ม่านฝนบนแผ่นดินจีน ภาคสอง
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

** ทริปจีนวันที่สามเริ่มต้นในเวลาเช้าตรู่เช่นเคย
เริ่มด้วยอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ฝรั่งในโรงแรมก่อนออกเดินทาง



บรรยากาศยังเหมือนสองวันแรกอย่างเหนียวแน่น
มืด ครึ้ม ฝนโปรยเบาๆ หมอกลงบางๆ
รถบัสพาลูกทัวร์มาขึ้นเรือเพื่อชมอ่าวลี่เจียงวานในยามเช้า
สองฝั่งน้ำสวยแปลกตาถ้วยวิวทิวเขาในบรรยากาศทึมๆ เทาๆ









ระหว่างล่องเรือ เห็นเรือหาปลาที่ใช้นกช่วยจับปลา
อะไรที่ไม่คุ้น ต้องถูกถ่ายรูปเก็บไว้





หลังจากขึ้นฝั่ง ได้รับการต้อนรับด้วยดอกไม้แล้ว มีกิจกรรมให้ทำเล็กน้อย
คือ ล้อมวงแล้วเต้นตามจังหวะ พร้อมกับถูกถ่ายรูปไปในตัว
ใครจะซื้อรูปหรือไม่ซื้อรูปที่ปริ้นท์ออกมาแล้วก็ได้
การล้อมวงเต้นเหมือนเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นไปในตัว
แม้จะเต้นกันแบบเคอะเขินมากบ้าง น้อยบ้างก็ตาม
แต่บรรยากาศกลับครึกครื้นขึ้นมาทันที



ถ่ายรูปกับบรรยากาศบนฝั่งกันเต็มที่แล้ว
ไกด์จีนพาลูกทัวร์ลงเรือมังกรล่องแม่น้ำเพื่อไปชมถ้ำวังสวรรค์







อาคารไม้ข้างร้านอาหารงามหลายๆ
กินอาหารเที่ยงเสร็จไม่ลืมเก็บภาพห้องน้ำอีกแบบมาเผยแพร่





อิ่มแล้วถึงเวลาย้อนกลับไปแถวๆโรงแรมเพื่อการช็อปปิ้ง
ถนนคนเดินสายนี้เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในเมืองนี้
“ถนนฝรั่งหยังเหยินเจีย” ที่ได้ชื่อนี้เพราะฝรั่งส่วนใหญ่
จะมารวมตัวกันอยู่ในถนนเส้นนี้เยอะ
เท่าที่สังเกต ย่านอื่น หรือที่เที่ยวอื่นๆที่ได้ไปมา แทบจะไม่มีฝรั่งเลย
เพิ่งเห็นฝรั่งเยอะๆบนถนนหยังเหยินเจียนี่เอง







เราชอบประติมากรรมชิ้นเล็กชิ้นโตในร้านนี้
ทั้งสวยงามและเนี้ยบ แต่ราคาก็สูงตามคุณภาพเช่นกัน



บรรยากาศบนถนนสายนี้ รวมทั้งเมืองนี้สวยและโรแมนติค
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน มีภูเขาลูกเล็กลูกใหญ่ยืนอวดตัวกันทั่วไปหมด
แม้ฝนจะตกตลอด แต่ความงามตรงหน้าก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
ร้านเล็กๆข้างทางนั่งทำประติมากรรมเหมือนร้านก่อนหน้านี้ให้เห็นกันสดๆ
แถมแกะออกมาเหมือนๆกัน แสดงว่าต้องไปฝึกมาจากสำนักเดียวกัน
บางร้านขายกระเป๋าผ้า หน้าร้านจัดแสดงการทอผ้าเสียเลย น่าสนใจมาก







