บันทึกทวาทศมาส ประจำปี 2565 เดือน ม.ค.-มี.ค.
  บันทึกทวาทศมาส ประจำปี 2565  เดือน  ม.ค.-มี.ค.

ทวาทศมาส  เป็นการบันทึกเรื่องราว เหตุการณ์ของฉัน  รวมถึงต่า
เหตุการณ์ที่ฉันคิดว่าสำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน
 รวมทั้งปี ก็ เป็น 12 เดือน  จึงได้ชื่อว่า  ทวาทศมาส  ทวา แปลว่า
2 ทศ  แปลว่า 10 มาส  แปลว่าเดือน  ค่ะ
รวมความแล้ว  ก็คือ 12 เดือน นั่นก็คือ  เรื่องราว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน
12 เดือน (1 ปี)  ที่เกิดขึ้น ค่ะ 
จุดประสงค์ในการบันทึกของฉัน  เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำของ
ตนเองเป็นการเตือนตนเองในบางเรื่องราวที่เกิดขึ้น  เป็นต้น
ซึ่งฉันได้เขียน ทวาทศมาสมาหลายปีแล้ว  ก็ดีใจที่ปีนี้ ยังมีโอกาสได้
มาเขียนบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2565 อีกปีหนึ่ง ค่ะ 
 ฉันจะเขียนเหตุการณ์ที่อยากบันทึกไว้เป็นเดือน ๆ ตอนละ 3เดือน รวม
เป็น 4 ตอน 12 เดือน ค่ะ 
         
เริ่มเดือน มกราคม เดือนแรกของปี 2565  นะคะ  เป็นเดือนขึ้นศักราช
ใหม่ ก็มีจะมีญาติ  ลูกศิษย์ที่เขายังระลึกถึงฉันอยู่
มาเยี่ยมมาสวัสดีปีใหม่ บ้างตามประเพณีอันดีงามของไทยเรา ค่ะ 

         วันที่ 1 ฉันได้โทรไปเชียงใหม่ เพื่อสวัสดีปีใหม่พี่โต เธอรู้สึกดีใจ
 แต่คุยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร อาจจะเป็นเพราะว่า
 เธออายุมากแล้วบอกฉันว่า ตอนนี้แกอายุ 92 ปีแล้ว  เฮ้อ ! เวลา
ช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน รู้จักกันมาน่าจะไม่น้อย
กว่า 40 กว่าปีแล้ว  เนาะ ส่วนใหญ่จะคุยผ่านคนดูแลเธอที่ชื่อ ฝน ที่
ต้องคอยบอกฉัน เพราะบางที่ ฉันก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง 
      บ่าย ๆ เหลนฮง  โทรมาถามว่า ฉันอยู่บ้านไหม จะมาสวัสดีปีใหม่ที่
บ้านฉัน  วันนี้ไม่มีใครนัดฉัน เลยอยู่บ้าน
 เหลนฮงก็เลยมาสวัสดีปีใหม่  มีน้ำผึ้งมาฝากฉัน 1 ขวด ด้วยค่ะ 



เหลนฮงและเหลนสะใภ้ มาสวัสดี ปีใหม่ที่บ้าน ค่ะ 

วันที่ 2 ม.ค. อุ้ย ลูกศิษย์นัดฉันจะมารับฉันไปทำบุญสังฆทานที่วัด
ธาตุทอง  หน้าวัด หลวงพ่ออภอบาลปวงชน 
ซึ่งจะมีพระสงฆ์มารับสังฆทานที่คนมาไหว้พระขอพร และ ทำสังฆทาน
อุ้ยและแม่จ้างแท้กซี่มารับรับฉันและไปวัดด้วยกัน
  ยายอ้น น้องสาว ไม่ได้ขับรถมา  สังฆทาน อุ้ยซื้อของและจัดเอง ฉัน
ทำบุญร่วมกับอุ้ยไป 200 บาท ไม่ได้เตรียมเอง
  อุ้ยบอกว่า เราทำด้วยกันก็พอแล้ว เพราะเมื่อวานครอบครัวเขาไป
ทำบุญมา 9 วัดแล้ว อุ้ยกับแม่ชอบทำบุญมาก
  ไปทำบุญปีใหม่ ก็มาชวนไปด้วย ก็ดี เรามีเนื้อนาบุญร่วมกัน  ชาติหน้า
จะได้เป็นครู ศิษย์ กันอีก เนาะ 



ทำบุญสังฆทานที่วัดธาตุทอง  ค่ะ

   หลังจากไหว้พระ ทำบุญแล้ว  อุ้ยก็พาฉันกับแม่อุ้ยไปเลี้ยงข้าวปีใหม่ 
วันนี้ เราไปกินกันที่ สบายใจไก่ย่างเจ้าประจำ 
สั่งอาหารกันหลายอย่าง แม่อุ้ยชอบส้มตำใส่ปลาร้า อิอิ กินคนเดียว
  เพราะฉันกับอุ้ยไปกินปลาร้า เรากินแต่ส้มตำไทย
อร่อย  ต้มแซบ เอ็นหมู ทั้งฉันและอุ้ยชอบรสชาติ  อุ้ยสั่งเพิ่มอีก 1 
ชาม อิอิ หลังจากอิ่มหนำสำราญมื้อเที่ยงแล้ว 
อุ้ย มาส่งฉันที่บ้านก่อน แล้วจึงให้แท้กซี่ไปส่งที่บ้านเขาที่อ่อนนุช 82
ค่ะ วันนี้  อุ้ย นำของมาฝาก มีกล้วย มะละกอ 
มาชมภาพเลยค่ะ ขอบใจลูกศิษย์อุ้ย จ้ะ   



อาหารที่เราสั่งมากินกัน ค่ะ 3 คน กินมากมาย นะเนี่ย



ของฝากปีใหม่จากอุ้ย ค่ะ ฉันฝากกระเป๋าใส่ของให้เธอ 1 ใบ

 ช่วงบ่าย ๆ สดใส ลูกศิษย์อีกคนที่ต้องมาสวัสดีปีใหม่ ทุกปี  น่ารัก
ห่วงใยฉันเสมอ  เรานั่งคุยได้ไม่นานนัก
  เพราะใสต้องดูแลน้องหมาเกือบ 10 ตัว นั่งคุยได้สักชั่วโมงก็ต้องรีบ
กลับบ้านซึ่งบ้านใสไม่ไกลจากบ้านฉันนัก
อยู่สุขุมวิท 53 นั่นเอง ฉันไปส่งใสนั่งมอเตอร์ไซด์ออกไปที่ปากซอย 



สดใส มาสวัสดีปีใหม่ พร้อมขนมด้วย ค่ะ 


 วันที่ 4 ม.ค. วันนี้ ลูกศิษย์ ป๊อบ  ดร.รัฐไท  ก็มาสวัสดีปีใหม่ฉันแต่เช้า 
 ซื้อหมูแผ่น หมูหยอง หมูทุบ มาฝากด้วย 
แต่ไม่ได้เข้าบ้านมาคุย เนื่องจากจะต้องไปสวัสดีผู้ใหญ่ต่อไปอีก 
ถ่ายรูปกันแล้ว คุยได้ประมาณ 15 นาที เท่านั้น  




ดร.รัฐไท  (ป๊อบ)  ลูกศิษย์  มาสวัสดีปีใหม่ 

วันที่ 5 ม.ค. ได้รับพัสดุ จากลูกศิษย์พระตู่ เป็นกระเช้าลูกพรุน  ค่ะ
ขอบใจท่านมาก ค่ะ 



หลวงศิษย์ ส่งน้ำลูกพรุนมาสวัสดีปีใหม่  ค่ะ 

    วันที่ 6 ม.ค.วันนี้ อาท ลูกศิษย์ ได้โทรมาบอกว่า  จะให้คนมาส่งขนม
เค้กปีใหม่มาให้ฉันที่บ้าน  โห! ส่งมาตั้ง 3 ถาด
น่าจะทำเองด้วยฉันต้องแบ่งไปให้เพื่อนบ้านไปช่วยกิน 1 ถาด เหลือ
2 ถาดเล็ก ใส่ช่องฟีดไว้ กินได้หลายวัน กินแทนข้าวได้เลย อิอิ 



ขนมเค้ก ปีใหม่ของลูกศิษย์ อาท มาฝากปีใหม่ ค่ะ 

    วันที่ 8 ม.ค.วันนี้  มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นในวงการบันเทิง  คือ เราสูญเสีย
นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เสียงดี  คือ คุณศรเพชร  ศรีสุพรรณ 
อายุ 74 ปี  เรามาทราบประวัติและผลงาน ของ คุณศรเพชร  ค่ะ 
ศรเพชร  ศรีสุพรรณ  มี ชื่อจริงว่า บุญทัน คล้ายละมั่ง เป็นนักร้องเพลง
ลูกทุ่งชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2491 
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดศรีสร้อยเพชร
อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี   เป็นบุตรของ
นายเทิ่ง และนางหมก คล้ายละมั่ง 
ศรเพชร ศรสุพรรณ เจ้าของฉายา “หนุ่มนาเสียงเด็ด”เริ่มเข้าสู่อาชีพนัก
ร้อง จากการเป็นนักร้องเชียร์รำวงของ “ดำ แดนสุพรรณ”
โดยมี “เลี้ยง กันชนะ” เป็นผู้ชักนำเข้าวงการ จนได้พบกับ “โผผิน พร
สุพรรณ”นักร้องเชียร์รำวงอีกคนหนึ่ง
โผผินจึงแต่งเพลงให้ไว้หลายเพลงจนมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี
พ.ศ. 2513-2519
 เพลงที่สร้างชื่อเสียงอย่างมาก คือ “ข้าวไม่มีขาย” ได้รับรางวัล นักร้อง
ดีเด่นเสาอากาศทองคำ จากสถานีวิทยุเสียงสามยอด
ปี พ.ศ. 2518โดยมีตัวแทนมารับรางวัลแทน เนื่องจาก “ศรเพชร”
ติดงานร้องเพลงไว้และไม่คิดว่าจะได้รับรางวัลนี้
         
ส่วนผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงในระยะแรกและต่อมา ได้แก่ หยิกแกม
หยอก , เข้าเวรรอ , มอเตอร์ไซค์ทำหล่น ,
ไอ้หวังตายแน่ , ใจจะขาด , อภัยให้เรียม , เสียน้ำตาที่คาเฟ่ , รักมาห้าปี ฯลฯโดย “ศรเพชร” เป็นนักร้องที่มีลูกคอ
สะเด็ดเป็นเอกลักษณ์จนหาใครเทียบยาก

  สำหรับอาการป่วยของ “ศรเพชร” นั้น ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช
และขอรับบริจาคเลือด B Rh-negative เนื่องจากมีอาการป่วยที่ก้อน
เนื้อบริเวณกระเพาะอาหาร และเกิดภาวะน้ำท่วมปอด
       
