนี้ก็ปูแกรนิตโต้เรียบร้อยแล้ว นี่ก็ยังหนักใจเรื่องเคาน์เตอร์ครัวตัวแอลอยู่เนี่ยแหละ เพราะช่างเค้าบอกว่าไม่อยู่ในแบบ ทำเพิ่มค่าแรง 10,000 บาท งบหมดแล้วด้วยดิ นี่ยังหาช่างมาทำไม่ได้เลย







หลังจากทาสีภายในเสร็จช่างก็เริ่มติดไฟหลุม กับเริ่มใส่อุปกรณ์เช่น กลอนหน้าต่าง แล้วก็ติดไม้มอบรอบบ้าน



ตอนนี้ก็เหลืองานไม้ ขัดกระดานอีกรอบแล้วก็ทาสี เห็นช่างบอกว่าให้ใช้สีของ TOA ซูปเปอร์ชิวสีทางภายนอก มาทาพื้นจะขึ้นเงาสวย ก็อาทิตย์หน้าหน้าจะเรียบร้อย เพราะตอนนี้เห็นว่าช่างกระจกมาประเมินแล้วก็ติดแล้ว ส่วนรูปก็จะเอามาลงให้ดูตอนต่อไป ปิดงานบ้านแล้วล่ะ

ส่วนตอนนี้หน้าที่เจ้าของบ้านคือเคลียบริเวณรอบบ้านที่มีไม้กองพะเนิน นี่คือสภาพก่อนทำ



งานนี้ก็ต้องอาศัยร่วมมือร่วมใจคนในบ้านนี่ล่ะช่วยกัน งัดตะปู ตัดไม้ให้เข้ารูปเพื่อทำกำแพงชั่วคราวก่อน




สุดท้ายก็เรียบร้อยออกมาในสภาพอย่างที่เห็น กว่าจะเสร็จวันหนึ่งเลยล่ะ เข้าใจคนงานก่อสร้างเลย ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนือย



พอเรียบร้อยแล้วเลยมานั่งดูบ้านตัวเองซะงั้น ดูแล้วมันก็หายเหนื่อยดี



ซึ่งนอกจากเราจะนั่งดูบ้านตัวเองแล้ว ก็ยังมีเจ้านกน้อยมาเดินเล่นบนหลังคาบ้านเราอีกต่างหาก ที่บ้านเรานกเยอะมีนกหัวขวานด้วย แต่ถ่ายรูปมันยากชะมัด





แต่จะว่าไปแล้วพอทำบ้าน เราก็รู้สึกว่าครอบครัวเราก็ดูรักกันมากขึ้น ด้วยความที่ลงแรงลงใจไปกับบ้านหลังนี้นี่เอง วันก่อนก็ไปทำบุญวันเข้าพรรษาด้วยกัน







และที่สำคัญจอมโวยวาย (เรา) กับ นายโดดเดี่ยว (น้องชายคนกลาง) ก็เป็นมิตรกันมากขึ้น



Create Date :09 สิงหาคม 2550 Last Update :9 สิงหาคม 2550 1:54:04 น. Counter : Pageviews. Comments :76