ตอน 9 - ถึง London, St. George Hotel & Paddington Station National Express bus พาเราเดินทางจาก York เข้า London ระยะทาง 217.8 ไมล์ (349 กม.) ด้วยเวลา 5 ชม. กว่านิดหน่อย รอรถที่ป้ายตรงข้ามสถานีรถไฟ York ออกนอกเมืองผ่านบ้านเรือนเบาบาง คงเป็นบ้านจัดสรร จากนั้นก็เห็นแต่ทุ่งสีเหลือง เยอะกว่าทางเหนือ ๆ มาก -- ต้องเป็นทุ่ง Rape seed, Canola หรือ Mustard อย่างใดอย่างหนึ่งแน่ ๆ ค่ะ สีเหลืองสุดสายตาพาโนรามา รถบัสที่นี่ไม่มีแวะปั๊ม แวะพ้กรถ หรือที่ไหน ๆ เลย วนเข้าไปรับผู้โดยสารที่ office ของ National Express แล้วก็วนออก จนถึงปลายทางที่สถานี Victoria Coach Staion - London Victoria Coach Station - London (ขอบคุณภาพจาก Shutter Stock) เราถึง London กันแล้วหรือนี่ ผู้คนเยอะแยะ โกลาหลพอควร ผิดกับ Edinburgh และ York 2 เมืองที่ผ่านมา --- ดีที่เรามั่นใจมากกับหัวหน้าทัวร์ (ที่ดูมือถือตลอด) คงไม่พาหลงแน่ ๆ --- เมย์พาเดินไปหลายเลี้ยว ไปรอขึ้นสาย 36 --- ลงที่ป้าย St. Mary Hospital โรงแรมอยู่ใกล้ที่ Pricess Charlotte เกิดเลย แล้วก็เดินผ่านเกือบทุกวัน ที่พักของเรา คือ St. George Hotel, 46 Norfolk Sq., Paddinton ค่ะ เข้ามาในห้อง งง ๆ กับชา กาแฟ นม น้ำตาล ที่วางไว้เป็นตระกร้า แชมพู สบู่ ฯลฯ ในห้องน้ำ ก็เป็นตระกร้าเหมือนกัน กระดาษทิชชูจัดให้เกิน 10 แน่ ๆ ไม่ต้องไปขอเพิ่มให้ยุ่งยาก --- พักที่อื่นมักให้มาแบบประหยัดมาก ส่วนอาหารเช้า เป็นแบบที่ฝรั่งเรียกว่า Box meal มากกว่า breakfast ตามภาพสำหรับ 2 คน เก็บภาพของคนอื่นมาค่ะ แต่เรา 3 คน เพิ่มอีกเท่า มื้อเช้าของเราจึงเยอะมาก กินไม่หมด ก็ใส่เป้ติดตัวไป -- ความที่เราอยู่หลายคืน Box meal เหมือนกันทุกวัน ของก็เหลือเยอะขึ้น ๆ ก็เลยเอาอันที่ไม่ได้กินใส่เป้ไปทั้งหมด หนักเป็นโล 2 โล เพราะมีสัมภาระของตัวเองด้วย เพื่อให้ Homeless ที่พบเจอ (เจอทุกวันอยู่แล้ว) มีวันหนึ่งฝนลอนดอนพรำ ๆ อากาศก็หนาว -- homeless คนหนึ่ง นั่งข้างทางกับหมาตัวหนึ่ง -- ห่มผ้าด้วยกัน -- พอให้ห่อ ๆ ที่หอบมา เขาก็บอกว่า God Bless You คิดในใจว่า น่าจะเป็น You, bless me นะ เพราะวันนั้นเดินมานาน ของก็หนัก -- กลับเป็น homeless คนนั้น ที่ช่วยให้คนแบกตัวเบาเลย ไม่งั้นไม่รู้จะแบกไปถึงไหน -- อีกวันหนึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนเป็นคนตะวันออกกลาง พอให้ปั๊บ เขาก็เปิดถุงกินเลย -- คงหิวมาก (ช่วงนั้นจะมีผู้อพยพจากซีเรียเข้ายุโรป และอังกฤษมาก) St. George Hotel ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า Norfolk Square ห้องที่เราพักอยู่ชั้นบน ติดด้านจตุรัส จึงได้ภาพจากห้องพัก เห็นจตุรัสและสวน Norfolk gardens กล่าวว่า Norfolk Square เป็นโอเอซิสแห่งความสงบ ท่ามกลางความเร่งรีบ และพลุกพล่านของย่าน Peddington ใจกลางกรุงลอนดอน Norfolk square gardens มอบพื้นที่แห่งความเงียบสงบให้กับผู้อยู่รอบด้าน ไม่ว่าใครก็ตาม สวนจัดเป็นจตุรัสแบบดั้งเดิมของลอนดอน มีการจัดแสดงดอกไม้และไม้พุ่มประดับ นอกจากลานจตุรัส ยังมีพื้นที่สาธารณะเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมพิเศษต่างๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน เย็นวันแรก ก็เข้าเมืองไปเดินเที่ยวเล่นกัน -- ที่ต้องไปชิมกันก่อนเลยก็คือ Ben's Cookies ค่ะ ราคาชิ้นละ 1 ปอนด์ เช้าวันรุ่งขึ้น แวะ Paddington Station สถานีรถไฟใกล้ที่พักที่สุด ทั้งยังเป็นฉากและชื่อเรื่องในภาพยนตร์ เรื่อง Paddington Bear ที่มี หมีแพดดิงตัน (Paddington Bear) เป็นตัวเอก "Paddington Station" หรือรู้จักกันอีกชื่อว่า "London Paddington" นอกจากเป็นสถานีรถไฟกลางกรุงลอนดอนแล้ว ยังเป็นสถานีรถไฟใต้ดินลอนดอนที่ซับซ้อน ยิ่งใหญ่ ทั้งยังเป็นสถานีปลายทางของรถไฟ สาย Great Western Railway (GWR) และสำนักงานใหญ่อีกด้วย "Paddington Station" เข้าใจว่าตั้งตามสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ จากสมัย Anglo - Saxon คำว่า "Padda" น่าจะหมายถึง "เจ้าของที่ดินในท้องถิ่น" คำว่า "ton หรือ tun" หมายถึง "หมู่บ้านของ" วันที่ 4 มิถุนายน 1938 ประวัติศาสตร์ได้บันทึกการมาของรถไฟไอน้ำ ถึงสถานี Paddington เป็นครั้งแรก ทำให้สถานี Paddington กลับมาเป็นผู้นำระบบขนส่งใหม่อีกครั้ง เป็นสถานีปลายทางที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของสหราชอาณาจักร เรื่องราวของสถานี ฯ สะท้อนให้เห็นการรถไฟของอังกฤษ ตลอด ศต. ที่ 19, 20 และ 21 สถานี Paddington ออกแบบโดย Isambard Kingdom Brunel (1806 - 59) - วิศวกรเครื่องกล และวิศวกรโยธาชาวอังกฤษ --- ในปี 1833 ขณะมีอายุเพียง 27 ปี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าวิศวกรของ GWR และเริ่มงานสร้างทางรถไฟที่เชื่อมโยง London กับ Bristol (ทางตะวันตก) Isambard Kingdom Brunel (ขอบคุณภาพจาก internet) Isambard Kingdom Brunel มีผลงานยิ่งใหญ่เป็นจำนวนมาก ที่เป็นที่จดจำมากที่สุด คือ การออกแบบสร้างเครือข่ายอุโมงค์ สะพาน และทางข้าม สำหรับรถไฟสาย Great Western --- เป็นผู้ออกแบบท่าเรือหลายแห่ง --- ออกแบบเรือกลไฟ Brunel และเป็นคนแรกที่ออกแบบเรือกลไฟให้สามารถข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคได้ "Brunel เปรียบเสมือนตัวเร่งปฏิกิริยา ที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมจำเป็นต้องใช้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติการขั้นต่อไป" Paddington Station เป็นต้นเรื่องของ Paddington Bear ใน London ทำให้สถานีมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้น --- จริง ๆ แล้ว Paddington Bear เป็นตัวละครในวรรณกรรมเด็ก ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตค. 1958 ในหนังสือสำหรับเด็ก "A Bear Called Paddington" (เจ้าหมีที่ชื่อว่า แพดดิงตัน) และปรากฏตัวในเรื่องอื่น ๆ มากกว่า 20 เรื่อง ที่เขึยนโดย Michael Bond นักเขียนชาวอังกฤษ ภาพประกอบโดย Peggy Fortnum และศิลปินอื่น ๆ นับแต่นั้น หมี Paddington ได้กลายมาเป็นตัวละครคลาสสิค ในวรรณกรรมเด็กของอังกฤษ หนังสือของ หมี Paddington จับใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ขายได้ถึง 35 ล้านเล่มทั่วโลก Paddington เป็นหมีที่เป็นมิตร มาจาก Darkest Peru (เปรูที่มืดมนที่สุด) เดินทางมา London กับหมวกใบเก่า กระเป๋าเดินทางที่เก่าคร่ำคร่า เสื้อโคท duffel (เสื้อโคทที่ทำด้วยผ้าขนสัตว์หนา) และความรักในแยมผิวส้ม เขาถูกพบที่ Paddington Station โดยครอบครัว Brown ที่รับเลี้ยงเขา และมอบชื่อเต็มให้ว่า Paddington Brown และร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว Brown เมื่อมีการเปิดตัวภาพยนตร์ภาคแรก ในปลายปี 2014 ความคลั่งไคล้ หมี Paddington ระบาดไปทั่วประเทศอังกฤษ ทำให้เกิดการตามรอยการผจญภัยของ หมี Paddington โดยวางประติมากรรม รูปปั้นทึ่ตกแต่งโดยคนดังและศิลปิน ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ มากกว่า 50 รูป เฉพาะที่ Paddington Station มีถึง 4 ที่ด้วยกัน แต่เราก็ไม่เจอ หมี Paddington ที่สถานีเลย ที่เจอกลับเป็น Shuan the Sheep ค่ะ เรื่องของ Shuan the Sheep เก็บไว้ก่อน หลังจาก แวะทักหมี Paddington ตอนเช้าแล้ว เมย์จัดรายการไว้เพียบตลอดวัน บล๊อคหน้าลุยกันเลย เริ่มที่ London Tower ค่ะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย และ |
บทความทั้งหมด
|