ทวาทศมาส ประจำปี 64 ตอนที่ 4 เดือน ต.ค. - ธ.ค.
ทวาทศมาส ประจำปี 64 ตอนที่ 4 เดือน  ต.ค. - ธ.ค. 
 
ทวาทศมาส ประจำปี 64  ก็มาถึง 3 เดือนสุดท้ายแล้ว  ค่ะ ปีนี้  ฉันสรุป
เรื่องราวช้ากว่าทุกปีที่ผ่านมา  เพราะมีเรื่องราว
อื่น ๆ มาแทรกเขียนหลายเรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว
นั่นเอง ค่ะ  เดือนนี้ ของปี 65  ที่ฉันกำลังจะเขียนถึง
เรื่องราวของเดือนตุลา ของปี 64 ก็มาเขียนตอนเดือน ตุลา ของ 65 แล้ว 
นับว่า ช้ามากจริง ๆ ค่ะ 
มาเริ่มเรื่องราวของเดือน ตุลา ปี 64 กันเลย ค่ะ 


วันที่ 1  ต.ค. วันนี้ ได้รับของกินจากรุ่ง มาจากเชียงใหม่มาให้  ช่วงนี้ 
เขาค้าขายดีไม่ค่อยมีเวลามาเยี่ยมและไปกินข้าวด้วยกันเลย
  อยู่เชียงใหม่เป็นส่วนใหญ่  เลยส่งของกินจากเชียงใหม่มาให้ฉัน  มี
หลายอย่างเช่น น้ำพริกหนุ่ม  แคปหมู  กาละแม
  เป็นต้น ค่ะ ขอบใจคุณลูกนุ้งนิ้ง นะจ๊ะ  มาชมรูป ค่ะ 



ของกินจากคุณลูกนุ้งนิ้ง  จากเชียงใหม่ ค้ะ 

วันที่ 3  ทิพย์  มาเยี่ยมและเอาใบแจ้งเบี้ยประกันของลูกชายสองคนของเขามาส่งด้วย ค่ะ 
ได้ซื้อ บะหมี่เกี๊ยวมาฝาก 1 ห่อ มาชมรูป ค่ะ 



ทิพย์  เป็นลูกศิษย์ภาคค่ำที่น่ารัก อีกคนหนึ่งค่ะ 

วันที่ 4  วันนี้  จอย (เพื่อนที่ไปพบกันที่ อินเดีย ครั้งแรก)  ชวนไป
ทำบุญและไปเที่ยวสวนของเขาที่พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ฉันกับเอมอรไปด้วยกัน  จอยพาไปไหว้หลวงพ่อโสธรด้วย  พวกเราซื้อ
ไข่ต้ม 1 ตะกร้า ดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้หลวงพ่อ
ทำบุญวัดหลวงพ่อโสธร  ถ่ายรูปกันพอสมควร  ไม่ได้มาวัดนี้นานมาก
หลายปี  วันนี้โชคดี ที่จอยพามา  เราก็ช่วยค่าน้ำมันรถ
เขาเท่านั้น  อาหารการกินเราก็แชร์กัน  

 จากวัดหลวงพ่อโสธร  จอยพาไปอีกหลายวัด  เขานำแตงกวาจากสวน
ของเขาเป็นถุง ๆ ไช่โป๊ว  เต้าหู้ยี้  ฯลฯ ไปทั้งวัดจีน
และไทย จอยคงทำทุกปีในเทศกาลกินเจ เพราะมีพระบางวัด ทักทายจอยอย่างเป็นกันเอง
(เท่าที่สังเกต นะ) จอยพาไปที่บ่อปลาที่เขาขายปลา (ลูกปลา)
  ที่เขาเลี้ยงไว้ในกระชังเพื่อขาย  เขาสั่งปลาหลายชนิด  นึกว่าเขาจะพา
ไปปล่อยที่คลองไหน  แต่ปรากฏว่า  ไปปล่อยที่บ่อของเขาที่สวน นั่นเอง
  ซื้อไปหลายร้อยบาท  ฉันกับเอมก็หารกับเขาเพื่อทำบุญ
ปล่อยปลาด้วยไปถึงสวนของจอย  ก็น่าจะเที่ยงแล้ว บ้านสวนของจอย ปลูกไผ่ เยอะ
มีมะนาวญี่ปุ่นลูกโตเหมือนส้มโอผลเล็ก ๆ 
เขาให้ฉันและเอม คนละ 3 ผล ฉันไปฝากเจ้าเอ๋ 1 ผลเหลือไว้สองผล 
จอยให้เด็ก คนงานในสวน ไปตัดมะพร้าวสวนเขา
มาเลี้ยงพวกเรา  น้ำหอมหวานมากเอมอรชอบมาก ชมไม่ขาดปาก  
       พักได้พักใหญ่ ๆ  จอยก็พาพวกเราไปที่บ่อปลาของเขา
 เพื่อปล่อยปลาหลาย ๆ ชนิด  ปล่อยปลาลงในบ่อน้ำ ซึ่งกว้างใหญ่มาก
พอสมควร  ฉันก็ไม่ทราบว่า  บ่อน้ำนี้ มันมีที่ออกไป
สู่คลองหรือสายน้ำอื่น ๆ ไหม  แล้วถ้ามันโตขึ้น  ออกลูกออกหลาน มัน
จะอยู่ได้อย่างไร ถ้าไม่มีทางออกจากบ่อไปได้  อิอิ 
จอยพาไปชมสวนเขา  เขาเลี้ยงควายไว้หลายตัว  ไปชมไร่แตงกวา
ของเขา มีห่านหลายตัว น่ารัก  แล้วพาไปไหว้พระ
ที่ห้องพระของเขาด้วย  ดูห้องนอนของเขาที่เวลามาพนัสนิคมและค้าง
ที่สวน   อยู่ที่สวนน่าจะประมาณสองชั่วโมง 
ก็หิวกันแล้ว  จอยพาไปกินอาหารทะเลตามที่เอมบอกชอบกินอาหาร
ทะเล  เป็นร้านที่จอยรู้จักและมากินบ่อย ๆ  มั้ง 
เพราะเห็นคุยกับเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม ค่ะ  เรื่องนี้ ฉันได้เขียนเล่า
ไว้ในบล็อกแกงค์ไปแล้วค่ะ ตามลิ่งค์ นี้ ค่ะ


https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=16-10-
2021&group=8&gblog=39


มาชมรูปบางรูปประกอบ  ค่ะ 





ไหว้พระ หลวงพ่อโสธร  ค่ะ 



นำอาหารบริจาคให้โรงเจ ค่ะ 



บริจาคอาหารให้วัด ค่ะ 



ปล่อยปลาที่บ่อของจอบ ค่ะ 



กินข้าวก่อนกลับบ้าน ค่ะ 


   วันที่  16  ได้ข่าวเศร้าจากการสูญเสียนักร้องที่โด่งดังในวงการบันเทิง
ไทยไปคนหนึ่ง  คือ  อ๊อด คีรีบูลย์ ซึ่งเพลงของเขา
ที่เคยได้ฟัง ไพเราะ น่าฟัง ค่ะ น่าเสียดาย อายุก็ยังไม่มากเลย ค่ะ  เรา
มาทราบประวัติของเขาสักเล็กน้อย เป็นการรำลึกถึง
อ๊อด  คีรีบูน ผู้สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงมากมาย ค่ะ 

    อ๊อด  คีรีบูน  มีชื่อจริง  นามสกุลจริง  คือ  นายรณชัย ถมยาปริวัฒน์ 
 เกิด: 17 สิงหาคม 2507, กรุงเทพมหานคร 
 จบการศึกษา คณะเศรษฐศาสตร์ จาก  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมรสกับ คุณปภัสสรา ถมยาปริวัฒน์  เมื่อปี พ.ศ. 2532
  มีลูกสาว 1 คน ชื่อ "น้องเอิ๊ก"  

     "คีรีบูน" เป็นวงดนตรีชื่อดังช่วงยุค  80 ของ อาร์เอส ซาวด์ (อาร์เอส
ในปัจจุบัน)  อ๊อด  คีรีบูน เป็นนักร้องนำของวง
และเป็นหัวหน้าวง  ผลงานเด่น ๆ ของอ๊อด  คีรีบูน   อ๊อด คีรีบูน มีดีกรี
เป็นอดีตนักร้องนำและหัวหน้า วงคีรีบูน
แนวสตริงคอมโบ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 ออกอัลบั้มเดี่ยวมาอีกนับสิบชุด
ภายหลังจากที่มีการยุบวง มีผลงานแสดง
ภาพยนตร์โดยเป็นพระเอกเพียงเรื่องเดียว คือ ความรักของคุณฉุย ในปี
พ.ศ. 2532 คู่กับ รัชนก พูนผลินเป็นเจ้าของ
โรงเรียนสอนดนตรีเพื่อการเรียนรู้ "คีรีบูน จีเนียส มิวสิกล  เคยได้ไปออก
รายการThe Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซันที่ 4
แข่งใน Group C ฉายา หน้ากากมะพร้าว ร้องเพลง ชาวนากับงูเห่า
โดยแพ้ หน้ากากพ่อมด
       
ผลงานละครเรื่องสุดท้าย อ๊อด คีรีบูน ในปี พ.ศ. 2562 ได้เข้าร่วมแสดง
ในละครชุดเรื่อง Fleet of Time กาลครั้งหนึ่ง
รักของเรา ทางช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 โดยรับบทเป็น พ่อของวิน
       
บทเพลงที่มีชื่อเสียงคือ "รอวันฉันรักเธอ"  โดยเพลงนี้ อ๊อดได้แต่งขึ้น
จากชีวิตจริงของมือกลองคนแรกของวงที่จะต้อง
ไปศึกษาต่อที่สิงคโปร์ และเป็นห่วงคนรักของเขามาก จึงแต่งเพลงนี้
ขึ้นเพื่อแทนความคิดถึงของทั้งสองที่มีต่อกัน
โดยเขามีผลงาน ในนามของวง  จำนวน 6 ชุด 



ขอแสดงความอาลัย ต่อการจากไปของ  อ๊อด คีรีบูน ค่ะ 

วันที่ 17-19  ต.ค.  เป็นทริปเชียงใหม่  ที่เราซื้อตั๋วเหมาจาก แอร์เอเซีย
  ตั้งแต่ซื้อไป  ยังไม่ได้ไปไหนเลย  เพราะโควิดระบาด
เที่ยวบินถูกเลื่อน  กว่าจะได้ไป  ก็คือ ทริปเชียงใหม่ นี่แหละ ค่ะ ซึ่งฉัน
ได้เขียนไปในบล็อกแกงค์แล้ว ค่ะ  ถ้าสนใจอ่านได้
ตามลิ้งค์ นี้ นะคะ   
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=10-11-2021&group=8&gblog=40
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=08-01-2022&group=8&gblog=42
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=16-01-2022&group=8&gblog=43

มาชมรูปเที่ยวเชียงใหม่ เป็นน้ำจิ้มหน่อย ค่ะ 














กลับมาจากเที่ยวคืนวันที่ 19   นำของฝากไปฝากเพื่อนบ้าน   เดือนนี้ 
เที่ยวทริปกลางเดือน คือ เชียงใหม่ ลำพูน 
ปลายเดือน มีอีก 1 ทริป  คือ  วันที่ 31 ต.ค. และ 1-2  พ.ย. ค่ะ คืออุบล
ซึ่งฉันได้เขียนลงในบล็อกแกงค์ไปแล้ว ค่ะ
ถ้าสนใจโปรดอ่านได้ตามลิ้งค์ ดังนี้  ค่ะ มาชมรูป ค่ะ 


 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=04-02-2022&group=8&gblog=44
        https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=25-02-2022&group=8&gblog=45




















  เดือน พฤศจิกายน   วันที่ 1-2  เป็นทริปเที่ยวอุบลราชธานี  ดังลิงค์ที่เสนอไปแล้ว ค่ะ  
     
 วันที่ 9  น้องตุ๊กตา  ลูกของพี่ประสบศรี  ที่เป็นเพื่อนครูที่สอนด้วยกัน
เป็นโรงเรียนแรก เป็นพี่ที่น่ารัก สอนฉันถักเสื้อกันหนาว
ให้คนในอดีตจนสำเร็จเป็นเสื้อ  ส่งให้เขาได้ใส่เป็นตัวแรกในชีวิตและ
เป็นตัวสุดท้ายในชีวิตด้วยค่ะ อิอิ  ตั้งแต่ฉันย้าย
จากโรงเรียนนี้แล้ว  ก็ไม่เคยได้เจอพี่เขาเลย  ได้แต่ทราบจากพี่เสริมว่า
พี่ประสบศรีมีปัญหาในชีวิตเกี่ยวกับลูกสาว
ลูกเขย และได้หันไปบวช ถือศีลแปด พึ่งความสงบจากศาสนาและ
ตัดขาดไม่ติดต่อกับใครเลย  ผ่านไปหลายสิบปี
เวลาคุยกับพี่เสริมทีไร  ก็จะคุยกันถึงพี่เขาเสมอเมื่อเร็ว ๆ นี้  สงสัย จะ
มีโอกาสทำให้ได้ข่าวคราวของพี่ประสบศรี 
ทำให้พี่เสริมเล่าว่า  น้องตุ๊กตา ลูกสาวคนเดียวของพี่เขา  เป็นอาจารย์
สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
พอดี ฉันมีลูกศิษย์เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยนี้เช่นกัน   ฉัน
เลยให้ลูกศิษย์ คือ เจ้าหงวนลูกศิษย์ที่น่ารัก 
ช่วยตามหาน้องตุ๊กตาลูกพี่เขา  และในที่สุดลูกศิษย์ฉันก็ได้เบอร์
น้องตุ๊กตามาและให้เบอร์ฉันแก่น้องตุ๊กตา
  เราจึงได้มีโอกาสได้คุยกับลูกพี่ประสบศรี และทราบข่าวว่า  ตอนนี้ พี่
ประสบศรีอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง
มาหลายปีแล้ว  เฮ้อ! ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนเลย  จากคนที่เก่ง
  ใจดี น่ารัก  แต่ชีวิตแกมีทุกข์เหลือเกิน
  ตอนนี้ก็ไม่ให้เยี่ยม เพราะเป็นช่วงโควิด ระบาด  ก็ได้แต่ทราบข่าว
ของแก แต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันเลย 
แต่ถ้าคนเราจะมีวาสนาได้เห็นหน้ากันแล้ว  สักวันเราคงได้พบ ได้เห็น
หน้าพี่เขา  ถึงจะจำเราได้หรือไม่ได้ก็ตาม
 
ส่วนพี่เสริม ตั้งแต่ล้มป่วยผ่าตัดลำไส้ และพบเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และฉันได้ฝากหมออัครฐาน น้องหมอที่น่ารัก ใจดี
ชอบช่วยเหลือคน  น้องหมอฝากพี่เสริมเข้าโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ซึ่ง
เป็น ร.พ. รักษามะเร็งโดยตรง  และรักษาอยู่ที่ ร.พ.นี้
ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี  พี่เสริมชมน้องหมอโอ๊คอยู่เสมอ  ที่
ฝากพี่เขามาอยู่ ร.พ.นี้ ตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคม แล้ว
  ตอนนี้  แพ้คีโม และติดเชื้อราที่ปอด  ต้องแอดมิดอยู่ที่ ร.พ นานเป็น
อาทิตย์  และต้องไปอยู่ศูนย์ดูแล  เพราะน้องสาว
คือ น้องแต้ว ก็ไม่ค่อยแข็งแรง  ดูแลไม่ไหว   เฮ้อ ! พวกเราก็ไปเยี่ยม
ไม่ได้  ได้แต่โทรคุยกันบ้าง  โทรศัพท์ก็ต้อง
โทรไปที่ศูนย์  น้องแต้ว ก็หมั่นส่งรูปแกที่ศูนย์จัดกิจกรรมให้ผู้ป่วยทำ
  โดยส่งมาทางไลน์เทคโนโลยี่สมัยนี้ 
ทำให้ญาติเบาใจได้ที่จะได้เห็นญาติผ่าน วีดีโอคอล  

   เล่าเรื่อง ความหลังเสียยาวเลย ค่ะ  วันนี้ ก็ได้รับส้มเขียวหวานซึ่งเธอ
ซื้อจากสวนของเพื่อนแล้วส่งมาให้ฉันและพี่เสริมด้วย 
น่าจะคนละ 2 กิโล  ขอบใจน้องตุ๊กตามาก จ้ะ 



ส้ม จากน้องตุ๊กตา ลูกสาวคนเดียวของพี่ประสบศรี ค่ะ ขอบใจจ้ะ


 วันที่ 21  พ.ย. อัศวิน  ลูกศิษย์ ม.หนึ่งรุ่นสอง  นัดไปกินข้าวร้านของ
ดร.พันศักดิ์  (เป็ด)  ซึ่งเปิดร้าน อยู่ที่แถวศรีนครินทร์
  มีเพื่อนห้องเขาอีกสองคน คือ เหน่งกับนรากร ซึ่งได้บอกเป็ดแล้ว  ไป
ถึงลูกน้องของเป็ด ก็พาเราไปที่ห้องอาหาร
ที่เป็ดเตรียมให้พวกเรา  เป็นห้องแอร์  ช่วงนั้น  เป็นช่วงเที่ยง  อากาศ
ร้อนมาก  ได้ห้องแอร์เย็น ๆ ค่อยยังชั่วหน่อย
เจ้าหน้าที่ร้าน  เอารายการอาหารมาให้สั่งแล้วบอกว่า  เป็ด เจ้านายเขา
ติดงานเล็กน้อย  เดี๋ยวจะตามมาคุยด้วย 
พวกเราก็สั่งอาหารตามรายการอาหารที่เขานำมาให้ มีหลายอย่าง
เช่น  ต้มยำ  ปลาทอดราดน้ำปลา  ยำทั้งหลายแหล่
  สักพักใหญ่ ๆ  ปู ห้องเจ้าติ้ม (คมคาย)  ก็มาแจมด้วย  และตามด้วย
เป็ด  มาคุย มาต้อนรับฉัน (ครู) และเพื่อน ๆ ของเขา 
คุยกันสนุกสนาน  ถามกันใหญ่  จำกันได้ไหม  คุยกันถึงความหลัง
ที่เรียนด้วยกัน  เป็นการระลึกถึงความหลัง
กินไปคุยไป  ถ่ายรูปหมูด้วยกัน  เป็ดนั่งคุยกับพวกเราได้ประมาณครึ่ง
ชั่วโมงแล้วขอตัวไปทำงานต่อ  มื้อนี้  เขาไม่คิด
ค่าอาหาร  (คิดว่า คงเห็นฉันมาด้วยเลย ไม่เก็บค่าอาหาร นะ)   เรื่องนี้
ฉันได้เขียนรีวิวร้านอาหารให้เขาด้วยค่ะ ตามลิ้งค์ นี้ ค่ะ 

         https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=25-11-2021&group=9&gblog=8



ดร.พันศักดิ์ (คนใส่เสื้อลายริ้ว) เลี้ยงอาหารค่ะ ขอบใจนะเป็ด 

วันที่  25 พ.ย.  เพื่อเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ให้ร้านอาหารของเป็ด 
ฉันชวนเพื่อน โก  ไปกินอาหารที่ร้านนี้  ซึ่งเป็ดบอกว่า
  เพื่อนที่ไปกินร้านนี้  เขายินดีลดให้ 10% พอดีหญิง(สมศรี)  เพื่อนลง
มาจากอุทัยเลยชวนหญิงไปด้วย  ค่ะ เรานั่งกันที่ด้านนอก
เป็นวิวธรรมชาติ  ไม่ได้ไปใช้ห้องแอร์  (เปลือง ค่ะ คนน้อย)  กินเสร็จ ก็
พากันไปเดินชมวิวธรรมชาติ ถ่ายรูปกัน
เหมือนมุมเดิม ๆ ที่เพิ่งถ่ายไป เพียงแต่เปลี่ยนคนเท่านั้น ค่ะ อิอิ 











  วันที่  28-30  และ 1 ธ.ค. ทริปเชียงราย ค่ะ ที่ได้เขียนไปในบล็อก
แก๊งแล้วค่ะ สนใจอ่านได้จากลิ้งค์ นี้ นะคะ 
      https://www.bloggang.com/mainblog.php?
id=suvimol&month=09-03-2022&group=8&gblog=46
     https://www.bloggang.com/mainblog.php?
id=suvimol&month=07-04-2022&group=8&gblog=47
     https://www.bloggang.com/mainblog.php?
id=suvimol&month=13-04-2022&group=8&gblog=48

มาชมรูปทริปเที่ยวเชียงรายประกอบเล็กน้อย ค่ะ 









ของฝากจากน้องภูษี ที่เชียงราย  ค่ะ น้องแวะมาหาที่โรงแรม ค่ะ 

มาถึงเดือนที่ 12  ธันวาคมแล้ว  ค่ะ  ปี 64 กำลังจะผ่านไปปีหนึ่งแล้ว
ค่ะ  ชีวิตในแต่ละวัน ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
  ความชรากำลังย่างกายเข้ามาหาเราอีกหนึ่งปีแล้ว นะคะ  อยากทำ
อะไรที่คิดอยากทำ รีบลงมือ อย่ามัวแต่ลังเล นะคะ
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก  ค่ะ 

  วันที่ 1 เที่ยวอยู่ที่เชียงรายอีก 1 วัน ตอนเย็นก็นั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ
  จบไปเป็นทริปที่ 3  เหลือทริปสุดท้ายของโครงการ
ซื้อตั๋วเหมาของ แอร์เอเซีย ค่ะ ซึ่งทริปสุดท้ายจะไปเริ่มปี 65  ค่ะ  

    วันที่ 7  ก็เป็นเรื่องข่าวเศร้าที่พุทธศาสนาของเรา  ต้องสูญเสีย แมชี
ศันสนีย์  ผู้ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนามายาวนาน
  ชาวพุทธเรา คิดว่า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักท่านเพราะท่าน เป็นผู้ก่อตั้ง
เสถียรธรรมสถาน สาวิกาสิกขาลัย หุบเขาโพธิสัตว์และ
ธรรมาศรม และเป็นนักปฏิบัติธรรม และเป็นนักเขียน เผยแผ่ธรรมะ ค่ะ 
เรามาทราบประวัติท่าน ค่ะ 

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต หรือนามเดิม ศันสนีย์ ปัญญศิริ (ตุ๊กตา) เกิดวัน
ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2496 เป็นบุตรีของเฉลียว จรัสศรี
นายอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจำลอง พรหมินทะ
โรจน์ครูประจำโรงเรียนบางปะหัน (เชื่อมประชานุกูล)
มีพี่สาว 1 คน คือสายสัมพันธ์ ปัญญศิริ   เคยเข้าประกวด 10 ยอดนาง
แบบระพีและได้รับรางวัล หลังจากนั้นประกวด
อีกและได้รับตำแหน่ง "รองมิสออด๊าซ" และรางวัล "นางงาม
บุคลิกภาพ"
       
การศึกษา ปี 2528 จบปริญญาตรีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัย
ธรรมาธิราชปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
  ปี  2550  ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรม
นิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ปี  2552  ปริญญาพยาบาลศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์
     ปี  2557 : ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ
การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
       
 ก่อนออกบวช  คุณแม่ศันสนีย์  เคยมีความรัก  แต่เป็นความรักต้อง
ห้าม  (ท่านเป็นคนเล่าให้คนที่มาสัมภาษณ์ท่านฟัง)
ฉันนำมาสรุปสั้น ๆ อีกที ค่ะ 
       
 นั่นคือ หลังจากที่ คุณเสถียร ได้มาชื่นชอบคุณแม่ ส่งดอกไม้  โทรหา
ทุกวัน ด้วยความห่วงใย คิดถึง  จึงกลายเป็นความรัก 
ความอบอุ่น  ซึ่งคุุณแม่โหยหาตั้งแต่คุณแม่ของตนเสียตอนที่คุณแม่
มีอายุเพียง15  ปี (คุณแม่ท่านเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
  นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ คุณแม่ตัดสินใจออกห่างจากคุณเสถียร
เมื่อทราบแล้วว่า  คุณเสถียร  มีครอบครัวแล้ว 
จึงเป็นความรักต้องห้าม)   คุณแม่ตัดใจไปอังกฤษ  3 เดือน  เพื่อลืมรัก
ครั้งแรกและครั้งเดียวของชีวิตท่าน   แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายใน
การตัดเยื่อใยซึ่งผูกพันกันมาหลายปี   คุณเสถียรเสนอให้คุณแม่บวชชี
เพื่อศึกษาพระธรรม  เพื่อหยุดทบทวน  นี่เป็นต้นเหตุ
ของการบวชของท่าน  โดยคุณเสถียรเป็นผู้พาคุณแม่ไปสละทางโลก
เข้าสู่บวรพุทธศาสนาด้วยการบวชชี ที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต
โดยมีพระครูภาวนาภิธาน เป็นพระอุปัชฌาย์  ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์
2523  อายุเพียง 27ปี  คุณเสถียรคิดว่า
ให้คุณแม่แค่บวช  เพื่อหยุดทบทวน และจากการที่คุณเสถียรมาทุกวัน
ก็ทำให้คุณแม่เข้าใจความรักมากขึ้น ว่าความรัก
ไม่ใช่การครอบครอง หากแต่ คือ การสนับสนุนซึ่งกันและกันคุณแม่
ศันสนีย์บวชได้ 7 ปีแล้ว   ตลอดเวลา 
คุณเสถียรจะมาที่วัดทุกเช้า เหมือนเป็นโยมอุปัฏฐาก  วันหนึ่งก่อนเจ้า
อาวาสจะมรณภาพ ก็เรียกคุณแม่ไป  หลวงพ่อฉลาดมาก 
ท่านคงรู้ว่าคุณแม่ยังไม่ได้แข็งแรงนัก ท่านก็พยายามให้บวชไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งปีสุดท้าย  คุณแม่เป็นผู้อุปถัมภ์หลวงพ่อ
เรื่องสุขภาพ จนกระทั่งท่านเข้าโรงพยาบาล และบอกให้คุณแม่
ซื้อที่ดินไว้   เมื่อหลวงพ่อมรณภาพ ก็มีการ
ปรับปรุงที่ดิน ซึ่งสมเด็จพระพุฒาจารย์ อาจ อาสภะ ได้มีการถามไถ่
และท่านก็ให้ตั้งชื่อว่า เสถียรธรรมสถาน
ซึ่งแปลว่า สถานที่ที่มีธรรมะอันมั่นคง ซึ่งไม่ใช่ความจริงเลยที่ว่า
เสถียรธรรมสถาน ตั้งตามชื่อ คุณเสถียร
         
 ‘เสถียรธรรมสถาน’   ก่อตั้งขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2530  เป็น  ชุมชนแห่งการ
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยมีพระธรรมนำทาง
ทำงานสร้างชีวิตในทุกช่วงวัย ตั้งแต่เกิดจนตาย เพื่อสร้างสังคมให้
อยู่เย็นเป็นสุข  พ้นทุกข์ร่วมกัน กว่า 30 ปี
ที่ผ่านมา เสถียรธรรมสถานมีนวัตกรรมการฉุดช่วยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งงานเชิงรุกและเชิงรับ อันได้แก่ จิตประภัสสร
ตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์, โรงเรียนพ่อแม่, อารยตาราภาวนาวิชชาลัย,
สาวิกาสิกขาลัย, โครงการเยาวชน ‘บ่มเพาะ แตกหน่อ
ต่อยอด เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา’ (Seeds Of Spirituality - SOS), 
International Tara Awards รางวัลสำหรับ
คนปลุกสังคมด้วย ‘หัวใจโพธิสัตว์’, ISV Club (International
Spiritual Volunteer Club), CSV Club
(Community Spiritual Volunteer Club), 

ธรรมชาติบำบัด และการเยียวยาผู้ป่วยระยะสุดท้าย   ที่นี่  เป็นผลงาน
ชิ้นเด่นของคุณแม่ชี ศันสนีย์  ค่ะ 
นอกจากนี้  ท่านยังได้รับรางวัลดีเด่นด้านต่าง ๆ  มากมาย  เช่น 
          รางวัลผู้อุทิศตนเพื่อมนุษยชาติ (Humanitarian Award)
จาก Humanity In Unity (HIU) ของ Her Holiness Sai Maa
Lakshmi Devi ณ เมืองเวลล์ รัฐโคโรลาโด 
ประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อ ปี  ค.ศ.2008
    รางวัล ‘เพชรงามด้านการสาธารณสงเคราะห์’ รางวัลสำหรับผู้ทำคุณ
ประโยชน์ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ประจำปี 2560
ของมหาเถรสมาคม โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระ
สังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงเมตตาประทาน
รางวัล เมื่อ   พ.ศ. 2560 รางวัล ‘ทูตสันติภาพด้านศาสนสัมพันธ์และ
สังคมสงเคราะห์ ในการประชุมสันติภาพโลก 2561
 ณ ศาลาว่าการเมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดนจากองค์การยุวพุทธ
ศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก  เมื่อ พ.ศ. 2561 
  ชีวิตทางธรรมของ "แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต" กว่า 40 ปี สร้างคุณูปการ
ต่อพระพุทธศาสนาไว้มากมาย มีโครงการหลายอย่าง
ที่ทำขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้ศึกษาธรรมะ และนำไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่าง
เป็นสุข โดยเฉพาะงานด้านการช่วยเหลือเด็กและผู้หญิง

 ปี 2560 แม่ชีศันสนีย์พบว่า ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและเข้า
รับการรักษาช่วงแรกอาการดีขึ้น และตรวจพบก้อนมะเร็ง
อีกครั้งกลางปี 2563 ต่อมาแพทย์ตรวจพบว่ามะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลาม
จนเข้าสู่ระยะสุดท้าย ผู้ดูแลจึงตัดสินใจ
พาแม่ชีกลับมาที่เสถียรธรรมสถานตามความตั้งใจ และถึงแก่กรรมวันที่
7 ธ.ค.2564 สิริอายุ 68 ปี 1 เดือน 7 วัน  ค่ะ 

(ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ต   รวบรวมเรียบเลียงจากอินเทอร์เน็ตค่ะ  )



