ตอน 5 - ไม่ลืม Edinburgh ไม่ว่าจะวันไหน ๆ หรือวันสุดท้าย วันสุดท้ายที่เอดินบะระ เราต้องเดินกันขาลากกันแน่ ๆ จุดหมายหลัก ๆ คือ Scottish National Gallery และ Dean Village อยากไป Botanical Garden ด้วย แต่ก็ไม่มีเวลาแล้ว ที่ทำให้ขาลาก คงเป็นที่แวะระหว่างทางมากกว่า เหนื่อยแน่ค่ะ เมย์พาเดินไปเรื่อย ๆ ผ่าน.. Royal Mile Market ผ่านทุกวัน วันนี้แวะเข้าไปหน่อย สงสัยว่าทำไม ตลาด - market ของฝรั่งเล็กจัง ใช่ตลาดแบบบ้านเราหรือเปล่า แล้วก็ได้ข้อมูลว่า ชื่อเดิมของสถานที่แห่งนี้คือ Tron Kirk เคยเป็นโบสถ์ เปิดตั้งแต่ ปี 1647-1952 หลังจากปิด ก็ทิ้งร้างไป จนปี 2015 จึงได้เปิดโบสถ์นี้อีกครั้ง - (ปัจจุบันเป็นโบราณสถานที่สวยงาม และสำคัญของเมืองเก่าเอดินบะระ) ให้เป็นสถานที่ สำหรับบริการนักท่องเที่ยว มีแผงขายงานฝีมือ ศิลปะ ของที่ระลึก อาหาร และ เป็นศูนย์ข้อมูลด้วย ผ่านไปถึง Scottish National Gallery Scottish National Gallery ตั้งอยู่บนเนินใกล้ Princes Street อาคารเป็น แบบ Neo-Classic เปิดให้ประชาชนเข้าชมครั้งแรกปี 1859 รวบรวมและจัดแสดงงานวิจิตรศิลป์ของชาติ .. รวมถึงศิลปสกอตและนานาชาติ ตั้งแต่ยุคเรอเนอซองส์ จนถึง ศต.ที่ 20 เจอซากุระ ต้องไม่พลาดอยู่แล้วค่ะ จาก Princes Street เดินไม่ถึง 10 นาที ผ่าน Dean Bridge ใกล้ถึง Dean Village แล้ว (คำว่า Dene หมายถึง Deep Valley - หุบเขาลึก ในภาษาสกอต) แม่เปี๊ยก (แม่ของเมย์) ก็พาเราไปเที่ยวหมู่บ้าน Dean เหมือนกัน ตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kapeak&month= 08-2015&date=02&group=41&gblog=26 ในอดีตหมู่บ้าน Dean เต็มไปด้วยโรงสีประเภทต่าง ๆ และยังคงเห็นร่อยรอย ได้ในปัจจุบัน หมู่บ้าน ประสบความสำเร็จด้านอุตสาหกรรม ที่ต้องใช้โรงสี อย่างยาวนานถึง 800 ปี การขับเคลื่อนการทำงานของโรงสี ได้จากพลังน้ำจาก แม่น้ำ Leith "Dean Village" จึงรู้จักกันอีกชื่อว่า "Water of Leith Village-หมู่บ้านแห่งแม่น้ำลีธ์" กำแพงหินที่อาคารหมู่บ้าน Dean ดูมีเอกลักษณ์และงดงาม ต่อมามีการพัฒนาโรงสีที่ใหญ่ และทันสมัยกว่า อุตสาหกรรม โรงสีต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ก็เริ่มลดลง และหายไปในท้ายสุด ทิ้งให้หมู่บ้านอยู่ในสภาพทรุดโทรม ผู้คนยากจน และตกต่ำถึงที่สุดในทศวรรษ 1960 จนกระทั่งช่วงกลาง ทศวรรษ 1970 คนรุ่นใหม่เริ่มรู้จักดินแดนโอเอซิสสีเขียวที่เงียบสงบ และไม่ไกลเมืองแห่งนี้ จึงมีการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ และอาคารต่าง ๆ ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ลานด้านหลังของ 1 ใน 44 Well Court ที่ได้รับการบูรณะ การบูรณะที่สำคัญที่สุดก็คือ Well Court ซึ่งสร้างช่วงปี 1880 ได้รับการสนับสนุน จาก องค์กรอนุรํกษ์มรดกโลกของเอดินบะระ (Edinburgh World Heritage) เพื่อ เป็นตัวอย่างบ้านของคนงานท้องถิ่นในอดึต และช่วยเพิ่มความงดงามของพี้นที่ด้วย อาคารเหล่านี้ได้รับการยอมรับว่า เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โอ่อ่า และงดงาม เราวนเวียนอยู่ลานด้านหลังของ Well Court กันอยู่เป็นนาน ป้จจุบัน หมู่บ้าน Dean เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่คนเอดินบะระส่วนหนึ่ง อยากย้ายเข้าไปอยู่ เป็นอันดับต้น ๆ ถึงเวลาต้องกล่าวอำลาหมู่บ้าน Dean แล้ว ไม่นานก็ถึง Princes Street Garden Princes Street Garden เป็นสวนที่สวยที่สุด และสำคัญที่สุดของเมืองเอดินบะระ อยู่ ใจกลาง เมือง ...สร้างในช่วงทศวรรษที่ 1820 หลังจากที่ได้สูบน้ำจาก Nor Loch (ทะเลสาบ Nor) ออกหมดแล้ว และมีการสร้างเมืองใหม่ขึ้น ช่วงทศวรรษที่ 1760 Princes Street Garden เหมือนเป็นเขตแบ่งระหว่างเมืองเก่า และเมืองใหม่เอดินบะระ ปราสาทเอดินบะระอยู่ลิบ ๆ ค่ะ ออกจาก Princes Street Garden ผ่าน National Gallery of Scotland กำลังบูรณะด้านหน้า แล้วก็พบผู้คนมุงดูชาวสกอตเปิดหมวกผู้หนึ่ง กำลังเล่นปี่สกอต และใส่กระโปรงสกอต ที่เรียกว่า Kilt ด้วย ได้รับความสนใจมากทีเดียว มาไกลถึง เอดินบะระ สกอตแลนด์ - ดินแดนของชาวสกอตแล้ว เรามารู้จัก Kilt กันหน่อยค่ะ Kilt (คิลต์ - กระโปรงสกอต) เป็นเครื่องแต่งกายครึ่งน่องที่อัดจีบด้านหลัง เดิมเป็นชุด ตามประเพณี ของชาวสกอตที่ราบสูง (Scottish highlands) มีการบันทึกครั้งแรกใน ศต.ที่ 16 -- เรียกว่า "great kilt - คิลต์ใหญ่" เป็นคิลต์ที่ท่อนล่างมีความยาวครึ่งน่อง ท่อนบนใช้พันรอบตัว หรือเหน็บไว้กับเข็มขัด หรือคลุมหัว ใช้เป็นเสื้อคลุมได้ ส่วน "small kilt - modern kilt" หรือ "คิลต์สั้น" เกิดขึ้นในศต. ที่ 18 ซึ่งก็คือ ส่วนล่าง ของคิลต์ใหญ่ ... เมื่อถึง ศต. ที่ 19 คิลต์เริ่มมึความหมายทางวัฒนธรรม ที่เป็นสัญลักษณ์ ประจำชาติองสกอตแลนด์ ... มักทำจากผ้าที่ทอจากขนแกะลายทาร์ทัน (ตาหมากรุก) คิลต์สั้น เป็นที่นิยมในปัจจุบัน มักแต่งในโอกาสที่เป็นทางการ หรือการแข่งขันกีฬาที่ราบสูง (Highland games) --- ไม่นานมานี้ ก็เริ่มใช้คิลต์ในโอกาส ที่ไม่เป็นทางการด้วย (ข้อมูลจากวิกีพีเดีย และ The Scottish National Gallery) การสวมใส่ Kilt ไมใช่เรื่องง่าย ๆ เลย.. ต้องนอนใส่กันเลยล่ะ (ดูภาพ จาก National Museum of Scotland..ประกอบค่ะ) ขอให้สนุกกับการสวมใส่ Kilt นะครับ หลังจากฟังเพลงจากปี่สกอตไปสักพัก ก็ถึงเวลาเดินนนนน... กลับกันค่ะ เมืองเอดินบะระยามเย็น เห็นไกลลิบ ๆ คือ North Bridge ซึ่งเป็น ทั้งถนนรถข้าม และคนข้าม North Bridge เชื่อมระหว่าง High Street และ Princes Street เมืองเก่า และ เมืองใหม่ สะพานปัจจุบันสร้างระหว่างปี 1894 - 1897 ใช้แทนสะพานเดิมที่สร้างระหว่าง ปี 1763 - 1772 ซึ่งใช้มานานร้อยกว่าปี จนถึง ปี 1896 ธนาคารแห่งชาติสกอต - Bank of Scotland มีประวัติย้อนหลังไปถึง ศต. ที่ 17 นับเป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ในสหราชอาณาจักร Bank of Scotland ยังเป็นสถาบันทางการค้า และการเงินเพียงแห่งเดียว ที่สร้างโดย รัฐสภาสกอตแลนด์ และยังคงดำเนินการอยู่ เดินกลับจนถึงที่พักแล้ว เมย์ชวนป้าไปสุสาน Greyfriar Kirkyard อีกรอบ ยังไหว ... ไปกัน แสงสวยที่สุสาน คราวนี้ไม่ผิดหวังค่ะ เจอกลุ่มที่มา Ghost tour พอดี ได้บรรยากาศสุสานสุด ๆ ไปเลย เดินตาม Ghost tour อยู่พัก ชักเขิน ๆ ก็เลยแยกทางกัน คราวนี้ก็เหลือเราแค่ 2 คน เงียบสงบ รู้สึกยิ่งกว่าวังเวง ฟ้าเริ่มมืดลงทีละน้อย ๆ ... ฝนพรำ ๆ ตลอด .. ป้า - หลาน ชวนกันกลับดีกว่า หลาย ๆ สถานที่ .. หลาย ๆ รูป (สวย) ....หลาย ๆ ความประทับใจ ... หลาย ๆ ความทรงจำ เก็บไว้สำหรับเอดินบะระตั้งแต่วันแรก ...จนถึงวันสุดท้ายค่ะ รุ่งขึ้นเราก็จะไปยอร์ค (York) กัน ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.visitscotland.com/info/see-do/dean-village-p1419651 |
บทความทั้งหมด
|