เล่าสู่กันฟัง...คนขี้โม้...กะดาราจำเป็น เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง...ที่จริงต้องบอกว่าเป็นวันที่น่าเบื่อและควรจะเซ็งที่สุดในโลก แต่ก็กลายเป็นเรื่องที่ทำให้เรายิ้มได้ และน่าจดจำได้... กลับจากการทำงานที่แสนเหนื่อย ต้องขับรถข้ามโลกจากแถวพระรามเก้าไปทำงานที่บางแค ขากลับก็ขึ้นทางด่วนพระราม 2 ไม่รู้เวรกรรมอะไร วันนี้ร้อนมากๆๆๆๆ แถมรถติดสุดๆๆ บนทางด่วน แบบว่าจอดไม่ขยับเลยอ่ะอีกไม่ถึง 100 เมตรด่านจ่ายเงิน ใช้เวลาเกือบ 1 ชม. อ่ะ แล้วสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้น แอร์คั๊บ...อยู่ๆก็ไม่เย็น เราก็เอ่อ...เอาอีกแล้วหรอเนี่ย..(รถเก่าอ่ะ มีปัญหาเรื่องความร้อนบ่อยอยู่เหมือนกัน) ที่จิงโทษรายเดียวก็ไม่ได้เราเองก็ไม่ดูหม้อน้ำเลยอ่ะ ขนาดมีคนเตือนให้เช็คดูวันเว้นวัน ก็เช็คมันอาทิตย์ละครั้ง...(ก็สมควรเนอะ) เข้าเรื่องต่อ...ความร้อนเริ่มขึ้น...เอาละคั๊บท่านผู้ชม ดิฉันจะสร้างวีรกรรมอีกแล้ว..... ปิดแอร์เลยค่ะ แล้วก็เปิดกระจก ร้อนมากๆข้างนอก ซักพักก็เห็นควันออกมาจากล่องหน้ารถเป่ากระจกเป็นไอ ตายละหว่า ไม่พักซี้แหงแก๋ แน่นอนเรา ระหว่างนั้นรถก็ขยับมาถึงจุดจ่ายเงินจนได้ ก็เลยถามได้ความว่าบนทางด่วนมีอุบัติเหตุอ่ะ...ขวางทุกช่องทางรถก็เลยติดอย่างนี้อ่ะคั๊บ..งแต่นี่เคลียร์แล้ว...สบม เราก็....เอ่อ รถท่าทางจะเสียอ่ะค่ะ ไปไม่ถึงจุดเกิดเหตุแน่นอนค่ะ เกรงว่าจะกลายเป็นจุดเกิดเหตุที่ 2 ด้วย ก็เลยตัดสินใจหักเข้าซ้าย ไปจอดที่พักทาง ซึ่งเป็นปั๊ทปตท แล้วก็มี 7 11 ด้วยนะ พอจอดรถเสร็จ...สาวเจ้าก็สามารถมากค่ะ เปิดฝากระโปรงรถเอง มั่นใจสุดๆๆท่ามกลางสายตาหลายคู่จับจ้อง...(มันทำไรหว่า) โอ้โห...แข่งกันเดือดใหญ่เลยค่ะท่านผู้ชม...หม้อน้ำเอย...ถังสำรองหม้อน้ำเอย.... ต้มไข่คงสุกกำลังกินแน่ๆจากรูปการณ์แล้ว ยังค่ะ ยังเก่งอยู่ เหมือนจำได้ลางๆว่าหม้น้ำเดือด ห้ามเปิดฝา หรือเอาน้ำลดเด็ดขาด อาจจะแตก และระเบิดใส่หน้าได้ หันซ้ายหันขวา ก็เลยเดินเข้า 7 11 ซะเลย ฆ่าเวลา...แต่แบบว่าโอ้ มายก๊อด ที่นี่ที่ไหนของกทมเนี่ยฉันจะหาช่างได้ไง...คิดๆๆๆ ช่วงที่คิดๆเนี่ยแหละไม่ทันระวังตัว สังเกตุอีกทีเหมือนมีผู้ชายสะกดรอยตามอยู่ใน 7 อ่ะ ไม่ว่าจะเดินไปช่องไหน เค้าทั้ง 2 คนก็จะไปอยู่อีกฝั่งของช่องเดียวกันนั้น แต่ว่าดูท่าทางไม่น่ามีพิษภัยอะไร ท่าทางเหมือนเจอคนรู้จักแต่ไม่กล้าทักเพราะจำไม่ได้...อารมณ์ ประมาณนั้น พอเรามากดน้ำที่ในสุดของร้าน ทันใดนั้น...สุภาพษุรุษทั้งสองท่านก็เดินเข้าหา ดูเหมือนจะถกเถียงอะไรกันตลอดเวลา ในที่สุดก็ได้ยินแว่ว... "มึงว่าใช่ป่ะ" อีกคน"มึงก็ลองถามเค้าดูดิ" คนแรก "แต่กูว่าใช่กูจำได้" เราก็หันไปอารมณ์ แบบว่าคะว่าไงคะ ด้วยสายตานะ ไม่ได้พูดไร เค้าก็ไม่ยักพูดไรกะเรา เหมือนแบบแอบตื่นเต้น พูดไม่ออก อะไรแบบนี้อ่ะ เราก็เอ...ยังไงนะ แอบเริ่มกลัวเล็กน้อย...เอหรือว่ามันเห็นรถเราเสีย พอเราเดินมาที่เคชเชียร์จ่ายเงิน ผู้ชายคนแรกก็เดินตามมาอ่ะ แล้วก็มายืนอยู่ข้างๆเราด้วยนะ อยู่ก็ยื่นกระดาษมา แล้วก็พูดแบบว่า "เอ่อ...ขอลายเซ็นหน่อยคั๊บ" เรา "ขอลายเซ็น" ทำหน้างง ระหว่างนั้นก็หยิบเงินมาจ่ายตังค์อย่างระมัดระวังกระเป๋าสุดฤทธิ์ ผู้ชายคนนั้น "คั๊บ...ผมจำคุณได้ คุณเป็นดารา" เราก็ยิ้มๆ แอบฮาในใจก็เลยถามเค้าไปว่า "จำได้ว่าเป็นใครอ่ะคะ" เค้า "ผมขอโทษจริงๆคั๊บ ผมจำชื่อคุณไม่ได้ แต่ผมจำคุณได้จิงๆนะ เพราะเพิ่งเห็นมาไม่นานนี้เอง" เรา "หรอคะ" แล้วก็หยิบกระดาษมา "ให้เซ็นว่าไรอ่ะคะ" เค้า "อะไรก็ได้คั๊บ ชื่ออย่างเดียวก็ได้" ตอนนั้นนะคิดในใจ ผู้ชายเนี่ยก็บ้าดาราเหมือนกันนะ เราก็เลยเซ็นชื่อเราให้ แล้วก็ยื่นคืนเค้าไป 2 แผ่น เราก็ถามเค้าว่า "รู้ยังคะว่าเป็นใคร" เค้าบอกว่า "จำไม่ได้คั๊บ แต่ขอบคุณมากนะคั๊บ" เราผู้สวมรอย "ไม่เป็นไรค่ะ" เงยหน้ามาอีกทีคนใน 7 11 ก้มองยิ้มๆกันใหญ่ ไม่รู้ว่ายิ้มเพราะว่าเค้ารู้ว่าเราไม่ใช่ หรือยิ้มเพราะผู้ชาย 2 คนนี้น่ารักก็ไม่รู้...ทีนี้ก็เดินออกมาและ ดูรถอืมยังร้อนๆอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวโทรไปเม้าส์เรื่องฮาๆให้น้องสาวฟังดีกว่า....ระหว่างกำลังเม้าส์ หนุ่ม 2 คนเดิม ก็เดินมาหาเราอีกรอบ "เอ่อ..โทษนะคั๊บ...ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคั๊บ" เอ้า...ไม่เลิก ตานี่ เรา"จำได้แล้วหรอคะ" เค้า "ยังคั๊บ...แต่ว่าชอบมานานแล้ว..ขอถ่ายรูปนะคั๊บ" เราก็แบบว่าบ้าจี้ เอาก็เอาวะ ก็กดถ่ายกันอยู่ 2-3 รูปอ่ะค่ะ ก็เลิกลากันไป กำลังจะลงไปที่รถเพื่อเติมน้ำ ก็มีเด็กมาจากไหนก็ไม่รู้ 2 คนวิ่งมาพร้อมกระดาษในมือ ไม่นะ ไม่ เรานึกในใจ...."พี่คะๆ ช่วยเซ็นลายเซ็นให้นู๋หน่อยนะคะ" เฮ้อเราบาปกรรมแน่ๆ "เอ่อน้องคะ... จำพี่ได้หรอคะ" น้องผู้หญิงอีกคนพยักหน้าใหญ่เลยอ่ะ แต่พอเราถามก็บอกอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง มองหาพ่อแม่เด็กดีกว่า อยู่ไหนหว่า...ในสุดก็เหลือบเห็น นั่งอยู่ในรถที่จอดไว้ข้างๆเรานั่นเอง เหมือนเค้าจะเห็นว่าเรามองก็เปิดกระจกออกมายิ้มพยักหน้าพยักตากันใหญ่ เราก็เลยต้องเซ็นให้ ว่า "เรียนหนังสือเก่งๆนะ" กะ "ตั้งใจเรียนนะคะ"แล้วก็ลงชื่อเรา พอเด็กได้ลายเซ็นเราไปแล้วก็วิ่งจู๊ดกลับรถไป แม่เค้าก็ตะโกนออกมาจากรถ "ขอบคุณนะคะ" เราก็ได้แต่อมยิ้มกับเรื่องประหลาดๆที่เกิดขึ้นกะตัวเองในวันที่คิดว่าแสนเบื่อหน่าย พอเติมน้ำหม้อน้ำเสร็จก็ขับรถกลับมาเรื่อยๆ ใจก็คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้กับตัว แล้วก็อดอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้ กลับมาเล่าให้ที่บ้านฟัง พ่อบอกว่า อีกไม่กี่สัปดาห์หรอก ลูกก็จะเป็นดาราจริงๆ พ่อว่ามันต้องเป็นรายการ ล้อคุณเล่นอะไรแบบนี้แน่ๆ เลย เราก็เอ่อ...พ่อคะ...ลูกยังคิดไม่ถึงเลย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้นกะเราไม่ว่าดีหรือร้าย มันขึ้นกะว่าเราจะเลือกมองมันที่มุมไหนมากกว่ากัน ถ้ามองมุมร้ายเราก็จะทุกข์ แต่ถ้าเราเลือกที่จะมองมุมเล็กๆที่ซ่อนอยู่...เราก็จะรู้ว่า โลกเนี่ยไม่ได้เลวร้ายเสมอไปนะ อ่า ขอลายเซ็นด้วยคนคร้าบ
โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:27:58 น.
อิอิ ตลกดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
โดย: สาวน้อยผู้น่าหวาดกลัว IP: 210.86.135.13 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:01:38 น.
5555555
อ่านบรรทัดแรกๆ ลิเซิ่ลยังภาวนาเลยว่า อย่าเปิดหม้อน้ำๆๆๆๆ กลัวตัวเองไม่รู้อ่า..... เห็นรูปใส่แว่น ยิ้มได้สดใสม๊ากมาก โดย: ลิเซิ่ล IP: 58.8.189.221 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:09:54 น.
|
บทความทั้งหมด
|