ก็เพราะฝรั่งเยอะ ร้านอาหารฝรั่งจึงเยอะตามไปด้วย
บางร้านจึงจัดดิสเพลย์บนโต๊ะอาหารหน้าร้านซะเลย
ส่วนร้านขายของคล้ายๆร้านกิฟท์ช็อปที่ดีที่สุดในย่านนั้น (เรามั่นใจอย่างนั้น)
มีของยั่วน้ำลายเยอะแยะมากมาย ร้านนี้สูบเงินเรากับพี่อีกคนไปได้มากโข





ช่วงบ่ายมีเวลาเหลือ ก่อนอาหารเย็น และชมการแสดงตอนค่ำ
มีเวลามากพอที่จะเดินเที่ยวรอบๆ เราจึงวางแผนเดินเข้าออกตามซอกซอยเล็กๆ
เดินไปได้นิดเดียวเจอตลาด น่าสนุกมากๆ แค่คิดก็สนุกแล้ว
เราเชื่อว่าไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม ถ้ามีเวลามากพอ ควรไปเดินตลาดของเมืองนั้นๆ
เพราะจะได้เห็นอาหารการกิน เห็นชีวิตจริงๆของคนที่นั่น
สมใจจริงๆ เจอกรงใส่หมาขายหมาอยู่ในตลาด ถ่ายรูปไว้ด้วย แต่ไม่ได้เอามาลง
ตอนถ่ายรูปน้องหมาในกรง เรารู้สึกกลัวๆ กลัวว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
จะถามว่าถ่ายไปทำไม สุดท้ายก็คิดได้ว่าเราคงคิดมากและกลัวไปเอง
ที่นี่คนจะปลูกผักผลไม้แล้วเอามาขายกันเองเยอะ
ทางเข้าตลาดเลยมีรถเข็นขายผักผลไม้ที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอยู่พอควร













จากนั้นเดินออกมาสู่ถนนใหญ่แล้ววกเข้าซอยไปอีกรอบ
ซอยนี้มีเรื่องราวผ่านทางสายตาให้ถ่ายรูปได้เยอะมาก
ถ่ายรูปสนุกและเพลินจนเกือบลืมเวลา
แถมเจอคุณลุงคนนึง คุณลุงเห็นเราหน้าตาจี๊น จีน เลยชวนคุย
เราฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่อยากเงียบไปเฉยๆ เลยตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษ
คุณลุงพอรู้ว่เราไม่ใช่คนจีนที่พูดจีนได้ เลยโบกมือไล่
เข้าใจว่าไล่ และไม่ให้ถ่ายรูปตรงแถวนั้น
ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นอารมณ์เราเป็นยังไง
รู้แค่ว่าอยู่ดีๆก็เศร้าขึ้นมาเฉยๆอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
รู้สึกว่า เรากับลุงหน้าตาจีนไม่ต่างกัน แต่กลับเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน
เศร้าอยู่ไม่นาน เราคิดว่าอย่าคิดมากเลย กลับไปถ่ายรูปให้อารมณ์ดีน่าจะดีกว่า









ใกล้เวลานัดหมายกินข้าวมื้อเย็น จึงรีบเดินกลับโรงแรม
เห็นร้านหนังสือเล็กๆ เลยรีบเก็บภาพไว้
เสียดายมีหนังสือไม่มาก และไม่มีหนังสือที่น่าสนใจ
ไม่มีหนังสือนิทาน หรือหนังสือสำหรับเด็กเลย



อาหารเย็นมื้อนี้ หน้าตาคล้ายๆกับมื้ออื่นๆในร้านอาหารก่อนหน้านี้
รู้สึกแปลกใจที่ผักที่นี่หวานอร่อย พอเอามาทำผัดผักมันก็ยังอร่อยอยู่
แต่พอกินหมดมื้อ มันกลับรู้สึกไม่อร่อย และเริ่มเบื่อ
คงเพราะขาดรสชาติแซ่บๆอย่างที่คุ้นเคยที่เมืองไทยเป็นแน่แท้