แม่ชีศันสนีย์ในวัยสาวสวยและตอนได้ตัดสินใจออกบวชด้วยวัยเพียง 27ปี



ขอแสดงความอาลัย แด่ แม่ชีศันสนีย์  ค่ะ 



คุณเสถียร ได้กลายเป็นโยมอุปัฏฐากแม่ชีศันสนีย์  ค่ะ 
 
วันที่  9 ชาวพุทธเรา ก็ได้สูญเสียเกจิอาจารย์ที่ได้เผยแผ่พุทธศาสนา
มายาวนาน ถึง 76 พรรษา  ท่านคือ  เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
  (สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.๙) )

เรามาทราบประวัติท่าน  ค่ะ 
     สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ ช่วง วรปุญโญ มีชื่อเดิมว่า ช่วง
สุดประเสริฐ เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันพุธ
ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๔๖๘ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู อำเภอบางพลี
 จังหวัดสมุทรปราการ   เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง
4 คน  ของ นายมิ่ง (เสียชีวิต) และนางสำเภา สุดประเสริฐ
   
บรรพชา เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี จึงได้บรรพชาเมื่อวันจันทร์ที่ ๑ พฤษภาคม
๒๔๘๒ ณ วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง
กรุงเทพมหานคร โดยมีพระครูศีลาภิรัต (ทอง)ณ วัดสังฆราชา เขต
ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร โดยมีพระครูศีลาภิรัต (ทอง)
วัดลาดกระบัง เป็นพระอุปัชฌาย์


 อุปสมบท ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร โดยมีพระครู
บริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) วัดปากน้ำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ได้รับฉายานามว่า วรปัญโญ เป็น ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ
หลวงพ่อสดวัดปากน้ำอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๔๘๘

       ผลงานของท่าน
     
เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เมื่อปี ๒๔๙๙เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
เมื่อปี ๒๕๐๘ สร้างสำนักเรียนวัดปากน้ำให้มีชื่อเสียง
ด้วยเป็นสำนักเรียนที่สอบเปรียญธรรม ๙ ประโยคได้มากเป็นอันดับ
ต้นๆ ของประเทศ จนได้รับความไว้วางใจ
ให้เป็นสนามสอบบาลีชั้นประโยค ป.ธ.๕ ในภูมิภาค

 เจ้าประคุณสมเด็จช่วง มีความแตกฉานทางภาษาบาลี สามารถสนทนา
ภาษาบาลีได้ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่กองบาลี
สนามหลวง เมื่อปี ๒๕๓๙ ถือเป็นตำแหน่งสำคัญยิ่งของการศึกษาพระ
ปริยัติธรรมแผนกบาลีของพระภิกษุสงฆ์ท่านยัง
ได้มอบปัจจัยให้สร้างพระไตรปิฎกจารึกในแผ่นหินอ่อนเจดีย์ วิหาร
เพื่อธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
รวมถึงหอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ซึ่งเป็นที่ประชุม
กรรมการมส.ทุกวันนี้
     ท่านได้รับการถวายสมณศักดิ์จากหลายประเทศ เช่น
     
ปี๒๕๒๐ได้รับสมณศักดิ์จากบังกลาเทศที่พระศาสนธชมหาปัญญาสาระ
   ปี ๒๕๒๔ ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา ฝ่ายอมรปุรนิกาย ที่ พระชินวร
ศาสนโสภณเตปิฏกวิสารทคณปาโมกขาจริยะ
     ปี ๒๕๒๕ ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา สยามวงศ์
ฝ่ายอัสสคิริยะ ที่พระศาสนโชติกสัทธัมมวิรทวิมลกิตติสิริและได้รับ
สมณศักดิ์จากศรีลังกาสยามวงศ์ ฝ่ายมัลลวัตตะ
 ที่พระธรรมกิตติสิริเตปิฏกวิสารโท
     ปี ๒๕๒๖ ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา ฝ่ายรามัญวงศ์ ที่ พระติปิฏก
บัณฑิตธัมมกิตติสสิริยติสังฆปติ
    ปี ๒๕๒๖ ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายโกฏเฏ ที่ พระ
อุบาลีวังสาลังการะอุปัชฌายธรรมธีรราชมหามุนีเถระ
    ปี ๒๕๕๘ รัฐบาลเมียนมา ถวาย “อัคคมหาบัณฑิต” ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
   ปี ๒๕๖๐ สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาตั้ง เป็นประธานอำนวยการ
โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์
โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือหมู่บ้านรักษาศีล ๕

       ส่วนสมณศักดิ์นั้น เริ่มจากพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระศรีวิสุทธิ
โมลี วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๙ และได้รับการสถาปนา
ให้เป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๘ 

ในราชทินนามว่า “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไพศาลหิตานุหิต
วิธานปฏิภาณสุธรรมภาณีศรีสังฆโสภณวิมลศีลาจารนิวิฐ
ตรีปิฏกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี อรัญวาสี”
     
  สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อรุ่งอรุณของ
วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๔ อย่างสงบ โดยอาพาธ
และเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อฟอกไตมาเป็นระยะเวลา ๕ ปี ก่อนที่
ตลอดปีที่ผ่านมาจะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
เป็นส่วนใหญ่ ก่อนมรณภาพไม่มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน หรือ
ความดัน ท่านมรณภาพด้วยอาการสงบเหมือนหลับไป 
โดยไม่มีสายระโยงระยาง  สิริอายุได้  96 ปี  76  พรรษา 





ขอไว้อาลัย แด่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์  ค่ะ

วันที่ 14  ได้รับของฝากปีใหม่ จาก เยาว์เพื่อนรัก  ปีนี้ส่งมาเร็วมากเลย
  ฉันก็เตรียมของฝากให้เยาว์แล้วเหมือนกัน
  ยังไม่ได้จัดใส่กล่องเลย ปีนี้ซื้อของหลายอย่างอยู่ ค่ะ มาชมของฝากปีใหม่ของ เยาว์เพื่อนรัก ค่ะ 
    


ขอฝากปีใหม่ จากเยาว์ เพื่อนรัก ค่ะ 

  วันที่ 15  วันนี้  เกด ลูกศิษย์ ประจำชั้น  รุ่น ปี 32  เขาหายไปนานมาก
ไม่เคยมาหาฉันเลย  อาจจะมีภาระหน้าที่ในครอบครัว ช่วงนี้
ลูกสาวที่ส่งไปเรียนที่ประเทศอินเดียตั้งแต่เด็กตอนนี้เจ้า คาลาเมล
ก็โตเป็นสาวแล้ว  ภาระคงน้อยลง  ประกอบกับ
เขาจะชวนไปงานพบปะสังสรรค์ของห้องเขาที่หัวหินด้วย  วันนี้แฟนเขา
ศิษย์เขย แอง)  มาประชุมที่แถวสุขุมวิท
  เขามาส่ง  จึงมีเวลานัดฉันไปกินข้าวและเดินเที่ยว วันนี้ฉันเลยเสนอ
ไปเที่ยวสถานีหัวลำโพง ซึ่งกำลังจะกลายเป็นตำนาน
ไปแล้ว  จะย้ายไปเป็นสถานีกลางบางซื่อพวกเราถ่ายรูปเสร็จแล้ว 
เกดก็พาไปที่ร้านคาเฟ่  ที่เป็นโรงแรมเก่า ๆ
มาตกแต่งใหม่  ข้างล่างเป็นคาเฟ่  ด้านบนยังคงเป็นโรงแรมตกแต่ง
สวยงาม (เกดเล่าให้ฟัง)  ข้างล่างปล่อยให้เก่า ๆ ตามเดิม 
เป็นการอนุรักษ์ตึกโบราณไว้  ค่ะ  อาหาร เครื่องดื่มในคาเฟ่นี้ เป็น
สไตล์ฝรั่งเศส ชื่อว่า THE MUSTANG BLU ราคาสูงอยู่  ค่ะ
เกด เป็นคนสั่งอาหารเอง  มาชมรูป ค่ะ 









อาหารและน้ำที่เกดสั่งมา ค่ะ 





มุมสวย ๆ ภายในร้าน    THE MUSTANG BLU คาเฟ่  



ไปกราบหลวงพ่อทองคำ ที่วัดไตรมิตร  โรงเรียนประถมปลายของฉัน

จากนั้น ก็แวะไปร้านขายก๋ยวจั้บของน้องสะใภ้  ไปชิมก๋วยจั้บด้วย 

 17  เช้านี้  นัดเกด  มารับที่สถานีรถไฟฟ้า ทองหล่อ  เพื่อจะไปที่บ้าน
เขาเอารถขับไปร่วมงานสังสรรค์ที่ประจวบฯ ของห้องเขา
นัยว่า  แฟนของยำ (ชื่อช้าง)  ได้รับเงินส่วนแบ่งที่ช่วยขายที่ดินให้
เจ้านายได้ เลยพาเพื่อน ๆ ของภรรยา  (ยำ) ไปเที่ยว กิน
เช่าบ้านหลายหลัง  ชวนเกดไปด้วย  เกดเลยมาชวนฉันไปเป็นเพื่อนอีก
ต่อหนึ่ง นั่นเอง  ฉันได้เขียนเล่าไปในบล็อกแกงค์
แล้ว  ใครสนใจสามารถเปิดดูตามลิ้งค์นี้ได้ ค่ะ 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=22-12-2021&group=8&gblog=41 







วันที่ 16 ยังได้รับของฝากจากเยาว์ คือ สะตอ พร้อม พริก กะปิ ครบ



ของฝากจากเยาว์เพื่อนรัก  ค่ะ 

24  โชคชัย  ลูกศิษย์ภาคค่ำ พาณรงค์ เพื่อนภาคค่ำด้วยกันมาหา 
ณรงค์ไปสร้างครอบครัวกับหญิงสาวชาวเชียงราย 
เปิดร้านขายกาแฟ  ชีวิตล้มลุกคลุกคลานมามากมายและห่างหายหน้า
จากเพื่อนฝูงไปหลายปี  ตอนนี้ชีวิตดีขึ้น 
ฉันก็ดีใจด้วยที่ได้เจอเขาอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอมานานหลายสิบปี 
โชค ยังเจอกันบ้าง  เวลาไฟฟ้าที่บ้านมีปัญหา ก็จะ
ให้เขามาช่วยได้  เลยได้เจอหน้ากันบ้าง  วันนี้  ณรงค์  มาจากเชียงราย
  โทรนัดกับโชค  เพื่อนัดกันมาหาเยี่ยมฉันและชวน
ไปกินข้าวมื้อเย็นกัน  ฉันเลือกร้านที่ใกล้บ้าน คือ ร้านมายช้อยส์มื้อนี้ 
ณรงค์ ล่ำซำ จ่ายคนเดียว ค่ะ  ขณะที่กินข้าวกัน
ก็คุยกันไป  ช่วงหนึ่ง  ได้คุยถึง เพื่อนเขาอีกคน  คือ อังกูร  ซึ่งเป็นลูก
ศิษย์ที่เพื่อนนับถือให้เป็นพี่ชายคนโต  เพราะแกแก่กว่า
คนอื่น  เป็นคนนิสัยดี  ตอนที่ฉันสอนเขาตอนวันที่ฉันมีภาคค่ำสอน 
เขาจะขี่มอเตอร์ไซด์มาส่งฉันที่บ้านทุกครั้ง
  เป็นคนเรียนเก่งด้วยเหมือนโชค  พวกเราไม่ได้เจอเขา ไม่ได้ข่าวคราว
ของเขานานมากพอ ๆ กับ ณรงค์เลย  ฉันกับโชค
บ่นคิดถึงเขาเสมอ   เคยพิมพ์ชื่อเขาลงในเฟส  เพื่อหาอังกูร  แต่ก็ไม่
ได้รับการตอบรับอะไร  ฉันเลยบอกว่า  วันนี้ลองอีกครั้งซิ
ลองทักไปเลยว่า  ใช่อังกูรไหม  ปรากฏว่า  เขารับด้วย และโทรคุยได้
ด้วย  อัศจรรย์ จริง ๆ พวกเราดีใจมากที่ได้เจออังกูรแล้ว 
แย่งกันคุยกับอังกูรกันใหญ่เลย  แล้วพวกเขาก็นัดเจอกันพรุ่งนี้
ตอนเย็น  เพื่อไปกินข้าวกันอีก
     


กับข้าวจากร้านมายช้อยส์  ค่ะ 




โชค  ณรงค์ และฉัน ค่ะ กินไปคุยกันไป ไม่ได้เจอกันนาน ค่ะ 

วันที่ 25   อังกูรขับแท็กซี่  (อาชีพเขาตอนนี้)   มารับฉันเพื่อไปร้าน
อาหาร สบายใจไก่ย่าง  ส่วนณรงค์ไปรถอีกคันกับโชค 
กินอาหารมื้อเย็นกัน  เจอหน้ากัน  คุยกันสนุกสนานถามไถ่ทุกข์สุขกัน
ใหญ่อังกูรเล่าว่า  เขาเปิดบริษัทชิ้ปปิ้ง  แล้วผิดพลาด 
ขาดทุนเป็นหนี้เป็นสินมากมาย  ต้องหลบหน้าจากกรุงเทพฯไปหลายปี 
ตอนนี้ก็เลิกกับแฟนอีก ก็เลยกลับไปอยู่กับแม่ 
มีลูกชาย 1 คน  อาชีพปัจจุบัน  ก็คือ ขับแท็กซี่  ชีวิตก็ลุ่มๆ ดอน ๆ 
เขายังคงดื่มเก่งเหมือนเดิม  กินไป คุยไป
น่าจะประมาณ 3 ทุ่มแล้ว มื้อนี้  ณรงค์ จ่ายอีกเหมือนเดิม ค่ะ เถ้าแก่ 
คาเฟ่ เมืองเชียงราย อิอิ 
     
   ทุกคนขับรถตามกันมาส่งฉันที่บ้าน  ส่วน อังกูร  ณรงค์ และชวนเจ้า
ทศ อีกคน ไปต่อกันที่บ้านของโชค  และค้างคืน
ที่บ้านโชค  ค่ะ  มาชมบรรยากาศที่ร้าน สบายใจไก่ย่าง 

  

อาหารที่ร้านสบายใจไก่ย่าง ค่ะ นัดอังกูรมากินข้าวเพื่อพบหน้า
เขายังดื่มเก่งเหมือนตอนหนุ่ม ๆ ค่ะ 



รูปนี้ อังกูรเซลฟี่ กับฉัน  ค่ะ 







กลับจากมาส่งฉันแล้ว  ณรงค์ อังกูร ก็ไปต่อที่บ้านของโชคและน้ำ

        27  ธ.ค.  ฉันให้ก๊อง ช่วยพาไปร้าน เอไอเอส  เพื่อลงทะเบียนซิม
มาราธอน  ซึ่งจ่ายครั้งเดียว 1,550  บาท ใช้เน็ต
ได้ 1 ปี   ก๊องพาไปที่แอมบาสเดอร์  ไปที่ช้อปใหญ่ของ เอไอเอส
ฉันต้องให้ซิมที่ซื้อมาพร้อมกับบัตรประชาชน
ให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียน  ปรากฏว่า  เจ้าหน้าที่ทำไม่ได้  เพราะบัตร
ประชาชนฉันมีปัญหา ไม่ยอมอ่าน เขาว่าแถบแม่เหล็กที่บัตรเสีย
 มีปัญหา อ่านไม่ได้  แก้ไข โดยต้องใช้บัตรประชาชนของก๊องลงทะเบียน
แทนไว้เราต้องไปทำบัตรประชาชนใหม่ ปีหน้า ค่อยเปลี่ยนเป็นบัตรฉัน  เฮ้อ!  
        ลงทะเบียนเสร็จ  ก๊องก็พาไปเลี้ยงข้าว
อีกตามเคย  อิอิ  เจี๊ยบ  ฝากของฝากปีใหม่ให้ก๊องมาให้ด้วย ค่ะ 
ขอบใจลูกศิษย์ ก๊องและเจี๊ยบ มาก ๆ จ้ะ  มาชมภาพ ค่ะ 





ของฝากปีใหม่ที่เจี๊ยบฝากก๊องมาให้ฉัน ค่ะ 

     วันที่  29   น้องสะใภ้ให้เค็งเพื่อนเขาที่มีบ้านใกล้บ้านฉัน นำของกินมาให้ฉันที่บ้าน  ช่วงนี้ ใจดี
ฝากของมาให้กิน  ขอบใจ นะ 



เล็ก  น้องสะใภ้ฝากของกินมาให้ ค่ะ 
  
      วันที่ 30  ฟิตตรีย์ลงมากรุงเทพฯ   เขาเลยให้ลูกชายของเขาขับรถ
มาเยี่ยมฉันที่บ้านด้วย  ลูกชายคนนี้เป็นนักบิน 
เป็นครูสอนด้วย  ฉันก็ดีใจด้วยที่ลูกศิษย์รุ่นแรกของฉัน ประสบความสุข
  มีลูกดี ทั้งหน้าที่การงาน  แต่ด้วยหน้าที่การงาน 
ฟิตตรีย์ ก็ต้องอยู่คนเดียวที่ใต้ คือ นครศรีธรรมราช  เธอเป็นคนที่รู้จัก
แบ่งปัน  สมัครเป็นครูอาสาสอนภาษา
ให้เด็ก ๆ ด้วย ค่ะ  มาชมภาพ ค่ะ 



ฟิตตรีย์และลูกชายมาเยี่ยม  ค่ะ 

       31 ธ.ค.  วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันนี้  โกกับฉันนัดกันไปกิน
ข้าวส่งท้ายปีเก่ากันด้วย  ตกลงเราไปกินข้าวที่
ร้านสบายใจไก่ย่าง  กินกันสองคน  ปลาที่สั่งมาตัวใหญ่มากกินไม่หมด 
โก ก็ไม่ยอมเอากลับบ้าน เหลือตั้งครึ่งตัว
โก  ให้ฉันเอากลับบ้านด้วย  เสียดายของ ก็เอากลับ ค่ะ  โก จ่ายตาม
เคย  ไม่ยอมให้ฉันแชร์ด้วย  บอกว่า เลี้ยงข้าว
ปีใหม่ฉันอย่าคิดมาก  อิอิ  กินไปคุยไป ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
   ปีนี้ เป็นการส่งท้ายปีเก่า ที่อิ่มท้อง อิ่มใจ 
น้องชายโก พามาเลี้ยงข้าวส่งท้ายปีเก่า ค่ะ ขอบใจโกมาก นะ ขอให้
เจริญ ๆ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ๆ ตลอดไป จ้ะ 





อาหารสั่งมาหลายอย่าง กินกันสองคน อิ่มมาก ค่ะ 


 ทวาทศมาสประจำปี 2564  ก็เขียนเล่ามาครบทั้ง 12 เดือนแล้ว ค่ะ
ชีวิตผ่านไป 1 ปี มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทั้งสุขและทุกข์
ที่ประสบมา แต่สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้ว ผ่านแล้วก็ผ่านไปตาม
กฎธรรมชาติ  ฉันก็ได้แต่บันทึกไว้เป็นความทรงจำ
ดี ๆ เพื่อไว้อ่านยามรำลึกถึง เท่านั้นเอง ค่ะ ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
ของชีวิต  หวังว่า ปีหน้าคงได้มาเขียนเล่าเรื่อง
ได้ต่อไป  นะคะ  สวัสดี ค่ะ  

         


 



Create Date : 11 ตุลาคม 2565
Last Update : 13 ตุลาคม 2565 21:37:00 น.
Counter : 719 Pageviews.

37 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณกิ่งฟ้า, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณSweet_pills, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณอุ้มสี, คุณkae+aoe, คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณtoor36, คุณ**mp5**, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณร่มไม้เย็น, คุณNoppamas Bee

  
สวัสดีค่ะอาจารย์แวะมาอ่านบันทึกประสบการณ์ชีวิตค่ะ อาจารย์โชคดีจังเลยนะคะมีแต่คนรักลูกศิษย์รัก ได้รับของฝากตรึมเลลบค่ะ

โหวต Diarist

หลับฝันดีค่ะ


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 ตุลาคม 2565 เวลา:0:31:50 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

3 เดือนนี้
อาจารย์แวดล้อมไปด้วยลูกศิษย์
ที่ส่งของกินมาให้เยอะมาก

ได้ทำบุญและเดินทางท่องเที่ยว

ได้กิน ได้เที่ยวตามใจ
ผมว่าเป็นกำไรของชีวิตอย่างแท้จริงเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2565 เวลา:6:06:02 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมเคยเป็นคนโกรธง่าย
อารมณ์รุนแรง
เห็นโทษของความใจร้อนเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2565 เวลา:10:41:54 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกตะพาบนะคะ

ตามมาขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ อาจารย์ได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขมากนะคะ ทั้งได้ไปท่องเที่ยวจังหวัดต่างๆ ได้ไปทำบุญ มีลูกศิษย์และเพื่อนๆวนเวียนมาเยี่ยมเยียนพาเที่ยวถือว่ามีความสุขที่สุดแล้วค่ะน่าอิจฉาจริงๆ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 ตุลาคม 2565 เวลา:17:17:39 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ตุลาคม 2565 เวลา:6:17:12 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

ชื่นใจไปกับบันทึกของอาจารย์ค่ะ
อาจารย์แวดล้อมด้วยเพื่อนและลูกศิษย์ที่แวะเวียน
มาเยี่ยม ไปทำบุญ ไปเที่ยวกัน
หรือส่งของฝากมาให้ น่าอบอุ่นใจมากค่ะ

ร้านอาหารของ ดร.พันศักดิ์ ดูบรรยากาศดีมากนะคะ
ไม่ต้องไปไกลต่างจังหวัด อาหารน่าอร่อยด้วยค่ะ

อาจารย์มีความสุขสดชื่นในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้นะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 15 ตุลาคม 2565 เวลา:10:45:44 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมใช้ดอกบัวในงานเขียนบ่อยมากเหมือนกันครับ
โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับธรรมะ
พระพุทธเจ้าท่านเปรียบเทียบได้ดีมากๆเลยนะครับ
ดอกบัวสี่เหล่า
เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ตุลาคม 2565 เวลา:13:50:14 น.
  
สวัสดีครับอาจารย์
อ่านยังไม่จบแต่ขอโหวตจองที่ไว้ก่อนนะครับ
กินยาไปแล้วง่วงหนักมากครับ
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 ตุลาคม 2565 เวลา:22:46:55 น.
  
สวัสดียามดึกค่ะอาจารย์ แวะมาอ่านบันทึกของอาจารย์ทีไรมีความสุขไปด้วยทุกครั้งค่ะ รอยยิ้มและความอบอุ่นของบรรดาเพื่อนๆและลูกศิษย์ทำให้มีความสุขจริงๆนะคะ

แวะมาเชิญอาจารย์ไปชิมเมนูใหม่ด้วยค่ะ

อาจารย์หลับฝันดีนะคะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 16 ตุลาคม 2565 เวลา:0:15:05 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2565 เวลา:5:34:33 น.
  
แวะมาอ่านค่ะครู
โดย: อุ้มสี วันที่: 16 ตุลาคม 2565 เวลา:10:55:00 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

การรู้จักตนเอง
ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับตัวเองเลยครับ
ผมยังเสียดายที่ผมรู้จักตัวเองช้าไปหน่อย

พุทธจิต --- พุทธะ ผมแปลว่าเป็น ผู้รู้
ผู้รู้ในความจริงนั้นมีทุกชาติ ทุกภาษา
พุทธจิต หรือ จิตแห่งผู้รู้แจ้ง
จึงมีอยู่ทุกหนแห่ง

เวลาผมอ่านคำสอนของหลายๆศาสนา
ผมจึงเห็นความเชื่อมโยง ในหลักคำสอนเสมอครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2565 เวลา:15:56:54 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจบล็อกก๋วยเตี๋ยวไก่ค่ะ เวลาอยู่บ้านว่างๆเบื่อข้าวก็มักจะทำอาหารประเภทเส้นๆทนกันค่ะ ทำง่ายและเป็นของชอบด้วยค่ะ

มารออ่านบันทึกประสบการณ์ชีวิตของอาจารย์ปี่ 65 นะคะ ชอบอ่านเพลินดีแถมได้ความรู้ด้วยค่ะ

ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรงมีความสุขมากๆนะคะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 16 ตุลาคม 2565 เวลา:20:30:08 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

ต๋าซื้อลูกชิ้นปลากรายกับเนื้อปลากราย
จากร้านโกเนี้ยวค่ะ

ถึงบ้านต๋าเอาลูกชิ้นมาลวกธรรมดาทานกับบะหมี่
ส่วนเนื้อปลาก็ทำสองเมนูที่ลงบล็อกไปค่ะ
ตอนสั่งที่ร้าน สั่งแต่บะหมี่กับทอดมัน
เลยไม่ทราบรสชาติแกงเขียวหวานของที่ร้านค่ะอาจารย์
คราวหน้าต๋าจะลองสั่งบ้างค่ะ

แกงเขียวหวานต๋าใช้นมสดแทนกะทิตามโจทย์
ความหอมมันก็ลดทอนจากกะทิปกตินะคะ
แต่ก็อร่อยแบบเจือจางหน่อยค่ะ อิอิ

ขอบคุณอาจารย์สำหรับกำลังใจนะคะ
ต๋าใช้มือถือพิมพ์
อาจารย์นอนหลับฝันดีค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 17 ตุลาคม 2565 เวลา:0:56:23 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2565 เวลา:5:46:37 น.
  
ขอบคุณมากครับอาจารย์

ตอนที่ไปเดินเที่ยวในวัดผาลาด
ผมก็สังเกตป้ายเข้าและออก
ดีที่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ด้วยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2565 เวลา:13:58:42 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2565 เวลา:5:46:48 น.
  
ดูมีความสุขดีจังค่ะอาจารย์

โดย: หอมกร วันที่: 18 ตุลาคม 2565 เวลา:11:44:42 น.
  
เก็บไว้เป็นMemory
ความทรงจำที่ประทับใจ
และแบ่งปันสู่สาธารณะชน
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 ตุลาคม 2565 เวลา:12:09:41 น.
  
ขอบคุณมากครับอาจารย์

เนื้อเพลงในอดีต
ผมว่ามีความสวยงาม
มีความหมายลึกซึ้ง
มีสัมผัส จังหวะ จะโคน

อย่างเพลงถมไม่เต็ม
ก็ปรียบเปรยได้ดีมากๆเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2565 เวลา:12:40:46 น.
  
อาจารย์ค่อยๆ ไล่จนถึงช่วงสุดท้ายของปีที่แล้วแล้ว

ลูกศิษย์ก็ยังคงไปมาหาสู่อยู่ตลอดนะครับ

มีไปเที่ยวไปทำบุญบ้างตามโอกาส

แม่ชีศันสนีย์จากไปเร็วเกินคาดครับ อายุยังไม่มาก ผมได้ยินชื่อนี้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลยแหละ


มาชวนไปทบทวนภาษาจีนครับ วันนี้เป็นศัพท์ในอินเทอร์เน็ต (อีกแล้ว)
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 ตุลาคม 2565 เวลา:19:42:55 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2565 เวลา:5:43:03 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 19 ตุลาคม 2565 เวลา:9:00:25 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

งานเขียนแนวธรรมะของผม
ไม่ค่อยหลุดจากเรื่องจิตหรือความคิดเลยครับ
เพราะผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
ที่ผมจะเขียนงานเพื่อเตือนตัวเองครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2565 เวลา:15:40:38 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 ตุลาคม 2565 เวลา:5:16:39 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เรื่องสังขารเสื่อม
ผมก็เจอกับตัวเองครับอาจารย์
หลายเดือนที่ผ่านมา
มีทั้งปวดเข่าซ้าย
กับข้อเท้าขวาพลิก
แล้วก็ไม่หายสักทีครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 ตุลาคม 2565 เวลา:21:48:48 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 ตุลาคม 2565 เวลา:5:35:45 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

งานเขียนเป็นการทบทวนที่ดีสำหรับผมเลยครับอาจารย์
บางอย่างเรียนมา
แต่ลืม การเขียนก็เป็นการทบทวน
และนำไปปฏิบัติต่อ
ธรรมะต้องทำ ถ้าไม่ทำก็ได้แค่รู้จริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 ตุลาคม 2565 เวลา:14:00:17 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ตุลาคม 2565 เวลา:5:25:12 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

อาจารย์พักผ่อนมีความสุขมากๆในวันหยุดนี้นะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 22 ตุลาคม 2565 เวลา:9:00:26 น.
  
เป็นบันทึกที่น่าสนใจ
บอกเล่ารายละเอียด
ได้ครบถ้วนค่ะ
โดย: Noppamas Bee วันที่: 22 ตุลาคม 2565 เวลา:18:23:57 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

การเขียนบล็อก
เหมือนทำให้ผมทบทวนตัวเองผ่านงานเขียนครับ

เมื่อเช้ารื้อสมุดบันทึกมาปัดๆเช็ดๆ
เพราะเก็บไว้ในกล่องมานาน
นั่งอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
ก็เห็นร่องรอยความคิดของตัวเองในหลายเรื่องเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ตุลาคม 2565 เวลา:18:26:51 น.
  
เทอร์มินอล 21 ต๋าชอบด้วยค่ะอาจารย์
จำนวนเงินเท่ากันแต่จ่ายที่นี่ได้อาหารหลายอย่างกว่านะคะ
เค้าทำราคาได้ดึงดูดใจลูกค้ามากค่ะ

ขอบคุณอาจารย์มากนะคะสำหรับกำลังใจที่บล็อกต๋า
อาจารย์นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 23 ตุลาคม 2565 เวลา:0:25:41 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 ตุลาคม 2565 เวลา:6:24:13 น.
  
ขอให้เป็นวันที่สนุกสนานของอาจารย์ครับ
ได้เจอเพื่อนร่วมทริป
แค่เล่าความหลังให้กันฟัง
ก็สนุกแล้วนะครับ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 ตุลาคม 2565 เวลา:10:45:04 น.
  

ชาวงนี้วันหยุดยาว
ปกติ แต่.มักไปพักผ่อน ตจว.กับแกงค์ เพื่อน
หรือลูกศิษย์นะคะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 23 ตุลาคม 2565 เวลา:16:28:01 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 ตุลาคม 2565 เวลา:6:27:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Suvimol.BlogGang.com

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]

บทความทั้งหมด