___OLD_IMG_0___

     แหล่งข่าวจากบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด (SAIC Motor-CP Co.,Ltd.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความพร้อมและแผนงานการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของรถยนต์แบรนด์ "เอ็มจี" ว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวแบรนด์และสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทยอย่างเป็นทางการ และเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โปที่จะถึงนี้

     โดยใช้งานนี้เป็นเวทีเพื่อแสดงความพร้อมในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของรถยนต์เอ็มจีรวมทั้งยังสร้างความเข้าใจกับลูกค้าที่มาที่ไปของแบรนด์โดยเฉพาะประวัติอันยาวนานกว่า 100 ปีของแบรนด์รถยนต์สัญชาติอังกฤษ ก่อนที่กลุ่มเซี่ยงไฮ้มอเตอร์จะเข้าไปซื้อธุรกิจ และได้ร่วมธุรกิจกับกลุ่มซีพี ประเทศไทย โดยนำแบรนด์ดังกล่าวเข้ามาทำตลาด

  สำหรับในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ บริษัทได้นำรถยนต์เอ็มจี คอนเซ็ปต์คาร์ จำนวน 2 คันมาจัดแสดง โดยเป็นรถครอสโอเวอร์ 1 รุ่น คือ รถเอ็มจี พลังงานไฟฟ้า อีก 1 รุ่นมาจัดแสดง รวมทั้งนำรถยนต์เอ็มจี รุ่นคลาสสิกมาจัดแสดงอีก 2 รุ่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมา และความยาวนานของแบรนด์ที่ได้รับการถ่ายทอดดีเอ็นเอความเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษมากว่า 100 ปี

     จากนั้นในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปี 2557 บริษัทจะเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดกลาง พวงมาลัยขวารุ่นแรกที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย กับเอ็มจี 6 ออกสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดรับจองภายในงาน เบื้องต้นคาดว่าลูกค้าที่จองรถในงานจะสามารถรับรถได้ช่วงกลางปี 2557 เป็นต้นไป เนื่องจากโรงงานผลิตจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ราวกลางปีหน้า

     สำหรับรถยนต์นั่งเอ็มจี 6 จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นแรกในการทำตลาดของประเทศไทย โดยบริษัทจะเน้นจุดเด่นของความเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษที่ได้รับการถ่ายทอดด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 100 ปี รวมถึงชื่อชั้นและภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความเข้าใจและทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าชาวไทย โดยคาดว่าในช่วงแรกของการจำหน่ายนั้นจะมีราคาที่ต่ำกว่ารถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่อยู่ในกลุ่มซีคาร์ ประมาณ 10-15% ในช่วงเริ่มต้นของการทำตลาด และในช่วงปี 2557 หรือ 6 เดือนแรกของการขายนั้น เอ็มจี 6 จะมียอดขายอยู่ที่ระดับ 3,000 คัน

     "สำหรับปีหน้าเราจะเริ่มผลิตและส่งมอบรถได้ราวกลางปีไปแล้ว เท่ากับเรามีเวลาขายอยู่ในช่วง 6 เดือนหลังของปี บวกกับกำลังผลิตของเราในช่วงแรกจะมีอยู่ที่ 3,000 คันนั้น ทำให้เป้าหมายในปีแรกจึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยากแต่อย่างใด"

     ส่วนแผนการทำตลาดหลังจากส่งรถเอ็มจี 6 ทำตลาดแล้ว บริษัทมีแผนที่จะส่งรถโมเดลอื่น ๆ โดยเฉพาะรถในกลุ่มบีคาร์ออกสู่ตลาดในปี 2558 เพิ่มอีก 1 รุ่น กับเอ็มจี 3 อีก 1 รุ่น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดในประเทศไทย และภายในปี 2558 เอ็มจีจะต้องมียอดขายสำหรับประเทศไทยที่ 20,000 คันเป็นอย่างน้อย

     ด้านแผนการส่งออกนั้นเนื่องจากเอ็มจีได้วางตำแหน่งของประเทศไทย ให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของเอ็มจี

     ดังนั้นอนาคตบริษัทจะมีการส่งออกรถที่ผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศที่ใช้พวงมาลัยขวาอย่างมาเลเซีย,อินโดนีเซีย,ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลกในอนาคตด้วย และอนาคตก็มีความเป็นไปได้ที่จะส่งรถที่ผลิตจากประเทศไทยเข้าไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

     แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากการผลิตรถยนต์นั่งแบรนด์เอ็มจีแล้วบริษัทยังมีความสนใจและกำลังศึกษารายละเอียดถึงความเป็นไปได้ที่จะจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สัญชาติจีนเข้ามาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยอีก1แบรนด์ คือ "แม็กซัส" (MAZUSX) แต่ทั้งนี้บริษัทยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.รถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก ในส่วนของเงื่อนไขและการกำหนดขนาด น้ำหนักของตัวรถเป็นสำคัญ

     สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ของเอ็มจีนั้น บริษัทได้ทุ่มงบประมาณในการลงทุนมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ขึ้นในนิคมอุตสาหกรรม

     เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์เอ็มจี พวงมาลัยขวา บนพื้นที่กว่า 17,000 ตารางเมตร มีกำลังผลิตที่ 50,000 คัน

     ต่อปีในช่วงแรก ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ราวกลางปีหน้าก่อนที่จะมีแผนขยายกำลังผลิตเพิ่มเติมในอนาคตด้านความสนใจในการลงทุนของโครงการนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลไทยกับโครงการรถอีโคคาร์โครงการ2 นั้น ก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ เจนจิตติกุล รองประธาน บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด (SAIC Motor-CP Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า เอ็มจีเองก็มีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ 2 ของรัฐบาลไทย และมีรถยนต์ เทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษ ที่เข้าข่ายและสามารถพัฒนาให้เข้ากับประเทศไทยได้ทันที แต่ขณะนี้บริษัทขอศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557 น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนอย่างแน่นอน

MG6 MG6 MG6 MG6 MG6 MG6 MG6 MG6 MG6

สนับสนุนเนื้อหา