วัฒนธรรมหลอกลวง วัฒนธรรม หมายถึง วิถีการดำเนินชีวิต (The way of life) ของคนในสังคม นับตั้งแต่วิธีกิน วิธีอยู่ วิธี แต่งกาย วิธีทำงาน วิธีพักผ่อน วิธีแสดงอารมณ์ วิธีสื่อความ วิธีจราจรและขนส่ง วิธีอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ วิธี แสดงความสุขทางใจ และหลักเกณฑ์การดำเนินชีวิต โดยแนวทางการแสดงออกถึงวิถีชีวิตนั้นอาจเริ่มมาจาก เอกชนหรือคณะบุคคลทำเป็นตัวแบบ แล้วต่อมาคนส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติสืบต่อกันมา วัฒนธรรมย่อมเปลี่ยนแปลง ไปตามเงื่อนไขและกาลเวลาเมื่อมีการประดิษฐ์หรือค้นพบสิ่งใหม่ วิธีใหม่ที่ใช้แก้ปัญหาและตอบสนองความ ต้องการของสังคมได้ดีกว่า ซึ่งอาจทำให้สมาชิกของสังคมเกิดความนิยม และในที่สุดอาจเลิกใช้วัฒนธรรมเดิม ดังนั้นการรักษาหรือธำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมเดิมจึงต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาวัฒนธรรมให้ เหมาะสมมีประสิทธิภาพตามยุคสมัย การหลอกลวงที่สืบเนื่องจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นบริโภคนิยม ประชานิยม ไปจนถึงผลประโยชน์นิยม และบันเทิงนิยม หลายสิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้การหลอกลวงต่างๆนานา กลายเป็นสิ่งที่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญจนเริ่มที่จะกลายเป็นมากกว่านั้นแล้ว การหลอกลวงเริ่มที่จะเข้ามามีบทบาทมากจนเกือบๆจะกลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งไปแล้ว ในสังคมเราเองมีการสั่งสอนมาตั่งแต่สมัยโบราณแล้วว่าการหลอกลวงไม่ใช่สิ่งที่ดี การหลอกลวงมีปรากฏอยู่ตามศาสนาต่างๆ หลายๆศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีทั่วประเทศก็มิได้ส่งเสริมสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้ให้เติบโตแพร่ขยายออกไป แต่ความจริงที่ปรากฏในสังคมปัจจุบันแล้ว สิ่งต่างๆขัดแย้งกับตัวมันเองมากเกินกว่าที่ คนสมัยเก่าคงไม่สามารถที่จะนึกภาพจินตนาการเอาได้ ไม่น่าเชื่อว่าความเป็นจริงหลายๆอย่างเริ่มถูกหมางเมิน สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือสิ่งจอมปลอม ความหลอกลวงที่เข้าครอบงำไปทั่วทั้งสังคม จริงหรือที่ความหลอกลวงเข้าครอบงำ หลายอย่างอาจไม่ต้องพิสูจน์ ความจริงหรือไม่จริง เพราะหลายๆอย่าง ถูกปฏิเสธไปแล้วจากความบิดเบี้ยวของสังคม การใช้กฎหมายโดยอาศัยความลวงเป็นเครื่องชี้นำ โดยไม่สนใจถึงความดีงาม จารีต ประเพณี การใช้อำนาจหน้าที่โดยมีความลวงบังหน้า เพื่อผลประโยชน์ที่ซ้อนเร้น การใช้ความลวงเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ชื่อเสียง เกียรติยศ การใช้ความลวงเพื่อความเจริญเติบโตของผู้ประกอบกิจการต่างๆ การใช้คำลวงเพื่อหาเศษหาเลยกับคนส่วนใหญ่ที่คิดตามไม่ทัน การใช้คำลวงเพื่อขายสินค้าหลากหลายประเภท การใช้ความลวงสร้างความบันเทิงจนกลายเป็นสิ่งเสพติด การใช้คำลวงบิดเบือนคำสอนทางศาสนา และอีกมากที่เป็นสิ่งลวงในสังคมนี้ การหลอกลวงต่างๆนานามันอยู่รอบตัวเราไปแทบจะทุกหนทุกแห่งแล้ว ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไร การหลอกลวงที่เราเริ่มที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่ใช่ส่วนประกอบของสังคมที่เราเห็นได้ทั่วไป และเมื่อมันปรากฏอยู่ทั่วไป เราสัมผัสกับมันได้เกือบตลอดเวลา ย่อมหมายถึงการที่ความลวงเริ่มกลมกลืนเข้ากับสังคมโดยที่เราปฏิเสธไม่ได้ หรือในบางครั้งหลายๆคนอาจไม่ทันได้รับรู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งเหล่านี้เข้ามาในสังคมตั้งแต่เมื่อ หลายสิ่งลวงที่กล่าวมา อาจเรียกได้ว่าเป็นส่วนของผู้ต้องการที่จะลวง แต่ในแง่ของผู้ที่ถูกลวงแล้วย่อมมีข้อโต้แย้งขึ้นมาในส่วนของการเลือกที่จะไม่เชื่อในคำลวง แต่มันไม่ง่ายเลยในสังคมที่ความลวงเริ่มกลมกลืนแล้ว เพราะว่าคนอีกหลายคนนั้นไม่สามารถที่จะแยกแยะได้อีกแล้วว่า สิ่งใดจริงหรือสิ่งใดลวง ยิ่งในบางครั้งผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการลวงนั้น เป็นผู้ที่ต้องการให้มันเป็นความลวงมากกว่าให้ความจริง หากว่าการหลอกลวงยังคงไว้ซึ่งการเจริญเติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอและในบางครั้งอาจถึงขั้นก้าวกระโดด สังคมที่เริ่มปราศจากภูมิคุ้มกัน ย่อมถูกครอบงำไปด้วยความหลอกลวงในที่สุด วัฒนธรรมหลอกลวง ก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมที่ถูกยอมรับไปโดยปริยาย เราจะทำอย่างไรหากเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่อนาคตที่ไกลเลย เพราะในตอนนี้เราก็เห็นว่ามันเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เฝ้าคอยความหวังเหมือนดั่งแสงหิ่งห้อยที่ปลายอุโมงค์ เนื้อหาดีค่ะ
![]() ![]() ![]() โดย: dAR* IP: 58.136.61.61 วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:13:40:16 น.
ชอบมากเลยครับเป็นเนื้อหาที่ดีสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
![]() ![]() โดย: น้องอมครับ IP: 203.113.71.71 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:41:58 น.
นี่คือวัฒนธรรม ที่ถูกกลืน เพราะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นการยัดเยียดให้กับสังคม ต้นแบบกลายเป็นต้นแบบที่หลอกลวง .....น่าสงสารเด็กไทยจริงๆค่ะ
![]() โดย: หมูดำ IP: 124.121.96.19 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:53:18 น.
ประเพณี
![]() โดย: ต้อม IP: 203.113.17.165 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:02:31 น.
โยนิโสมนสิการ หมายถึง การทำในใจให้แยบคาย กล่าวคือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน
คิดจากเหตุไปหาผล คิดจากผลไปหาเหตุ คิดแบบเห็น ความสัมพันธ์ต่อเนื่อง เป็นลูกโซ่ คิดเน้นเฉพาะจุดที่ทำให้เกิด คิดเห็น องค์ประกอบที่มา ส่งเสรีมให้เจริญ คิดเห็น องค์ประกอบที่มา ทำให้เสื่อม คิดเห็นสิ่งที่มา ตัดขาดให้ดับ คิดแบบ แยกแยะองค์ประกอบ คิดแบบ มองเป็นองค์รวม คิดแบบ อะไรเป็นไปได้ หรึอเป็นไปไม่ได้ โดย: kwang IP: 192.168.200.217, 58.9.136.248 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:39:34 น.
|
บทความทั้งหมด
|