2552 กันยายน ------------------------------------------------------------------------------------------ กรุ๊ปบล็อกใหม่กำเนิดขึ้นแล้ว ณ บัดนาว เราจะแวะมาเขียนไดอะรี่เป็นระยะ เป็นรายสะดวก สะดวกเมื่อไหร่ก็มา เน้นเรื่องสรรพเพเหระ สิ่งที่พบเจอ สิ่งสะดุดใจ เรื่องรอบๆตัว และเก้าลอเก้า ------------------------------------------------------------------------------------------ 12 กันยายน 2552  ** ไปดูนิทรรศการ Tales from the SIX ที่อาร์ตกอริลล่าส์ อาร์ตแกลเลอรี่ ชั้น 2 ลิโด้ ชอบงานของทรงศีล ทิวสมบุญ เห็นวัยรุ่นแถวนี้แล้วรู้สึกว่าทำไมเด็กๆแต่งตัวกันอย่างนี้หนอ ในมุมกลับกันวัยรุ่นก็คงคิดว่าตาลุงนี่ทำไมแต่งตัวอย่างนี้หนา ก็เลยเลิกคิดต่อ คิดเอง ค้านเองเสร็จสรรพ สรุปว่าคิดฟุ้งบ๊องส์ๆอยู่คนเดียว ------------------------------------------------------------------------------------------ 13 กันยายน 2552  ** ไปดู "5แพร่ง" มา ชอบแพร่งสุดท้าย "คนกอง" มากสุด สี่แพร่งแรกออกแนวโหด น่ากลัว เตือนสติ แต่แพร่งสุดท้ายทำให้เราขำกลิ้งทั้งเนื้อเรื่องและขำบทบาทของมาช่ามากๆ ไม่ได้ดูหนังแล้วขำขนาดนี้มานานแล้ว (แทนที่จะกลัวกลับขำนิ) ** ซื้อ living etc ติดมือมาอ่าน ไม่ได้ซื้อนานแล้ว ที่ซื้อเพราะมันเป็นเล่มครบ 5 ปี หนังสือหนากว่าปกติ แล้วยังมีของแถมอีกต่างหาก สรุปว่าตกเป็นเหยื่อของการตลาดนี่เอง ที่พูดถึงเพราะชอบคำสัมภาษณ์ของอนุรักษ์ สุชาติ (ดีไซน์เนอร์ด้านโปรดักท์ดีไซน์) (หน้า 54) living etc ถามเขาว่า "คุณมีอะไรจะบอกกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ๆบ้างไหม" เขาตอบว่า "อยู่เมืองไทยต้องอดทน (ตอบทันที) เราต้องหมั่นสร้างผลงานเอง เพราะบ้านเราขาดกระบวนการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนอย่างจริงจัง ดังนั้นเราจึงต้องผลิตผลงานออกมาเรื่อยๆ อย่าออกมาปีเดียวแล้วหยุด เหมือนพลุที่สว่างแล้วดับ มันก็จะทำให้เราไม่ไปไหน ผมเห็นเด็กบางคน ได้รางวัลไปแล้วก็เงียบสนิท อันนั้นไม่ดี ต้องหัดรู้จักโปรโมทตัวเอง โปรโมทผลงานตัวเอง เราควรทำงานไป บอกคนอื่นด้วยว่าเราทำอะไรอยู่" อ่านแล้วเห็นด้วยกับหลายประโยคและแอบขำกับประโยคแรก "อยู่เมืองไทยต้องอดทน" โดนใจในทันที อิอิ อีกอันที่ชอบคือประโยคในรูปภาพหน้า 165 "EVERY CHILD MUST PLANT A TREE" ** แล้วก็อดใจซื้อยักษ์เขียว Shrek ไม่ได้ ดีนะที่ราคาไม่โหด ถูกกว่าที่คิด ------------------------------------------------------------------------------------------ 14 กันยายน 2552  ** กลับบ้าน ถึงตลาดแถวบ้านฝนตกปรอยๆ เหมือนมีความเย็นมารอรับ พอถึงบ้านได้ซักพัก ฝนตกตูมใหญ่เลย โชคดีจริงๆที่ไม่ต้องเปียกฝน ถึงบ้านเจ้าเป๊ปซี่ก็วิ่งเข้ามาเล่นด้วย ตัวเปียกมาเลย ** ได้รับพัสดุจากผู้ใหญ่ใจดี ชอบสแตมป์ตรงหน้าซอง สแตมป์เป็นสิบดวงเลย เปิดออกดู เป็นหนังสือ POOKA+ เคยเห็นผ่านตาบ้าง แต่ไม่เคยซื้อเลย เล่มที่ได้มานี้เป็นฉบับรวมผลงานของ Arai Ryoji นักวาดภาพประกอบญี่ปุ่นที่ทำงานหนังสือเด็กเป็นเวลาเกือบยี่สิบปีแล้ว ชอบอย่างแรง ขอบคุณผู้ใจใจดีท่านนี้ด้วย (คุณก็รู้ว่าคุณคือใคร) ** ไม่ได้ทำงานอะไรเลย เอื่อยอืดมากช่วงนี้ แถมเช่าวีซีดีมาดูอีกสองเรื่อง งานการไม่ต้องทำกันพอดี ทำนิทาน