บทวิเคราะห์ส่งท้ายปี : Mike Portnoy และ Dream Theater จะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ โดย YJM




สวัสดีครับ มิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน

เมื่อสักครู่นี้ระหว่างขับรถมาทำงาน ก็ฟังเพลงของคณะ Dream Theater (แปลเป็นภาษาลาวแบบน่ารักๆ ได้ว่า โฮงฮูปเงาแห่งความฝัน)

ก็บังเกิดจินตนาการว่า เอ จะดีไหมน้อ ถ้าเราจะเขียนถึงวงดนตรีที่เราชอบ เป็นการส่งท้ายปี 2554 (เพราะตอนนี้ขี้เกียจทำงานมากๆ 55)

แล้วประเด็นใด ก็ไม่น่าสนใจเท่าประเด็นของความสัมพันธ์ระหว่างวงเอง
และพ่อยอดมือกลองขมองอิ่ม ที่ลาออกจากวงไปได้ปีกว่าๆแล้ว
ดังนั้น ก็เลยเป็นที่มาของบทวิเคราะห์แบบคิดเอง เออเอง ของผมนี้

ก็ลองอ่านๆดูนะครับ สนุกๆ เห็นด้วยมั่ง ไม่เห็นด้วยมั่ง (หรือไม่เห็นด้วยเลย ฮาาาาาา)



ก่อนอื่นอาจจะมีคำถามที่ว่า YJM_Strat เป็นใครกันนะ แล้วคิดอย่างไรถึงอาจหาญ อยู่บำรุงมาวิเคราะห์วงเทพขนาดนี้

ก็ต้องขอตอบว่า.....

นอกจากเพลงของ Dream Theater ที่ฟังอยู่เกือบทุกวันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแล้ว จนมั่วร้องเพลงตามใน Metropolis 2 ได้เกือบทั้งอัลบั้ม

ตัวผมเองก็เป็นคนชอบสังเกต อีกทั้งใฝ่รู้ในเรื่องของคนอื่นๆ (ภาษาพี่ๆน้องๆเค้าเรียกว่า ชอบเสือกเรื่องของชาวบ้าน)

ก็สงสัยตลอดมาว่า วงนี้เค้ามีวิธีคิด การเขียนเพลง เล่น ร้อง ตลอดจนการจัดการและบริหารวงอย่างไร ถึงได้สมบูรณ์แบบไปเสียทุกส่วน (โดยรวม)

ตั้งแต่การกำหนดทิศทางของอัลบั้ม ทำเพลง อัดเสียง ออกทัวร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำให้มันสำเร็จทุกด้าน

ดังนั้นนอกจากตัวเพลงเองแล้ว ผมจึงศึกษาวงได้มานานพอสมควรแล้วจากสื่อต่างๆด้วยความชอบส่วนตัว

วันนี้จึงอยากจะแบ่งปันความคิดของตัวเองให้เพื่อนได้คลายเหงา (ศาลาคนเศร้า โดย โก๋ ปากน้ำ) ในแง่มุมที่ได้จั่วหัวไปแล้วนั้น

ก่อนที่จะเขียน ขอบอกว่า การวิเคราะห์ของผมอาจจะถูกทั้งหมด ถูกบางส่วน หรือผิดทั้งหมดก็ได้
เพราะมันเป็นเพียงการคาดการณ์จากสิ่งแวดล้อม สถิติ และโหราศาสตร์ (เย้ยยยย)

อ้อ ทุกอย่างเขียนจากความทรงจำล้วนๆนะครับ ไม่ได้เขียนไป ค้นคว้าไป

ดังนั้นจึงเต็มใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือแย้งในประการใดๆก็ตามครับ :)



ย้อนกลับมาที่ประเด็นว่า Mike Portnoy และ Dreamtheater จะกลับมาร่วมวงกันอีกหรือไม่นั้น


YJM ขอฟันธงว่า กลับมาจูบปากกันอีกแน่นอน! ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้



- อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ

สายสัมพันธ์เพื่อน มันตัดอย่างไรก็ไม่ขาด (ยกเว้นโดนยืมตังค์แล้วไม่คืน)
เมียยังหย่าได้ไปที่อำเภอ แต่นี่เพื่อนไม่รู้ว่าจะไปลาออกกันที่ไหน !

