วันวิสาขบูชา - อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า วันวิสาขบูชาคือวันบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึง เหตุการณ์สำคัญ ๓ ประการ ในพระพุทธประวัติ คือ การประสูติ การตรัสรู้ และการปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันแต่ต่างปีกัน อนึ่ง เหตุการณ์สำคัญที่เกิดสืบเนื่องก็คือ หลังจากที่ตรัสรู้สัจจธรรมแล้ว พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปประกาศพระพุทธศาสนา แนะนำประชาชนให้เว้นความชั่ว บำเพ็ญความดี และชำระจิตใจของตนให้บริสุทธิ์สะอาด เป็นเวลาถึง ๔๕ ปี ----------------------------------------------------------------------- ในโอกาสพิเศษแห่งวันวิสาขบูชาปีนี้ ขออัญเชิญพระพุทธวจนะจาก พระไตรปิฎกเล่ม ๒๓ นวกนิบาต อังคุตตรนิกาย ท้ายสีหนาทวรรค แนะข้อปฏิบัติง่ายๆ เพียง ๔ ประการ ซึ่งไม่ต้องลงทุนลงแรง หรือสิ่งของเงินทองใดๆ แต่มีผลยิ่งใหญ่กว่าการถวายทานแด่พระพุทธเจ้า หรือถวายทานแด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประมุข เรื่องน่าอัศจรรย์ของการปฏิบัติง่ายๆ แต่มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระพุทธเจ้า หรือพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประมุข ก็คือต้องการให้การปฏิบัติมาอยู่ที่แต่ละบุคคล ผู้ลงมือกระทำด้วยตนเอง ไม่ใช่คอยแต่ชื่นชมตื่นเต้น ในคุณงามความดีของบุคคลสำคัญท่านอื่นๆ ซึ่งเปรียบเหมือนการพบมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์หลายหมื่นหลายแสนล้าน แต่เสร็จแล้วผู้พบและแสดงน้ำใจอันดีงามต่อท่านมหาเศรษฐีนั้น ก็ยังคงไม่มีทรัพย์หรือไม่มีคุณความดีเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะมิได้ลงมือปฏิบัติอะไรด้วยตนเอง พระพุทธวจนะที่ตรัสสอนข้อปฎิบัติง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนลงแรงมาก เพียง ๔ ข้อดังต่อไปนี้ คือ ๑. เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสถึงพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะหรือที่พึ่งที่ระลึก ๒. เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสตั้งใจรักษาศีลห้า ๓. เจริญหรือแผ่เมตตาจิตคือไมตรีจิตคิดจะให้ผู้อื่นเป็นสุข แม้ชั่วระยะเวลาอันสั้น เพียงแค่รีดนมโคจากบนลงล่าง ๔. เจริญอนิจจสัญญา หรือกำหนดหมายความไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืนของสิ่งที่มีปัจจัยปรุงแต่งทั้งหลาย แม้ชั่วระยะเวลาสั้นๆ แค่งอนิ้วหรือเหยียดนิ้ว คุณธรรมทั้ง ๔ ข้อนี้ปฏิบัติได้ง่ายและมีคุณค่ามาก เพราะไม่ใช่คุณธรรมของผู้อื่น แต่เป็นการลงมือกระทำด้วยตนเองของแต่ละบุคคล เป็นคุณธรรมจากระดับต่ำสุดถึงสูงสุด ซึ่งจะเพิ่มคุณค่าให้แก่ผู้ปฏิบัติ ถึงขนาดที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระอริยบุคคล ๔ ระดับ มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีผลมากกว่าการถวายทานแด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นพระประมุข มีผลมากกว่าการสร้างที่อยู่อาศัยถวายแด่พระสงฆ์จากสี่ทิศ เมื่อทุกคนมีสิทธิจะได้รับผลดีและสูงยิ่งด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยไม่ต้องเสียกำลังแรงงาน หรือค่าใช้จ่ายใดๆ อย่างนี้ จึงน่าจะได้รับพระพุทธวจนะนี้ไว้เป็นแนวปฏิบัติประจำวันของเราทั้งหลาย อันเป็นการบูชาด้วยการปฏิบัติ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่ามีค่ายิ่งกว่าการบูชาด้วยอามิสมีดอกไม้ธูปเทียน เป็นต้น ----------------------------------------------------------------------- ขอถือโอกาสแห่งวันวิสาขบูชานี้ แผ่ความปรารถนาดีต่อพี่น้องร่วมชาติและร่วมโลก ไม่จำกัดประเทศชาติ ศาสนาและภาษาตลอดจนสรรพสัตว์ ขอจงมีความสุขความเจริญ ปราศจากอันตรายภัยพิบัติ ประสบแต่สรรพสิ่งอันพึงประสงค์จงทุกประการ หมายเหตุ : บทความเรื่องนี้คัดลอกมาจากบางส่วนของข้อเขียนชิ้นสุดท้ายของอาจารย์ สุชีพ ปุญญานุภาพ ซึ่งตีลงพิมพ์ในนิตยสาร ธรรมจักษุ : ฉบับพฤษภาคม ๒๕๔๓ ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: rebel
![]() วันพระใหญ่แต่ก็ไม่ได้ไปเวียนเทียน
พี่แค่อยู่บ้าน ทำใจให้สบายๆ .. วันนี้งดด่าคนหนึ่งวัน ![]() โดย: JewNid
![]() ![]()
วันนี้..วันพระขึ้น15 ค่ำ เดือน 6 วันวิสาขบูชา..วันพระใหญ่ทางพุทธศาสนา พระจันทร์งามยิ่ง..แม้เมฆบัง สายฝนฉ่ำอุราอย่าหม่นหมอง ละกิเลสได้หนึ่งวันใจสุขขี ถึงจะเพียงน้อยนิดจิตสดใส มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลก เหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในตู้ ว่ายวนเวียนไปมาไม่รู้จบ ไม่สามารถหลุดพ้นจากตู้ปลาได้ นอกจากความตาย หรือหลุมศพนั้นเอง มนุษย์ทุกชีวิตต้องเกิดแก่เจ็บตายเป็นแน่นอน ทำไม..ต้องมากลั่นแกล้งกัน ทะเลาะกัน เกลียดชังกัน อิจฉาริษยากันเพื่ออะไร ทำไมไม่ให้อภัยกัน ทำให้เกิดสุข จิตจะได้สงบไม่กลุ้มใจ. ไม่หลงรูป รส กลิ่น เสียง..ละโลภ โกรธ หลง ล้วนไม่จีรังยั่งยืน เมื่อได้แล้วถึงเวลาก็เสื่อมได้เช่นกัน ปลงเสียเถิดในบางสิ่งที่ทุกข์ใจ..แล้วจะอยู่อย่างมีสุข สร้างความดีวันนี้..พรุ่งนี้อาจจะไม่มีเวลาทำ อนุโมทนากัลยณมิตรมีสุขอิ่มบุญทุกคนนะค่ะ ![]() ![]() น้องแขคนงามสบายดีนะค่ะ คิดถึงเสมอค่ะ งานยุ่งไหมเอ๋ย???? โดย: catt.&.cattleya..
![]() อนุโมทนาธรรมจ้ะ
จะพยายามนะ เพราะบางข้อก็ยังยากสำหรับพี่ (ข้อสี่น่ะ แหะๆ) โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() 4 ข้อ อ่านง่าย เข้าใจไม่ยาก แต่ทำลำบากเหมือนกันนะน้องแข
แต่ก็จะพยายามประพฤติตนให้ได้ แม้อย่างน้อยแบบค่อยเป็นค่อยไปแล้วกันเนอะ ขอบคุณที่เอาพุทธวัจนะมาฝากกันจ้า อนุโมทนาบุญด้วยคนจ้า ![]() โดย: PANDIN
![]() พี่เองก็ไม่ค่อยได้ดูหนังหรอกแข
อันนี้ถ้าไม่เสนอมา ก็คงไม่ได้ไปดูน่ะ แหะๆ ![]() โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() อนุโมทนาด้วยคนงับ
![]() ปีนี้ป๊ากับแม่ไปที่วัดแถวคลองหกอะ จำชื่อวัดไม่ได้ แต่เห็นว่าดัง ปีที่แล้วไปเวียนเทียนที่หอพระในมธ.รังสิต อุอุ โดย: The White Rider
![]() วันวิสาขบูชาที่ผ่านมา ถือว่าเป็นวันหยุดของพี่ด้วย
แต่ที่นี่ไม่มี วัดให้เข้า แฮะ ![]() แม้ว่า รู้แล้วจะปฏิบัติยังไม่ถึง แต่ก็ยังดีกว่า ไม่รู้ แล้วไม่ปฏิบัติเลย อันนี้ ถูกมั้ย ![]() โปรดชี้แนะ โดย: Nutty Professor
![]() สวัสดีค่าคุณrebel
แวะทักทายยามค่ำ วันนี้ฝนตก อากาศเย็นสบาย นอนหลับฝันดีนะค้า โดย: oa (rosebay
![]() ช่วงนี้ผมว่าคนเข้าวัดมากขึ้นนะ
วัด นี่แหละเป็น ดัชนี ขี้ได้เลยว่า คนในประเทศมีความสุขมากแค่ไหน ถ้าคนเข้าวัดมากขึ้น แสดงว่าค่าความสุขในประเทศน้อยลงนะครับ มันจะเป็นสัดส่วนผกผันกัน ก็เพราะว่ามนุษย์เราแล้ว ส่วนมากพอมีความสุข มักจะไม่ค่อยนึกถึงผู้อื่นหรอกครับ แต่พอมีความทุกข์ (ช่วงนี้ทุกข์แน่ๆ เพราะ น้ำมันลิตรละ 40 เข้าไปแร้วววว) ก็มักจะวิ่งหาที่พึ่งทางต่างๆกันล่ะครับ บางคนมีปัญหาก็ดันหนีปัญหา ด้วยการบวชซ่ะงั้น ![]() ท่านแข สบายดีนะครับ ข้าพเจ้าก็เรื่อยๆ สุขบ้าง ดิบบ้าง ตามการขึ้นลงของค่าเงินในกระเป๋า (ฮา) อ่อ! ลืมไป หงษ์แดงจงเจริญญญญญ ![]() โดย: merf1970
![]() น้องท่าน ขอแก้ข้อความที่เม้นไว้นิดนึง
ถ้าเริ่มต้น แล้วจะถึงได้อย่างไร ![]() น่าจะเป็น ถ้าไม่เริ่มต้น แล้วจะถึงได้อย่างไร ใช่หรือป่าว ![]() โดย: Nutty Professor
![]() ...
ขออนุโมทนากับการแบ่งปันสิ่งดีๆครับ ![]() ขอถาม คุณแข นิดนึงครับ สงสัยใจ ![]() อ่านหนังสือของท่านพุทธทาสฯ แล้วท่านว่า (ไม่ quote นะครับ ขอสรุปความรวมๆ) "...พราหมณ์ สอนว่ามีตัวตนของวิญญาณที่เวียนว่ายตายเกิด ขณะที่ พุทธ ว่าไม่มีตัวมีตน "...พระเวสสันดร ไม่ได้กลับชาติมาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า ทุกอย่างเป็นเพียง ปฏิจจสมุปบาท หลายๆสายต่อเนื่องกันเท่านั้น..." คุณแข เข้าใจเรื่องนี้มั้ยครับ? แล้วทำไม พระพุทธเจ้า จึงตรัสสอนว่า พระองค์เคยเสวยชาติเป็นโน่นเป็นนี่? (เหตุผลที่ ท่านพุทธทาสฯ ให้ไว้ก็คือ...เพื่อสอนในระดับของ ศีลธรรม ไม่ใช่ โลกุตตรธรรม ซึ่งก็โอเคครับ ถ้างั้นความจริงที่ลึกไปกว่าระดับศีลธรรม คืออะไรเอ่ย?) โดย: The Legendary Midfielder
![]() สวัสดีค่า
เห็นถ้วยชาแล้วคิดถึงชาเอิลเกรย์ ชาร้อน ๆ กับหนังสือซักเล่ม ที่นั่งลมเย็น ๆ ได้พักผ่อนซักวันก็ชื่นใจ โดย: oa (rosebay
![]() ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญก่อน
![]() แล้วค่อยเข้าเรื่องนะคะ แบบว่าอ่านตอนไหนต่อไปก็จะน่ากลัว เพราะช่วงนี้เป็นช่วง Rendezvous นัดพบคนกะผี เราจะเอาประสบการณ์อุ๊ อุ๊ อู๋ มาตีแผ่ แล้วจะมากระตุกหนวดมาแขว ไปกระตุกขวัญที่บึงเป็ดตอนอั่พนะคะ ![]() โดย: ducky IP: 124.121.54.167 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:51:24 น.
โดย: catt.&.cattleya..
![]() ...
ขอบคุณที่ไปตอบค้าบบบบ... คือก็เข้าใจในระดับหนึ่งอ่ะนะครับว่า ยังไม่ถึงขั้นที่จะเข้าใจได้ แต่บางทีก็แบบว่าอยากรู้ว่ามันเป็นงี้เป็นงี้ได้ไง ลงท้ายแล้วคงต้องสรุปด้วยประโยคที่ว่า "เชื่อว่าตายแล้วเกิดใหม่ก็เป็น มิจฉาทิฏฐิ "เชื่อว่าตายแล้วสูญก็เป็น มิจฉาทิฏฐิ เช่นกัน" (ยิ่งงงเข้าไปอีก เหะเหะ) ![]() โดย: The Legendary Midfielder
![]() คุณมิดฟิลด์ ...
เชื่อในวัฏฏสงสารทำไมจึงว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิเล่าคะ ? โดย: rebel IP: 125.24.112.79 วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:01:32 น.
"แม่น้ำไม่ได้มีตัวตนที่จริงแท้ แต่ก็ไม่ได้ว่างเปล่าเป็นเพียงมายา แม่น้ำแปรผันเนื่องไม่คงตัว ทางสายกลางแห่งการมองแม่น้ำคือ การเข้าใจการมองอย่างสุดขั้วว่าแม่น้ำมีตัวตนที่แท้ หรือแม่น้ำไม่มีตัวตนนั้นเป็นอวิชชา การมองที่เข้าใจความเป็นจริงว่าแม่น้ำมีตัวตนที่เป็นอนิจจังแปรผันตลอดเวลานั้นคือ ทางสายกลางแห่งการมองแม่น้ำ"
โดย: rebel
![]() |
บทความทั้งหมด
|