เที่ยวเกาะพะงัน+Full Moon Party ทริปนี้เราไปตอนสงกรานต์ ว่าจะอัพหลายทีละ แต่ไม่มีอารมณ์ เพราะมันจะยาวยืดมาก เอาเป็นว่าขอเล่าเรียงลำดับเป็นวันๆละกัน จริงๆสถานที่ก้อไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ แต่คนที่เราไปด้วย ทำให้เราสนุกตลอดทริปได้แก่ ออม ตั้ม โบ๊ต อาทิตย์ และ โต ล้วนเป็นเพื่อนเรียนมัธยมที่รู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี ถ้ามีคะแนนความสนุกคงต้องให้ 20 ดาว จาก 10 มาวันนี้แล้วรายละเอียดต่างๆนานา เราก้อลืมเลือนไปเยอะเหมือนกัน เอาเป็นว่าดูรูปประกอบแทนคำบรรยายดีกว่าเนอะ //BLOG นี้รูปเยอะมากจริงๆ ขออภัยพวก NET ช้ามา ณ ที่นี้ด้วย // 12 เม.ย. 49 นัดกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว เนื่องจากเราตัดสินใจทริปนี้ช้า เราจึงต้องขับรถกันไปเอง แล้วเราก้อเพิ่งรู้ว่า เกาะพะงันเนี่ย อยู่สุราษฯ เดินทางโดย FORD ESCAPE ของนายตั้ม อาตี๋น่าร๊ากของเรา กว่าจะได้ออกเดินทางกันจริงๆก้อบ่าย2กว่า นั่งmouthกันไปเรื่อยๆ แวะกินข้าวที่เพชรบุรีตอน 4โมงเย็นแล้วขับยาวไปถึง อ.หลังสวน จ. ชุมพร เพื่อพบเจอเพื่อนเก่าอย่างนายกล้าซึ่งกลับบ้านเกิดไปทำมาหากินอยู่โน่นนายกล้าหน้าใสมากๆๆแล้วนายกล้าก้อพาเราไปเปิบร้านที่เหลืออยู่ร้านเดียวตอน4ทุ่มของ อ.หลังสวน ซึ่งเราก้อไม่ได้จำชื่อมาแต่อย่างใด รู้แต่ว่าเป็นร้านขายเนื้อปลาทะเลที่สดมากๆๆได้แก่ ปลาลวกจิ้ม ต้มยำปลา ข้าวต้มปลา หลังจากเปิบของว่างยามดึกกันแล้ว เหล่าพลพรรคก้อมานั่งล้อมวงหน้าห้องโรงแรมที่จองเอาไว้เพื่อเปิบเหล้ากันต่อไป คุยกันหนุกหนานมากๆ โดยเฉพาะความหลังครั้งเก่าๆ 13 เม.ย. 49 -- วันสงกรานต์ เช้านี้ เป็นวันสงกรานต์แล้ว แต่พวกเราก้อยังคงต้องตื่นมาเดินทางกันต่อ แต่ก่อนออกจากชุมพรได้แวะกินข้าวแกงพื้นบ้านก่อน รสชาติไม่ได้เผ็ดมากอย่างที่คิดไว้ แต่ไม่มีรสหวานมาแตะลิ้นเราเลย แถมมีผักชามใหญ่มาให้กินแกล้มด้วย ออกเดินทางกันอย่างยาวไกลอีกครั้ง เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้เห็นภูมิประเทศของภาคใต้เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยไปเที่ยวภาตใต้เลยเคยไปกระบี่ไปดู SITE thesis ก้อ นั่งเครื่องบินไปไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ จากนั้นเราก้อมุ่งตรงไปยัง LOTUS ของสุราษฯเลยเพราะนัดเพื่อนร่วมทางอีกคนนึงเอาไว้ นั่นคือ หมออาทิตย์ จากนราธิวาส คร๊าบ แต่ก่อนเจออาทิตย์เดินอยู่ใน LOTUS ก้อเจอนายภุชงค์ซะอย่างนั้นน่ะ เลยถ่ายรูปด้วยความขำขันไว้เล็กน้อย ว่า เอ๊..อยู่ กทมไม่เจอกันมาเจอกันที่นี่ หลังจากมีพลพรรคครบ6คนแล้ว เราก้อมายังท่าเรือราชาต้องเอาFORD ESCAPE ของตั้มไปฝากบ้านคนแถวนั้นเอาไว้ ค่าเรือคนละ 200 บาทแน่ะ ขึ้นไปบนเรือแบบเร่งรีบเพราะคิดว่าเค้าจะออกแล้วเพราะมันใกล้เวลามากๆเลยไง ปรากฎว่าที่ไหนได้ ในเรือโคตรจะร้อน แม้จะมีแอร์อะนะ แล้วก้อเรือออกเลทไปครึ่ง ชม. ตามเวลาพี่ไทย นักแล นั่งเรือไป 2 ชม ถึงเกาะพะงัน พวกเราต้องต่อรถไปหาดท้องนายปาน อันเป็นที่พักฟรีของญาติออม ชื่อ พิงจันทร์รีสอร์ทระหว่างทางก้อมีมนุษย์มาสาดน้ำเราเป็นระยะ ก้อแน่ล่ะ วันนี้มันวันสงกรานต์ นิ่คะ ทำให้เราตื่นเต้นทุกครั้งเวลารถ 2 แถวชะลอ แต่ก้อสนุกสนานกันไป ที่ไม่หนุกมากๆเพราะพวกเราไม่มีอาวุธ//น้ำหรือแป้ง// ตอบโต้ข้าศึกเลย ขอบอกว่าทางบนเกาะพะงันโหดมากๆพวกเราต่างดีใจที่ไม่ได้เอารถมาเอง แต่ก้อต้องทนนั่งสองแถวที่ต้องขับโคตซิ่งไปทั้งทริป ค่ารถบนเกาะก้อแพงมาก เป็นนักท่องเที่ยวก้องี้แหละโดนโขก ตลอดเวลา กว่าจะมาถึงหาดท้องนายปานก้อเย็นย่ำ พวกเราพากันอาบน้ำ ออกมากินข้าวเย็น นั่งคุยริมหาดชิวๆถึง4ทุ่มก้อพากัน นั่งเรือออกไป หาดริ้น เพื่อ FULL MOON PARTY ที่รอคอย กราบขออภัยทุกท่านด้วยที่ไม่มีรูปที่ไป PARTY มาเซ่นเลย เนื่องจากพี่เจ้าของรีสอร์ทเค้าบอกว่าไม่ควรเอาของมีค่าไป เพราะไปแล้วจะเมากันเดี๋ยวของจะหาย มิจฉาชีพมันเยอะ พวกเราเลยไม่มีใครเอามือถือ หรือกล้องไปเลยไปเลย นั่งเรือ โดนน้ำทะเลฟองน้ำทะเลปะทะหน้า ก้อเย็นดีนะ ได้เห็นทะเลดำทะมึนตอนกลางคืน พร้อมกะท้องฟ้าที่ไม่มืดมิดนัก กับพระจันทร์ดวงโต นั่งไปเพลินๆ น่าจะถึงครึ่ง ชม เราก้อถึงจุดหมาย นั่นคือ หาดริ้น โอ้ว...ฝรั่งกว่า95% กะลังเต้นกันอย่างเมามัน หัวดำหาได้น้อยมากๆ ร้านแต่ละร้านก้อเปิดเพลงชวนอัพยาเหลือเกิน เราไม่รู้จะเรียกเพลงแนวนี้ว่าอะไร นึกออกแต่ว่าเคยได้ยินเพลงลักษณะคล้ายๆแบบนี้ที่สีลมซอย4 เพลงเหมาะแก่การอัพยานั่นแหละ ฝรั่งผู้หญิงทุกคนพร้อมใจนุ่งน้อยห่มน้อยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พวกเพื่อนผู้ชายเราเห็นแล้วก้อตาโตกันซิคะ แถมมีประโยคเด็ดท่องกันไว้ขึ้นใจว่า “ DO YOU BELIEVE IN DESTINY?” เอาไว้เวลาเจอฝรั่งที่ถูกตาต้องใจค่ะ แวบนึงเรานึกถึงฉากเต้นอยู่ใต้ดินใน THE METRIX:RELOAD…หรือไม่ก้อเป็น เหมือน “นรก”.. เหล้าที่ขายที่นั่น “แพง” อย่างไม่น่าให้อภัย คือ 1 กระป๋อง ผสม แสงโสมแบน โค้ก กระทิงแดง ราคา 250 บาท น้ำขวดละ 20 บาท เพื่อนๆกินเหล้าแล้วเมามายเดินกันไปเต้นทั่วหาด ตั้มกะออม เมาแล้วเต้นกระโดด คึกมาก เพื่อนชายเราที่ชื่อโต ดูจะขายดีเป็นพิเศษ เพราะ ผิวดำคมเข้ม มีฝรั่งเอกซ์ๆมาขอเบอร์ยังไม่ยอมให้เค้าไปอีก ไอ้บร้า...เราเมาน้อยกว่าพวกเพื่อนๆเพราะเรากินแสงโสมไม่ไหว พวกเราผลัดกันเมา ผลัดกันนอนและ ผลัดกันนั่งเฝ้า ตอนเราเมา เพื่อนๆเรานั่งเป็นกลุ่มอยู่ริมหาด ใกล้ๆกะน้ำทะเล เราก้อถอดรองเท้า//รองเท้าแตะNATURALIZER คู่นึง 900 กว่าบาท// ไว้ข้างๆที่เพื่อนเรานั่งค่ะ หลังจากลั๊ลลากะน้ำทะเลเสร็จ กลับมา รองเท้าหาย! ครับท่าน เหลือแตะหูคีบสำดำกลางเก่ากลางใหม่ ไว้ให้เราใส่ ....โอ้ มิน่า ขนาดรองเท้ามันยังเอาเลย อ่ะ .... ฝรั่งบางคนเปลือยอกเล่นน้ำทะเลซะอย่างงั้น ไม่รู้เพราะพวกหล่อนเมา หรือว่าเป็นวัฒนธรรมเค้ากันแน่! ได้ความรู้ใหม่ด้วยว่า ที่นี่เค้ามี HALF MOON PARTY กันด้วย นัยว่า เพื่อกิจการร้านเหล้าริมหาดที่หาดริ้น ก้อจริงอ่ะนะ แล้วก้อคงจะเป็นการสนับสนุนพวกชอบอัพยา ไม่งั้นเดือนนึงมี PARTYเพื่ออัพยากันไม่กี่วันเองนิ่ 14 เม.ย. 49 ณ หาดริ้น ... เช้า 7 โมง เนื่องจากไม่มีใครพกมือถือติดตัวไปเลย เพราะเกรงว่าจะหายไปตอนเมา เรายังหา นายโต ไม่เจอ ได้แต่คิดกันไปต่างๆนานาว่า “คงจะได้ไปนอนกะเพศไหนซักเพศที่ไม่ใช่คนไทยเป็นแน่แล้ว” เกือบจะตัดใจนั่งรถกลับไปนอนที่หาดท้องนายปานโดนไม่มีมัน นายโบ๊ตก้อพบนายโตนอนหลับเป็นตายอยู่ริมหาดปลุกยากมากๆ ขณะนั้นฟ้าสว่างมากแล้ว แต่ร้านรวงริมหาดริ้นก้อยังคงเปิดเพลงอย่างไม่หยุดหย่อน ฝรั่งจำนวนนึงก้อเต้นสู้แดดที่หาดต่อไป หลังจากหากันเจอจนครบก้อโบกรถกลับหาดเข้าที่พักนอนหลับอย่างเป็นตาย ตื่นขึ้นมาอีกทีออกไปหาข้าวกิน ได้เห็นบรรยากาศ ริมหาดแบบสงบๆแดดแรงๆเป็นครั้งแรก หาดท้องนายปานช่างสงบเงียบเสียนี่กระไร กินข้าวเสร็จก้อไปนอนผึ่งพุง รับลมทะเล หลับๆตื่นๆ บ่ายๆเกือบเย็นเพื่อนๆก้อลงเล่นน้ำกัน ส่วนเราไม่ชอบเล่นน้ำทะเล ได้แต่นั่งกินลมชมวิวอยู่บนฝั่ง มองไปมองมาเห็นหมา 1 ตัว เล่นน้ำอยู่ตัวเดียว ไม่ชวนคนอื่นเล่นด้วยนะ ยังนึกในใจเลยว่า หมาตัวนี้ complete ตัวเองได้ ดีกว่าคนซะอีก ฮิฮิ เย็นย่ำก้อเดินไปหาข้าวเย็นกินตามระเบียบ ...หาดขาวๆกับแสงจันทร์ ลมพัดเอื่อยๆ ช่างมีความสุขจริงๆ กับข้าวร้านนี้ไม่อร่อย แต่เปิดเพลงร็อคยุค 80-90 ... เค้าว่ากันอ่นะ แต่ขอแอบบ่นเล็กน้อยว่า ร้านอาหารที่หาดนี้ แต่ละร้านทำรสชาติอร่อยอยู่หรอกนะ แต่ไม่มีความเป็นรสชาติท้องถิ่นปะปนมาเลยอ่ะ กินที่ กทม ยังไง ที่นี่ก้อเหมือนอย่างงั้นเลย อาหารประจำทริปที่พวกเราสั่งกันได้สั่งกันดี คือ FRENCH FRIED ซึ่งเด็กรับ order บางร้านจะหันมาถามแบบหน้าตางุนงงว่า “มันทอดใช่ไหม พี่?” กินเสร็จก้อนั่งคุยกัน กินเหล้าขำๆไปอีกแป๊บเดียวก้อเข้านอน นอนกันแค่เที่ยงคืนเอง .... 15 เม.ย.49 ตื่นเช้า อาบน้ำเสร็จ 9 โมงเช้า...มากินก๋วยเตี๋ยวพื้นถิ่นกะ ป้าของ นส ออม// เราแอบดีใจ เย้ๆๆๆ ได้กินอาหารท้องถิ่นแล้วเว้ย /// จำชื่อร้านไม่ได้แล้วเต่เค้าว่ากันว่า ถามเลยก๋วยเตี๋ยวหาดท้องนายปาน ดังแค่ไหน บนเกาะ อุอุ มีร้านนี้ ร้านเดียว เราเลือกทางก๋วยเตี๋ยวเลยไม่รู้ว่าขนมจีนรสชาติถึงใจแค่ไหน เค้ายังมีขนมเป็น หัวมันน้ำกะทิด้วย หลังจากนั้นไปนวดแผนไทยริมศาลาติดทะเลกันคนละ 1 ตุ๊บ...ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวดีเด่นเลยนะนั่น หลังจากนั้นมุ่งหน้าไปน้ำตกธารเสด็จกัน เนื่องจากไม่รุจะทำอะไร ค่ารถแพงเอาการ เหมารถทีไรตกหัวละไม่ต่ำกว่า 150 บาททุกครั้ง มาเที่ยวครั้งนี้ ค่าพาหนะแพงบันลัยเลย แล้วเราก้อถึงจุดหมาย น้ำตกที่ไม่ค่อยมีน้ำแต่เอาวะมาแล้วต้องเล่น ไม่เล่นไม่ได้แล้ว...ระหว่างทางเดินขึ้นไปน้ำตก เดินสวนกะฝรั่งอกตู้ม นุ่งน้อยห่มน้อย น่าอิจฉาจริง จริ๊ง...เป็นครั้งแรกที่เราได้เล่นน้ำบนเกาะ ก้อน้ำมันจืดนี่นา เล่นได้สิเรา น้ำเย็นๆ เงยหน้าขึ้นไปเห็นยอดไม้ ปนกะท่าทางตลกของเพื่อนๆ ทำให้เรามีความสุขเหมือนหลุดออกไปจากโลกมนุษย์เงินเดือนที่เป็นอยู่ทุกวัน ....