จากนั้นวันที่ 26 ตุลาคม 2564 นักร้องลูกทุ่งคนดัง ได้เข้ารับการรักษา
ที่โรงพยาบาลธนบุรี 1 หลังมีอาการหน้ามืด 
อาเจียน จากอาการอาหารเป็นพิษ
  ต่อมาวันที่ 2 พ.ย. 2564 ลูกชาย ได้โพสต์แจ้งข่าวผ่านเฟซบุ๊ก โดยมี
อาการทรุดหนัก ต้องหามส่งเข้าไอซียูว่า
“ตอนนี้ พ่อศรเพชร อาการทรุดหนักหามส่งโรงพยาบาล  เมื่อคืนนี้
ตอนนี้อยู่ห้อง ICU ยังไม่ได้สติ 
ศรเพชร ศรสุพรรณ” เสียชีวิตอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริ
อายุ74  ปี  หลังรักษาตัวจากอาการป่วยนานหลายเดือน
สาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจากภาวะหลายโรคแทรกซ้อน
ในขณะที่ทำการรักษาตัว



ขอแสดงความอาลัย ศรเพชร  ศรีสุพรรณ 

วันที่ 12 ม.ค. คนไทยก็ต้องสูญเสีย นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ฉายา ราชา
เพลงแหล่ ไปอีก 1 คน  ก็คือ คุณไวพจน์  เพชรสุพรรณ
 ด้วยวัย 79 ปี เรามาทราบประวัติของท่าน ค่ะ 

     ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เกิดเมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2485 ที่ หมู่ 2 ตำบล
มะขามล้ม (ปัจจุบันเป็น ตำบลวังน้ำเย็น)อำเภอ
บางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรนายจำปีและนางอ่ำ สกุลนี
เป็นชาวไทยเชื้อสายลาว เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
โรงเรียนวัดวังน้ำเย็น อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรีสมรสกับนางอรชร
สกุลนี มีบุตรธิดา 3 คน คือ อมรรัตน์ สกุลนี รมิตา สกุลนี
และ วรพล สกุลนี

ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เริ่มหัดร้องเพลงอีแซว เพลงพื้นบ้านของ
จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ โดยได้ฝึกหัด
และหัดตามมารดา ซึ่งเป็นแม่เพลงอีแซวจนสามารถร้องเพลงอีแซว
และเพลงแหล่ได้เมื่ออายุ 14 ปี จากนั้นได้หัดร้องลิเก
กับคณะลิเกประทีป แสงกระจ่าง เมื่ออายุ 16 ปีได้เข้าประกวดร้องเพลง
ครั้งแรกที่วัดท่าตลาด ต.วัดโบสถ์ อ.บางปลาม้า
จ.สุพรรณบุรี เพลงที่ร้องเป็นเพลงแหล่ของ พร ภิรมย์ ชื่อเพลง “จันท
โครพ” ปรากฏว่าได้รางวัลที่ 1
ไวพจน์สนใจขับร้องเพลงลูกทุ่งมาก เพราะเป็นช่วงที่มีนักร้องลูกทุ่ง
มีชื่อเสียงเกิดขึ้นมากมาย เช่น ชัยชนะ บุญนะโชติ,
ไพรวัลย์ ลูกเพชร และ ชาย เมืองสิงห์ ครั้งหนึ่งชัยชนะ บุญนะโชติ
ได้นำวงดนตรีมาเล่นที่ตลาดสวนแตงและ
มีการรับสมัครประกวดร้องเพลง ไวพจน์จึงสมัครประกวดร้องเพลงด้วย
และได้รับการชมเชยจากผู้ชมผู้ฟังเป็นจำนวนมาก
ชัยชนะ บุญนะโชติ จึงชักชวนให้เข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งและตั้งชื่อให้
ใหม่ว่า" ไวพจน์ เพชรสุพรรณ " หลังจากนั้นได้นำไวพจน์
 ไปฝากเป็นศิษย์ของครูสำเนียง ม่วงทอง นักแต่งเพลงซึ่งเป็นชาว
จ.สุพรรณบุรี เช่นกัน ซึ่งเป็นเจ้าของวงดนตรี
“รวมดาวกระจาย” ไวพจน์ จึงได้เข้ามาร่วมวงในฐานะนักร้องนำ
ครูสำเนียงได้แต่งเพลงให้ร้อง และประสบความสำเร็จ
อย่างมาก คือ เพลง "ให้พี่บวชเสียก่อน" และยังได้ขับร้องเพลงของนัก
แต่งเพลงผู้อื่น คือ จิ๋ว พิจิตร เช่น เพลง ”แบ่งสมบัติ” และ
“ไวพจน์ลาบวช” เป็นต้น
 ไวพจน์ เป็นผู้มีความสามารถรอบตัว เพราะนอกจากจะร้องเพลงลูกทุ่ง
ได้ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีความสามารถเล่นเพลงพื้นบ้าน
ได้เกือบทุกชนิดทั้งเพลงฉ่อย เพลงอีแซว เพลงเรือ เล่นได้หมดและ
เล่นได้ดีขนาดโต้ตอบด้วยปฏิภาณกวีได้
โดยเฉพาะการแหล่ ทุกคนในวงการล้วนยกย่องให้ไวพจน์เป็น " ราชา
เพลงแหล่ "เพราะมีเพลงแหล่บันทึกแผ่นเสียงมากที่สุด
ในประเทศไทย ทั้งยังสามารถแหล่ด้นกลอนสดได้อย่างไม่ติดขัด

ในจำนวนนักร้องลูกทุ่งอาวุโส ไวพจน์ มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงมาก
ที่สุดถึงประมาณ 2,000 เพลง และยังคงผลิตผลงาน
ออกมาเพิ่มเติมในระดับที่ถี่กว่าคนอื่นทั้งเพลงที่ครูเพลงแต่งให้และ
แต่งเองร้องเอง ไวพจน์ เพชรสุพรรณยังสามารถ
แต่งเพลงสร้างชื่อให้ลูกศิษย์มาแล้วมากมาย โดยศิษย์เอกที่โด่งดัง
ของไวพจน์มี ขวัญจิต ศรีประจันต์, เพชร โพธาราม
(เพลง ต.ช.ด.ขอร้อง) และ พุ่มพวง ดวงจันทร์ (เพลงแก้วรอพี่ , นักร้อง
บ้านนอก) นอกจากนั้นก็ยังเป็นหมอทำขวัญ  ซึ่งได้รับ
การยกย่องว่าเป็นหมอทำขวัญอันดับหนึ่งของเมืองไทยในปัจจุบัน

      ผลงานของ คุณไวพจน์  เพชรสุพรรณ  เช่น 
หนุ่มนารอนาง สาละวันรำวง   แตงเถาตาย    สามปีที่ไร้นาง   พี่เกี้ยว
ไม่เป็น   แหล่ประวัติยอดรัก  เจ้าชู้บ้านไกล 
บ่เป็นหยังดอก  ด้านได้อายอด  จักรยานคนจน สายเปลสายใจ
เซิ้งบ้องไฟ   บ่เป็นหยังดอก   เหล้าจ๋า  เป็นต้น  
ผลงานแสดงภาพยนตร์
ไทยน้อย (ปี 2512)
สาละวัน (ปี 2512)
จอมบึง (ปี 2513)
อยากดัง (ปี 2513)
ไทยใหญ่ (ปี 2513)
มนต์รักป่าซาง (ปี 2514)
ชาละวัน (ปี 2515)
มนต์เพลงลูกทุ่ง (ปี 2522)
เทพเจ้าบ้านบางปูน (ปี 2525)
นักเพลงผู้ยิ่งใหญ่ (ปี 2527) รับบท ไวพจน์
เลือดแค้น เล็กนกใน (ปี 2532)
มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม. (ปี 2545) รับบท ผู้ใหญ่บ้าน
เหลือแหล่ (ปี 2554) รับบท ไวพจน์

นอกจากนี้  ยังมีผลงานอัลบั้มเพลง  มีคอนเสิร์ต  อีกมากมาย  
       ไวพจน์ เพชรสุพรรณได้เข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลตากสินตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 และในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2565
 ไวพจน์ เพชรสุพรรณได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุรวม 79 ปี
       วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน
ไปในการพระราชทานเพลิงศพไวพจน์ เพชรสุพรรณ ณ เมรุชั่วคราว วัดวังน้ำเย็น อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

เกียรติยศ

ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) พ.ศ. 2540
เข็มพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ เมื่อ พ.ศ. 2514
รางวัลนักร้องดีเด่นจากงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยทั้ง 2 ครั้ง คือ
เมื่อ พ.ศ. 2532 จากเพลง สาละวันรำวง และ พ.ศ. 2534
จากเพลง แตงเถาตาย
รางวัลพระพิฆเนศทองคำพระราชทาน
        (ที่มา  จากวิกีพีเดีย )



ขอแสดงความอาลัย คุณไวพจน์  เพชรสุพรรณ 

วันที่ 13  ม.ค. เยาว์เพื่อนรัก  ส่งสะตอจาก สายบุรี มาให้ฉัน ใน 1 ปี
นางจะส่งมาหลายครั้งอยู่ นะ บางครั้ง  ฉันก็ไปซื้อ
กุ้งหรือหมู  มาผลัดกับสะตอ  ตื่นแต่เช้า  เพื่อไปใส่บาตร  เพื่อให้เยาว์
เจ้าของสะตอ ได้บุญด้วย ค่ะ  



สะตอ ของเยาว์ เพื่อนรักที่ส่งมาให้ฉัน ค่ะ ลูกใหญ่ น่ากิน จ้ะ 

วันที่ 20 ม.ค.  ขอความอนุเคราะห์ จากลูกศิษย์วิน (อัศวิน )  ให้เขาขับ
รถมารับฉันไปที่เขตคลองเตย เพื่อทำบัตรประชาชนใหม่ 
เพราะบัตรเก่า แถบแม่เหล็กเสียแต่ปรากฎว่า  ถึงวันนัด วิน ติดธุระ
มาไม่ได้ ค่ะ ต้องเลื่อนไปวันอื่น 

     วันที่ 22  ม.ค.  เป็นวันที่ เจี๊ยบเป็นผู้ต้นคิดที่จะนัดสังสรรค์ปีใหม่กัน
และโทรมาเชิญฉันไว้  เพื่อให้ฉันจัดวันว่างไว้ 
วันนี้ คนที่มารับฉัน คือ สมเกียรติ  งานจัดที่ร้าน ตุลาชาบู ของกุ้ง 
เท่ากับเราไปอุดหนุนร้านของเพื่อน และน่าจะได้
ราคากันเองด้วยนะ  งานนี้  หมอซิงค์ นำเครื่องมาตรวจโควิดด้วย  แต่ก็
ผ่านทุกคน ค่ะ  
      งานนี้ มีธีมในการแต่งตัวด้วย  ให้แต่งชุด โบฮีเมีย  กุ้ง เจ้าของร้าน
เปิดห้องให้แต่งตัวกันเลย  ฉันว่าจะใส่เสื้อลายดอก ๆ
สีสัน หน่อย เพราะไม่มีชุดโบฮีเมียหรอกแต่อี๊ดซื้อมาให้ฉันใส่ เขาซื้อ
ของเขา 2 ชุด เผื่อฉันด้วย  ฉันก็คิดว่า  เขาให้ยืมใส่
  แต่ปรากฏว่า  เขาซื้อให้ฉัน  มีเครื่องประดับเตรียมมาห้อยคอด้วย
  หะรูหะรา เสียเหลือเกิน  งานนี้ ไม่มีกิจกรรมอะไรมากนัก
  คือ กิน  คุย ถามทุกข์ สุข งานนี้มากันไม่น่าจะถึง 20 คน  กิจกรรมครั้ง
นี้มีแค่จับฉลาดของขวัญ  โดยมีกติกาว่า  ไม่ต่ำกว่า 200 บาท
  และต้อง มีคำว่า ส อยู่ในความหมายของของขวัญด้วย 
(ปีเสือ)  ฉันก็นำของขวัญไปร่วมจับฉลากกับเด็ก ๆลูกศิษย์ด้วย ค่ะ
มาชมภาพ บรรยากาศของงานสังสรรค์ เนื่องในโอกาส ปีใหม่ ค่ะ 