สมาชิกรุ่นก่อตั้งทั้ง 3 คน (Mike Portnoy / John Petrucci / John Myung) รู้จักกันมาปีนี้ก็เข้าปีที่ 27 แล้ว
ดังนั้นคำว่าเพื่อนของพวกเขามันอยู่เหนือกาลเวลา และความเป็นเหตุผลทั้งปวงไปแล้วครับ
แทบไม่ต้องมีคำพูดใดๆมาอธิบายความสัมพันธ์สยึมกึ๋ยนี้

ต่างกอดคอร่วมหัวจมท้ายกันมา เมียของแต่ละคน ลูกๆของแต่ละคนรู้จักกันหมด (อันนี้จากคำสัมภาษณ์ของ John)

บางคนเป็นพ่อทูนหัวของลูกเพื่อนด้วยซ้ำไป ให้เกียรติกันถึงปานนั้น

ดังนั้นคนทั้ง 3 คนบวกกับ Jordan Rudess และ James Labrie ไม่มีทางที่จะตัดกันได้ลง
เพียงแต่อีตอนนั้น ดนตรีมันก็ต้องดำเนินหน้าต่อไป บวกกับงอนกันหน่อยๆ 55



- Mike Portnoy จริงๆแล้วอยากกลับมาตั้งแต่วันแรกๆที่ออกแล้ว (โว้ย)

อันนี้คือปากคำจากตัว Mike เอง หลังจากบอกความคิดง่อยๆของตัวเอง ที่เพื่อนๆต่างพากันรับไม่ได้ (แต่ผมเข้าใจเค้านะ)

ผ่านไปสักระยะเฮียแกเริ่มคิดได้ ก็กลับตัวกลับใจบอกเพื่อนๆ ว่า เออ เค้าผิดไปแล้ว ไม่หยุดพักวงก็ได้ (วะ)

ได้โปรดรับเค้ากลับเข้าวงไปที ได้โปรดรับเค้ากลับเข้าวงไปที เค้าเครียดแล้วนะเนี่ย

แต่ อนิจจา......

สายน้ำไม่ย้อนกลับเสียแล้ว แถมไหลแรงขึ้นอีก

เพื่อนๆก็เลยพากันเซย์โน งอนกันถึงกระทั่งไม่โทรมาบอกเอง แต่ให้ทนายโทรมาบอกแทน
อันนี้ทำให้ Mike เฮิร์ทมากๆ (แต่ตอนบอกเพื่อนว่าจะหยุดวงเนี่ย ฮึ่มม)

ปัจจุบัน คนที่ยังติดต่อกับ Mike เหลืออยู่คนเดียวเท่านั้นคือ Jordan Rudess


ดูลีลางอนของผู้ชายวงโปรเกรสซีฟเมทัลซะก่อน !



- ขาดคนคอยดูแลและรักษาดวงใจ

ถ้าใครได้ติดตามวงชนิดปลิ้นนอกออกใน จะรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า Mike Portnoy ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ตีกลองมหาเทพแล้ว

เค้ายังจะเสนอตัวไปมีส่วนร่วมในทุกๆส่วน ตั้งแต่กำหนดแนวทางของอัลบั้ม ออกแบบปก ไปจนถึงควบคุมการออกทัวร์

ที่หนักที่สุดคือ เป็นคนจัดการเรื่องรายชื่อเพลงที่จะเล่นแต่ละคืน โดยไม่ให้ซ้ำกัน !

ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นเพราะ Mike เค้าเป็นคนที่อยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ถึงขั้น Hyperactive ต้องทำอะไรตลอดเวลา

Mike เคยให้สัมภาษณ์ว่า แม้กระทั่งเวลาที่เค้าเพิ่งตื่นนอนลืมตาขึ้นมาบนเตียง
ก็เริ่มคิดไปโน่นนี่แล้วว่า วันนี้จะทำอะไร คิดกันตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก
เวลาพักวง ก็ยังไปเล่นกับคนนั้น คนโน้น เรียกว่าแทบไม่มีเวลาได้หยุด

ตอนนี้หน้าที่การดูแลวงเป็นของ John และ Jordan ซึ่งก็ทำได้ แต่ยังไม่ได้ที่สุด เพราะทั้ง 2 คนไม่ได้เกิดมาเพื่อการณ์นี้

เค้าดูแลได้ก็จริง แต่การสร้างสรรค์ก็ยังไม่ได้ถึงระดับ “รุนแรง” เท่า Mike ที่มันออกมาจากสันดานส่วนลึกของจิตใจจริงๆ

รุนแรงยังไง ยกตัวอย่าง....

สังเกตได้ว่า การทัวร์ครั้งนี้ (ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปราศจาก Mike) เป็นครั้งแรกที่ DT จะเล่นเพลงเดิมๆตามลำดับเดิมๆทุกวัน

ต่างจากที่เวลา Mike อยู่ เพลงห้ามซ้ำกัน เพื่ออะไร ?

เพื่อที่เผื่อที่ว่า มีคนดูที่ตามมาดูจากที่อื่นซ้ำๆ คนพวกนั้นจะได้ฟังเพลงที่ต่างกันออกไป
ที่สำคัญ มันตอบสนองความไฮเปอร์ของ Mike ได้เป็นอย่างดี

ดังนั้นผมถือว่าเป็นการ “ถดถอย” ในแง่ของการเล่นทัวร์
ถึงแม้มันจะหยุดไปด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม สำหรับวงที่มีการบนิหารจัดการระดับโลกวงนี้

นี่ยังไม่นับความคิดบ้าๆ แบบครึ่งแรกเล่นเพลงตัวเอง ครึ่งสองเล่นเพลงคนอื่นยกอัลบั้ม

ใครไม่ทำ Mike ทำ!

ดังนั้น DT ต้องการ Mike เพื่อที่จะสร้างสรรค์ต่อไป ง่ายๆแค่นี้แหละ



- DT แต่ละคนมหาเทพก็จริง แต่มันต้องครบเครื่อง

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจจะเกิดคำถามในใจว่า อ้าวแล้ว Mike Mangini ไม่เก่งเหรอ?

คำตอบคือเก่งครับ เก่งมากๆด้วย เก๊งงงงง เก่ง เก่ง เก่ง เก่ง เก่ง
ไม่งั้นคงไม่สามารถแบบว่า มาถึงแล้วตีได้เลยแบบที่เห็นๆกันอยู่

แต่ต้องยอมรับว่า Mike Mangini ไม่มีจิตวิญญาณการสรรค์สร้างแบบที่ Mike Portnoy มีครับ
อันนี้คงเอามาเทียบกันไม่ได้ มันคนละคนกัน

บางทีเราเห็นแต่ว่า Mike มันมัวแต่บ้า ทำโน่นทำนี่
เวลาเล่นคอนเสิร์ตก็ยืนชี้โบ๊ชี้เบ๊คอยสั่งคนดูให้ตบมือตาม (นี่กรูเสียตังค์มาดูนะเนี่ย)
จนลืมไปว่า จริงๆแล้ว เค้าเป็นมือกลองที่มีความสามารถระดับบรรพบุรุษของเทพอีกที

เรียกว่า ตีกลองตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ (อันนี้ผู้เขียนโม้ติดลม)

Mike Mangini ไม่มีความคิดริเริ่ม พรสวรรค์ และความบ้าเหล่านั้น ถึงมี ก็ยังน้อยไปสำหรับ DT

ย้อนกลับไปตอนที่ Mike Portnoy ออกไปใหม่ๆ แล้วมีคนตั้งคำถามว่า แล้ว DT จะอยู่ได้อย่างไร
มีหลายๆคนตอบว่า มือกลองเก่งๆเยอะแยะ.....


แต่อย่าลืมว่า....

