แม่ไม่เข้าใจเล่ ฮึฮึ!
Photobucket

เมื่อวานแม่โทรมาหาผมตอนประมาณสองทุ่มกว่า คำถามแรกที่แม่ถามคือ
“กินข้าวยังหนิ”
“ยังไม่กินคับ”
“หู ดึกขนาดนี้ยังไม่กินข้าวกินน้ำอีกเหรอ จะไปกินตอนไหนเนี๊ย มัวแต่ทำอะไรอยู่”
“เพิ่งกลับมาถึงคับ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย วันนี้เหนื่อยมากไปเดินขายหมูทั้งวันเลย ร้อนก็ร้อนคนก็เยอะ แย่คับ”
“แม่โอนเงินไปให้แล้วนะ ไปกดดูพอใช้มั๊ย ไม่พอก็บอก เดี๋ยวโอนไปให้อีก”
“คับ”

ผมบอกแล้วคับไม่ว่าจะไกลซักเท่าไหร่ความห่วงใยมันเดินทางถึงกันได้คับ วันนี้ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่บัญฑิตหลายคน แต่ละคนก็มีแต่ละมุมมองที่น่าสนใจ
“ตอนนี้พี่ทำงานเหรอเรียนต่อคับ” เป็นคำถามแรกที่ผมมักถามเหล่าพี่ๆบัญฑิต
ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่จะออกมาประมาณว่า “ตอนนี้พี่ทำงานเก็บเงินก่อนว่ะ”
คับ ผมยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าตัวเองอยากทำอะไร ใจนึงก็อยากจบออกไปมีงานทำ อีกใจก็อยากเรียนต่อให้มันสูงๆว่าจะเดินเข้าสายวิชาการอ่ะคับ
ผมเชื่อตลอดนะคับว่าพ่อกับแม่มีทุนทรัพย์พอที่จะส่งเสียผม แต่ในใจลึกๆแล้วก็อยากจะทำอะไรด้วยตัวเองซักที อยากเริ่มทำงานตอนเรียนจบเลยเหมือนค่านิยมที่คนไทยทำตามๆกัน คิดๆไปเหลือเวลาอีกสองปี ว่าจะหยุดคิดก็หยุดไม่ได้ เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแม่ซะเลย
แม่ผมก็พูดว่า
“แล้วแต่เล่แหละ”
แต่มีบางช่วงในความคิดที่ผมคิดไม่ตรงกับแม่
ผมบอกกับแม่ว่า
“คนเรากว่าจะเจองานที่ชอบนี๊ต้องใช้เวลานะแม่ บางครั้งมันก็ต้องกล้าอ่ะคับ เวลาทำงานที่เราไม่ชอบเราจะทนต่อไปทำไม พอเราไม่ชอบ เราก็ทำงานได้ไม่ดี ไม่มีความสุข สู้เปลี่ยนงานไปทำอย่างอื่นดู เผื่อจะเจอทางที่เราชอบ เล่เชื่อนะแม่ ถ้าเราเจองานที่เราทำแล้วมีความสุข เราจะไม่ได้ทำงานอีกต่อไปเลย”
แม่ผมกลับไม่ค่อยเห็นด้วยในความคิดลูกชายวัยยี่สิบ
“งานทุกอย่างมันมีความลำบากอยู่ในตัวมันอยู่แล้วเล่ ตอนนี้เล่ไม่รู้หรอก บางครั้งงานที่เราทำมันไม่สนุก มันไม่ใช่เราหรอก แต่เราก็ต้องทนทำมัน เพราะอะไรเหรอ ก็เพราะว่าเราจะต้องทำงานเอาเงินไปใช้สอยในชีวิตประจำวัน ถ้าเล่ไม่ทำงานเล่ก็จะไม่มีเงิน เล่ไม่มีเงินเล่ก็พลาดอะไรหลายๆอย่างในชีวิต”
ผมรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของแม่
“เล่ว่าไม่เกี่ยวนะแม่ ใช่แม่พูดถูกที่คนเราต้องทำงานหาเงินเลี้ยงปากท้องตัวเอง แต่คนเราก็มีสิทธิ์เลือกอะไรที่มันใช่สำหรับตัวเองเหมือนกัน”
แม่แย้งอีก
“ตอนนี้เล่ยังเด็ก พอเล่ได้มาทำงานจริงๆแล้วเล่จะรู้ว่า บางทีการที่เล่ได้ทำงานในตำแหน่งนึงๆเล่จะรู้สึกภาคภูมิใจ มากกว่าการที่เล่จะมัวมานั่งคิดว่ามันไม่ใช่”
ผมก็ยังไม่เห็นด้วย
“แต่พอเราอยู่กับมันไปนานๆ เล่ เชื่อว่าเราจะรู้ได้เองแหละแม่ว่ามันใช่เรามั๊ย”
หลังจากนั้นผมกับแม่ก็ถกเถียงกันเป็นเวลายาวนานเกือบหนึ่งชั่วโมง
ผมบอกกับแม่ว่า
“ตอนนี้เล่ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากทำอะไร เล่ว่าความคิดเราเปลี่ยนได้ทุกวัน”
“แม่ว่าเล่ควรจะมีเป้าหมายเอาไว้แต่เนิ่นๆนะ จริงที่เล่มีเวลาคิด แต่แม่ว่าถ้าเราคิดเร็วกว่าเค้า เราจะลงมือได้เร็วกว่าเค้านะ”
ผมเห็นด้วยกับคำพูดของแม่ในประโยคสุดท้าย