ของฝากจาก อัง และ ซิงค์ กุุ้ง อี๊ด 



เซลฟี่กับชุดสวย ๆ ของแต่ละคน ฝืมือ เจี๊ยบ ค่ะ 

วันที่ 24 ม.ค. วันนี้ ฉันไปฉีดวัคซีน เข็มกระตุ้น  เข็มที่ 3 ที่แถว
เอเซียทีค   โดยน้องหมออัครฐานให้ความช่วยเหลือ
ฝากให้พยาบาลที่เลิดสินช่วยลงทะเบียนไว้ให้ล่วงหน้าฉันเลยของฝาก
น้องหมอให้ช่วยเพื่อน คือ เอม อีกคนไปฉีดพร้อมกัน
  น้องหมอโอ๊คน่ารัก ใจดี ก็ฝากให้น้องพยาบาลลงทะเบียนให้เราสอง
คน  ให้เบอร์น้องพยาบาลคนนั้นเพื่อให้ฉันประสาน
กับน้องด้วย  อำนวยความสะดวกให้ฉันกับเพื่อนเป็นอย่างดี  ต้องขอ
ขอบใจน้องหมอและน้องพยาบาลด้วย ค่ะ 
  ฉันนัดน้องชาย ขี่มอเตอร์ไซด์ ไปส่งฉันที่ เอเซียทิค  ส่วน เอม เขาไป
รอฉันที่โน่นเลย  เอม ไปถึงก่อนฉัน  เดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหาถึงแล้ว
ก็โทรหากันว่า อยู่ตรงไหน เท่านั้นเองก็เดินหากันเจอ ค่ะ มาชมภาพค่ะ



พยาบาลน่ารักมาก มาฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ (60ปี ขึ้นไ)ถึงเก้าอี้ที่นั่ง
ขณะที่รอ มีคนมาขาย กำลังมือสีเขียว อันละ
100 บาท เป็นการทำบุญให้ ร.พ. ฉันอุดหนุนไป 100 บาท ค่ะ 


วันที่ 25 ม.ค. ตุ๊ก  ฝากขนมให้เหมียวซึ่งไปซื้อขนมของตุ๊กที่พระโขนง 
ตุ๊กเลย ฝากขนมมาให้ฉันได้ จ้ะ มีวุ่นกระทิ ถั่วเขียว
และข้าวเหนียวถั่วดำ ด้วย ขนมของตุ๊กอร่อยทุกอย่าง  ขอบใจมากนะ
ตุ๊ก ถึงไม่ใช่ลูกศิษย์ (เขาเป็นเพื่อนเพ็ญ) 
เขาก็รักและเคารพฉันเหมือนเป็นครูของเขา ค่ะ 



ขนมที่ ตุ๊กฝากเหมียวมาให้ฉัน ค่ะ 

 วันที่ 27 ม.ค. สุรีย์ ลูกศิษย์ ซึ่งชอบถักเน็ตติ้ง โคเช  ฉันเลยให้ไหม
พรมและด้วยถักที่ฉันเคยซื้อมากมาย ในสมัยที่ชอบถัก
เหลือมากมาย ยกให้สุรีย์ไปถัก เพราะเขาถักขายและนำไปถวายพระป่า
ซึ่งต้องใช้ในยามหน้าหนาว  สุรีย์ อุทิศตัวทำงานให้ที่
วัด ธรรมมงคล  มานานมากหลายสิบปี ฉันอนุโมทนาให้เธอจริง ๆ นาง
เป็นคนใจเย็น พูดจานิ่ม ๆ  ชวนฉันไปเรียนธรรมะที่วัดนี้
หลายครั้ง แต่ฉันก็ไม่ได้ไปจนชราภาพแล้ว  อิอิ  เพราะความคิดว่า  เรา
ปฏิบัติตัวดี ปฏิบัติชอบ ไม่ผิดศีลธรรม ทำบุญ ช่วยเหลือ
สังคมบ้าง ตามอัตภาพเราได้  สวดมนต์ที่บ้านก็ได้เนาะ ฉันมีช่วงเวลาที่
นัดกับเพื่อนจอยจะไปร่วมพิธียกฉัตรที่วัดของหลวงตา
ที่จังหวัดเลย  ก็เลยคิดถึงว่า  น่าจะให้สุรีย์ถักบวชสัก 2 ใบ สำหรับ
หลวงตา 1 ใบ และ พระอาจารย์ กิติพันธ์ อีก 1 ใบ
จะได้นำไปถวายวันที่เราไปงานยกฉัตร ไหม ก็ให้ไปแล้ว  ส่วนของฉัน
สุรีย์ก็ถักหมวกไหมพรมให้ฉัน อีก 2 ใบ ไว้ใส่
เวลาไปเที่ยวด้วย  ฉันก็ให้ค่าถักหมวกเฉพาะ ให้พระสองรูป ดูเหมือน
น่าจะ  200 บาท นะ ถ้าจำไม่ผิด 



หมวกที่สุรีย์ถักให้ ค่ะ 

วันที่ 29 ม.ค. วันนี้ รุ่ง ลูกศิษย์มารับไปกินข้าวที่ ร้านบ้านส้มตำ   มี
กล้วยและของอื่น ๆ อีกตามภาพ ค่ะ  รุ่งชอบอาหาร
ที่ร้านบ้านส้มต้ม  เราไปกินร้านนี้เป็นประจำเลยค่ะ 



ร้านอาหารใกล้บ้าน  เจอแอน ทองประสมด้วย ค่ะ 



อาหารที่รุ่งสั่งมากินวันนี้ ค่ะ อร่อยทุกอย่าง ค่ะ 





ของที่ รุ่งนำมาฝากอีก ค่ะ 

วันนี้ ใกล้ตรุษจีน  เราไม่ได้มากินร้านนี้หลายเดือน  รุ่งลงมาอยู่
กรุงเทพฯ เลยไปกินกัน  ขากลับเข้าซอย 38
บ้านฉัน ซึ่งขณะนี้ มีเปิดร้านขายน้ำ ขายอาหาร  โดยใช้บ้านที่อยู่
อาศัย มาเป็นร้านอาหาร ขายน้ำ ด้วย  รุ่งอยากจะลองดูว่า
อร่อยไหม  โห! เห็นราคาแล้ว สูงมากทีเดียว  ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น 
น่าจะมีดาราดัง ๆ มาอุดหนุนด้วย มั้ง เพราะ ว่า 
วันนี้  รุ่งชวนมาลองน้ำร้านนี้   พวกเราเจอ  แอน  ทองประสม มากิน
ข้าวกับแฟนเขาด้วย  รุ่ง ตาดี บอกฉัน  ฉันหันหน้าไปมอง
  แอน ตัวเล็ก ผอม เหมือนในละครที่เธอเล่นแต่เธอนั่งไกลจากโต๊ะเรา
ไกลอยู่  รุ่งถ่ายรูปให้ แต่ก็ไม่ชัดเจน เธอกินข้าวเสร็จแล้ว
กำลังจะออกไปจากร้านด้วย ค่ะ 
วันนี้ แอน ลูกศิษย์  ยังให้คนส่งส้มมาให้ฉันเนื่องในวันใกล้ตรุษจีน  ฉัน
นำไปไหว้ วันที่ 31 แล้วอธิษฐานขอพรให้แอน
ลูกศิษย์ด้วย ให้เขามีความสุข  สุขภาพแข็งแรง ๆ ตลอดไป ค่ะ 
มาชมภาพ  ค่ะ 



ส้มที่ แอน นำมาสวัสดี วันตรุษจีน  ค่ะ 
 วันที่ 31  ม.ค. วันนี้ เป็นวันตรุษจีน  ฉันนำส้มของแอนไหว้เจ้าที่ด้วย
พร้อมกับขอพรให้แอนในฐานะเขาส่งส้มมาให้ แบ่งบุญกันไป เนาะ อิอิ
 
        เดือน ม.ค. ของปี 65 ก็มีเรื่องราวมากมายเหมือนกัน เนาะ ต่อไป
ก็มาสู่เดือนที่ 2 กุมภาพันธ์  ค่ะ มาดูซิว่ามีเหตุการณ์
อะไรที่ต้องการจะบันทึกบ้าง ค่ะ 

 วันที่ 2  ก.พ.  ฉันนัดกับเอมอร  เพื่อไปทำบุญยาที่ วัดเล่งเน่ยยี่  แล้ว
เดินทะลุไปที่ ปอเต๊กตึ้ง  ทำบุญโลงศพและพะเก่ง
  เหมือนทุกปีที่ได้ทำ  มี เยาว์ และจ๋าเพื่อนรักที่ได้ฝากฉันไปทำบุญ
ด้วยทุกปีเหมือนกัน ค่ะ  ตอนนี้  วัดเล่งเน่ยยี่
เนื่องจากปีนี้  ทางวัดมีการบูรณะวัด   ต้องเดินตามทางแคบ ๆ ตาม
ที่ทางวัดสร้างไว้เพื่อให้คนจะมาไหว้และทำบุญ
  กว่าจะเดินถึงที่ไหว้และทำบุญ ก็ไกลโขอยู่   เราทำบุญที่ห้องยาแล้ว 
ก็เดินไปทะลุที่ปอเต็กตึ๊ง  ทำบุญโลศพและพะเก่ง
  เสร็จแล้วเข้าคิว  เพื่อไปรับสาคู เพื่อนำกลับบ้านไปกินจะได้เป็นมงคล
แก่ชีวิต ค่ะ  แล้วเราก็ไปกินโป๊ะเกี้ยเจ้าประจำ
ถ้วยละ 20 บาท ซื้อกลับบ้านไป 3ถุงด้วย แช่ไว้ในตู้เย็น กินได้ วันละ
ถุง เย็นชื่นใจดี  เนื่องจากวัดกำลังบูณะ  ฉันจึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ค่ะ 

