ลดน้ำหนักมาได้ 16 กิโล ในสามเดือนกว่าๆ (วันนี้เขียนย้อนหลังเพื่อบันทึกเป็นความทรงจำ) เดือนที่1


 เอาหล่ะ ได้เวลา รวบรวมข้อมูล การลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต (เราเชื่อแบบนั้น) ในตอนอายะ 41 นี่หล่ะ ไม่พูดเยอะละกัน เริ่มจาก เล่าคร่าวๆ ก่อน ก่อนหน้านี้ เราเคยลดน้ำหนักตอน 39 เนื่องจากตอนนั้น เห็นรูปตัวเองในงานปั่นจักรยาน ดอยอินทนท์ แล้ว มันอ้วนมาก ชั่งน้ำหนักได้ 68 กิโล ในความสูง 168 นี่มันหมีชัดๆ เลยลดน้ำหนัก ครั้งนั้นไม่ได้ซีเรียส มาก กินอาหารเย็นน้อยลงน้ำหนักก็ลงมาเหลือ 61 แล้ว ภายในเดือนกว่าๆ หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เริ่มคบกับแฟนตั้งแต่  มีนาคม 2558 (เริ่มคบกันกับแฟน หนัก 61 แต่ดูไม่อ้วนนะ เพราะเราสูงแล้ว กระดูกเราใหญ่ ทำให้ดู ไม่อ้วน แต่ไม่เฟิร์มเลย ) 
คบกับแฟน มีความสุข บ้างทุกข์บ้าง น้ำหนัก ไม่ได้ชั่งเพราะออกกำลังกายเยอะ ทั้งว่าย ปั่น วิ่ง 
ไม่เคยชั่งน้ำหนักอีกเลย ผ่านไป เกือบจะสามปีแล้ว อีกไม่กี่เดือน ....

8 กรกฏาคม 2561 เราได้ ไปเห็นรูปตัวเองในงานแข่ง ไตรกีฬา ที่เราได้รางวัลที่ 3 ประเภท ทวิกีฬา ฟังดูเหมือนจะดีเนอะ เราคิดมาตลอดว่าเราแค่อวบ เราดูแข็งแรง ไม่อ้วนหรอก ถ่ายรูปก็ต้องสวย เรามั่นใจ.....
9 กรกฏาคม 2561 เรา ไปวิ่งงาน นาวิกโยธินมินิมาราธอน งานนี้ เพื่อนสนิทเราไปเยอะ แลดูออกกำลังกายเยอะเนอะ แข็งแรงด้วย ออกกำลังกายหนัก สองวันต่อกันเลย 

มันจะไม่มีอะไร เป็นเหตุการณ์ปกติ จนกระทั่ง เราได้เห็นรูปทั้งสองงาน 
ความรู้สึกในตอนนั้นคือ ** นี่คนหรืออึ่งอ่า่ง อ้วนมาก ***
แม่ง จะโทษตากล้องก็ไม่ได้อีก เพราะคนอื่นดูผอม แม้กระทั่งบัดดี้เรา น้องปุก !!! 

(น้องปุก คือน้องที่เราปั่นจักรยานด้วยประจำ สูง 169 หนัก 56 สูงกว่าเราแค่ 1 ซม) 

รูปที่ถ่ายออกมาทั้งสหวิริยากรุงเทพไตรกีฬา และ นาวิกโยธิน เรากับต่อดูบวมเหมือนอึ่งอ่างทั้งคู่ 
ตอนนั้น ต่อเ(แฟนเรา) เริ่มลดน้ำหนักแล้วนะ เราอยากร้องไห้ และพูดกับต่อ (วันที่ 10 กรกฏาคม 2561 ) ว่าเราตั้งใจแล้ว เราจะอ้วนแบบนี้ไม่ได้ เราจะลดน้ำหนัก 

ตอนนั้น วันจันทร์ (วันทำงานหลัง ไปอีเว้นท์ เราจำได้ดี เพราะในหนึ่งสัปดาห์ วันจันทร์จะเป็นวันเดียวที่เรา ไม่ออกกำลังกาย หรือเรียกว่า วันพักของเรานั่นเอง) 
ชั่งน้ำหนักครั้งแรก 70.3 กิโล โอ้วแม่เจ้า ครั้งที่แล้ว 68 ตรูว่าเยอะแล้ว ครั้งนี้ แม่งโคตรหลอน

สูง 168 หนัก 70.3 เกินมา เกือบ 13 กิโล แสดงว่า ช่วงวันแข่งเราน่าจะหนัก 72 กิโลด้วยซ้ำ เพราะ เสาร์อาทิตย์ ผลาญ ไป สามพันแคลอรี่ 

วันแรกบอกเลย ท้อแท้ จะลดได้ไง จะลดเท่าไหร่ คิดๆๆๆๆ ไม่อยากกินคลีน ไม่อยากกินคีโต ไม่ทำ IF ไม่ๆๆๆๆๆๆ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น 

เอาไงดีฟระ เริ่มจาก มาคำนวนแคลอรี่ อาหารที่กิน และพลังงานที่ใช้ดีกว่า 

เริ่มจาก การใช้ แอพ Garmin ซึ่งเรามี Forerunner 935 xt เป็นนาฬิกาไตรกีฬาและ Edge 1000 ซึ่งเป็น ไมล์จักรยานอยู่แล้วเนอะ เราก็จะเล่น แอพบ่อย เข้าไปดูน้ำหนักตัวเองย้อนหลัง แต่ก่อน หนัก 61 ตอนนี้ ปาเข้าไป 72 11 กิโลเลย บอกเลย ตอนแรก เศร้าสุดๆ หมดหวัง และกำลังใจ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ 

แฟนน้ำหนักลด จาก 80 เหลือ 75 พอดี (พนันกับนางไว้ 4000 บาท นางลดได้จ้า ) เลย บอกให้นางจ้างเราบ้าง เราจะได้มีกำลังใจ นางเลยจ้า เรา 2000 บาท ลด 10 กิโล ใน 3 เดือน 
ด้วยความกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ 
13 กรกฏาคม เลย โพสใน เฟสบุคเลย 13 ตุลา เราจะลดน้ำหนัก ให้ได้ 10 กิโล ในสามเดือน แต่เพื่่อนๆในเฟส ดูขำขันนะ เพราะเค้ารู้ว่าเรา เป็นนักกีฬาสาย ชาบูไง มีแต่คนบอกว่าทำไม่ได้หรอก เอาซักปีนึงพอไหว แต่ !! เราไม่ท้อนะ สิ่งแรกที่ทำคือชั่งน้ำหนักทุกวัน 


สัปดาห์แรก ... เริ่มจาก แต่ก่อน 

(เดิม) เช้า กับข้าว สามอย่าง ข้าว หนึ่งจาก กาแฟเย็น หวาน
กลางวัน กินแหลก
เย็นกินแหลก
ระหว่างมื้อ โยเกิร์ต กาแฟ เค้ก จัดไป 
พุธ เสาร์ ชาบู บุฟเฟต์ โออิชิ ยูแอนด์ไอ และอื่นๆ 

(ลดน้ำหนัก) เช้า กินข้าวราด กับข้าวสองอย่าง อย่างนึงต้องเป็นไข่
กลางวัน ก๋วยเตี๋ยว สุกี้ อะไรก็ได้ ไม่มันมาก
เย็น ผักผลไม้ สลัด 
ระหว่างมื้อ งด
ชาบู เหลืออาทิตย์ละครั้ง 

สองสัปดาห์แรก ลดไป เหลือ 68.7 เห้ย ดีใจ Sub 70 แล้ว อย่างที่บอก จุดเริ่มต้น คงประมาณ 72 ต่ำกว่า 70 เลยดีใจมาก 

27กค (สองอาทิตย์หลังจากเริ่มลด) ไปญี่ปุ่น กินแหลก แต่ไม่เหมือนเดิม แล้วเพราะเราเปลี่ยนมุมมองอาหาร 

30 กค กลับมาจากญี่ปุ่น หนักเพิ่มมาเป็น 69.8 ขึ้นมาโลนิดๆ ไม่เป็นไร เพราะตอนไปโอกินาว่า เราก็กินแหลก ขึ้นแค่นี้ ถือว่า จิ๊บๆ สติมีเยอะขึ้นมากๆ 

หลังจากกลับจาก โอกินาว่า เรา เริ่มศึกษาการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง 


*** เข้า Ig ไปดู ผญ สวยๆ หุ่นดีๆ 
*** Search menu clean food 
*** key คำว่าลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพ 

เริ่มจริงๆจังๆ กับการกินคลีน เพราะ พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ กล่าวว่า การลดน้ำหนัก เรื่องกิน 80% เรื่อง ออกกำลังกาย แค่ 20% ก็จริงแหละ เราปั่นจักรยานมา 4 ปี ถ้าปั่นแล้วผอม คง ผอมนานแล้ว 
พอศึกษาเรื่องคลีน นึกเมนูไม่ออก บังเอิญมากๆ เจอร้าน อาหารคลีนร้านนึง (ไม่ บอกละกันเนอะ เดี๋ยวว่าโฆษณา) เราเห็นเมนูแล้ว เห้ยยย นี่มันน่ากินมาก กว่าอาหารปกติอีก เลยทดลองสั่ง 

อาทิตย์นึงตก สองพันกว่าบาท 6 วัน วันละ3 มื้อ ทำเป็นเล่นไป ลดอาทิตย์ละ โลนะจ๊ะ แต่ห้ามกินอาหารนอกนะคะ เพราะเค้าคำนวนแคลมาให้แล้ว 1200+ แคล 

*** เริ่มใช้ แอพ MyFitness Pal ฉบับ ฟรีเลยค่าาาา ใส่ให้หมด แคลอรี่ต่างๆ มันมีบอกละเอียดยิบ แถมเรา Sync ข้อมูลออกกำลังกายจาก Garmin ได้ด้วย เพิ่งจะเข้าใจว่า จริงๆ วิ่ง 1 ชม ได้ 300-400 แคล ปั่นจักรยานได้แค่ 200-300 แคลอรี่ต่อชม แต่ อาหารแต่ละอย่างที่เราชอบ มันคือแคลอร๊่สูงมากกกกกกกกกกกก (กไก่ล้านตัว) ชาบูนี่ครั้งนึงก็ 1000+ แคลอรี่แล้ว แถมยังชอบบิงซูเพิ่มอีก


ช่วงเดือนแรก น้ำหนักลดลงมา 5 กิโลได้ เหลือราวๆ 66-67 กิโล เพื่อนเริ่มทักว่าผอมลงละ แต่ก็ยังอวบๆเยอะอยู่แหละ ยังกิน อาหารคลีนออนไลน์อยู่นะ เริ่มชอบถ่ายรูปดูหุ่นตัวเองมากขึ้น เสื้อผ้าเริ่มหลวมแล้ว จาก M&L เปลี่ยนเป็น M&S บ้างแล้ว อย่างว่าหละ มันยังไม่ชัดเจน 

ช่วงนี้ การวิ่ง การปั่นจัรยานเริ่มดีขึ้นแล้ว  เดี๋ยวว่างๆ ช่วงค่ำๆ มาเขียนตอนที่2



Create Date : 21 ตุลาคม 2561
Last Update : 21 ตุลาคม 2561 14:44:20 น.
Counter : 476 Pageviews.

1 comments
  
โดย: รู้นะว่าคิดถึง วันที่: 14 พฤศจิกายน 2561 เวลา:10:38:13 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Travel-heart.BlogGang.com

หัวใจนักท่องเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด