อยากไปเรียน UK มาก ต้องทำยังไงบ้างถึงได้ไป
เห็นมีกระทู้น้องคนนึง เข้ามาถามว่าอยากไปเรียนต่อที่ UK มาก
แต่ไม่มีตังค์ ทำยังไงถึงจะได้ไป

เอ่อ ตอบแบบตรงๆ กวนๆ น่าหมั่นไส้ก็คือ ก็ไปหาตังค์มาสิครับ ไม่งั้นคงไม่ได้ไป

ผมเลยลองไปสอบถามคนรู้จัก รวมทั้งนั่งเทียนนึกเอาเองด้วยว่า
ถ้า นร ไทยซักคน อยากมาเรียนต่อที่ UK จะต้องทำยังไงบ้าง
เอาวิธีเรียงจากง่ายที่สุดไปหายากที่สุดนะครับ เอาสำหรับระดับปริญญาโทขึ้นไปเน้อ ประถม มัธยม ป ตรี ไม่นับ

***เนื่องจากมีการนั่งเทียนและนั่งทางในนึกเอาด้วย ดังนั้นข้อมูลนี้นำไปใช้อ้างอิงไม่ได้เด้อ เล่าสู่กันฟังสนุก ๆ เท่านั้น***

ต้องเข้าใจก่อนว่า การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่อังกฤษนี่ เป็นธุรกิจแบบนึง
และเป็นธุรกิจที่รายได้ดีสำหรับมหาวิทยาลัยที่นี่ด้วย ดังนั้น หลักสูตรทั่วๆ ไป ค่าเรียนของ นร ต่างชาติ จะแพงกว่าคนอังกฤษหรือ EU มาก
ค่าเรียนต่อปีสำหรับป โท จะอยู่ที่ 12,000 ปอนด์ขึ้นไป ต่อ 1 ปี ไม่รวมค่ากินอยู่อื่นๆ

ทุนการศึกษา จะให้สำหรับคนอังกฤษหรือ EU ก่อน ถ้าหาคนมารับทุนไม่ได้ โอกาสจึงจะตกเป็นของชาติอื่นๆ ซึ่งคนจีนอินเดียหรือพวกแอฟริกันที่เก่งๆ เทพๆ เป็นคู่แข่งเราก็มีอีกมาก โอกาสจึงน้อยสำหรับคนโปรไฟล์ธรรมดาๆ

ดังนั้น มาเรียนโท 1 ปี ค่าเรียนเอาแบบถูก ๆ 12,000 ปอนด์
ค่ากินค่าอยู่ค่าตั๋เครื่องบิน ตีไปซะ 8,000 ปอนด์
นั่นคือประมาณ 20,000 ปอนด์ต่อปี นี่แบบถูก คืออยู่ U นอกเมืองหลวงแล้วนะครับ
U ดีๆ หรือบางหลักสูตร เช่น MBA ค่าเรียนอาจจะ 19,000-25,000 ปอนด์ก็มี

ตอนนี้ดีหน่อย ปอนด์อ่อนบาทแข็ง แต่ว่าคุณต้องมีเงินประมาณ 1 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย สำหรับการเรียน ป โท 1 ปีที่อังกฤษ

ดังนั้นอาจจะสรุปว่าอยากมาเรียน ทำไงบ้าง ก็ต้องบอกว่า

1 วิธีที่ง่ายที่สุด คือต้องมีเงินครับ อย่างน้อย 1 ล้านบาทเห็นๆ

มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ถ้าอยากเรียน U ดีๆ อันดับ 1-30 ยังต้องมีเกรดเฉลี่ย ป ตรีที่ดี
รวมถึงคะแนนภาษาอังกฤษที่ดีด้วย

อย่างเลวร้ายคะแนนภาษาควรจะได้ IELTS 6.0 ขึ้นไป เกรดซัก 3.0 up
จะพอสมัคร U อันดับไม่เกิน 30 ได้

ถ้าเกรด 2.2 คะแนนภาษา 5.5 อาจจะสมัคร U อับดับ 80-100 ได้อยู่ แต่ถ้า U ดังๆ คงลำบากครับ และอาจเป็นไปไม่ได้เลยครับ

ข้อดี ไม่มีภาระผูกพัน
ข้อเสีย ต้องจ่ายเอง

เพิ่มเติม ไม่ได้ดูถูกใครนะครับ อย่าง ม ผมเนี่ย ขนาดไม่ใช่พวก OxBridge อยู่บ้านน๊อกบ้านนอก มีแต่ทุ่งกับแกะ บอกชื่อไป HR ในไทยส่ายหน้า U ไรวะ ไม่เคยได้ยิน ทีมฟุตบอลไม่ดังนี่หว่า

ไกลปืนเที่ยงแสงสีตึกสูงขนาดนี้แล้ว
นร ที่มาเรียนต่อโททุนตัวเองกันนี่ ส่วนใหญ่จบตรีจุฬา มธ มช ม ปิดของรัฐกันด้วยเกรดเกิน 3 กันทั้งนั้น

แปลว่ามีแต่ตังค์อย่างเดียว ยังไม่พอ ต้องมีความขยันด้วย เพราะถ้าไม่ขยันตั้งแต่มัธยม จะสอบเข้า ม ดีๆ ในเมืองไทยไม่ได้ได้ง่ายๆ หรอกครับ


แล้วถ้า พ่อแม่ไม่รวย ทำไงละ งั้นก็ต้องนี่เลย

2 หาทุนในประเทศครับจากหน่วยงานที่ให้ทุนครับ เช่นทุน กพ ทุน สกอ ทุนกระทรวงวิทยฯ ทุนคิงฯ หรือธนาคารต่างๆ ก็มี

ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปก็ต้องสอบชิงทุน ส่วนใหญ่มีภาระผูกพันต้องกลับมาใช้ทุนด้วย

แต่สำหรับคนที่รับราชการอยู่ แล้วอยากไปเรียน อาจให้ทางหน่วยงานวิ่งเต้นขอทุนสำหรับหน่วยงานได้

วิธีหลังอาจจะไม่ต้องสอบแข่งขันเข้ารับทุนครับ แต่ผู้รับทุนต้องมีคุณสมบัติพร้อม
เช่นเกรดเฉลี่ยที่ดีตอน ป ตรี หรือ ป โท และควรจะมีผลภาษาอังกฤษที่ดีพอด้วย

วิธีนี้ข้อดีคือไม่ต้องออกเงินเอง ของ VISA ง่าย

ข้อเสียคือ ต้องกลับมาใช้ทุนตามภาระผูกพัน
อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหารักแท้ในต่างแดนหรือคู่ชีวิตต่างชาติ เพราะสุดท้ายต้องกลับไทย
และทุนส่วนใหญ่ มักบังคับให้ไปเรียนถึง ป เอกโน่นเลย
ที่ให้เรียนแค่ ป โทนี่น้อยยยยยยยยยยยยยมาก แต่ก็พอมี

เครียดครับเครียด ต้องเรียนเอกเนี่ย อย่าคิดว่าจะได้เรียนชิวๆ เรียนไปเที่ยวไปได้ หัวบานกันเลยทีเดียว

3 วิธีมหากาฬ วิธีนี้ ไม่ต้องเสียเงินเอง แถมไม่มีภาระผูกพันด้วย
แต่... สำหรับยอดมนุษย์เท่านั้น นั่นคือ คุณต้องมีโปรไฟล์แบบยอดมนุษย์จริงๆ เช่น
จบเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองไทย
มีผลภาษาอังกฤษในระดับใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา เช่น IELTS 8.0 ขึ้นไป
มีผลงานวิชาการในระดับ ป ตรีหรือ ม ปลาย ที่น่าทึ่ง เช่นเคยได้เหรียญทองโอลิมปิควิชาการ หรือผลงานตีพิพม์ใน Journal ระดับโลก

แบบนี้ อาจจะพอสมัครขอทุนจาก ม ในอังกฤษได้ครับ เคยเห็นคนเรียน OxBridge ที่เป็นพวกระดับนี้อยู่บ้าง เทพมั่ก ๆ

ทุนก็มีหลายระดับ Full funding สำหรับเทพ หรือ support บางส่วน สำหรับระดับเทพรองลงมาในรูปของส่วนลด เช่นเช่นค่าเรียนปีละ 18,000 อาจจะได้ทุนบางส่วน เหลือจ่ายแค่ 9,000 เท่านั้น กินอยู่หาเอาเอง

ถ้าโปรไฟล์ไม่หรูเริศระดับนี้ ต้องลองมองไปที่ U ในอเมริกาครับ เพราะที่นั่นทุนมากกว่าเยอะ
ไม่ต้องเทพขนาดนี้ ก็พอหาทุนเรียนต่อได้ ความเป็นไปได้สูงกว่าหาทุนเรียนต่อใน UK
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทุนระดับ ป เอก หรือโทเอกครับ โทเฉยๆ เค้าไม่ค่อยให้กัน

ถ้าคุณไม่ได้เทพตั้งแต่เกิด แต่อยากมีโปรไฟล์ยอด ๆ แบบนี้ ต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ครับ เนิ่นๆ มาก ๆ ด้วย

เคยเจอน้อง นร ม 4 รร มหิดลฯ คนนึง ไปเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน น้องเค้าตั้งเป้าว่าจะมาเรียนต่อแพทย์ที่ UK เค้าเตรียมตัวตั้งแต่ ม 4 โน่นเลย ฟิตภาษาล่วงหน้าแล้ว มองไว้แล้วว่า U ไหนใน UK เด่นทางสาขาที่สนใจ
มีข้อมูลบางส่วนไว้ในมือแล้ว คนแบบนี้ต้องยกนิ้วให้จริงๆ

ถ้าไม่ชอบซักแบบเลย แล้วมีวิธีอื่นอีกมั๊ย

ถ้าสำหรับ UK วิธีอื่นก็อาจจะมี แต่ก็อ้อมมากจนเป็นไปได้ยากจนไม่น่าแนะนำ
เช่นหาคู่สมรสเป็นฝรั่ง เปลี่ยนสัญชาติซะ จะได้เรียนถูกหน่อย
แต่ใช้วิธีนี้เสี่ยงมาก ถึงหาแฟนฝรั่งได้ โอกาสไม่ได้เรียนต่อสูงมาก ดังนั้น ไปฟิตภาษาสอบชิงทุนเองง่ายกว่าครับ

ที่บอกมาเป็นการมาเรียนใน UK เท่านั้นนะครับ

บางท่านก็แนะนำว่าให้มองประเทศอื่นๆ ในยุโรปดูบ้าง หลายประเทศมีทุนให้เยอะแยะ
บางประเทศค่าเรียนมหาวิทยาลัยฟรีหรือถูกมาก แม้จะเป็นต่างชาติ เช่นฝรั่งเศส เยอรมัน
หรือทางเหนือ ๆ และยุโรปตะวันออกก็น่าสนใจมาก เพียงแต่ค่านิยมคนไทย ชอบทางอังกฤษอเมริกามากกว่า

แต่ทุกวิธี ต้องเป็นคนที่ขยันและไขว่คว้าเท่านั้นครับ ประเภทอยู่ไปวันๆ อาจจะยาก

อย่างกระผมเอง ก่อนหน้านี้นั่งอ้วนไปวันๆ พอทุนหล่นทับมา ก็ต้องขยันเตรียมตัวกันตาลีตาเหลือกนานเป็นปี กว่าจะมาได้

ตอนนี้กลับมาขี้เกียจอีกแล้ว แทนที่จะนั่งคิด ทำวิจัย เขียน report กลับมามัวอ้อร้อปั่นกระทู้อยู่ในเว็บบอร์ด นับว่าสถานการณ์คับขันมาก

สรุปแล้ว ไม่มีอะไรดีๆ ได้มาได้ง่ายๆ ในชีวิตหรอกครับ


ปล 1 ได้ยินแว่วๆ อะไรนะอ๋อ ถามว่า IELTS คืออะไร อ้าว ยังไม่รู้เหรอ?????! ! ! !
เอ่อ แปลว่าตอนนี้น้องยังไม่พร้อมที่จะไปเรียนต่อแน่นอนครับ แต่อย่าเพิ่งหยุดฝัน หันมาทบทวนชีวิตตัวเอง วางแนวทางใหม่ก่อนเน้อ

ปล2 ใครอ่าน ปล 1 แล้วรู้สึกเหมือนผมดูถูกใคร ต้องขออภัยด้วย แต่ขอนินทาคนให้ฟังนิดนึง

ตอนได้ทุน ผมต้องไปสอบภาษา เนื่องจากผมเป็นประเทศทุนหล่นทับ
ถึงไม่ต้องสอบชิงทุนมา แต่ต้องกัดฟันบู๊เพื่อให้ได้มาเรียน ด่านแรกคือเรื่องภาษาอังกฤษ
วันสอบเจอเพื่อน นร ทุนประเภทเดียวกันมาสอบด้วย เลยนั่งคุยกัน

เค้ากำลังจะมาสอบ IELTS แต่ยังไม่รู้เลยว่า IELTS สอบแบบไหน ยังไง หรือแนวทางการสอบเป็นอย่างไร?? ! ! !

วันที่มาสอบ แค่จะมาลองเฉยๆ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลยทั้งนั้น ไม่ได้เตรียมตัวเรื่องภาษาเลย ทั้งที่ได้ทุนมา 1 ปีแล้ว ทุนให้เวลาเตรียมตัวไม่เกิน 2 ปีครับ
ไอ้หยา ผมต้องอธิบายว่ามันจะเป็นแบบนี้ๆๆๆ

วันนี้ก็ไม่ทราบว่า เค้าได้มาเรียนหรือโดนระงับทุนไปรึยัง
อยากให้ดูไว้นะครับว่า บางครั้งอะไรที่มาง่ายๆ มันเลยไม่มีคุณค่า เราอาจจะเสียไปง่ายๆ ก็ได้

แต่นี่เป็นส่วนน้อยมาก ๆ ของผู้ที่ได้รับทุนเท่านั้น ทำให้คิดได้ว่า บางครั้งการสอบก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคัดกรองคุณภาพของคนครับ






Create Date : 09 กรกฎาคม 2553
Last Update : 9 กรกฎาคม 2553 20:35:41 น.
Counter : 4075 Pageviews.

12 comments
การ์ตูนจากกล่องอาหาร สมาชิกหมายเลข 4313444
(14 เม.ย. 2567 04:14:16 น.)
โรงงานผลิตอาหารเสริมผู้ชาย ตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ได้คุณภาพ สมาชิกหมายเลข 7213059
(3 เม.ย. 2567 00:10:02 น.)
วิธีถามราคาสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ khatha0808
(2 เม.ย. 2567 00:05:26 น.)
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก" toor36
(24 มี.ค. 2567 10:27:24 น.)
  
ได้ความรู้ดีมากครับ
โดย: เจไอ วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:14:08 น.
  
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
โดย: The Best of Me วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:05:04 น.
  
มีเพื่อนสนใจอยากมาเรียนต่อที่เมสเชทเตอ กับ ลอนดอนค่ะ แค่มาเรียนเพื่อเพิ่มความรู้ด้านภาษาอังกฤษ อยากทราบเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนและค่าที่พักค่ะ และก็เรียนที่ไหนดีค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ
โดย: เอส IP: 90.195.54.93 วันที่: 10 กรกฎาคม 2553 เวลา:4:04:13 น.
  
แวะมาอ่าน อืม... ยากจริง ๆ
โดย: หนูเมเปิล วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:27:30 น.
  
ถ้าไม่มีเงินเป็นล้าน แต่มีคนข้าง ๆ เป็น "ล้าน" นี่พอจะใกล้เคียงมั้ยคะ..ตอบด้วยค่ะ..ด้วยใจจริงงงง..
โดย: i'm not superman วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:8:12:13 น.
  
Lucky you and good luck. I am sure you can do it though it might be hard at first, but you will get used to it. I have lived here in America for over 5 years. When I first moved here it was tough because everything was new. I thought my English was good when I was in Thailand, but it was not good enough to communicate...Farang ngong(farrang gets confused). Now I am getting used to life style here, but I still have problem with the langauge.
My experiences about going to school here in America. School in America is expensive and most of students here have a student loan. School where I am studying now, tuition free is $175/ a credit, and there are 3 credits for one class except science or match classes there are 4 credit for one class. For International student, tuition fee is more expensive than residents which is $400+ a credit. I am not talking about tuition fee at a prestigious schools(college or university) because some of then can be really expensive. International students are required to register at least 12 credits a semester. I recalled my friend from Hong Kong, where we went to school for ESL(English as a second language), showed me her tuition fee receipt which was almost $4000, but that was in Arizona where school was cheaper than where I am going now which is $445/a credit for International student. Thouse just a tuition fee and remember there will be room and board(food) as well as textbooks which are really expensive. I spend almost $600 a semester(accounting textbook can be really expensive even though a used book), but one good thing about textbook, once you finish the class you could sell it and get some money back. Oh, by the way, what I was writting above was just an undergraduate, not master or PHD yet.
PS. correct me if I was wrong.....or pls add more info if anyone has known more.
โดย: Sweet Maple วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:23:40:06 น.
  
Here is America's best college 2011.
Check out the link below and you will see how much it costs to study in America for undergraduate.
//finance.yahoo.com/college-education/article/110356/best-colleges-2011?mod=edu-collegeprep
โดย: Sweet Maple วันที่: 20 สิงหาคม 2553 เวลา:2:33:30 น.
  
ได้ความรู้เพิ่มสุดเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
โดย: ฝน (miracle_rainyteddy ) วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:12:01:38 น.
  
ถ้าไปเรียน มัธยมต้น-ปลาย จะต้องเตรียมตัวยังงัยมั่ง คร๊ะ
ขอบคุณคร๊ะ
โดย: Milk IP: 125.24.236.0 วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:23:59:10 น.
  
หาสามีฝรั่ง เหมือน เดี๊ยนค่ะ 5555
โดย: Mrs.Wright IP: 86.13.245.9 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:3:05:06 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน ติวเลขออนไลน์
โดย: swkt (tewtor ) วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:23:13:33 น.
  
ได้ความรู้มากค่ะ ^^
โดย: sweetkiwii1 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:15:10:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Vijak.BlogGang.com

ประกอบ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]

บทความทั้งหมด