 วันที่  3 ก.พ.  วินว่างแล้ว  ได้นัดฉันและพาไปที่ เขตคลองเตย เพื่อทำ
บัตรประชาชนใหม่  เนื่องจากบัตรเดิม  แถบแม่เหล็ก
มีปัญหา จึงต้องเปลี่ยนบัตรใหม่ เดี๋ยวนี้ การทำบัตรประชาชนไม่ช้า
   กรอกใบคำร้องเสร็จ  สักพัก ก็เรียกฉันไปถ่ายรูป ประมาณ
10 นาที ก็ได้บัตรใหม่  เสียค่าซองใส่บัตร 5 บาท เท่านั้น ค่ะ 
จากนั้น  วินก็ขับรถพาฉันกลับบ้าน   เป็นอันว่า ฉันได้บัตรประชาชนใหม่
เรียบร้อย  ต้องขอบใจวิน มาก ๆ จ้ะ 

วันที่ 12-17 ก.พ. เป็นทริปสุดท้ายที่เราซื้อตั๋ว บินรัว ๆ ของแอร์เอเซีย 
ค่ะ ทริปนี้  แดงเลือกลงใต้ ค่ะ แต่ก็ถูกเลื่อนไฟล์
ตอนขากลับ  จากไฟล์กลางคืนมาเป็นไฟล์เช้า  ทำให้เราเสียโปรแกรม
เที่ยวในตัวจังหวัด นครศรีฯ ไป 1 วัน 
นี่แหละ ข้อเสียของตั๋ว บินรัว ๆ ดังที่เคยเขียนไว้ในบล็อกก่อน ๆ แล้ว
ค่ะ  ทริปนี้ ฉันได้เขียนไว้ในบล็อกท่องเที่ยวแล้ว
  ถ้าหากผู้อ่านที่ยังไม่ได้อ่าน ก็สามารถตามไปเที่ยว  ตามลิ้งค์ นี้ ค่ะ  
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=20-06-2022&group=8&gblog=52
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=suvimol&month=07-2022&date=03&group=8&gblog=53
              ฉันขอเพิ่มรูปในการเที่ยวใต้ครั้งนี้ เล็กน้อย เพื่อเป็นน้ำจิ้ม
เชิญชวน ค่ะ 





เที่ยวทะเลน้อย ค่ะ มีควายน้ำ  มีบัวแดง สวย มากมาย ค่ะ





วัดพระศรีมหาธาตุ  ที่นครศรีธรรมราช ค่ะ
 


วัดไอ้ไข่  ค่ะ 

เรานั่งเครื่องกลับไฟล์เช้าประมาณ สองโมงเช้า มาถึงกรุงเทพฯ  ก็จ้าง
รถแท้กซี่กลับบ้านของแดงก่อน  แล้วแดงก็ขับรถ
พาฉันกลับบ้าน  เป็นอันว่า จบทริปใต้และไม่ซื้อ ตั๋วบินรัว ๆ แล้ว และ
คิดว่า แดง ก็คงไม่อยากให้ฉันซื้อหรอก
  เพราะเขาก็ต้องลำบากมารับมาส่งฉัน นั่นเอง เกรงใจเขาด้วย 

   วันที่ 19  ก.พ. ได้รับข่าวเศร้าว่า  แม่ของแอน ลูกศิษย์ฉัน ถึงแก่กรรม
แอน เป็นลูกศิษย์ประจำชั้น และดีกับฉัน
  ตอนฉันผ่าตัดเข่า อยู่โรงพยาบาล  แอนก็เป็นคนช่วยจัดการหาคน
มาเฝ้าที่ ร.พ. ตอนกลางคืน เพราะว่า ฉันอยู่ห้องพิเศษ
จะต้องมีคนมานอนเฝ้าด้วย  โชคดี ที่ช่วงนั้น  ทิพย์ ลูกศิษย์ห้องห้า  รถ
เขาเสียเข้าอู่ซ่อม  ที่ทำงานเขาใกล้กับ ร.พ. เลิดสิน
ทิพย์เลยอาสามานอนที่ ร.พ. อาทิตย์ถึงวันพฤหัสฯ ช่วงเช้าก็ไปทำงาน
เดินทางสะดวก ก็ได้ประโยชน์  เย็นวันศุกร์ เสาร์
  แอน ก็มาค้าง มีเพ็ญมาด้วย เป็นที่ชุมนุมกันในห้องพักฉัน  สนุกสนาน
กับการกิน  เพราะแถวบางรัก  ก็เป็นที่รู้ ๆ กันว่า
เป็นแหล่งรวมของกินอร่อยทั้งนั้น  อยู่ ร.พ. เดือนกว่า กลับออกจาก
ร.พ.ก็อ้วนท้วนสมบูรณ์เลย ค่ะ อิอิ 
งานศพแม่แอน ฉันต้องหาลูกศิษย์มารับไปงานแน่นอน  คิดถึงก้อง 
เพราะก้องกับแอนสนิทกัน  เขาต้องไปฟังสวดแน่นอน 
 ฉันจึงโทรไปหาก้อง  ให้ก้องมารับ ส่ง ฉันด้วยก้องโอเคมารับและส่ง
ฉัน ก้อง บ้านอยู่อ่อนนุช  ใกล้บ้านฉันมากที่สุดด้วย 
ไปถึงวัด แอน มารับ ฉันแสดงความเสียใจกับแอน และส่งซองทำบุญ
งานศพแม่ของแอนไป  วันนี้ มีเพื่อนของแอนมากัน
หลายคน โดยเฉพาะครอบครัวของ คม มีโก้ และลูกสาว  ก้องและแฟน
ของก้อง ภา  ไก่ ตุ๊ก พวกเราก่อนกลับได้ถ่ายรูปหน้าศพ
ไว้เป็นที่ระลึก 



สมาชิกที่ไปฟังสวด งานศพแม่ของแอน ค่ะ 

      ออกจากวัดมา  ก้องชวนไปกินข้าวร้านที่ก้องเคยมากิน  เขาบอกว่า
รสชาติ ส้มตำ ของอิสานร้านนี้อร่อย  พวกเราก็เลย
ไปกินข้าวที่ร้านอิสาน  คนขาย เจ้าของร้านจำก้องได้เขามาต้อนรับก้อง
เป็นอย่างดี  สั่งอาหารกัน  กินกันไป คุยกันไป 
เพราะไม่ค่อยไดเจอกัน ไม่ได้จัดมิตติ้งกันนานแล้ว  ส่วนใหญ่ก็เจอกัน
งาน ขาวดำ นั่นแหละ ค่ะ 





ไปฟังสวด วันที่ 20  ค่ะ อาหารร้านอิสาน ร้านนี้ อร่อย ดี ค่ะ 

  วันที่ 20 ก.พ.  วันนี้ ไปเรียนคอมฯ กับ อ.เต็ก ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ 
 เรียนเสร็จได้รับโทรศัพท์จากรุ่งว่า  จะนำกับข้าวมาฝาก 
มารับที่ศูนย์และน่าไปส่งที่บ้านด้วย เพราะเอาของมาฝากหลายอย่าง
  แต่ไม่ได้ลงมาที่บ้านนั่งคุยกัน  มาชมของฝากของ รุ่ง ค่ะ 



อาหารและผลไม้ที่รุ่งนำมาฝาก ค่ะ 

วันนี้ ยังมีเรื่องเศร้าอีกเรื่อง นั่นคือ  เราสูญเสียนักร้องเสียดี ไพเราะ ไป
อีกแล้ว 1 คน คือ คุณเศรษฐา  ศิริฉายา  ด้วยวัย 77 ปี 
หลังจากที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมาหลายปี ค่ะเรามาทราบประวัติของคุณ
เศรษฐา สักหน่อย นะคะ 

     เศรษฐา ศิระฉายา เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 จังหวัด
พระนคร  จบมัธยมปลายจากโรงเรียนบวรนิเวศ
เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปี ด้วยการขนเครื่องดนตรี
ในวงดนตรีตามคำชักชวนของน้าชายของเขา
สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ อดีตพระเอกภาพยนตร์ชื่อดังในช่วงหลังสงครามโลก
ครั้งที่สอง

ประวัติการศึกษา เศรษฐา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์
หลักสูตรโครงการพิเศษ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง
มหาวิทยาลัยรามคำแหง   ระดับปริญญาโท
คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA มหาวิทยาลัย
กรุงเทพธนบุรีและปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
     "เศรษฐา" ได้ฝึกหัดทักษะด้านดนตรีแบบครูพักลักจำ จนกระทั่งได้
ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่าง ๆ
เช่น ตั้งวงหลุยส์กีต้าร์เกิร์ล กระทั่งได้รวมตัวกับเพื่อน ๆ นักดนตรีตั้งวง
ดนตรีHoliday J-3 ร่วมกับวินัย พันธุรักษ์, พิชัย ทองเนียม
, อนุสรณ์ พัฒนกุล และสุเมธ อินทรสูต ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็น Joint
Reaction และเปลี่ยนอีกครั้งในชื่อ ดิอิมพอสซิเบิ้ล
(The Impossibles) ซึ่งเป็นชื่อการ์ตูนชื่อดังของอเมริกาในสมัยนั้น
โดยเขารับบทบาทเป็นนักร้องนำ ปี พ.ศ. 2512
ดิอิมพอสซิเบิ้ลสามารถคว้าถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวด
วงสตริงคอมโบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมดนตรี    
แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
         
ปี 2509 อาเปี๊ยก อรัญญา เริ่มเล่นละครโทรทัศน์เรื่องแรก ชื่อเสียง
ค่อยๆ โด่งดังเรื่อยมา กระทั่งในปี 2513 เปี๊ยก โปสเตอร์
ผู้กำกับ ได้ทาบทาม อรัญญา มาเป็นนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง “โทน”
ซึ่งผู้กำกับยังได้ทาบทาม วงดิอิมพอสสิเบิ้ล
มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบ เป็นจุดเปลี่ยนให้ เศรษฐา ซึ่งเป็นนักร้อง
นำของวงได้สัมผัสโลกภาพยนตร์เป็นครั้งแรก
และได้มีโอกาสร่วมแสดงในหนังเรื่องต่าง ๆ เรื่อยมา กระทั่งได้เป็น
พระเอกอย่างเต็มตัว 
 ในปี 2522 เศรษฐา ได้เป็นพระเอกในเรื่อง ชื่นรัก ประกบกับนางเอก
ชื่อดังแห่งยุคอย่าง อรัญญา และเป็นจุดเริ่มต้น
ของความสัมพันธ์รักที่ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน และมีลูกสาว
เพียงคนเดียว คือ อี๊ฟ พุทธธิดา

 ดิอิมพอสซิเบิ้ลยังคงชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบอีก 2 ครั้ง
ติดต่อกัน หลังจากนั้นและได้บรรเลงเพลงประกอบ
ภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ ดวง (2514), สวนสน (2514), ระเริงชล
(2515),ตัดเหลี่ยมเพชร (2518) ฯลฯ กลายเป็นวง
ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ปี พ.ศ. 2518 หลังกลับมาจากการไปทัวร์ที่ต่าง
ประเทศ เศรษฐาก็ได้รับการชักชวนจาก จุรี โอศิริ
ให้มาแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจังครั้งแรกคือเรื่อง ฝ้ายแกมแพร
(2518) แต่ก็ได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี สาขา
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองจากผลงานดังกล่าวได้ทันที

 ปี พ.ศ. 2519 ดิอิมพอสซิเบิ้ลประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ เศรษฐา
จึงก้าวเข้าสู่โลกมายาอย่างเต็มตัว มีบทบาท
โดดเด่นทั้งการเป็นพิธีกรและนักแสดง นับเป็นดารายอดฝีมือคนหนึ่ง
ซึ่งสามารถรับบทบาทได้หลากหลายไม่ว่า
จะเป็นบทดี บทร้าย บทตลก ส่งผลให้มีผลงานออกมามากมายจวบจน
ปัจจุบัน โดยเรื่องที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งคือ 
ชื่นรัก (2522) ซึ่งเขาได้รับบทพระเอกประกบคู่กับ อรัญญา นามวงศ์
นางเอกชื่อดัง เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์
ให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ชีวิตกันในเวลาต่อมา
   ปี พ.ศ. 2554 เศรษฐา ศิระฉายา ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็น
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง)

 ผลงานของ เศรษฐา ในวงการบันเทิงมีมากมายแทบนับไม่ถ้วน ตั้งแต่
ทำเพลงประกอบ นักแสดง และพิธีกรรายการโทรทัศน์
มากมาย ต่อมาในช่วง พ.ศ. 2533 ทางวงได้กลับมาออกอัลบั้มอีกครั้ง
กับนิธิทัศน์ โปรโมชั่น โดยเป็นการนำเอาเพลง
ในอดีตของวงกลับมาบรรเลงใหม่และเพิ่มเพลงใหม่ลงไปในอัลบั้ม   
        พ.ศ. 2554 เศรษฐา ศิระฉายา ได้รับการยกย่อง
เชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(ดนตรีไทย
สากล-ขับร้อง)ผลงานเด่น ๆ  เช่น  
    รายการมาตามนัด (คู่กับญาณี จงวิสุทธิ์)ทาง ท.ท.บ. 5 และ โมเดิร์น
ไนน์ทีวี(10 มิถุนายน พ.ศ. 2529 – มิถุนายน พ.ศ.2537
,6 สิงหาคม พ.ศ.2555 – 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556)
        รายการเศรษฐาโชว์ (พ.ศ. 2539 – พ.ศ. 2540)
        รายการดวงกับดาว ทาง ช่อง 3 อ.ส.ม.ท. (พ.ศ. 2537 – พ.ศ.
2542) 

 ผลงานด้านโทรทัศน์  ก็มีมากมาย  เช่น  ตุ๊กตาเสียกบาล (พ.ศ. 2519)
ขบวนการคนใช้ (พ.ศ. 2520) รักประกาศิต(พ.ศ. 2520)
ชื่นชีวานาวี(พ.ศ. 2523) ห้วงรัก เหวลึก (พ.ศ. 2523)พล นิกร กิมหงวน
(พ.ศ. 2523)   พ่อปลาไหล (พ.ศ. 2541)   อย่าลืมฉัน ช่อง 3
(พ.ศ. 2557)   ทรายสีเพลิง ช่อง 3 (พ.ศ. 2557) เป็นต้น  

       เกียรติประวัติ ที่ได้รับ  
       พ.ศ. 2553 : รางวัลพระราชทานบันเทิงเทิดธรรม (พ.ศ. 2553)
จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
       พ.ศ. 2553 : รางวัลการเชิดชูบุคคล ทางด้านผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น
แห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2553
       พ.ศ. 2554 : รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรี
ไทยสากล-ขับร้อง)       

ช่วงบั้นปลายชีวิต เศรษฐาเข้ารับการรักษามะเร็งปอด หลังจากตรวจพบ
ใน พ.ศ. 2562 ระหว่างนั้นในปี พ.ศ. 2564
เขาเคยป่วยด้วยโรคโควิด-19 และได้รับการรักษาจนไม่มีเชื้อโควิด
ในร่างกายแล้ว แต่ในที่สุด เศรษฐาก็เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ณ เวลา 04:41 นาที หลังจากกลับ
ไป รักษาอาการมะเร็งปอดด้วยเคมีบำบัด สิริอายุ 77 ปี

การนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานหีบลายก้านแย่ง เป็นเครื่องเกียรติยศ
บรรจุศพ โดยโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศโทภักดี แสงชูโต รองอธิบดี
กรมราชเลขานุการในพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาหลวง
 พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ไปตั้งที่หน้าหีบศพ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 โดยโปรดให้พลเอกดาว์พงษ์
รัตนสุวรรณเป็นประธานในพิธี ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2565 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพเศรษฐา ณ เมรุด้านใต้
วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยมี นันทิดา แก้วบัวสาย
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการเข้าร่วมในพิธี   (ขอบคุณ ข้อมูล จาก วิกิพีเดีย)



คุณเศรษฐา และ คุณ อรัญญา สมัยเป็นหนุ่มสาว ค่ะ น่ารัก ค่ะ  



ขอแสดงความอาลัยในการจากไปของ คุณเศรษฐา  ค่ะ 

วันที่ 20  ชมรมครูเก่า ฯ เป็นเจ้าภาพ ฟังสวด น้องชู ซึ่งถึงแก่กรรม เมื่อ
วันที่ 19 ค่ะ บรรยากาศเศร้าเสียใจ  เพราะน้องชู
เธอเพิ่งเกษียณไปไม่กี่ปี  เธอป่วยเป็นมะเร็งในสมอง  รักษาตัวมาได้
ประมาณ 2 ปี เฮ้อ! มนุษย์เราไม่มีอะไรแน่นอนเลย ค่ะ
ขอให้น้องไปเป็นนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ ค่ะ ชมรมครูเก่า เป็นเจ้าภาพ
ฟังสวด ในวันที่ 20 ก.พ. ค่ะ ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 



ชมรมครูเก่า ฯ เป็นเจ้าภาพ ฟังสวดงานน้อง ชูจิตต์ ค่ะ 

     วันที่ 22  ก.พ. วันนี้ จะมีการฌาปนกิจศพแม่ของแอน  ก้องบอกว่า 
วันนี้ ก้องไม่ได้อยู่อ่อนนุช  เขาอยู่ใกล้วัดที่แม่ของแอน
จะฌาปนกิจ  เขาเลยมารับฉันไม่ได้  ฉันเลยต้องไปกับเพ็ญ ซึ่งเพ็ญจะ
ต้องไปแต่ช่วงประมาณ 8-9 โมงเช้า  เพราะ เพ็ญกับตุ๊ก
จะต้องเอาขนมวุ้นกระทิไปเลี้ยงพระเพลด้วย  หญิง (เนาวรัตน์)  ก็มาที่
บ้านตุ๊กที่พระโขนงเพื่อที่จะไปพร้อมกัน
   พวกเราไปถึงวัดประมาณ  10 โมงได้  ช่วยกันจัดอาหาร เพื่อเตรียม
เลี้ยงพระเพล  มี ภา มาช่วยแต่เช้าแล้ว
อาหารเลี้ยงพระและแขก จ้างเขาทำ พวกเราช่วยกันจัดใส่ถาด  รูปละ 1
ถาด  เป็นช่วงโควิด  จึงไม่ได้ฉันเป็นวง  นั่นเอง 
งานเลี้ยงพระเพล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย   ก่อนการฌาปนกิจ   ก็มี
พระมาสวด 1 กัณฑ์  เสร็จแล้ว  มีการเวียนศพ
รอบเมรุ 3 รอบ ก่อนยกโลงศพขึ้นตั้งบนเมรุ จากนั้น  ก็มีพิธีอ่านประวัติ
ผู้ถึงแก่กรรม มีการเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้านายของแอน
  และมีผู้ใหญ่อื่น ๆ ขึ้นไปทอดผ้าบังสุกุล หลังจากนั้น  ทุกคนก็เตรียม
ตัวไปวางดอกไม้จัน ค่ะ มาชมภาพ
ที่พวกเราถ่ายหมู่ไว้เป็นที่ระลึก  เพ็ญ  ไปส่งหญิงแถวกรมศุล ซึ่งน้อง
ชายของหญิง ทำงานอยู่แถวนั้น ๆ แล้วก็มาส่งฉัน
  วันนี้ตุ๊กทำขนมวุ้นกระทิมาให้ฉันกล่องหนึ่ง แล้วยังเหลือจากงาน
เลี้ยงพระเพลและเลี้ยงแขก ทุกคนก็ช่วยกันนำกลับบ้าน
รวมทั้งแขกที่มางานด้วย ค่ะ มีเต้าส่วนด้วย อร่อยทุกอย่าง ฉันนำมา
ฝากเหมียว เพื่อนบ้านด้วย ค่ะ 



งานฌาปนกิจศพ แม่ของแอน  พวกเราถ่ายไว้เป็นที่ระลึก ค่ะ 

วันที่ 24 ก.พ.วันนี้มีข่าวใหญ่ เรื่องดารา ชื่อ แตงโม  ตกน้ำ และหาตัว
ไม่เจอ  คดีนี้ เป็นข่าวใหญ่มากและยืดเยื้อเป็นปี
ฉันไม่รู้จักดาราคนนี้ ค่ะ มีแต่รูปมาให้เห็น ค่ะ 



ขอแสดงความอาลัย น้องแตงโม  ค่ะ 

วันนี้ ยังมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องเศร้า  คือ เป็นวันฌาปนกิจศพของ น้องชู
จิตต์ เพื่อนครูวัดธาตุทอง เธอเสียตั้งแต่วันที่ 19
  ชมรมครูเก่า ฯ ได้เป็นเจ้าภาพ ฟังสวดวันที่ 20 

วันที่ 24 วันนี้ ฉันและเพื่อน ๆ ของเธอ มางานฌาปนกิจศพเธอ  ส่งเธอ
ขึ้นสวรรค์  ไปเป็นนงฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ ค่ะ 



พวกเรา มาส่งน้องชูจิตต์ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ค่ะ 

วันที่ 28 ก.พ.  วันนี้ เป็นวันที่คนไทยต้องสูญเสีย นักการเมืองที่เก่าแก่
และมีความสามารถไป  นั่นคือ  คุณพิชัย  รัตตกุล
แห่ง พรรคประชาธิปัตย์ ค่ะเรามาทราบประวัติท่าน ค่ะ 

  นายพิชัย รัตตกุล เกิดวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2467 ที่จังหวัดพระนคร
ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนซึ่งบรรพบุรุษได้เดินทางมา
ประเทศไทยเมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นบุตรของ นายพิศาลกับ
นางวิไล รัตตกุล  นายพิชัยจบการศึกษาระดับมัธยม
จาก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน จากนั้นจึงไปศึกษาต่อด้านพาณิช-
ยศาสตร์ที่โรงเรียนเซนต์สตีเฟ่น ที่ฮ่องกง
หลังจบการศึกษาแล้วได้กลับมาดูแลธุรกิจของครอบครัว ก่อนจะ
เข้าสู่แวดวงการเมือง 
             
นายพิชัย  สมรสกับ คุณหญิงจรวย รัตตกุล (สกุลเดิม ศิริบุญ) มีบุตร
ชาย 2 คนคือ ดร.พิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร และ ดร.อาณัฐชัย รัตตกุล มีบุตรสาว 1 คนคือ
คุณหญิงพัชรี ว่องไพฑูรย์ (สมรสกับ ดร.วีระนนท์ ว่องไพฑูรย์)

 นายพิชัยเข้าสู่แวดวงการเมืองด้วยการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 โดยมีนายควง อภัยวงศ์
เป็นหัวหน้าพรรค และเป็น ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในการเลือก
ตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2512 ก่อนเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาไม่นาน
นายพิชัยได้เป็น 1 ใน 100 ของบุคคลที่ลงชื่อคัดค้านการดำรง
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพลถนอม กิตติขจร
และเป็น 1 ใน 4 สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงชื่อในคราวนั้น (อีก 3
คนคือ นายดำรง ลัทธพิพัฒน์,  นายเทพ โชตินุชิต
 นายชวลิต อภัยวงศ์) เขาได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่ง
ชาติ ในปี พ.ศ. 2516
นายพิชัย รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ใน
รัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช แต่ยังมิได้
เริ่มปฏิบัติงาน เนื่องจากไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาในการแถลง
นโยบาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 ได้รับแต่งตั้งอีกครั้ง
จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากนายกรัฐมนตรีลาออก และได้รับ
แต่งตั้งอีกสมัยหนึ่ง แต่ดำรงตำแหน่งเพียง 12 วัน
และได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณเพียงวันเดียวก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง
เนื่องจากการรัฐประหารของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่
ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ใน พ.ศ. 2525 หลังจากการครบวาระ
ของ พันเอก (พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้ได้ร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ให้การ
สนับสนุนการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งนายพิชัยได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี
ด้วย ในปี พ.ศ. 2529
 จากนั้นในรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายพิชัยและพรรค
ประชาธิปัตย์ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในวาระแรก
และเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ในวาระที่ 2 ของการ
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายพิชัยและพรรคประชาธิปัตย์ได้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเนื่องจาก
มีเสียงสนับสนุนรัฐบาลในสภา ฯ เป็นจำนวนมาก
เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดสภาพการเป็นเผด็จการรัฐสภา
เมื่อ นายชวน หลีกภัยเป็นหัวหน้าพรรคและเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยที่
2 นายพิชัยได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบกิจการเกี่ยวกับต่างประเทศและรับผิดชอบ
การจัดมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 1998
และได้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาด้วย หลังจากนี้ไม่นาน
นายพิชัยได้วางมือจากการเมือง
เนื่องจากมีอายุที่มากแล้ว จนได้รับฉายาว่า "คุณปู่" แต่ยังมีตำแหน่ง
เป็นสภาที่ปรึกษาของพรรคประชาธิปัตย์อยู่
    นอกจากนี้  นายพิชัย มีตำแหน่งเป็นประธานสโมสรโรตารีในประเทศ
และเป็นคนไทยคนแรก ที่ได้ดำรงตำแหน่ง
ประธานสโมสรโรตารีสากลในระหว่าง พ.ศ. 2545 – 2546


ได้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาด้วย หลังจากนี้ไม่นาน นายพิชัยได้วางมือจากการเมือง
เนื่องจากมีอายุที่มากแล้ว จนได้รับฉายาว่า "คุณปู่" แต่ยังมีตำแหน่งเป็นสภาที่ปรึกษาของพรรคประชาธิปัตย์อยู่
วันที่ 28 ก.พ. 2565 พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กรายงานว่า
นายพิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 4
อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
และอดีต ส.ส.หลายสมัย ได้ถึงแก่อสัญกรรม ด้วยโรคมะเร็งปอด
อย่างสงบเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2565 สิริอายุ 96 ปี 







ขอแสดงความอาลัย ท่านพิชัย  รัตตกุล  ค่ะ 


 มาถึงเดือน มีนาคม เดือนที่ 3 ของปีแล้ว ค่ะ มาดูว่า  มีเหตุการณ์อะไร
ที่เกิดขึ้น น่าบันทึกในเดือนนี้บ้าง ค่ะ 
   ต้นเดือน ก็ได้รับข่าวเสียใจ  คือ ลูกศิษย์ภาคค่ำ  ซึ่งเพิ่งได้เจอกันใน
เฟสหลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายสิบปี 
เจอกันเมื่อปลายเดือนธันวาคม นี้เอง เขาเสียวันที่ 2 โชค ลูกศิษย์
โทรมาบอกฉันวันที่ 4  เพราะเขาทราบข่าวจากในเฟสบุ๊ค
และจะฌาปนกิจศพ วันที่ 5 มี.ค. ฉันไปไม่ได้ เพราะว่า ฉันนัดกับ
เหลนฮง จะไปเช็งเม้งพ่อแม่ที่สุสานชลบุรี
ได้แต่ฝากเงินไปช่วยครอบครัวเขาเท่านั้น  บอกโชคซึ่งไปงานอังกูร
ไปกับทศ สองคน ให้บอกอังกูรว่า  ขอให้ไปสู่สุคติ
เป็นเทพบุตรบนสรวงสวรรค์  

 วันที่ 6  วันนี้ เหลนฮง มารับฉันกับน้องชายไปสุสานไหว้พ่อแม่  ส่วน
หลานคุ้งและหลานสะใภ้มาลีกับครอบครัวเขาไปรถอีกคัน 
ไปเจอกันที่สุสาน ปีหนึ่ง พวกเราก็ไปเยี่ยมพ่อกับแม่และพี่สาว  เพียง
ครั้งเดียว
  พ่อกับแม่คงไม่เหงาหรืออาจจะไปเกิดแล้วก็อาจเป็นไปได้ เนาะ  ฉัน
คิดถึงพ่อกับแม่เสมอ สักวันหนึ่งพวกเราคงได้พบกัน นะ



สุสานพ่อกับแม่ ค่ะ 



สุสาน ของพี่สาว  ค่ะ 





ไหว้เสร็จ กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา และก่อนกลับถ่ายรูปหมู่ ค่ะ 

  วันที่ 7 มี.ค. ข่างเศร้ามาอีกละ พ่อของโก้ ลูกศิษย์รุ่นเดียวกับแอน ได้
ถึงแก่กรรม ช่วงนี้ มีแต่เรื่องเศร้า ก็เป็นธรรมดา
  รุ่นนี้ ก็เลข7 เลข 8 กันทั้งนั้น น่ะนะ ฉันไม่ได้ฟังสวด  เพราะไม่มีใคร
ว่างมารับและส่วนใหญ่จะไปงาน ฌาปนกิจศพ แทบทุกคน  
พ่อของโก้ ฌาปนกิจในวันที่ 10  แอนมารับฉันและรับเพ็ญด้วย  รถเพ็ญ
รู้สึกจะมีปัญหา  แอนมีปลาช่อนแดดเดียวและ
ขนมจีบมาฝากฉันด้วย  ขากลับ ไก่มาส่งฉันเพราะแอนอยู่แถวร่มเกล้า
จะได้ไม่ต้องย้อนมาส่ง เพราะวัดใกล้บ้านแอน ด้วย 



มาส่งพ่อของโก้ไปสู่สรวงสวรรค์ ค่ะ  

       วันนี้ นอกจากงานของพ่อโก้แล้ว  ยังมีข่าวเศร้า พระเอกผู้มีความ
สามารถ คือ คุณสรพงษ์ ชาตรี ก็ได้ถึงแก่กรรม
ในวันนี้ด้วย ค่ะ  มาทราบประวัติพระเอก สรพงษ์ ค่ะ 

ประวัติ สรพงษ์  ชาตรี 
        สรพงศ์ ชาตรี มีชื่อจริงว่า นายกรีพงศ์ เทียมเศวต  ชื่อเล่นว่า  เอก
ชื่อเดิมคือ พิทยา เทียมเศวต  เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม
พ.ศ. 2492 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาสำเร็จการศึกษาระดับประถม
ศึกษาปีที่ 4และบรรพชาเป็นสามเณรจนอายุ 19 ปี
ขณะบรรพชาได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมเอก เนื่องจากมี
ความสนใจงานด้านการแสดงชอบดูหนังกลางแปลง
มาตั้งแต่เด็ก จึงไปสมัครเป็นนักแสดงที่ทีวีช่อง 7 สี ต่อมาได้แสดงฉาก
โดดลงไปช่วยคนตกน้ำในเรื่อง “หญิงก็มีหัวใจ” เป็นเรื่องแรก
 ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หลังจากนั้น จึงได้แสดงเป็ตัวประกอบ
และแสดงเป็นพระเอกในเวลาต่อมา
             
สรพงศ์มีบุตรทั้งหมด 4 คน คือ พิมพ์อัปสร (ขวัญ), พิศุทธินี (เอิง)
 พิศรุตม์ (เอม) และพัทธกฤต (อั้ม)
ซึ่งพิมพ์อัปสร บุตรคนแรกเกิดกับทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ซึ่งเป็นนักแสดง
หญิงและไม่ได้สมรสกัน ส่วนบุตรคนที่สอง
ถึงสี่เกิดกับพิมพ์จันทร์ เทียมเศวต (แอ๊ด) ภรรยาคนแรก ซึ่งสมรส
และเลิกราไปแล้ว ต่อมาได้มาอยู่กินกับดวงเดือน จิไธสงค์
รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ. 2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530 
โดยไม่มีบุตร-ธิดาด้วยกัน

สรพงศ์ ชาตรี มีผลงานการแสดง ตั้งแต่ พ.ศ. 2514 จนถึงปัจจุบัน
มากกว่า 500 เรื่อง ละคร 50 เรื่อง แสดงเป็นพระเอก
ในหลายบทบาทมากมาย เช่น ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน สามล้อถีบ
สามล้อเครื่องแท็กซี่ ขับรถเมล์ ตำรวจ ทหาร ลิเก หมอ
ครู คนบ้าขอทาน ตาบอด หลังค่อม หน้าบากมนุษย์หมาป่าจนได้รับ
ฉายา “พระเอกชั้นครู” และ “พระเอกตลอดกาล”     
     นอกจากจะมีความสามารถในด้านการแสดงแล้ว สรพงศ์ ชาตรี ยังมี
ความสามารถในเรื่องการร้องเพลง พากย์หนัง
ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลและกำกับ
ละครให้กับบริษัทเวิร์คพอยด์ สอนการแสดง
ให้กับนักแสดงหน้าใหม่จนมีชื่อเสียงหลายคน จากการใช้ความสามารถ
ทางด้านภาพยนตร์เป็นอย่างสูง
จึงเป็นดาราชายผู้ได้รับรางวัลมากที่สุดในวงการภาพยนตร์ไทย อาทิ
– รางวัลตุ๊กตาทอง 5 รางวัล จากเรื่อง ชีวิตบัดซบ สัตว์มนุษย์ มือปืน
มือปืน 2 สาละวิน เสียดาย 2
– รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ 2 รางวัล จากเรื่อง ถ้าเธอยังมีรัก มือปืน
รางวัลดาราทอง จากภาพยนตร์เรื่อง พลอยทะเล
– รางวัลดาราดาวรุ่งยอดเยี่ยม ในการประกวดภาพยนตร์นานาชาติ จาก
เรื่อง มือปืน รางวัลเพชรสยาม จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

– รางวัลบันเทิงเทิดธรรม Nine Entertain Award 2008 ได้รับยกย่อง
เป็นพระเอกยอดนิยมอันดับ 1 ดารายชายยอดนิยมอันดับ 1

แม้อายุมากขึ้น แต่ สรพงศ์ ชาตรี ยังคงรับแสดงภาพยนตร์และละคร
อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้รับบทพระเอก
แต่บทที่รับแสดงจะเด่นมีความหมายให้แง่คิดในการชม รักษาภาพ
ลักษณ์ของคำว่า ดาราคุณภาพ นอกจากนี้
ยังได้หันมาทำคุณประโยชน์เพื่อสังคม โดยตั้งมูลนิธิสมเด็จพระพุฒา
จารย์ (โต พรหมรังสี)เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของ
พุทธศาสนิกชน เป็นวิทยากรพิเศษบรรยายให้ ความรู้แก่สถาบันการ
ศึกษา และหน่วยงานอื่นๆ สรพงศ์ ชาตรี จึงได้รับ
การยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นัก
แสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์)ประจำปี พ.ศ. 2551

 สรพงษ์  ถึงแก่กรรม เมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.51 น.
สรพงศ์ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอด
หลังจากเข้ารับการรักษาตัวณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตั้งแต่
วันที่ 9กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สิริอายุ 72 ปี 3 เดือน
ย่างเข้าปีที่ 73 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตน
ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน
ไปในการพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ณ
เมรุชั่วคราว มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
เมตตาบารมี อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา



ขอแสดงความอาลัย พระเอกตลอดกาล คุณสรพงษ์  ชาตรี


 วันที่  15   มี.ค.  เราก็ได้สูญเสียพระผู้ใหญ่  คือ เจ้าอาวาส วัดบวร
นิเวศวิหาร  สมเด็จพระวันรัตน์  ซึ่งฉันเคยพบท่าน
ตอนไปเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชเณรของวัดเขาศาลา ฯ สุรินทร์  ซึ่งนำ
ผู้บวช มาบวชพร้อมกันที่วัดบวรฯ ทุกปี 
(เว้นช่วงโควิด 19 ระบาด ไป 3 ปี )

         ประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตน์             
    สมเด็จพระวันรัต ฉายา พฺรหฺมคุตฺโต  ป.ธ.9 นามเดิม  จุนท์ นามสกุล
พราหมณ์พิทักษ์  เกิด  วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ กันยายน
พ.ศ.๒๔๗๙ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปี ชวดณ บ้านเกาะเกตุ ตำบลชำราก
อำเภอเมืองจังหวัดตราด  เป็นบุตรของ 
นายจันทร์ พราหมณ์พิทักษ์ มารดา  นางเหล็ย พราหมณ์พิทักษ์บรรพชา  เมื่อ วันจันทร์ ขึ้น ๖ ค่ำ
เดือน ๖ ปี ฉลู วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๑   ณ วัดคิรีวิหาร ตำบล
ชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด
มี พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตฺตโร ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดคิรีวิหาร เป็น
พระอุปัชฌาย์  (ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์
เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวินัยเวที)
     อุปสมบท   วันอาทิตย์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ปีวอก วันที่ ๘ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๔๙๙  ณ วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบวรนิเวศ
เขตพระนคร กรุงเทพมหานครพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต)
  ต่อมาทรงได้รับพระราชทานสถาปนาพระอิศริยยศและพระฐานันดร
ศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
  พระกรรมวาจาจารย์ พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตฺตโร ) วัดคิรีวิหาร
จังหวัดตราด พระอนุสาวนาจารย์ พระครูวิสุทธิธรรมภาณ
(แจ่ม ธมฺมสาโร ป.ธ.๔)(ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น
พระราชาคณะ ที่พระมหานายก และพระราชบัณฑิต ตามลำดับ) 

วิทยฐานะ
     พ.ศ. ๒๔๙๑ สำเร็จวิชาสามัญศึกษา (ป.๔) จากโรงเรียนวัดคิริวิหาร
ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด
  พ.ศ. ๒๔๙๕ สอบประโยค น.ธ. เอก ได้ในสนามหลวงสำนักเรียนวัด
บวรนิเวศวิหาร
  พ.ศ. ๒๕๑๖ สอบได้ประโยค ป.ธ.๙ ได้ในสนามหลวงสำนักเรียนวัด
บวรนิเวศวิหาร
ผลงาน
                 - เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
  - เป็นกรรมการวัดบวรนิเวศวิหาร
  - เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
  - เป็นผู้อำนวยการศึกษา สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
  - เป็นเจ้าคณะขาบบวร-เขียวบวร
  - เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)
  - เป็นกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต
  - เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต)
  - เป็นอนุกรรมการฝ่ายการปกครอง ของมหาเถรสมาคม
  - เป็นพระอุปัชฌาย์
  - เป็นกรรมการสนามหลวง แผนกบาลี
  - เป็นแม่กองธรรมสนามหลวง
  - เป็นกรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
  - เป็นรองประธานกรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
  - เป็นผู้อำนวยการมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย
  - เป็นผู้รักษาการ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต
  - เป็นผู้รักษาการ เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม กรุงเทพมหานคร
                 - เป็นกรรมการชำระพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๖๐ พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  - เป็นกรรมการชำระอรรถกถา ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
  - เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหามกุฏ
ราชวิทยาลัย
  - เป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนา ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล, งานพระราชพิธีฯ ในบางโอกาส
  - เป็นผู้ถวายการสอนพระธรรมวินัยแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ในคราวทรงทรงผนวช
เสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
  - เป็นกรรมการกองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
  - เป็นหัวหน้ากองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
  - เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
  - เป็นประธานคณะกรรมการตำราและวิชาการ มูลนิธิมหามกุฏราช
วิทยาลัย
  - สนองงานถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ที่ได้รับพระ
บัญชาในบางโอกาส

 ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิง พระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส- ราชนครินทร์
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ พระพรหมมุนี ได้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระ
ชั้นผู้ใหญ่นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ)
และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ 
ในการเคลื่อนพระศพ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

                   งานพิเศษ
                   พ.ศ. ๒๕๔๑
  - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๓ (ธรรมยุต) ในจังหวัดสิงห์บุรี,
อุทัยธานี,ลพบุรี
  พ.ศ. ๒๕๔๑
  - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๗ (ธรรมยุต) ในจังหวัดเชียงใหม่
  พ.ศ. ๒๕๔๓
  - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๑๒ (ธรรมยุต) ในจังหวัดจันทบุรี
  - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๑๓ (ธรรมยุต) ในจังหวัดปราจีนบุรี
  พ.ศ. ๒๕๔๕
  - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๘ (ธรรมยุต)
  - รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธรรมยุต)
               สมณศักดิ์
 พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ
ที่ พระอมรโมลี
  พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้น
ราช ที่พระราชสุมนต์มุนี ศรีปริยัติบวรวิภูษิต
ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
  พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้น
เทพ ที่พระเทพกวี ศรีปริยัติวิภูษิต ตรีปิฎกบัณฑิต
ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
  พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้น
ธรรม ที่พระธรรมกวี ศรีธรรมประยุต วิสุทธิญาณนายก
ตรีปิฎกบัณฑิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
  พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับพระราชทานสถาปนา สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ
เจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏ ที่
  พระพรหมมุนี ศรีวิสุทธิญาณนายก ธรรมสาธกวิจิตรปฏิภาณ ปริยัติวิธานกิจจการี ตรีปิฎกบัณฑิต ธรรมยุตติกคณิสสร
บวรสังฆาราม คามวาสี
  พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับพระราชทานสถาปนา สมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระ
ราชาคณะ ชั้นหิรัณยบัฏ ที่สมเด็จพระวันรัต
ศรีวชิรญาณวงศวิวัฒ ปริยัติพิพัฒนพงศ์ วิสุทธิสงฆปริณายกตรีปิฎก
โกศลวิมลคัมภีรญาณสุนทร ธรรมยุตติกคณิสสร
บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี
เจ้าประคุณ สมเด็จพระวันรัต  เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งอาพาธ
ด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาด ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 จนถึง
วันที่ 15 มี.ค.2565 เวลา 14.22 น. สมเด็จพระวันรัต
ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ



ขอแสดงความอาลัย เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตน์ วัดบวรนิเวศ ค่ะ 

วันที่ 15-19 มี.ค. ฉันกับเอม ไปกับจอย  เพื่อไปทำบุญร่วมพิธียกฉัตรที่
วัดป่าวิเวกภูเขาวง ของหลวงตาประพันธ์
  เป็นพิธีที่ฉันไม่เคยเห็น งานนี้ไปกันหลายคนมีจุ๊ สามีและเพื่อนจุ๊อีก 
ฉันได้เขียนไว้ในบล็อกแก๊ง  ใครที่ยังไม่ได้อ่านหรือสนใจ
จะอ่านได้ตามลิงค์นี้ ค่ะ 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=23-03-2022&group=9&gblog=9   มาชมรูป
บางส่วน ค่ะ 



การชักรอก ฉัตร ขึ้นสู่ยอดเจดีย์ ค่ะ 



ถวายหมวก แด่ พระอาจารย์ ดร.พระมหากิติพันธ์ ค่ะ 



หน้าเจดีย์ที่กำลังสร้างและจะยกฉัตรขึ้นยอดเจดีย์ วันนี้ ค่ะ 



ถ่ายรูปกับหลวงตา กิตติ เป็นที่ระลึกหลังจากทำบุญกับท่าน ค่ะ 

วันที่ 26-27  มี.ค.  หญิง (สมศรี เพื่อนเที่ยวด้วยกัน)  เขาไปซื้อที่ไว้ที่
อุทัยธานี   ปลูกสตรอเบอรรี่ไว้  ชวนไปเที่ยวที่สวนเขา
  เลยโทรคุยกับโก (เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกัน)  โก ตกลงว่าไปตามคำ
เชิญชวนของ หญิง
  วันที่ 26  โก มารับฉันน่าจะประมาณ 8 โมงเช้า  เรื่องนี้ ฉันได้เขียนไว้
ในบล็อกแก๊ง ตามลิ้งค์นี้
https://www.bloggang.com/mainblog.php?
id=suvimol&month=21-04-2022&group=8&gblog=49  มีรูปมา
ประกอบเล็กน้อย ค่ะ 









พระอาทิตย์ใกล้อัสดง  ธรรมชาติท้องทุ่ง งดงามมาก ค่ะ



โก เชลฟี่รูปพวกเรา กับรูปปั้นพระเวสสุวรรณ  ค่ะ 

 วันที่ 29 มี.ค. ถึง 1 เม.ย.  ปีนี้ได้เป็นสะพานบุญบวชพระ บวชเณร
ของวัดเขาศาลา ฯ  จ.สุรินทร์  เป็นปีที่พิเศษ กว่าทุกปี
  คือ ภา ได้ช่วยเป็นสะพานชวนเพื่อนสายบุญของเขามาร่วมด้วย
หลายคน  ฉันก็ได้ชวนจอย  วรรณ และเอมด้วย ปีนี้
ได้เงินบวชพระ เณร  เกือบ 8 หมี่น ค่ะ  เอม บอกว่า  ให้ชวนเอม ไป
วัดเขาศาลา ฯ  เพื่อจะได้ดูพิธีบวชแบบเต็มรูปแบบ
ซึ่งก็เป็นสิ่งดี  ฉันเห็นด้วย  บอกให้จอยชวนจุ๊ และเพื่อนเขาไปด้วย ถ้า
ไปสัก 8 คน  เราจะช่วยกันเฉลี่ยค่าน้ำมัน
และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้มากขึ้น   แต่ปรากฏว่า มีเราแค่ 4 คน  คือ ฉัน
เอม จอย วรรณ  เพื่อประหยัดในการใช้จ่าย
  ฉันถามพระตู่ ลูกศิษย์ ว่า ที่วัดมีที่พักไหม พระตู่บอกว่า ไม่มีปัญหา
เพราะที่นี้มีคนมาปฏิบัติธรรม  เลยมีห้องพัก
  ห้องน้ำ  ฉันก็ให้ท่านจัดหา  และทำรายการว่า จะพาพวกเราไปเที่ยว
และไหว้พระก่อนถึงวันบวชตามที่เอม
และทุกคนต้องการ และเห็นด้วย  โดยพวกเราเก็บปัจจัยลงขันคนละ
500 บาท (2000 บาท ) เป็นค่าวิทยากรถวาย
และทำบุญค่าน้ำค่าไฟอีก 2000 บาทเรื่องนี้ ฉันได้บันทึกไว้ ใน
บล็อกแก๊ง แล้วค่ะ ตามลิ้งค์ นี้ค่ะ 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=21-04-2022&group=8&gblog=49  มีรูป มาประกอบเล็กน้อยค่ะ 



ปากทางที่พวกเราเดินรอดอุโมงค์ออกมาจากทางวัด ค่ะ 



มีพระที่พระตู่ขอมาเป็นผู้ทำพิธีบวชนาค และ พิธีรับผ้าไตร ค่ะ 



หน้ากุฎิของเจ้าอาวาส หลวงพ่อ เยื้อน ค่ะ 
ภาพบน เป็นภาพของพระ เณร ที่พระตู่ นำมาบางส่วน เพื่อทำพิธีบวช
นาค ก่อน ทำให้พวกเราได้เห็นและเข้าใจพิธีบวชครบขั้นตอนค่ะ



ผ้าไตรที่ฉัน เพื่อน และลูกศิษย์ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ค่ะ 



ช่วงเช้า มีโอกาสได้ใส่บาตรพระในวัด ด้วยค่ะ 



ถ่ายรูปหมู่ที่หน้าองค์เจ้าแม่กวนอิม ในวัด เขาศาลา ฯ ค่ะ 



 
หน้าประตูทางเข้าวัด เขาศาลา ฯ ค่ะ

        บล็อกนี้  ฉันได้บันทึกเหตุการณ์ต่างไว้  3 เดือนค่ะ  บล็อกต่อไป 
ก็จะบันทึกเรื่องราวต่างอีก 3 เดือนนะคะ 
เชิญติดตามได้ในโอกาสต่อไป นะคะ 




 


       
            
      

        








          

  




 



       
         



Create Date : 15 มีนาคม 2566
Last Update : 17 มีนาคม 2566 9:36:36 น.
Counter : 567 Pageviews.

16 comments
บันทึกทวาทศมาส ประจำปี 2566 เดือน เม.ย.-มิ.ย. อาจารย์สุวิมล
(17 พ.ค. 2567 16:24:52 น.)
No. 1265 ค้างในป่าแม่วิน (ตอน 3) ไวน์กับสายน้ำ
(14 พ.ค. 2567 06:35:03 น.)
หัวหินหรรษา ใจป๋าพาเที่ยว จันทราน็อคเทิร์น
(13 พ.ค. 2567 16:02:02 น.)
น้าจอรจ์ @โจวซือกง ตลาดน้อย , พี่ปิ่น ชุมชนกุฎีจีน , ป้ามี@มัสยิดบางหลวง(กุฎีขาว) peaceplay
(12 พ.ค. 2567 23:13:49 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณทนายอ้วน, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณร่มไม้เย็น, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณRain_sk, คุณปัญญา Dh, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณเริงฤดีนะ, คุณSweet_pills, คุณกิ่งฟ้า, คุณnewyorknurse, คุณkae+aoe, คุณหอมกร

  
อาจารย์จำเหตุการณ์ต่างได้แม่นมากๆเลยครับ บางทีเรื่องที่ต้องทำวันนี้บอลยังหลงๆลืมๆ ทำบ้าง ไม่ทำบ้างเลย ฮ่าๆๆๆ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 17 มีนาคม 2566 เวลา:11:51:07 น.
  
สุดยอดเลยค่ะ
บันทึกเรื่องราว 12 เดือน
มีความจำยอดเยี่ยมสุดสุด
โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 17 มีนาคม 2566 เวลา:12:05:22 น.
  
ถ้าเป็นสมัยก่อน
การบันทึกน่าจะทำได้ยากสักหน่อยนะครับ
เพราะต้องเขียนลงไปในสมุด
แต่พอมีบล็อก
ทำให้การบันทึกมีภาพประกอบด้วย

อาจารย์เขียนบันทึกได้อย่างละเอียด
พร้อมมีแทรกเหตุการณ์สำคัญ
หรือการจากลาของบุคคลสำคัญในประเทศเอาไว้ด้วย

เวลาย้อนกลับมาเปิดบล็อกเก่าๆอีกครั้ง
ก็รู้เลยนะครับว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตบ้าง

การท่องเที่ยวยังเพิ่งเริ่มต้น
หลายร้านในถนนเส้นเดียวกัน
ก็ยังไม่เปิดเลยครับ
ทุกคนรอดูสถานการณ์ต่อไปอีก
บางร้านก็ปิดถาวร เลิกไปเลยครับ

เมื่อคืนฟ้าผ่าจนคอมผมพังไปสองเครื่อง
เราเตอร์อีกสามเครื่อง
เดี๋ยววันที่ 20-22 นี้ก็อาจจะหายไปทำธุระด้วยครับ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2566 เวลา:13:43:08 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับ อาจารย์
โดย: Rain_sk วันที่: 18 มีนาคม 2566 เวลา:5:50:53 น.
  
สวัสดีครับอาจารย์

มาอ่านบันทึกครับ บันทึกจำเรื่องราวได้ละเอียดเลยครับ
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 18 มีนาคม 2566 เวลา:7:14:41 น.
  

สวัสดีครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2566 เวลา:9:19:11 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์


พนักงานที่ร้านดูมีความสุขมาก
หลายคนไม่ยอมหยุดงานเลยครับอาจารย์
มาทำงานทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนา

ไกด์หลายคนที่ผมเจอ
ทุกคนก็รู้แล้วว่าเงินไม่ได้สำคัญที่สุด

ผมว่าโควิดให้บทเรียนชีวิตที่สำคัญกับใครหลายคน
รวมทั้งตัวผมด้วยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2566 เวลา:13:15:39 น.
  

แวบมาจองที่ไว้ก่อนนะคะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 มีนาคม 2566 เวลา:20:13:30 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

บันทึกของอาจารย์ละเอียด ให้ความรู้
อบอุ่นแวดล้อมด้วยกัลยาณมิตร

ต๋าขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ด้วยนะคะ

ต๋าอยู่เชียงใหม่ได้อาทิตย์กว่า พรุ่งนี้จะเดินทางไปกำแพงเพชรค่ะ
อาจารย์นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 19 มีนาคม 2566 เวลา:0:41:49 น.
  

สวัสดีครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2566 เวลา:9:33:58 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์ ดีจังเลยได้บันทึกเรื่องราวเก็บไว้อ่านนะคะ เวลาเราไปไหนมาบันทึกเอาไว้พอเวลาผ่านไปหลายปีได้ย้อนมาอ่านก็ช่วยทบทวนความจำให้เราได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ


โหวต Diarist

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 มีนาคม 2566 เวลา:18:49:23 น.
  

สวัสดีค่ะอจ.
มาเที่ยวด้วยค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
โดย: newyorknurse วันที่: 20 มีนาคม 2566 เวลา:1:30:01 น.
  
สวัสดีครับอาจารย์

อ่านทวทศมาสของอาจารย์แล้ว ดีมากๆ เลยครับ ที่ได้บันทึกเรื่องราวในเวลา 12 เดือนของเราเอาไว้
เพราะหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ได้บันทึกไว้คงจำไม่ได้แล้วว่าในรอบ 12 เดือนมันเกิออะไรบ้าง

รวมๆ แล้ว ผมรู้สึกว่า เป็นรอบ 12 เดือนของอาจารย์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพดีๆ ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ ได้ท่องเที่ยว ได้ทำบุญ ได้แวะไปทานอาหารอร่อยๆ
ถึงจะมีข่าวเศร้าๆ ระหว่างรอบ 12 เดือนบ้าง แต่ทั้งหลายทั้งหมดก็เป็นธรรมดาของโลกครับ
แสดงความเสียใจกับคุณแอนด้วยครับ และครอบครัวของคุณชูด้วยครับ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 20 มีนาคม 2566 เวลา:13:42:32 น.
  
ต๋าเพิ่งถึงกรุงเทพฯวันนี้ค่ะอาจารย์
ขอบคุณอาจารย์สำหรับกำลังใจ
และคำอวยพรให้คุณแม่ต๋านะคะ
ต๋าขึ้นเชียงใหม่ประมาณเดือนเว้นเดือนสลับกับน้องค่ะ

อาจารย์นอนหลับฝันดีนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 21 มีนาคม 2566 เวลา:0:57:41 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกผัดแหนมและหมูทอดกระเทียมนะคะ
มาอ่านบันทึกอาจารย์สนุกดีค่ะได้รับรู้เรื่องราวต่างๆไปด้วยค่ะ
src=https://www.bloggang.com/emo/nana/18.png>
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 มีนาคม 2566 เวลา:6:04:31 น.
  
บล็อกอาจารย์ยาวมากๆ ค่ะ
มีความสุขกับอาจารย์ไปด้วยเลย

โดย: หอมกร วันที่: 21 มีนาคม 2566 เวลา:7:55:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Suvimol.BlogGang.com

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]

บทความทั้งหมด