จะหาที่ “คิด” และตีได้เทพแบบนั้น และกล้าที่จะทำด้วย
จะหาคนที่ทำทุกอย่างในวง
จะหาคนบ้าทำงานตั้งแต่ล้างส้วมไปจนออกแบบและคำนวณ
จะหาคนติดเหล้า เลิกเหล้า แล้วเอามาเขียนเป็นเพลงได้เป็นวรรคเป็นเวร

จะหาได้ง่ายๆจากไหน ไปเดินหาเก็บเอาจากทางเดินเท้ามันคงไม่มี (ขนาดเอามือกลองระดับโลกมาออดิชั่น แต่ละคนยังรุ่งริ่ง)

และที่สำคัญ ความสัมพันธ์ 27 ปี มันจำลองกันไม่ได้ !


วัวเคยขา ม้าเคยขี่ ยังไงมันก็ต้องกลับมายกซดกันอยู่ดี



- แล้ว Mike Mangini ล่ะจ๊ะ จะเอาไปไว้ไหน?

ข้อนี้ยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงใหญ่เลยครับ ถ้าใครเคยติดตามเส้นทางของเขา แล้วมองย้อนกลับไปดูตั้งแต่ต้น
ะเห็นได้ว่า Mike Mangini เป็นมือปืนรับจ้างโดยสันดาน รักอิสระ ไม่เคยอยู่วงไหนนาน

ไม่เคยมีชื่อเป็นสมาชิกถาวรของวงไหนเลย!

เขาไปอยู่วงใด เขาก็พร้อมที่จะออก แล้วย้ายไปอยู่วงอื่นได้ตลอดเวลา

Mike Mangini เป็นคนมีความสามารถมากๆ เขาถึงได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาอยู่กับ DT ได้โดยเอกฉันท์

(ความจริงเฉียดฉิวกับ Marco Minimann มากๆ แต่รายนั้นอิมเมจมันไปด้วยกันไม่ได้ ไม่งั้นก็ได้อยู่ไปแล้ว)

เรียกว่า มาถึงก็ทำงานร่วมกันได้เลย

แต่ด้วยคุณสมบัติข้อนี้แหละ ทำให้ Mike ไม่อยู่ที่ใดๆนานๆ และจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้

ในความเห็นส่วนตัวของผม Mike พร้อมที่จะออกจากวงได้ตลอดเวลาโดยธรรมชาติ และจะไม่อยู่นานด้วยแหละ

ยิ่งทั้ง 2 Mike เป็นเพื่อนกันมาก่อนอยู่แล้ว ยิ่งพูดกันง่ายเลยครับ


เอ็งมาเมื่อไหร่ กรูจะพร้อมจะไปเมื่อนั้น



- แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนี้

ออกกันไปแล้ว แต่ละคนก็แก่ไม่ใช่น้อย จะให้กลับเข้ามาเหมือนเล่นละคนต้มคนดู
มันก็ยังไงๆอยู่ (ความเฮฟวี่และอื่นๆอีกมากมายมันค้ำคอพี่เยซูของเราอยู่ อันนี้ก็เข้าใจ)

ถ้าจะให้ทำนาย สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากนี้คือ...

DT จะออกอัลบั้มโดยที่ Mike Mangini จะมีส่วนร่วมในการแต่งเพลง
อย่างน้อย 1 อัลบั้ม และอย่างมาก 1 อัลบั้ม

หลังจากนั้นต่างฝ่ายก็จะเริ่มอยู่เฉยไม่ได้ โหยหาอาวรณ์

Mike Mangini ก็เริ่มอยากออก อยู่นานมันร้อนที่
Mike Portnoy ก็เริ่มอยากกลับเต็มแก่ ไอ่วงม็อบแมบไรนั่น กรูทำแก้เซ็ง
เพื่อนๆ DT เองก็เริ่มหายงอน แถมคิดเองก็เหนื่อยด้วย อิอิ พอเหนื่อย มันจะหายโกรธ

"เออ นั่นดิ เมื่อไหร่มรึงจะกลับมาซะที" John รำพึงในมุมมืด....

หลังจากนี้ DT จะออกผลงานชุดยิ่งใหญ่มหากาพย์ 3 แผ่น ในทำนองเพื่อนไม่เคยทิ้งกัน
โดยเริ่มมาตั้งแต่ ตอนเริ่มแอบออกไปตีกับ A7X (ฮาาาา)
หลบเลียแผลใจ...
กรูไม่ง้อ...
อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม.....
ความจริง กรูก็เริ่มเหนื่อย...
เออ กรูผิด กรูขอโทษ....
จนถึงตอนกลับตัวกลับใจ จัดแถลงข่าว แฮปปี้เอนดิ้ง

(ช่วงท้ายนี้ Mike ดีใจมาก สั่งทำกลอง 18 กระเดื่องรอรัว Grand Finale)

ระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว มันเอามาเขียนเพลงได้ไม่รู้จักจบแน่นอนครับ
(ขนาดเรื่องแค่โดนรถชนตอนเด็กของ John ยังเอามาเขียนเพลงได้ยาวมาก)

วงนี้จินตนาการมันไม่มีขอบเขตอยู่แล้ว ดังนั้นเตรียมล้างหูรอฟังได้เลย


แล้ววันนั้นแหละ Dream Theater จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเก่า !


จบบริบูรณ์




Create Date : 02 มกราคม 2555
Last Update : 2 มกราคม 2555 11:40:40 น.
Counter : 10160 Pageviews.

8 comments
  
ชอบครับ อ่านสนุกดีครับ
โดย: JP IP: 61.91.67.178 วันที่: 28 มีนาคม 2556 เวลา:11:09:44 น.
  
ผมแฟน a7x นะครับ แต่ผมว่าอาจจะถูกทั้งหมดเลยครับ
มือกลองระดับตำนานอย่าง mike และความเปนเพื่อน 27 ปี
DT ไม่ปล่อยไปหรอก
โดย: A7X IP: 180.183.169.246 วันที่: 10 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:50:05 น.
  
ผมแฟนเพลง dream theater เช่นกัน mike portnoy ต้องกลับมาแน่นอน ส่วนมากเรื่อง ทัวร์ อะไรหลายๆอย่าง portnoy เป็นคนจัดการเองส่วนมาก
โดย: Next IP: 223.204.183.236 วันที่: 14 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:10:53 น.
  
อย่ากลับมาเลย ทำวงตกต่ำ จริงๆ ครับ

ไมค์จะทำเพลงเดิมๆๆ เพลงไม่มีอะไร กลองโปรเกรสซีฟของไมค์เหมือนตีเพลงป๊อปของโปรเกรสซีฟอะ
ดูอัลบั้ม A Dramatics Turns Of Events จอห์น กับ จอร์แดนได้ออกไอเดียเต็มๆ เป็นไงครับ ได้ใช้คำว่า EPIC เลย

รอดูวันที่ 24 กันยา 2556 เพลงจะออกมาสุดขนาดไหน
โดย: 55 IP: 171.7.69.239 วันที่: 11 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:42:51 น.
  
วู้ดดี้มาจากไหนเนี่ย เกี่ยวไรกัน
โดย: riffDT IP: 183.89.61.171 วันที่: 11 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:33:30 น.
  
ผมคิดว่าทั้งหมดเนี้ย มันติดหยิ่งนิดนึงนะ
ถ้า JP กับ MP มันจ้องจะกินศักศรี นะ ก็คงไม่ได้กลับมาทำงานด้วยกัน

ปล. Mike Magini เก่งกว่า Mike Portnoy เยอะมาก (ในด้าน Skill และ Performance)
คือเทียบไม่ได้แน่นอนอยุ่คนละ ชั้น กัน
โดย: Jelly IP: 58.9.203.84 วันที่: 28 กันยายน 2556 เวลา:11:40:56 น.
  
ถึงวันนี้ก็ยังไม่กลับครับ
โดย: abac us IP: 183.88.87.136 วันที่: 5 มกราคม 2564 เวลา:15:20:18 น.
  
-

t.me

- , .



: @new_bonuses

: //t.me/new_bonuses
โดย: Cherietousy IP: 95.55.88.51 วันที่: 27 สิงหาคม 2567 เวลา:17:27:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Yjm-strat.BlogGang.com

YJM_Strat
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]