เพลงพระราชนิพนธ์ "เมื่อโสมส่อง" เมื่อโสมส่อง ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ![]() ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ อ้าโสมทอแสงอำไพ ฉันสุขใจหมายชม เพลินหลงพร่ำเพ้อภิรมย์ โสมสาดส่องแสงมา ภาคพื้นเวหาพราวพราย เพราะก่องประกายดารา เพียงเพชรพลอยส่องฟ้า แวววับจับใจ เมฆน้อยลอยโลมลูบหาว เหมือนมืออันผ่องขาวละไม ลูบโลมนภาสดใสนั้นพาให้หทัยฉันสะเทือน โอ้ลมเอ๋ยเชยพัดเตือนมามิให้อุราลืมเลือน เพียงเสียงเธอรำพันเตือนคำมั่นสัญญา อ้าโสมชวนฉันคำนึงครั้งหนึ่งกลางแสงจันทร์ เราสองพลอดเพ้อรำพันรักมั่นไม่ผันแปร ตราบฟ้าดินม้วยแลเราสองดับสลายดวงแด วิญญานไม่ห่างแหลอยรักร่วมทาง ครั้นแล้วเวรกรรมชาติไหนระดมกันผลักไสเราห่าง เมื่อรักยังไม่หม่นหมางรักยังสลักกลางดวงใจ แต่ยังหวังในผลบุญนำให้บาปกรรมแคล้วไป คืนพบความรักเดิมในคืนหนึ่งวันเพ็ญ I Never Dream Music: H.M.K. Bhumibol Adulyadej Lyric: H.H. Prince Chakrabandh Pensiri I never dream that I will ever find you. I never dream my dreams will ever come true. My thoughts were like the weary winding little streams, That would never meet the sea, it seems. No matter where I roamed away from my home alone, I found no one at all, no one I could call my own. And I never dream the sun will ever shine again, While skies are full of thunder storms and rain. I never dream that I will ever find my way, My life was like an endless journey night and day, Like travelling through the night without the moon above, I could never dream I'd find my love. But then you came along, like a lovely song so sweet. And every time you kiss, my heart would just miss a beat. So I never have to dream since I have found you Sweetheart, now you have made my dreams come true. เกร็ดประวัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2494 เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกวาระหนึ่งเพื่อทรงศึกษาต่อ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในจังหวะวอลทซ์เพลงที่ 4 เพลงพระราชนิพนธ์เมื่อโสมส่องใช้เสียงที่กว้าง ในบางคู่โน้ตจะใช้โน้ตซ้ำกันแต่ห่างหนึ่งคู่แปด มีการไล่โน้ตสูงลงมาต่ำ โดยเสียงที่ไล่บางทีมีเพียงครึ่งเสียงเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการซ้ำโน้ตเดิมแม้ว่าเป็นช่วงที่ต้องใช้เสียงลากยาว ทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา สง่างาม คอร์ดที่ทรงใช้นั้นทำให้เกิดสุ้มเสียงที่บ่งบอกความเป็นกลางคืนอย่างชัดเจน กับทั้งยังมีความระยิบระยับพร่างพรายควบคู่กันไปด้วย นับว่าเพลงนี้มีอารมณ์โรแมนติคอยู่สูงทีเดียว เพลงพระราชนิพนธ์เมื่อโสมส่องมีการใช้เสียงในหลายคู่แปด และต้องร้องด้วยเสียงที่ลากยาว ผู้ร้องจึงต้องมีความสามารถค่อนข้างสูง ต้องมีลมหายใจยาว และต้องแม่นเสียงเมื่อบรรเลงในแนวบัลลาด ผู้ขับร้องที่ไม่ชำนาญพอจะทำให้เห็นข้อบกพร่องชัดเจน บางครั้งมีการนำไปบรรเลงในแนวสวิงซึ่งก็เพราะไปอีกแบบหนึ่งแต่ไม่เหมาะจะใช้ขับร้องเพราะผู้ร้องจะหายใจไม่ทัน สำหรับเนื้อร้องภาษาอังกฤษนั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ เนื้อหารำพันถึงความคิดถึงและครวญหาเมื่อต้องจากคนรัก และจบลงด้วยความสุขเมื่อได้พบกัน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิง สมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ประพันธ์เนื้อร้องภาษาไทย เนื้อหากล่าวถึงความงามของธรรมชาติยามค่ำทำให้จิตประหวัดถึงคนรัก แม้ต้องเศร้าหมองเพราะพลัดพรากจากกัน แต่ก็ยังหวังว่าผลบุญจะนำให้กลับมาพบกันอีก รวบรวมและเรียบเรียงจากหนังสือ "งานช่างของในหลวง" โดยมหาวิทยาลัยศิลปากรและ "ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์" โดยโรงเรียนจิตรลดา |
บทความทั้งหมด
|