กระโดดน้ำตั้งท่าถ่ายรูปกันจนหนำใจ ... ขึ้นจากน้ำก้อไปหาดที่อยู่ใกล้ๆน้ำตก แล้วก้อACT ท่าถ่ายรูปซะ มีบ้านอยู่บนหน้าผานี้เต็มไปหมดเลยน่ารักซะ มองไกลๆเหมือนเมืองจำลองเลย หลังจากนั้นพวกเราจึงเดินทางไปยังรีสอร์ทที่ชื่อว่า“ภูวิมาน” เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ สวยจริงๆ มันมีลักษณะเป็นผาที่อยู่บนเขา เค้าว่าธรรมชาติมนุษย์ชอบ LOOK DOWN มาอยู่บนนี้แล้วมองลงไปเห็นอะไรต่อมิอะไรเล็กๆเต็มไปหมด ทั้งรีสอร์ทที่เราพัก ทั้งเรือหาปลา สบายตาจริงๆ ทำให้เรารู้สึกว่า ที่แท้เราก้อเป็นแค่ จุดเล็กๆของโลกใบนี้ ตอนเราขึ้นไปมันจะ5 โมงเย็นแล้ว แดดร่ม ลมตก กะลังดี ชมวิวไปก้อต้องสั่งอาหารเค้าด้วย อาหารแพงมาก ผัดไทยจานละ 180 บาท สเต็กหมู BLUE CHEESE ไรไม่รุจานละ 350 บาท ไม่รวม VAT แต่เราถือว่าคุ้มเพราะ วิวที่มองเห็นนั้น สวยจนไม่ต้องบรรยายจริงๆ พอเดินมาลงทางโค้งๆก้อได้เวลาเล่นไร หนุกๆ ดูกันตามภาพได้เลย วันนี้ถือเป็นวันPEAK อีกวันหนึ่งเพราะหลังจากกินข้าวตอนหัวค่ำเสร็จแล้ว เรามาเล่นเกมๆนึงกัน เป็นเกมแบบนี้ค่ะ คือแจกกระดาษเปล่าคนละ 1แผ่น แล้วให้ใครคนใดคนหนึ่งนิยามคำว่าอะไรก้อได้ แล้วให้ทุกคนฟังแล้วนึกถึงคำๆนั้นแล้ววาดออกมาเป็นรูปตามที่ตัวเองจินตนาการ โดยที่พับใส่กล่องเอาไว้ แล้วค่อยมาเปิดวิจารณ์ทีละคนว่า คนที่เขียนรูปแบบนี้ เมื่อนึกถึงคำนี้ เป็นคนแบบไหน สนุกจริงๆมากๆ เรียก เสียงฮาได้ตลอดเวลา ที่วิจารณ์ได้สนุกเพราะรู้จักตัวตนของกันและกันมานานมาก แต่เดายากว่าใครเป็นคนเขียน คำที่เราเล่นกัน มีคำว่า “เหงา” “รัก” “SEX” “พรุ่งนี้” เล่นกันไป ขำกันไป เมากันไป จนเที่ยงคืนก้อรีบไสหัวกลับไปนอน 16 เม.ย. 49 ตื่นตี 5 นั่งเรือมาลงท่าSEA TRANS ไปเอารถ ขับกลับมา กทม ระหว่างทางมีการแวะพักกินข้าวที่ OUTLET ที่เพชรบุรีด้วย แต่เราไม่ได้ซื้ออะไร ... กว่าจะมาถึงกทม รถติดได้ใจ ถึงเกือบ 5 ทุ่ม นับเป็นการเดินทางที่เมื่อยก้นเอามากๆ จบทริปนี้ด้วย ความเหนื่อยมากมาย แต่ได้ ความสนุก ความสุข+อิ่มเอิบใจ และช่วยต่ออายุการทำงานของเราไปได้อีกซักระยะ น่าไปเที่ยวจังเลยอะ นางแบบสวยๆทั้งนั้นเลย กับข้าวน่าทานจ้ะ
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:15:02:40 น.
เล่าได้บรรยากาศมาก อยากทำให้ไปเที่ยวมั้ง อยากกินขนมจีนครับ
โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:15:53:39 น.
น่าสนุกนะคะ วิวก็สวย
เวลาได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆเนี่ย อยากให้เวลาผ่านไปช้าๆจังเลย โดย: นี่มันอะไรกันซะงั้นน่ะ วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:17:18:01 น.
