bloggang.com mainmenu search
การรันอินรถยนต์ คือสิ่งจำเป็นที่สุดหลังจากถอยออกจากโชว์รูม เพราะถือเป็นตัวชี้วัดเลยว่า รถคันนั้นจะมีอายุการใช้งานได้ยาวนานแค่ไหน


     วันนี้ Sanook!Auto จะนำท่านผู้อ่านทั้งมือใหม่และมือเก่าทั้งหลาย ไปรู้จักการรันอินอย่างถูกวิธีกันครับ

     การรันอินรถยนต์นั้น คือการปรับสภาพชิ้นส่วนต่างๆให้เข้าที่เข้าทาง เนื่องจากชิ้นส่วนทุกชิ้นแทบไม่เคยผ่านการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรันอินที่เหมาะสมเพื่อให้ระยะห่างของชิ้นส่วนต่างๆ อยู่ในระดับที่เหมาะสมก่อนการใช้งานอย่างเต็มกำลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควร

     วิธีปฏิบัติการรันอินอย่างถูกต้อง

การรันอินที่ดี ควรกระทำในช่วง 1,500-2,000 กิโลเมตรแรกเป็นอย่างน้อย

1. สตาร์ทเครื่องยนต์แล้วต้องอุ่นเครื่องก่อนเสมอ เพื่อให้น้ำมันเครื่องสามารถเข้าไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆได้อย่างเต็มที่ ช่วยลดการสึกหรอจากการเสียดสีระหว่างโลหะ การอุ่นเครื่องนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่ ผู้อ่านอาจใช้ความเร็วต่ำในการเคลื่อนรถ (ไม่เกิน 20 กม./ชม.) หลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรง เป็นเวลาอย่างน้อยประมาณ 3 นาที

2. หลีกเลี่ยงการออกตัวอย่างรุนแรง ถ้าให้ดีควรใช้รอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 รอบ ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานปกติแล้ว และเป็นการประหยัดไปในตัวอีกด้วย รถยนต์รุ่นใหม่ๆนั้น ถูกออกแบบให้ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำลงสำหรับการเดินทางไกลๆ โดยที่รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบต่อนาที รถยนต์ส่วนใหญ่สามารถทำความเร็วได้ราว 100 กม./ชม. อย่างสบายๆ

3. หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง เนื่องจากผ้าเบรคยังคงใหม่อยู่ ประสิทธิภาพการจับจานเบรคของผ้าเบรคยังทำได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้ต้องใช้ระยะเบรคมากกว่าปกติ ดังนั้นทางผู้ผลิตรถยนต์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง เนื่องจากระบบเบรคยังทำงานได้ไม่เต็มที่นั่นเอง

4. การเดินทางไกลด้วยรถใหม่ป้ายแดงนั้นสามารถทำได้ แถมยังดีกว่าการรันอินท่ามกลางจราจรติดขัดอีกด้วย แต่ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. หรือใช้ความเร็วเท่าที่รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบต่อนาทีทำได้ (โดยส่วนใหญ่มักไม่ต่ำกว่า 90 กม./ชม.) ควรเปลี่ยนความเร็วที่ใช้บ้าง ไม่ขับแช่ที่ความเร็วใดๆเป็นระยะเวลานาน

5. หลีกเลี่ยงการลากรถในช่วงรันอิน เพราะอาจทำให้เกิดความสึกหรอให้กับเครื่องยนต์, ช่วงล่าง, ระบบเกียร์ และระบบเบรคได้ หากจำเป็น ควรใช้บริการรถยกแบบยกทั้งคันจะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความสึกหรอที่อาจเกิดขึ้น

     การเข้ารับบริการตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนดนั้น (โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณทุกๆ 10,000 กิโลเมตร) ถือว่ามีสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเปลี่ยนถ่ายของเหลวใหม่แทนที่ของเหลวที่หมดอายุการใช้งาน รวมถึงอุปกรณ์บางชิ้นด้วย เนื่องจากในของเหลวต่างๆเหล่านี้มีเศษโลหะที่เกิดจากการเสียดสีของชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว

     หากช่วงนี้ คุณผู้อ่านท่านใดกำลังจะได้รับรถใหม่แล้วล่ะก็ Sanook!Auto ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ แล้วอย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ เพื่อให้รถของคุณสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานขึ้นนั่นเอง




สนับสนุนเนื้อหา auto.sanook.com
Create Date :18 ธันวาคม 2556 Last Update :18 ธันวาคม 2556 8:31:56 น. Counter : 2399 Pageviews. Comments :0