ค่ำๆ ไม่รอช้า ขึ้นรถบัสไปชมการแสดงจากฝีมือการกำกับของจางอี้โหมว
ผู้กำกับหนังชื่อดังของจีน การแสดงในแม่น้ำ ‘The Impress of Liu Sanjie’
การแสดงทั้งหมด เกิดขึ้นทั้งบนบกและในแม่น้ำ
ใช้นักแสดงมากมาย แสง สี เสียงจัดเต็ม อลังการ ตระการตา
ก่อนเข้าชมเราพบว่า หนุ่มจีนสูบบุหรี่จัดมาก สูบแบบมวนต่อมวน
แต่อัตราการเป็นมะเร็งในจีนไม่สูงเท่าประเทศอื่น
เพราะคนจีนดื่มชามากเช่นกัน ไกด์จีนที่รักประเทศไทยให้ข้อมูลไว้อย่างนั้น







::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

วันที่สี่ในจีนเริ่มขึ้นด้วยการชมร้านขายผ้าไหม (โปรแกรมบังคับของรัฐบาลจีน)
ดูขั้นตอนความเป็นมาก่อนจะได้ไหมซักเส้น และช็อปปิ้งสินค้าจากผ้าไหมภายในร้าน



โปรแกรมถัดมาเปลี่ยนจากล่องเรือชม 4 ทะเลสาบ 2 แม่น้ำ เป็นชมถ้ำ
โปรแกรมเปลี่ยนด้วยเหตุผลอะไร เราก็ลืมไปหมดแล้ว



อาหารเที่ยงวันนี้ ไกด์รับประกันอย่างมั่นใจว่าอาหารจะถูกปากลูกทัวร์แน่นอน
หลังกินกันอิ่ม และจบมื้อลง อาหารมื้อนี้เป็นอย่างที่ไกด์ว่าไว้จริงๆ
เพราะอาหารร้านนี้มีหลายจานที่มีรสชาติจัดจ้าน และแซ่บ
ถูกปากลูกทัวร์กันถ้วนหน้า



อิ่มดีแล้วไปชมร้านขายมุก ตามโปรแกรมบังคับของรัฐบาลจีน
(รวมเวลาตามโปรแกรมบังคับของรัฐบาลจีนแล้ว กินเวลาเที่ยวไปหนึ่งวันเต็มๆ)



ออกเดินทางต่อไปยังกระเช้าลอยฟ้า เพื่อชมวิวเมืองกุ้ยหลินบนเขาหยวนซาน
ระยะทางจากด้านล้างไปสู่เขาหยวนซานประมาณ 1 กิโลเมตร
แถมมีฝน และหมอกหนา แต่ลูกทัวร์ทั้งหมดก็สมัครใจจะนั่งขึ้นไป





ระหว่างทางบนกระเช้า ยิ่งขึ้นไปสูงมันยิ่งให้ความรู้สึกแปลกๆรวมกัน
ทั้งน่ากลัวและสวยงาม แถมเปียกฝนพ่วงมาด้วยอีกรายการ
นอกเหนือจากนั้น ระหว่างทางยังมีคนรอถ่ายรูป เพื่อปริ้นท์ออกมาขายบนเขาอีก
แต่สุดท้ายจุดชมวิวบนเขาหยวนซาน กลับเป็นจุดเที่ยวที่น่าประทับใจที่สุดในทริปนี้
แม้บางช่วงจะมองไม่เห็นพื้นข้างล่างเลย เพราะหมอกหนา
แม้จะพยายามไม่ขยับตัวเยอะเพราะกลัวกระเช้าแกว่งไปมากลางอากาศ
แต่ระหว่างทางอากาศเย็นชื่นใจ แถมด้วยเสียงหัวเราะตลอดทาง
พอถึงด้านบนของเขาหยวนซาน ลูกทัวร์ต่างรีบเข้าสุขาเพราะอากาศหนาวมาก
แล้วก็ไม่พลาดการช็อปปิ้งของฝากบนนั้นอีกเล็กน้อย
ตอนถ่ายรูปบนนั้น กลัวกล้องเจ๊งเพราะฝนและความชื้น แต่ที่กลัวมากกว่า
คือกลับมาไทยแล้วไม่มีรูปถ่ายบนนั้นกลับมาด้วย เลยต้องยอมเสี่ยงเอา