อ่า ไม่ได้เที่ยวทะเลนานแล้ว น่าหนุกดีนะ ยิ่งไปกับเพื่อนเก่าที่รู้หัวจิตหัวใจแบบนี้ น่าอิจฉาชมัด ...
เพื่อนมัธยมเรา เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้ากันหมดแล้ว โดย: StrayBird วันที่: 25 มิถุนายน 2549 เวลา:23:55:02 น.
เล่าได้อารมณ์มากกกกกกกกกกกกคะ 555 เคยไปมาเหมือนกันคะ วันหลังถ้าไปชวนด้วยนะคะ
โดย: NIRISSA วันที่: 26 มิถุนายน 2549 เวลา:13:52:32 น.
update ดีเลย์มากอ่ะเจ๊
ผัดไทยโคตรน่ากินเลย (ทั้งที่ไม่ชอบกินผัดไทย ) โดย: Nutjung วันที่: 26 มิถุนายน 2549 เวลา:20:24:39 น.
เล่าได้ มันส์ มั๊กมั๊ก เหมือนได้ไปด้วยเลย
อยากไปด้วยงะ ไม่เคยไปใต้เลย ตอนนี้หิวมาก ผัดไทยจานละ 180 ก็ยอมเพราะมันน่ากินอะ โดย: C'est Si Bon (C'est Si Bon ) วันที่: 26 มิถุนายน 2549 เวลา:21:24:02 น.
อยากไป FULL MOON PARTY ด้วยยยยย
ยังไม่มีวาสนาได้ไปสักคราเลย เออ...ถ้าจำไม่ผิด ตอนที่พิ้งกำลังสนุกสนานอยู่ที่นี่ เรากำลังนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลนี่หว่า โดย: Duke-ดุ๊ก วันที่: 26 มิถุนายน 2549 เวลา:23:20:55 น.
Oh my gosh That curve beachhhhhhhhhh
วาวววววววว อ่านแล้วไปบ้างดีฝ่า แต่จะไปกะใครดีหว่า อิจฉา จขบ มีเพื่อนไปเที่ยวด้วย เพื่อนเราหายศรีษะไปไหนหมดฟะ โดย: angy_11 วันที่: 27 มิถุนายน 2549 เวลา:10:41:23 น.
อยากไปทะเลลักษณะนี้จัง
หมายถึงว่าทำตัวเหมือนไปทะเล จริงๆ ได้เล่นน้ำทะเล ได้ทำนั่นทำนี่เหมือนอยู่ทะเล เพราะไปทีไร เหมือนเปลี่ยนที่กินเหล้าทุกทีเลย โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 28 มิถุนายน 2549 เวลา:13:59:15 น.
เพิ่งรู้ว่ามี HALF MOON PARTY ด้วย นี่เค้ากะจะไม่ให้พะงันอยู่ในความสงบเลยเหรอครับ แย่จังแฮะ
น่าสนุกจริงๆที่ได้เที่ยวกับเพื่อนสนิทเก่าๆ ผมว่าเที่ยวที่ไหนก็สนุกน่ะ ถ้าเพื่อนเดินทางที่รู้ใจสนิทกันขนาดนี้ โดย: ข้าวตู วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:21:56:15 น.
ไม่เคยไป แต่ได้ยินกิตติศัพท์ Full Moon Party มานาน น่าสนุกจริงๆถ้ามีกลุ่มสนิทไปกัน...
Half Moon Party คำนี้เข้าท่ามาก เฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นยปาร์ตี้ไพรเวทกลุ่มเพศที่ 3 ชื่อจะน่ารักเป็นพิเศษ โดย: แร้ไฟ วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:23:19:23 น.
คุณข้าวตูครับ ที่พะงันมีซีกมุมสงบหลายที่ครับ ทั้งที่เที่ยวและที่พัก ถ้าเป็นหาดริ้นคุณจะหาความสงบไม่ได้หรอกไม่ว่าจะเป็นช่วง Full Moon หรือไม่ก็ตาม
โดย: ไวไว IP: 222.123.236.150 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:12:04:10 น.
|
บทความทั้งหมด
|