การสอบใบขับขี่ในประเทศอังกฤษ ตอน 4 Practical test
เรื่องการสอบใบขับขี่มี 4 ตอนนะครับ อนุญาตให้เผยแพร่ คัดลอก สำเนา ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ
ตอน 1 Provisional Driving Licence
ตอน 2 การเตรียมตัว
ตอน 3 Theory Test
ตอน 4 Practical Test



ขั้นต่อไป คือสอบปฏิบัติ หรือ Practical test ครับ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีคนสอบตกมากที่สุด ค่าเฉลี่ยในการสอบไม่ผ่าน มีมากกกว่า 50% ครับ แปลง่ายๆ คือว่าค่าเฉลี่ยในการสอบของคนทั่วไป คือสอบ 2 ครั้งถึงผ่านครับ ฮือ ๆ


แม้แต่ผมก็อยู่ในค่าเฉลี่ยนี้ด้วย คือสอบครั้งแรกตกเหมือนกันครับ ขนาดขับรถเป็นมา 20 ปีแล้ว มีใบขับขี่เมืองไทยมา 17 ปี สอบรอบแรกยังตกเลย เพราะการสอบที่นี่มาตรฐานเค้าสูงครับ ไม่มีซูเอี๋ยแบบเมืองไทย



หลังจากผ่าน Theory Test แล้ว เราก็ต้องจองคิวสอบ Practical test ครับ ผ่านเว็บเช่นกัน เว็บเดียวกับที่จอง Theory test นั่นแหละครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/Motoringtransactions/DG_066356

เราก็เข้าไปจอง ข้อมูลที่ใช้ในการจองคือเบอร์ใบขับขี่ชั่วคราวของเรา และ Code ที่ได้มาพร้อมกับใบ Certificate ที่สอบผ่าน Theory ครับ เราก็เลือกศูนย์สอบที่ใกล้บ้านเราที่สุด เค้าจะมีเวลาให้เลือกได้ครับว่าจะสอบกี่โมง ค่าสมัครสอบ 62 ปอนด์ครับ

การสอบแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที สอบบนถนนจริง ตามเส้นทางที่กรรมการสอบจะเลือกให้เราครับ


ในวันสอบจริง ถ้าใครที่ลงเรียนขับรถ ก็ใช้รถของโรงเรียนนั่นแหละ แต่ถ้ามีรถเอง เราใช้รถเราได้ครับ รถทั่วไปจะใช้สอบได้ เช่นพวกรถ Hatchback 5 ประตู แต่รถเล็ก ๆ บางคันเช่น Ford KA จะไม่แนะนำนะครับ เค้าห้ามเลยแหละ ตามนี้ครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/LearnerAndNewDrivers/PracticalTest/DG_4022543

และเราต้องเตรียมอุปกรณ์ไปด้วย ได้แก่

1. กระจกมองหลังสำรองสำหรับให้กรรมการสอบครับ แบบติดกับกระจกหน้ารถ ซื้อได้ที่ Halfords ประมาณ 7 ปอนด์ ผมเตรียมไปด้วยกันเหนียว กรรมการบางคนใจดี เค้าจะใช้กระจกจากที่บังแดดแทนก็มีครับ แต่เตรียมไปจะดีกว่า พลาดพลั้งขึ้นมา เค้าไม่ให้สอบ เราจะเสียเงินฟรีๆ ครับ

2. ตัว L Plate ห้ามลืมครับ แปะหน้ารถหลังรถให้เรียบร้อย


3. ต้องมั่นใจว่ารถมีประกัน เสียภาษีถูกต้องนะครับ เพราะก่อนสอบเราจะต้องเซ็นชื่อรับรองว่ารถเราถูกกฎหมายทุกประการ


4. เอกสารที่ต้องพกไปในวันสอบ คือใบขับขี่ Provisional Licence ทั้งแบบบัตรแข็งและแบบกระดาษครับ Passport อยากพกไปก็ได้ แต่เค้าไม่ขอดูหรอก แต่ผมก็พกกันเหนียวไว้


วันสอบจริงก็ไปก่อนเวลาเล็กน้อย ไปนั่งรอให้ห้องรอครับ เราจะเห็นเพื่อนร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ มานั่งรอเต็มไปหมด ตอนผมไปสอบ คนอื่นๆ จะมาพร้อมครูสอนขับ และใช้รถ ร.ร. ทั้งนั้น ผมเป็นคนเดียวที่ขับรถไปเอง พอถึงเวลา กรรมการสอบจะทยอยเดินมาแล้วเรียกชื่อเราครับ เราก็เดินออกไปพร้อมกรรมการ


ขั้นตอนแรกของการสอบคือการตรวจสายตาครับ กรรมการจะพาเราไปข้างนอก แล้วชี้ไปที่รถที่จอดริมถนนซักคันนึง แล้วให้เราอ่านป้ายทะเบียนรถให้ฟังครับ ตามกฎหมายเราต้องอ่านป้ายทะเบียนรถที่จอดห่างไป 20 เมตรได้ครับ ซึ่งรถที่กรรมการชี้ อาจจะจอดไกลกว่า 20 เมตร ถ้าเราอ่านไม่ได้หรือไม่ถูกก็ไม่เป็นไรครับ เราสามารถเดินขยับเข้าไปได้ รู้สึกว่าจะขยับไปได้ 3 ครั้ง ถ้ายังอ่านไม่ได้ มองไม่เห็น คราวนี้ต้องทดสอบที่ระยะ 20 เมตรตามกฎครับ ผมไม่เคยต้องทดสอบขนาดนี้เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง


แต่ถ้าทดสอบสายตาไม่ผ่านหละ ก็กลับบ้านครับ ไปตัดแว่นซะ สมัครใหม่ จ่ายเงินใหม่ แล้วถึงจะไปสอบอีกได้ครับ ซึ่งต้องเริ่มต้นทางตรวจสายตาก่อนเสมอ


ถ้าสายตาไม่มีปัญหา กรรมการจะให้เราพาไปที่รถครับ กรรมการจะตรวจก่อนว่ารถเราเหมาะสมที่จะใช้สอบไหม เดินดูรอบคัน ตรวจดูว่าเรามี L Plate เรียบร้อย แล้วจึงให้เราเซ็นเอกสารรับรองรถ


จากนั้นกรรมการอาจจะให้เราเปิดฝากระโปรงรถ แล้วถามถึงวิธีการตรวจสอบซ่อมบำรุงเบื้องต้น เช่นการตรวจระดับน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หม้อน้ำ น้ำที่ฉีดกระจก หรือกรรมการอาจจะเชิญเราเข้าไปในรถ แล้วถามคำถามอื่นๆ เช่น เราจะดตรวจสอบว่าไฟเบรกเราใช้ได้อย่างไร หรือจะรู้ได้ไงว่าเบรกเราไม่มีปัญหาครับ จะตรวจเช็คลมยางตอนไหน


จากนั้น ก็จะเป็นการสอบขับรถจริงครับ กรรมการจะอธิบายให้ฟังว่า เค้าจะบอกเราเองว่าจะให้ไปทางไหน เลี้ยวไหน หรือจะให้ทำอะไร เค้าจะบอกล่วงหน้า เราจะได้ไม่เกร็งครับ


เมื่อเราพร้อมแล้ว ก่อนอื่นเราต้องรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยครับ ตั้งแต่ก่อน start เครื่อง และก่อน start เราควรเช็คก่อนว่าเกียร์รถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง โดยการทดลองขยับคันเกียร์ไปมา อ้อ รถเราที่จอดอยู่ในช่องจอด ต้องติดเบรกมือไว้เสมอด้วยนะครับ ทำทุกอย่างให้ถูกต้องครบถ้วนให้กรรมการเห็นครับ เค้าจะไม่พูดไม่ถาม แต่จะสังเกตเราอย่างเดียว


พอเราเปิด switch on แล้ว รอแป๊บนึง ทำเป็นมองไฟเตือนต่างๆ บนหน้าปัดว่าทุกอย่าปกติก่อนครับ แล้วค่อย start เครื่อง เมื่อเครื่องติดแล้ว รอซักพัก มองไฟเตือนต่างๆ อีกรอบครับ กรรมการจะจ้องดูว่าเราทำอะไรบ้างอยู่แล้ว


จากนั้น ปลดเบรกมือครับ มองซ้ายสองขวาเช็คกระจก ก่อนให้สัญญาณไฟ แล้วก็ออกตัวได้ครับ เราเริ่มต้นสอบขับจริงๆ แล้ว


การขับรถที่นี่ ต้องเคารพกฎ MSM ครับ คือ Mirror Sign Maneuver คือก่อนทำอะไร เช่นออกตัว เปลี่ยนเลน ต้องดูกระจกก่อน แล้วจึงให้สัญญาณ เมื่อปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเลนหรืออกตัว หรือหยุดครับ


ซึ่งในการสอบจริง ก่อนเปลี่ยนเลน ก่อนหยุด ก่อนเลี้ยว เราต้องมองกระจกก่อน แล้วจึงให้สัญญาณ ถึงจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนได้ครับ ถ้าเราทำไม่ครบ หรือเผลอ เช่นเปิดไฟเลี้ยวก่อนที่จะมองในกระจกมองหลัง กรรมการจะบันทึกไว้ครับ ถือเป็น Driving Fault ซึ่งเราจะทำผิดแบบนี้ได้ไม่เกิน 15 ครั้งตลอดการสอบ


การสอบ Practical test จะมีระดับความผิดพลาด 3 ระดับครับ คือ


1 Dangerous Fault ขับอันตราย เช่นเราตัดหรือปาดหน้าชาวบ้าน หรือกรรมการเห็นว่าการขับของเราอันตราย เค้าจะให้เราหยุดสอบแล้วกลับศูนย์สอบเลยครับ การทำ Dangerous Fault แค่ครั้งเดียว ก็ตกเลยครับ ไม่มีโอกาสแก้ตัว



2 Serious Fault อันนี้รองจาก Dangerous Fault ครับ เช่น การกลับรถหรือถอยหลังโดยไม่มีการเช็คจุดบอดหรือ Blind spot ก่อน ใช้แต่กระจกมองข้างหรือมองหลัง ถือว่าระมัดระวังไม่เพียงพอ หรือเวลาถอยหรือกลับรถ รถเราชนขอบถนนครับ ผิดแบบนี้แค่ครั้งเดียวก็สอบตกเลยเช่นเดียวกับ Dangerous Fault ครับ ผิดแบบนี้เศร้า เพราะกรรมการจะให้เราขับต่อไปจนสอบเสร็จ ถึงจะบอกเราตอนหลังครับ ระหว่างนั้นจะไม่บอกเราเลย



3 Driving Fault เช่นการเข้าเลนผิด ลืมเช็คกระจกก่อนให้สัญญาณ จอดรถติดไฟแดงล้ำเส้นหยุด ฯลฯ แบบนี้ผิดได้ไม่เกิน 15 ครั้งครับ


การสอบ กรรมการจะให้เราขับไปตามเส้นทางต่างๆ แล้วแต่กรรมการจะเลือกครับ ในการสอบ กรรมการจะให้เราทำอย่างใดอย่างหนึ่ง 2 อย่างจากทั้งหมดนี้ครับคือ

1 กลับรถบนถนน (the turn in the road) กรรมการจะให้เราเข้าซอย แล้วให้กลับรถกลางถนนเลยครับ เราต้องระวังไม่ให้ชนขอบถนน รวมทั้งก่อนและระหว่างกลับรถ เราต้องมองซ้ายมองขวาเช็คจุดบอดต่างๆ ทุกครั้งก่อนออกตัวหรือขยับรถครับ ถ้ากลับรถอย่างเดียว ไม่ได้เหลียวมองรอบๆ ก่อนและระหว่างการกลับรถ ถือว่า observation ไม่พอ เป็น Serious Fault ตกเลยครับ ผมตกมาแล้ว

2 Reverse around Conner ครับ กรรมการจะให้เราจอดรถแล้วเลยทางแยกซ้ายมือ แล้วให้เราถอยท้ายเข้าไปในถนนแยกทางซ้ายนั้นครับ โดยให้รถเราไม่อยู่ห่างขอบถนนมากเกินไป เช่นเดียวกันอันแรก เราต้องมองซ้ายมองขวาเช็คจุดบอดต่างๆ ทุกครั้งก่อนออกตัวหรือขยับรถครับ ถ้ากลับรถอย่างเดียว ไม่ได้เหลียวมองรอบๆ ก่อนและระหว่างการกลับรถ ถือว่า observation ไม่พอ เป็น Serious Fault ตกเลยครับ ผมตกมาแล้ว เจอสองอันนี้ ตกจากทั้งสองอัน

3 Parallel Parking คือถอยจอดเข้าระหว่างรถที่จอดริมถนนครับ กรรมการจะให้เราไปจอดตีคู่ข้างๆ รถที่จอดริมถนนซักคัน แล้วให้เราถอยเข้าจอดหลังรถนั้นนั้นครับ

4 ถอยจอดเข้าซองครับ คือการถอยท้ายเข้าจอดตามช่องจอดรถในลานจอดทั่วไปครับ อันนี้มักจะสอบสุดท้ายเลย


5 Emergency Stop ครับ กรรมการจะให้ขับไปเรื่อยๆ แล้วยกมือให้สัญญาณให้เราหยุดรถทันที เราก็หยุดให้เร็วที่สุดครับ มือทั้งสองกำแน่นบนพวงมาลัยไว้ ไม่ต้องมองหลังเช็คกระจก หรือให้สัญญาณใด ๆ ก่อนหยุดครับ กรรมการจะเช็คให้ก่อนแล้ว แค่หยุดให้เร็วที่สุดครับ แล้วก็ควบคุมรถให้ได้ ไม่สะบัดหรือไถล


นอกจากพวกนี้แล้ว กรรมการจะขอให้เราจอดรถข้างทางหลังคันอื่นครับ อาจจะเป็นบนเนินด้วย แล้วให้ออกตัวใหม่ เค้าจะเช็คว่าในการจอด เราทำขั้นตอนถูกต้องไหม เช่น มีการใช้เบรคมือตอนจอดไหม ซึ่งควรจะใช้นะครับ และก่อนออกตัวใหม่ เราได้เช็คจุดบอดต่างๆ โดนการเหลียวหลังหรือไม่ การใช้แต่กระจกมองหลังและมองข้างไม่เพียงพอครับ มีการให้สัญญาณถูกต้องหรือเปล่า

เค้าจะให้เราหยุดและออกตัวแบบนี้ 2 ครั้งครับ อีกอย่างที่ต้องระวังคือการขับผ่านวงเวียนครับ ที่อังกฤษมีวงเวียนเยอะมาก เราต้องใช้ให้ถูกเลนและให้สัญญาณให้ถูกกฎนะครับ



สำหรับข้อมูลคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำ link เหล่านี้ครับ มีตัวอย่างและคำแนะนำต่างๆ ให้ดูด้วย
//www.2pass.co.uk/pract.htm

อันนี้เป็นประโยชน์มากครับ จะมีสอน How to do //www.2pass.co.uk/cockpit.htm จะบอกว่าเทคนิคต่างๆ เราควรทำอย่างไร มีรูปประกอบให้เข้าใจง่ายด้วย

//www.squidoo.com/practical-driving-test อันนี้เช่นการ มีคำอธิบายต่างๆ เป็นประโยชน์

//athingforcars.com/driving-safety/why-people-fail-driving-tests/ อันนี้บอกว่าทำไมคนถึงสอบตกกันครับ ดูไว้ จะได้ไม่ทำ

นี่เป็นตัวอย่าง Link ต่างๆ จริงๆ แล้วมีมากกว่านี้ครับ แต่เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น


เมื่อสอบเสร็จ กลับมาศูนย์สอบแล้ว กรรมการจะแจ้งเราเลยว่าเราผ่านหรือตก ถ้าเราตก เค้าจะบอกว่าเราตกเพราะอะไร มีใบเอกสารบอกข้อผิดพลาดของเราให้ ซึ่งเราสามารถสอบใหม่ครั้งต่อไปได้หลังจาก 10 วันครับ ต้องสมัครและเสียตังค์ใหม่นะครับ 62 ปอนด์


ถ้าเราผ่านหละ หลังจากรอให้เราหุบยิ้มแล้ว กรรมการจะขอ Provisional Licence เราครั้ง ทั้งสองใบ แล้วเค้าจะถามเราเรื่องที่อยู่อีกที จากนั้นเค้าจะออกใบรับรองให้เรา 1 ใบว่าเราสอบผ่านแล้ว พร้อมหนังสือคู่มือสำหรับนักขับมือใหม่ แล้วเราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ กลับบ้านได้เลย เดินไปเอา L Plate ออกจากรถได้แล้ว


ใบขับขี่ใบใหม่ ทางกรรมการสอบจะจัดการส่งเอกสารต่างๆให้เรา และทาง DSA ที่ดูแลเรื่องอการออกใบขับขี่ จะส่งใบขับขี่ Full Driving Licence มาให้เราที่บ้านเองครับ เราแค่นอนตีพุงปุ ๆ รอที่บ้านเท่านั้น


คำแนะนำสำหรับการสอบนะครับ คือเค้าต้องการดูว่าเรามีมาตรฐานการขับถึง standard ที่นี่หรือยัง หัวใจของการสอบคือการระมัดระวังและรอบคอบที่สุดครับ ก่อนออกตัว ระหว่างขับ รถหว่างถอย ต้องเหลียวมองเช็คให้รอบเช็คตลอดครับ

ออก action มาก ๆ ให้เห็นว่าเรารอบคอบที่สุดแล้ว ป้ายสัญญาณเตือนต่างๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คอยเช็คกระจกมองหลังบ่อยๆ ก็จะผ่านได้ไม่ยากครับ ที่นี่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก


ดังนั้นไม่แปลกใจเลยจากการขับรถที่นี่มา 2-3 เดือน ผมแทบจะไม่เจอการแซงลัดคิว หรือแย่งเลนกันแบบเมืองไทยเลยครับ รถติดยาวแค่ไหน คนที่นี่ก็จะรอในเลน ไม่มีแบบวิ่งขวาแซงยาวเข้ามาปาดแบบบ้านเรา มารยาทคนขับที่นี่โดยรวมผมว่าดีกว่าบ้านเราเยอะครับ ส่วนนึงอาจจะเพราะใบขับขี่เค้า ไม่ได้มาง่ายๆ แบบบ้านเราด้วย แต่ในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนไม่ทราบนะครับ ผมขับแต่เมืองบ้านนอกเท่านั้น แต่ที่ขับแย่ที่สุดก็คล้ายๆ บ้านเรา พวก Taxi ครับ

จบแล้วครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่ต้องการสอบบ้างนะครับ

ตอน 1 Provisional Driving Licence
ตอน 2 การเตรียมตัว
ตอน 3 Theory Test




Create Date : 16 ธันวาคม 2552
Last Update : 19 เมษายน 2554 23:11:57 น.
Counter : 11444 Pageviews.

43 comments
กงสุลใหญ่ นครนิวยอร์ก ร่วมสีบสานประเพณีสงกรานต์ ปี 2556/2024 newyorknurse
(12 เม.ย. 2567 02:16:06 น.)
คุณปู่ผู้อยู่นิ่งไม่เป็น สวยสุดซอย
(11 เม.ย. 2567 15:42:02 น.)
หนังสือและอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็ก ป.1 ของโรงเรียนประถมที่ญี่ปุ่น SN_monchan
(7 เม.ย. 2567 05:39:08 น.)
เจิมแต่ต้นปี ยื่นขอเงินชดเชยกรณีเจ็บป่วย สวยสุดซอย
(4 เม.ย. 2567 14:18:26 น.)
  
ขอบคุณคะ ทุกเรื่องมีเรื่องดี ดี แบบนี้ก็บอกกันนะคะ คุณเป็นคนดีมากๆ คะ
โดย: น้อย IP: 86.159.146.231 วันที่: 30 ธันวาคม 2552 เวลา:5:18:37 น.
  
ขอบคุณครับ
โดย: กุ้ง IP: 81.153.101.254 วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:23:16:06 น.
  
มีประโยชน์มากมายค่ะ
แต่ โง่ๆ อย่างดิฉันจะมีปัญญาสอบผ่านมั้ยยยยยยยย
โดย: ปิยนันท์ IP: 90.212.208.175 วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:22:01:09 น.
  
ตามมาอ่านต่อค่ะ
อธิบายเป็นภาษาไทยได้ละเอียดเยี่ยมมากค่ะ เป็นประโยชน์มากๆสำหรับดิฉัน และคิดว่าสำหรับหลายๆคนที่กำลังจะสอบ

อ่านตามแล้วมองเห็นเห็นภาพไปด้วยเลยค่ะ และทำให้เกิดความกังวลตามมา มันดูเหมือนหินนะคะ ให้รู้สึกว่าเราจะทำได้มั๊ยนี่ ค่าสอบก็ไม่ใช่น้อยๆนคะ แล้วเราจะสอบผ่านรอบที่เท่าไรหละนี่ เฮ่ย
ต้องพยายามค่ะ ลุ้นๆ

ดีมากสำหรับดิฉันค่ะ สำหรับการเขียนอธบายเป้นภาษาไทย จะได้ไม่ต้องแกะที่ละประโยค เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วค่ะ
โดย: ไอริน (กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน ) วันที่: 29 เมษายน 2553 เวลา:18:18:23 น.
  
Thank you very much.
โดย: uk IP: 90.210.144.193 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:17:32:23 น.
  
it's so kind of you to do this ;) i've been trying to find something like this in thai for my friend and finally found this one which is so handy !

i'm driving automatic and i think they're getting poppular here cos i didn't get problem with buying a car at all ! (i thought i would) lots and lots of cars are automatic so... lucky me ! Lol

anyway,thank you !
โดย: southampton ^^ IP: 94.5.155.14 วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:6:30:06 น.
  
thank you very much very kind of you ^__^
โดย: mars IP: 92.30.3.139 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:16:34 น.
  
ดิฉันทำใบขับขี่ของประเทศเยอรมันนีค่ะหินเหมือนที่อังกฤษทุกอย่างเลยนะทั้งTheoryTest
และPractical Testที่เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดสังเกตุการกระทำของผู้เข้าสอบทุกขั้นตอน
แต่ที่เยอรมันนีเขาบังคับให้ผู้เข้าสอบทุกคนทำsee Testและทุกคนต้องผ่านการอบรม
การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน(ในห้องเรียนและปฏิบัติจริงตามท้องถนน)
เราต้องนำเอกสารยืนยันทั้งสองอย่างนี้ไปยื่นก่อนขอสอบค่ะ
แต่รวมแล้วขั้นตอนการทำใบขับขี่ที่เยอรมันนีเหมือนกันกับที่อังกฤษเลยหินสุดๆ
แต่ดิฉันก็ผ่านมาได้แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์คือTheory Testได้คะแนนเต็มใม่มีข้อผิด
สอบเป็นภาษาเยอรมันค่ะคนเยอรมันเองยังสอบใม่ผ่านก็มีนะคะ ตอนสอบPractical Test
ใช้เวลาขับอยู่ประมาณยี่สิบนาที(ตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินผู้คุมสอบบอกว่าให้ขับรถกลับฐานสอบ)พอจอดรถเรียบร้อยแล้วจะทราบผลทันทีว่าผ่านหรือไม่ผ่านคือถ้าผ่านเขาจะให้เอกสารขอรับใบขับขี่ที่สำนักงานได้ในเวลานั้นเลยรอแค่สิบนาทีเอง
วันนั้นดิฉันก็ผ่านเลยค่ะ

โดย: คนไทยในต่างแดน IP: 93.199.45.204 วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:23:28:38 น.
  
ขอบคุงมากครับ เป็นประโยชน์มากเลย เดียวอีกไม่กี่เดือน ก็จะไปเรียนต่อ UK มั่งละ
โดย: Romeo2011 IP: 27.55.108.46 วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:14:02:40 น.
  
ขอบคุณมากเลยค่ะ กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบใบขับขี่ที่ประเทศอังกฤษอยู่พอดี กำลังจะตอบเตรียมตัวไปสอบเหมือนกันค่ะ ได้ความรู้มากค่ะ ทำให้รู้ว่าควรจะเตรียมตัวอย่างไร ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
โดย: Ice IP: 119.31.104.82 วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:13:07:59 น.
  
ใหนๆ ก็ พอ ทราบ เรื่องทำใบขับขี่แล้ว ขอความรู้เรื่อง L plate G plate P plate ด้วยเลยด้ายมัยครับ ปีหน้า ว่าจะหาทางไป Bristol ให้ได้ กำลัง ปั่นเงินแป็บ แต่แอบ เป็นคนติดรถมากกกกก เลยคิดว่า ต้องเตรียมตังไปหารถมือ 2ที่นั้นด้วย
โดย: RoMeO IP: 27.55.254.39 วันที่: 24 ตุลาคม 2553 เวลา:13:26:10 น.
  
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างนี้
โดย: ธัณญ์ IP: 77.99.27.110 วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:15:44:00 น.
  
คุณ ประกอบคะ อยากจะทราบว่าทำไมถึงไม่แนะนำให้ใช่รถรุ่น ford ka คะ เพราะว่ารถของครูสอนของหนูก็รุ่น ford ka คะ แล้วอย่างนี้หนูจะกล้าใช้ในวันสอบหรือคะ หรือว่าต้องใช้รถของตัวเองแทน
โดย: เอ๋ IP: 90.204.2.216 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:2:07:30 น.
  
เพราะ Ford Ka มันคันเล็ก และอาจจะทำให้ทัศนวิสัยไม่ดีมังครับ

มันระบุไว้ใน web site ของ direct.gov.uk เลยครับ ตาม link นี้นะครับ

//www.direct.gov.uk/en/Motoring/LearnerAndNewDrivers/PracticalTest/DG_4022543
โดย: ประกอบ วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:19:43:26 น.
  
เป้นประโยชน์มากๆค่ะ ที่ให้ข้อมูล ตัวเองตอนนี้กำลังเรียนขับรถอยู่ เพิ่งเริ่มเรียนได้ 1 เดือน ที่ลอนดอน ตอนนี้ยังไม่มั่นใจในการขับ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลดีๆค่ะ

โดย: ฝน IP: 92.15.144.245 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:16:24:08 น.
  
ขอบคุณมากมายเลยค่ะ สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างนี้ ขอบคุณอีกทีค่ะ
โดย: จิม IP: 78.147.225.56 วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:21:44:42 น.
  
ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำที่ดี กำลังจะไปเรียนขับรกค่ะ เคยเรียนที่เมืองไทยแต่ยังไม่ได้ขับจริง ฟังดูแล้วยาก แต่จะพยายามค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
โดย: นก..สุนันท์ IP: 94.7.88.66 วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:23:17 น.
  
^______________________^



Thank u very very very much.
โดย: Fon IP: 81.159.13.76 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:1:06:25 น.
  
ดิฉันเพิ่งไปสอบมาเมื่อ 2 กค.ค่ะ ตกค่ะ ได้มา 5 ซีเรียสฟอลท์ ยอมรับว่ายากจริง ๆ ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลของเจ้าของ บล๊อก
โดย: Thai England lady IP: 80.5.170.196 วันที่: 5 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:45:14 น.
  
ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเตรียมตัวอยู่ค่ะ แต่ว่าอยากรู้เกี่ยวกับข้อสอบตอนที่สอง เป็นการคลิกบอกจุดอันตรายบนหน้าจอคอมพิวเตอร์น่ะค่ะ แต่ว่าไม่ได้มีอธิบายไว้ค่ะ ไม่ทราบว่าได้สอบเหมือนกันหรือเปล่าคะ ช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากคะ
โดย: ทัด IP: 90.213.251.113 วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:5:37:43 น.
  
สวัสดีค่ะ ได้เข้ามาอ่านและนำไปใช้ คุณอธิบายได้ละเอียดมากๆเลยค่ะ ขอบอกว่า สอบครั้งเดียวผ่านเลยค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ ที่ได้เขียนไว้ให้เป็นแนวทาง เป็นประโยชน์
มากๆเลยค่ะ
โดย: สาวไทย (กาหลงฝูง ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:3:56:35 น.
  
สุดยอด ละเอียดมาก ๆ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
โดย: น้ำหวาน IP: 128.240.233.197, 128.240.229.7 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:18:28:10 น.
  
ขอบคุณมากนะคะ ดีมากคะ แต่อย่างหนูไม่รู้จะสอบกี่ครั้งถึงจะผ่าน :)
โดย: nita IP: 180.183.187.21 วันที่: 29 พฤษภาคม 2555 เวลา:3:46:01 น.
  
Thank you very much very helpful.
โดย: jaew IP: 90.199.124.57 วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:4:43:01 น.
  
ขอบคุณค่ะ กะลังจะเริ่มเรียนขับรถค่ะ ได้ความรูู้มากเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: Nuan IP: 83.100.130.190 วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:4:26:44 น.
  
thank you very much
good good
โดย: lin IP: 91.125.238.135 วันที่: 7 สิงหาคม 2555 เวลา:21:00:17 น.
  
Thank you very very much ka :D
โดย: Natt IP: 78.105.184.86 วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:1:35:16 น.
  
thank you very much ka.กำลังจะเริ่มเรียนขับพอดี เพิ่งรู้นะคะว่า มันยากกว่าบ้านเรามากๆๆๆ ถ้าสอบรอบเดียวไมาผ่านเสียดายเงินแย่ แพงจริงๆ แต่มันจำเป็นต้องมีนะ่นะ
โดย: อรไมย์ IP: 78.149.59.243 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:20:58:17 น.
  
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ได้ข้อมูลดี ๆ และกำลังใจเยอะเลยค่ะ
กำลังฝึกทำข้อสอบในซีดีอยุ่ ร้องไห้มา 2 รอบแล้วค่ะ ... ไม่รู้เรื่อง T___T... เราจ้างล่ามแปลภาษาตอนสอบได้ไหมค่ะ ?..ยังไงก็ลองดูสักตั้งค่ะ คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ค่ะ
โดย: มด x IP: 86.3.154.21 วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:5:52:50 น.
  
ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูลความรู้
โดย: Nilu Lay IP: 81.105.92.254 วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:20:17:03 น.
  
บุ๊คสอบขับรถครั้งแรกในวันที่ 7 เดือนหน้าไม่รู้จะผ่านหรือเปล่า ทุกอย่างยากมากๆ แต่ถึงอย่างไรก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ สู้ สู้ ทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
โดย: Nina IP: 82.132.232.222 วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:3:31:05 น.
  
ขอบคุณค่ะ เหมือนที่คุณบอกทุกอย่างเพราะดิฉันเพิ่งสอบมาวันนี้ดิฉันสอบครั้งแรกก็ตกเหมือนกัน ใกล้จะหมดเวลาแล้วเชียวดันโดน serious fault 2 ครั้ง
โดย: saranya IP: 82.31.36.78 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:02:55 น.
  
ขอบคุณค่ะ เหมือนที่คุณบอกทุกอย่างเพราะดิฉันเพิ่งสอบมาวันนี้ดิฉันสอบครั้งแรกก็ตกเหมือนกัน ใกล้จะหมดเวลาแล้วเชียวดันโดน serious fault 2 ครั้ง
โดย: saranya IP: 82.31.36.78 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:3:44:27 น.
  
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ข้อมูลละเอียดมากเลย กำลังเตรียมจะสอบอีกสองอาทิตย์ตื่นเต้น หุหุ
โดย: Bow IP: 86.140.211.56 วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:55:33 น.
  
ครั้งแรกตกมาแล้วค่ะ เพี้ยงๆ พรุ่งนี้สอบขอเถอะ ขอผ่านค่ะ อยากขับรถ ยากจริงๆใบขับขี่อังกฤษนี่
โดย: J๋am IP: 109.148.134.178 วันที่: 27 สิงหาคม 2556 เวลา:3:48:35 น.
  
ถ้าผมไปอยู่แบบวีซ่า visitor c-3 เป็นวีซ่า 6 เดือน ผมจะมีสิทธิ์ทำบขับขี่ของอังกฤษมั้ยครับ แล้วถ้ามีทำได้ตั้งแต่เดือนแรกที่ไปอยู่เลยหรือป่าวครับ
โดย: tee IP: 110.168.169.230 วันที่: 8 ตุลาคม 2556 เวลา:4:12:56 น.
  
ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ
กำลังเรียนขับรถอยู่ค่ะ ไม่รู้จะผ่านไหมเนี้ยะ
โดย: Annoy IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:20:28:03 น.
  
สอบ Practical Test ที่เยอรมันเหมือนกันเกือบทุกอย่าง แต่ตอนสอบได้ออกเร็วด้วยค่ะ ตอนเรียนก็กวนครูตลอดเพราะเห็นว่าแกใจดี บางครั้งเข้ทางหลวงที่ไม่จำกัดความเร็วด้วยคะ ตอนเรียนกับครูก็กวนตลอด พอเบื่อๆ ก็ถามเค้าว่าตอนขับจริงเธอทำแบบนี้หรือปล่าว ก็เห็นยิ้ม ๆ แต่จริง ๆแล้วเอามาใช้จริงแล้วปลอดภัยมาก และ ดูแลคนรอบข้างจริงๆ ตอนสอบก็ทำแบบที่ครูสอนและนำมาใช้จริง มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ
โดย: หนิงโก้ IP: 94.23.252.21 วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:5:24:32 น.
  
ขอบคุณมากมายนะคะที่ให้ข้อมูลและเรื่องราวดีๆสำหรับวิธีสอบทำใบขับขี่ดูเหมือนมันจะซับซ้อนมากแตกต่างจากไทยเรามากเลยทีเดียว แค่ฟังจากประสบการณ์ผู้เขียนยังไม่เคยลองไปสอบกับตัวเองก็คิดไปต่างๆนาๆแล้วค่ะ เราต้องใจกล้าๆไว้ใช่ไหมค่ะผู้เขียน ที่ตรงกับคำพังเพยที่ว่า"ไม่ลองไม่รู้ ไม่ดูไม่เห็น"
ชอบๆค่ะมีประสบการณ์อะไรใหม่ก็เล่าสู๋กันฟังอีกนะคะ (ผู้อ่านยังไม่มีประสบการณ์อะไรเลยเพราะเพิ่งย้ายมาอยู่อังกฤษได้ยังไม่ถึงเดือนเลยค่ะ )
โดย: กาญจนา ทวีสาร IP: 94.23.252.21 วันที่: 13 สิงหาคม 2557 เวลา:19:04:40 น.
  
ขอบคุณมากที่แชร์ เป็นประโยชน์มากค่ะ
โดย: ประภัสสร IP: 188.165.201.164 วันที่: 7 มิถุนายน 2560 เวลา:15:46:36 น.
  
ที่อังกฤษมีการกำหนดโรคต้องห้ามทำใบขับขี่เหมือนอย่างประเทศไทยมั้ยคะ
โดย: ying IP: 180.183.99.35 วันที่: 14 กันยายน 2560 เวลา:22:28:44 น.
  
ดีมากค่ะ ขอบคุณมาก สำหรับ สิ่งดีๆความรู้ล้วนๆคะ 😊😊
โดย: Pranee walker IP: 163.172.136.205 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2560 เวลา:17:37:04 น.
  
ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดีๆ และมีประโยชน์ล้วนๆ คุณถ่ายทอดความรู้ได้ละเอียดมากเลย ยอดเยี่ยมมากคะ
โดย: tik IP: 163.172.136.205 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2561 เวลา:20:47:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Vijak.BlogGang.com

ประกอบ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]

บทความทั้งหมด