ขาลงจากเขา ฝนหยุดตก ฟ้าเปิด เลยได้ชมวิวเมืองกุ้ยหลินตามโปรแกรม
เมืองกุ้ยหลินเป็นเมืองที่มีภูเขาเยอะแยะมากมาย
แต่ในเมืองหยางซั่วที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม มีภูเขาเยอะไม่แพ้กุ้ยหลินเลย





ค่ำๆแวะไปถ่ายรูปกันนิดๆหน่อยๆตรงเจดีย์หยื้อเยี่ยะ
แล้วไปชมการแสดงชุด ‘Dreamlike Lijiang’
แต่เขาห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีภาพมาฝาก
เป็นการแสดงคล้ายๆกายกรรมผสมโปรดักชั่น แสง สี เสียง ตระการตา



::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

และแล้ววันสุดท้าย วันที่ห้าก็มาถึง
วันนี้ไม่มีโปรแกรมเที่ยว มีแต่โปรแกรมการขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางกลับ
บินจากกุ้ยหลินไปกวางเจา และบินจากกวางเจากลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
เป็นอันเสร็จสิ้นทริปประเทศจีน
สี่วันที่ผ่านมาไม่มีแดดเลย ฝนตกมากบ้างน้อยบ้างปนๆกันไป
แต่วันสุดท้าย วันที่ห้า ไม่ได้เที่ยวแล้ว แดดกลับโผล่หน้ามาทักซะงั้น
ท้องฟ้าประเทศจีนแกล้งกันชัดๆ
ทริปจีนครั้งนี้ เราให้คะแนน 60 คะแนนจาก 100
คะแนนที่หายไป ส่วนหนึ่งถูกตัดคะแนนจากไฟท์บังคับ
โปรแกรมบังคับจากรัฐบาลจีน ที่ทำให้กินเวลาเที่ยวไปถึงหนึ่งวันเต็มๆ
แทนที่จะได้ไปเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆให้จุใจมากกว่านี้
ส่วนที่เหลือเป็นเพราะไม่มีแดด ฝนตกตลอด ถ้ามีแดดบรรยากาศการเที่ยว
จะแฮ็ปปี้ และถ่ายรูปได้เต็มที่กว่านี้มากๆ
แม้จะได้คะแนนแบบผ่านครึ่งมาไม่มาก
แต่เมืองจีนยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย
อย่าลืมศึกษาทริปที่จะไปให้ดีว่ามีอะไรบ้าง







แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า :-)

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::



Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 มิถุนายน 2555 9:22:43 น.
Counter : 2781 Pageviews.

0 comments
ทริปอเมริกา #2 - ต่อเครื่องที่มะนิลา+ผ่านตม.แบบ fast trackที่นิวยอร์ค ฟ้าใสทะเลคราม
(18 เม.ย. 2567 18:15:13 น.)
วัดพุทไธศวรรย์ ดาวริมทะเล
(18 เม.ย. 2567 17:54:51 น.)
กงสุลใหญ่สมใจ ตะเภาพงษ์“ร่วมฉลองสงกรานต์ปีใหม่ไทยในไทม์สแควร์” newyorknurse
(17 เม.ย. 2567 02:18:24 น.)
春和歌山市 : ทำไมต้องวากะยามะ mariabamboo
(15 เม.ย. 2567 11:06:33 น.)

Trytobeillustrator.BlogGang.com

ถ่านหินจำศีล
Location :
สมุทรสงคราม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]

บทความทั้งหมด