แทบจะทุกเรื่องในชีวิต ผมจะเอามานั่งปรึกษาแม่เสมอ ผมเป็นลูกชายที่ค่อนข้างสนิทกับแม่ แต่น้องสาวผมจะสนิทกับพ่อมากกว่า ผมจะโทรกลับบ้านไปหาแม่บ่อยๆ น้องผมโทรกลับบ้านหาพ่อตลอดเหมือนกัน
ทุกครั้งที่กลับบ้านผมมักพยายามชวนสมาชิกในบ้านไปกินข้าวนอกบ้านเสมอ สนุกคับสนุกบ้านผม
แม่ผมบอกผมว่าวันนี้ แม่ไปเรียนโทมา และพาน้องไปจัดฟันด้วย ผมก็ได้แต่หัวเราะ
โห นี่แม่ยังเรียนโทอีกเหรอเนี๊ย ฮ่าๆๆ

แม่ รักแม่คับ
อุ๊ย! รักพ่อด้วยนะคับ

ขอบคุณบ้าน โยธะบุรี ที่มีแต่ความอบอุ่น
ขอบคุณพี่บัญฑิตหลายคนที่แวะมาให้แง่คิดดีๆ
ขอบใจพี่สาวแสนสวยที่พาไปเลี้ยงข้าวเที่ยงวันนี้



Create Date : 13 ธันวาคม 2552
Last Update : 13 ธันวาคม 2552 9:23:15 น.
Counter : 996 Pageviews.

4 comments
รวบยอด - ปั่นจักรยาน Week 2nd, 6-12 JAN 2024 กะริโตะคุง
(13 ม.ค. 2568 16:31:57 น.)
มุมเล็กๆ..ในบ้านหลังใหญ่เกินไปสำหรับอยู่คนเดียว 🤎 สมาชิกหมายเลข 8577393
(11 ม.ค. 2568 10:49:21 น.)
รักที่เปลี่ยนไม่รัก ตอนที่ 3 ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยไม่รู้ตัว Nior Heavens Five
(10 ม.ค. 2568 21:21:42 น.)
F A S T I N G__D A Y ฉันในเมื่อก่อน VS ฉันในตอนนี้ nonnoiGiwGiw
(9 ม.ค. 2568 15:14:13 น.)
  
แม่เค้าก็ห่วงลูกทุกคนนั่นแหละ
แต่ถ้าเห็นคนไหนที่น่าห่วงก็จะห่วงมากเป็นพิเศษค่ะ
แล้วน้องคิดว่าจะเป็นลูกที่เป็นแบบไหนดีเลือกได้เลยนะคะ
โดย: chabori วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:9:47:34 น.
  
อืม
โดย: เขี้ยวอสูร วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:12:50:34 น.
  
แม่เค้าหวังดีนั้นแหละ...เจ้
แม่มีประสบการณ์มาก่อน
อย่างสุภาษิตที่ว่า.........

อาบน้ำร้อนมาก่อน
เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด
เข็นครกขึ้นภูเขา
เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง
ฝนทั่งให้เป็นเข็ม
...
..
.

(เออออ อันหลังๆไม่ค่อยเกี่ยว หึหึ)
โดย: THITIKORN IP: 125.26.194.194 วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:15:17:55 น.
  
เข้าใจเรื่องการทนทำงานไปค่ะ
ฟังดูเหมือนว่ามั่นคงดี
แต่พอเวลาผ่านไป
มันกลายเป็นเรานั่งดูคนอื่น
ได้ความฝันของเราไป

ทุกอย่างมีความเสี่ยงค่ะ

ถ้าอยากทำงานที่ชอบ
ต้องมุ่งมั่นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เราฟันฝ่าอุปสรรคได้ไหม
เราทนความล้มเหลวได้ไหม
ล้มแล้วลุกได้ไหม

สู้ๆ นะคะ
โดย: ทองอ้วน วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:17:16:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Zerxiustor.BlogGang.com

เบิกทวารแมน
Location :
นครนายก  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด