ปริศนา ในดวงตราไปรษณียากร..

ชุดจิตรกรรมครูเหม เวชการ
........ วรวิชญ เวชนุเคราะห์ ในนามห้องสมุดการ์ตูนไทย .....



ภาพในดวงตราไปรษณียากร ที่ระลึก ชุดจิตรกรรม ครูเหม เวชการ แบบที่หนึ่ง เป็นภาพที่สร้างปริศนาให้กับนักสะสม คือภาพหญิงสาวกำลังร่ายรำอย่างสวยงาม ผู้คนพากันสงสัยว่า เป็นภาพประวัติศาสตร์ไทย ตอนใดกันแน่ หรือหากไม่ใช่ แล้วจะเป็นภาพจากเรื่องราวอะไร

เริ่มแรกผมเริ่มพิจารณาจากรายมือชื่อเหม ซึ่งมีจุดดอกจันอยู่ข้างหน้าชื่อ ยืนยันได้ว่า ครูเหม เขียนภาพนี้ในราว พ.ศ. 2477 - 2481 ขณะนั้น ครูเหมเขียนภาพให้กับสำนักพิมพ์เพลินจิตต์ สำนักพิมพ์คณะเหม และหนังสือพิมพ์ประมวญสาร ภาพเขียนด้วยเส้นพู่กันหมึกดำ ระบายน้ำหนักสีเทา เพื่อนำไปใช้ถ่ายทำแม่พิมพ์ แยกสี 3 สี ขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งน่าจะเป็นปกของหนังสือนวนิยาย ขนาด 16 หน้ายก เมื่อพิจารณารายละเอียดของภาพ



สังเกตุเห็นว่า ด้านหลังของนางรำคนหลัง มีผู้ชายไว้หนวดคนหนึ่ง นั่งอยู่บนที่นั่งเตี้ยๆ และมีสาวห่มสไบ หมอบอยู่ทั้งซ้าย และขวา หลายคน มีนางหนึ่งกำลังโบกพัด และมีอีกนางหนึ่งหมอบอยู่ แต่หันหน้าไปทางขวามือ ด้านหลังที่นอกประตูสูง มีใบหน้าสาวๆ ยืนมองเข้ามาในห้อง ภาพนี้อยู่ในความดูแล ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สถานที่ในภาพน่าจะเป็นตำหนักในพระราชวัง ผู้ชายไว้หนวด คงจะเป็นผู้มียศศักดิ์ เพราะมีสาวๆ หมอบก้มแทบติดพื้น นึกไม่ออกว่าเป็นเหตุการณ์อยู่ในเรื่องอะไร แต่แรกคิดว่าเป็นเรื่อง " ขุนหลวงขี้เรื้อน " ซึ่งไม่ถูก เพราะเรื่องหลังนี้ครูเหมใช้ลายมือชื่อว่า " เหม เวชการ " ในภาพชุดเดียวกัน แสดงว่าเขียนหลังจาก พ.ศ. 2481 หรือ 2482

ฉุกคิดขึ้นได้ว่า ผมเคยเห็นภาพที่คล้ายๆ กับภาพนี้ แต่คนละมุมมองกัน เลยค้นหาจากคลังเก็บภาพเขียน ของคุณเสน่ห์ คล้ายเคลื่อน ก่อน แต่ไม่พบ จึงไปดูนักเขียนคนอื่น สะดุดใจที่ภาพหนึ่ง เขียนโดยคุณอาด อ๊อดอำไพ ( ตามภาพประกอบ ) จากภาพ จะเห็นมุมมองฝั่งตรงข้ามกัน แต่เหตุการณ์เดียวกัน และมีนางรำอยู่ถึง 3 คน ทุกนางไว้ผมมวย สวมเสื้อแขนยาว ห่มสไบ นุ่งผ้ากรอมเท้า ภาพนี้เป็นภาพเส้นปากกาแทรกอยู่ในหนังสือเล่มหนา ขนาด 8 หน้ายก น่าเสียดาย ที่ปกฉีกขาด และไม่มีทั้งชื่อผู้ประพันธ์ และข้อมูลการพิมพ์ เนื่องจากเป็นหนังสือเก่า อายุประมาณ 40 ปีแล้ว เนื้อหาเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ถ้าจะให้เดา ต้องเดาชื่อเรื่องว่า " พระนารายณ์มหาราช " ผมจะเล่าเรื่องย่อๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพให้อ่านนะครับ

** พระสรรเพ็ชญ์ ที่ 7 รับสั่งให้หา มอญรำ ไปประชันโรงกันวังหลวง มีบัญชาเชิญเสด็จเจ้านายฝ่ายในทั้งหมดทอดพระเนตร พร้อมด้วยพระองค์ แล้วให้จัดที่ประทับเจ้าหญิงศรีสุวรรณ อยู่ในระยะที่เห็นถนัด เจ้าฝ่ายในทุกพระองค์ก็เสด็จทอดพระเนตรมอญรำ ตามคำเชื้อเชิญ พระสรรเพ็ชญ์ ที่ 7 ทอดพระเนตรเห็นเจ้าฟ้าหญิงศรีสุวรรณ ทรงพระศิริวิลาศเลิศ ลักษณะนารี ก็มีพระทัยเสน่หาผูกพันธ์ ทรงเพ่งพิศ อยู่ไม่วางพระเนตร

ข้อความนี้สอดรับกับ พระราชพงศาวดาร ซึ่งผมจะคัดตอนหนึ่ง ของพระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับที่เป็นสมบัติของ บริติชมิวเซียม กรุงลอนดอน ( British Museum London ) จัดพิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2507 โดยสำนักพิมพ์ก้าวหน้า มีข้อความดังนี้

** พระศรีสุธรรมราชา ก็ได้ผ่านพิภพกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา ตรัสให้สมเด็จพระนารายณ์ราชนัดดา เป็นอุปราช สมเด็จพระนารายณ์ เป็นเจ้าก็เสด็จอยู่พระราชวังบวรสถานมงคล

อยู่มา 2 เดือนเศษ สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาพระเจ้าแผ่นดิน ทอดพระเนตรเห็นพระราชกัลยาณี น้องพระนารายณ์ราชนัดดา ทรงพระรูปสิริวิลาศเลิศนารี ก็มีเสน่หาผูกพันธ์ ปราศจากลัชชีสมโภค จึงให้หาขึ้นไปบนที่ หวังจะร่วมรสสังวาสด้วยพระกัลยาณี พระกัลยาณีมิได้ขึ้นไป หนีลงมาพระตำหนัก แล้วบอกเหตุกับพระนม พระนมจึงเชิญพระราชกัลยาณี เข้าไว้ในตู้พระสมุด ห้ามออกมา เสว่าจะเอาพระสมุดไปยังพระราชวังบวรสถานมงคล นายประตูก็มิได้สงสัย

ครั้นไปยังพระราชวังบวรสถานมงคลแล้ว พระราชกัลยาณีก็ออกจากตู้ เข้าไปเฝ้าสมเด็จพระเชษฐาธิราช ทรงพระกันแสงทูลประพฤติเหตุทั้งปวง ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอาเป็นพาลทุจริต สมเด็จพระนารายณ์บรมบพิตรเป็นเจ้า ได้ทรงฟังก็ทรงโทมนัส น้อยพระทัยนัก จึงตรัสว่า อนิจจาพระเจ้าอาเรานี้ คิดว่าสมเด็จพระบิตุราชสวรรคตแล้ว ยังแต่พระเจ้าอาก็เหมือนพระบรมราชบิดายังอยู่ จะได้ปกป้องราชวงศานุวงศ์สืบไป ควรหรือมาเป็นได้ดังนี้ พระองค์ปราศจากหิริโอ-ตัปปะแล้ว ไหนจะครองสมบัติเป็นยุติธรรมเล่า หน้าที่จะร้อนอกสมนชีพราหมณ์ อาณาประชาราษฎร ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นแท้ จะละไว้มิได้

ด้วยพระองค์ก่อแล้ว จำจะสานตาม จะเสี่ยงเอาพระบารมีเป็นที่พึ่ง ทรงพระราชดำริแล้ว จึงให้หาขุนนางเข้ามาในพระราชวัง ตรัสแจ้งพฤติเหตุ ซึ่งจะทำยุทธนั้น ขุนนางทั้งหลายได้แจ้งในรับสั่ง ดังนั้นก็ทูลอาสาขอเอาชีวิตเป็นแดนแทนพระคุณทุกคน สมเด็จพระนารายณ์เป็นเจ้า ได้ทรงฟังมีพระทัยปราโมทย์ยิ่งนัก ตรัสให้กระทำมงคลแดง ให้คนทั้งปวงเป็นสำคัญแล้ว ให้เอาใบสะเดา เป็นประเจียดสำหรับเมื่อจะยุทธนั้น เพราะเหตุว่า พระศรีสุธรรมราชาธิราชไซร้ พระชนมวารวันศุกร์ และใบสะเดานั้น
เป็นนามแห่งอริราช **

... น่าจะเป็นข้อยุติได้ว่า ภาพปริศนาขจองครูเหม เวชการ เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะเหตุที่เราไม่เคยผ่านตา ก็อาจเพราะว่าหนังสือเก่ามากประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งอาจจะเป็นปกหนังสือที่ครูเหม เตรียมไว้สำหรับหนังสือคณะเหม
แต่ยังไม่ทันได้พิมพ์ ก็ยุติสำนักพิมพ์เสียก่อน

อาจจะมีผู้ตั้งข้อสงสัยอีกว่า ในเมื่อเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ก็ไม่น่าจะปักใจเชื่อเลยว่า จะต้องอยู่ในเรื่องพระนารายณ์มหาราช ซึ่งเรื่องนี้เป็นจินตนาการของนักประพันธ์กับจิตกร ที่จะนำพาผู้อ่านให้ได้รับรสทางวรรณกรรม สมัยก่อนนั้นมีนักประพันธ์ แต่งนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ไว้หลายท่าน เช่น เรื่องพระเจ้าเสือ เรื่องพันท้ายนรสิงห์ เรื่องสี่บัลลังก์ แม้แต่ครูเหม ยังแต่งเรื่องพระสนมเอก ไว้ด้วย ท่านเหล่านั้น ต้องค้นคว้าหาข้อมูลมากมาย ก่อนที่จะนำมาบรรยายเป็นตัวหนังสือ
----------------------------------------------------------------------------------

** พระราชพงศาวดารฉบับพันจันทุมาศ (เจิม) ว่า
พระชนม์ว่าร้อน สุกรใบสะเดานั้นเป็นพุฒ และสุกรไซร้ สิ้นกำลังในพุฒนาม
เพื่อจะประหารนาม แห่งอริราช ...

..........................................................................................
ขอบคุณที่มา : วารสารตราไปรษณียากร 2547





Create Date : 26 มีนาคม 2551
Last Update : 8 มิถุนายน 2551 12:44:02 น.
Counter : 1576 Pageviews.

4 comments
บัตรทอง -รายชื่อหน่วยบริการเอกชนบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ newyorknurse
(16 เม.ย. 2567 04:04:52 น.)
โรงงานผลิตอาหารเสริมผู้ชาย ตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ได้คุณภาพ สมาชิกหมายเลข 7213059
(3 เม.ย. 2567 00:10:02 น.)
วิธีถามราคาสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ khatha0808
(2 เม.ย. 2567 00:05:26 น.)
สรุปวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.5) เรื่องเอกซ์โพเนนเชียล & ลอการิทึม นายแว่นขยันเที่ยว
(27 มี.ค. 2567 00:52:25 น.)
  
ใจร้าย มีการเล่าครึงๆ กลางๆ อย่างนี้ด้วย
โดย: เพรางาย วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:10:42:56 น.
  
มาแล้วค่ะคุณ เพ รา งาย (ออกเสียงอย่างนี้หรือเปล่าค่ะ) คนสวย รอหน่อยนะจ๊ะ
โดย: ดอกหญ้าในดงผู้ดี วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:20:12:05 น.
  
ถึงเป็นนิยาย แต่หลายครั้งก็มาจากเรื่องจริงนะคะ...
โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:2:41:55 น.
  
โดย: yosita_yoyo วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:12:14:06 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Upcountry2.BlogGang.com

ดอกหญ้าในดงผู้ดี
Location :
Dorset,  United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]

บทความทั้งหมด