ทำนิทาน ทำนิทาน (ต้องท่องให้ขึ้นใจ) ------------------------------------------------------------------------------------------ 16 กันยายน 2552   ** ไปตลาด กลับบ้าน เห็นบ้านตัวเองแล้วนึกขึ้นได้ว่าน่าถ่ายรูปเก็บไว้ บันทึกความเปลี่ยนแปลงของบ้านเอาไว้ บ้านหลังนี้มีอายุประมาณ 60 ปีแล้ว ผ่านการซ่อมแซมมาหลายหน ** จากนั้นก็จัดการข้าวของในห้อง โยกย้ายโทรทัศน์มาไว้ใต้โต๊ะทำงาน ห้องเลยกว้างขึ้น ย้ายเสร็จนึกขึ้นได้ แล้วถ้านั่งทำงาน จะดูโทรทัศน์ยังไงหว่า เฮ้อ ลืมนึก แต่ไม่เป็นไร เวลาทำงานจะได้มีสมาธิ คิดซะว่าฟังวิทยุอยู่แล้วกัน ------------------------------------------------------------------------------------------ 18 กันยายน 2552  ** ไปร้าน D.D. BOOKS ซอยสุขุมวิท 33/1 นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีพร้อมพงศ์ (The Emporium) ร้านนี้เป็นร้านหนังสือญี่ปุ่นมือสองและให้เช่าการ์ตูนญี่ปุ่น เราแวะไปหาสมบัติอยู่เนืองๆ สมบัติทีว่าคือนิทานมือสองนั่นเอง หนนี้ได้มา 3 เล่ม เดี๋ยวว่างๆจะเอาไปแปะในกรุ๊ปบล็อก bookcase ** จากนั้นแวะไปหาของกินในฟูจิซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้ปลาซาบะกระป๋องมาทดลองกินหนึ่งกระป๋อง ต่อด้วยร้านหนังสือ Tokyodo และร้าน Neo ขายของจิปาถะในราคา 50, 60 และ 70 บาท (เหมือนร้าน Daiso นั่นเอง) ------------------------------------------------------------------------------------------ 20 กันยายน 2552   ** วันนี้หิวจัด มื้อแรกกินข้าวหมูกรอบกับเกาเหลาเย็นตาโฟ กินเสร็จเหงื่อท่วม เลยนั่งพักให้เหงื่อน้อยลงแล้วเดินทางต่อ ** ไปศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 6 The Emporium มาเพราะงานปล่อยแสง 4 งานมีตั้งแต่วันที่ 9-27 กันยานี้ หนนี้มาในแนวคิด "คิด ทำ กิน Supermarket of ideas" ได้ถุงผ้าของพี่ผึ้ง (Rabapapa) ติดมือมาอย่างนึง ** ในนิตยสาร computer arts ฉบับที่ 5 เดือนกันยายน สัมภาษณ์ Michael Paul Young นักออกแบบอเมริกันที่ย้ายมาทำงานในไทย มีคำถามนึงที่เราชอบคำตอบ โดนใจอย่างแรงนิ ฮิฮิ "การทำงานระหว่างคนตะวันตกกับคนไทยมีอะไรแตกต่างกันบ้าง" เขาตอบว่า ความแตกต่างอย่างหนึ่งคือ ฝรั่งจะจ้างดีไซเนอร์สักคนเพราะชอบสไตล์ของเขา แล้วให้ทำงานตามสไตล์นั้นๆ แต่ที่นี่จะเป็นแบบ 'ผมชอบงานนี้ของคุณมากเลย คุณช่วยออกแบบอีกอย่างหนึ่งให้หน่อยได้มั้ย' คือไม่ได้มองว่าดีไซเนอร์คนนี้ ถนัดสไตล์ไหน แต่ดูที่ความสามารถด้านเทคนิคมากกว่า ทำให้ดีไซเนอร์ไทย หลายคนต้องทำในสิ่งที่ตัวเอง 'ทำได้' แต่ไม่ใช่สิ่งที่ 'ชอบ' ------------------------------------------------------------------------------------------ 22 กันยายน 2552  ** ระหว่างทางกลับบ้าน ท้ายรถหกล้อคันหนึ่ง มีข้อความฮาๆอยู่สองข้อความ อันแรก "โตขึ้นหนูจะเป็นรถสิบล้อ" อันสอง "รถคันนี้สี...ทนได้" ** บนถนนเพชรบุรี เห็นงานของ P7 (พี เซเว่น) นักวาดภาพประกอบและกราฟิตี้ เห็นผลงานของเขาสามจุด รวมแล้วมีหกรูป แต่เราถ่ายมาได้แค่รูปเดียว ** บนทางด่วน เห็นมอเตอร์ไซค์ตำรวจสองคันกำลังขับตามน้องหมา ที่หลงวิ่งขึ้นทางด่วน อีกราวร้อยเมตรก็ถึงทางลงแล้ว เพิ่งรู้ว่าเวลามีอะไรแบบนี้ต้องมีพี่ตำรวจมาทำหน้าที่ส่งน้องหมาลงทางราบ ไม่รู้เจ้าหมาตัวนี้จะรีบไปไหนหรือเปล่า ถึงวิ่งขึ้นทางด่วน แต่โดนสกัดไว้เสียก่อน ------------------------------------------------------------------------------------------ 23 กันยายน 2552  ** วันนี้แดดดีมาก มากจนเวลาไปอยู่กลางแดดแล้วแทบอยากละลายหายไป โทรไปตามเรือเจ้า "สดใส" เพื่อไปตลาด เป็นเรือจ้างแบบเดลิเวอรี่โทรสั่งเดี๋ยวก็มา ** เจองานเก่าๆ ปกหน้า แสงแดดผู้ใจดี เวอร์ชั่นที่ไม่ได้ใช้ ตอนได้รางวัลทางผู้จัดประกวดอยากได้ปกที่ดึงดูดและเตะตามากกว่านี้ ปกนี้เลยยังหลงรอดอยู่ที่บ้าน ------------------------------------------------------------------------------------------ 30 กันยายน 2552  ** หลายวันมานี้เริ่มปั่นงานเป็นการด่วน เพราะต้องรีบจัดการงานที่มี เพื่อไปเริ่มโปรเจ็คท์ส่วนตัวที่รออยู่ ทำงาน ทำงาน ทำงาน สู้ สู้ สู้ ------------------------------------------------------------------------------------------
น้องธี
ไปกรุงเทพแล้วต้องใช้เวลาให้คุ้ม ประกอบกับช่วงนี้ค่อนข้างว่างหน่อย เลยออกร่อนเร่ ซัดเซพเนจร ว่าไปนั่นเลย อิอิ แกลเลอรี่ด้านบนเป็นแกลเลอรี่เล็กๆ ห้องเดียว เหมาะแก่การแสดงงานเดียว หรืองานกลุ่มที่แต่ละคนมีงานไม่มากนัก  โดย: ถ่านหินจำศีล
 วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:10:29:09 น.ชอบรั้วบ้านของคุณมาก ๆ เลยค่ะ
ถึงขั้นใฝ่ฝันว่าถ้ามีบ้านของตัวเองล่ะก็ จะมีรั้วแบบนี้ สีแบบนี้ให้ได้เลย และเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ สงสัยเราต้องเอาทีวีมาวางไว้ใต้โต๊ะเครื่องแป้งบ้างแล้ว เขียนเล่าได้น่าอ่านดีค่ะ เรื่อย ๆ เพลิน ๆ ดี จะเข้ามาดูบ่อย ๆ ค่ะ  โดย: มันจะดีเหรอคะ
วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:22:44:09 น.สวัสดีค่ะคุณถ่านฯ
อิอิอิ กรุ๊ปบล็อกใหม่น่าสนใจมากๆๆๆ อ่านได้นิดโหน่ยเอง แต่จะกลับมา(แอบ)อ่านอีกแน่นอน บ้านคุณถ่านฯน่ารักจัง ห้องของคุณถ่านฯก็น่ารัก ตอนแรกเราก็งงว่าใช่ทีวีรึเปล่าที่ใต้โต๊ะน่ะ แต่ก็ดีจะได้มีสมาธิในการทำงาน อิอิอิ โดย: พิมม์ IP: 76.127.114.10 วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:11:03:18 น.
คุณมันจะดีเหรอคะ
รั้วที่เห็นเป็นไอเดียแม่เราเอง แต่ก่อนเป็นรั้วเรียบๆตรงๆ ไม่รู้แม่ไปเอาไอเดียมาจากไหน ทำเป็นโค้งๆเป็นระยะสลับไปตลอดแนว ที่เอาทีวีไปไว้ใต้โต๊ะ เพราะอยากให้ห้องโล่งขึ้น ของเยอะเหลือเกิน   --------------------------- คุณพิมม์ จะมาอัพเรื่อยๆ เป็นรายสะดวก ของเดือนกันยากำลังหมด เดี๋ยวจะเริ่มของเดือนตุลาคมนี้แล้ว  โดย: ถ่านหินจำศีล
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:11:56:44 น.บ้านน่ารักจังเลย ชอบบ้านไม้มากมากเลย
บรรยากาศน่าวาดรูปนะ  โดย: วนิส
วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:18:03:11 น.คุณวนิส
เคยมองออกไปฝั่งตรงข้ามบ้าน แล้วอยากวาดรูปมาก แต่ก็ได้แต่คิด จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยวาดวิวหน้าบ้านเลย  โดย: ถ่านหินจำศีล
วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:0:15:10 น. |
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
ชื่อแกลเลอรี่แปลกสะดุดหู แต่ยังไม่เคยย่างกรายไปแถวนั้นเลยค่ะ