ตอน 8 - York Gardens Museum, York Cathedral & all York



   วันที่ 2  มีรายการไป  York Gardens Museum และ York Cathedral ค่ะ --ระหว่าง 
มื้อเช้า .. เมย์คุยกับคุณ Angie ว่าจะไปกิน Fish & Chips ที่ Draker's Fish & Chips  
 คุณ Angieก็เลยแนะนำให้ไปลอง afternoon tea ด้วย เช็คราคาแล้ว คนละ 18 ปอนด์ 
.---ที่จริงก็น่าสนใจมาก  แต่สำหรับคนที่ไม่เคย  คงเก้ ๆ กัง ๆ น่าดู  งั้นอย่าไปดีกว่า 

เช้านี้ก็ใช้เส้น the new walk  เอ้อระเหย..ไปเรื่อย ๆ เหมือนเดิมค่ะ  วันนี้มีรถจักรยานสีแดงมาจอด 1 คัน 

 



ผ่าน Skeldergate Bridge  แล้ว  เดินเลียบถนนริมแม่น้ำ ไปเรื่อย ๆ  จนมาถึง  Ouse Bridge






Ouse Bridge อยู่ทางปลายแม่น้ำ เดิมเป็นสะพานไม้ สร้างโดยพวกไวกิ้ง  ในปี 1154
สะพานนี้พังทะลายลง  เนื่องจากไม่สามารถรับน้ำหนักของประชาชนที่มารวมตัวกัน 
เพื่อต้อนรับ St. William of York ที่กลับจากถูกเนรเทศ -- จึงได้สร้างสะพานหินขึ้นแทน
ต่อมาถูกรื้อถอน  และสร้างขึ้นใหม่ ออกแบบโดย Peter Atkinson แล้วเสร็จในปี 1821
ตามที่เห็นในปัจจุบัน






ทัศนียภาพ จาก Ouse Bridge มองย้อนไปทางต้นน้ำ





จาก Ouse Bridge มาถึง The Parish Church of all Saints หรือ All Saints Church, North Street เป็นโบสถ์แองกลิกันตั้งอยู่ใจกลางเมือง York  แม้อาคารปัจจุบัน จะเก่าแก่ มีอายุย้อนไปถึง ศต. ที่ 14 --




แต่เดิมสถานที่นี้เคยมีโบสถ์ และเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการสักการะมาเกือบ 1100 ปี ย้อนไปถึง ศต. ที่ 10  มีการกล่าวถึงครั้งแรกใน  หนังสือ Doom Day Book (1086) และบนหลุมศพของชาว Anglo-Saxon---  ภายในมีกระจกสียุคกลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะอังกฤษ

มาเรื่อย ๆ จนถึง
Lendal Bridge





 


 Lendal Bridge หลังจากที่ก่อสร้างหลายครั้ง  ล่าสุดที่เห็นในปัจจุบัน เปิดในปี 1863 - ออกแบบโดย  Thomas Page  คนเดียวกับที่ออกแบบ Skeldergate Bridge และ Westminster Bridge ในลอนดอน



ขอบคุณภาพจาก internet


 Lendal Bridge เป็นสะพานเหล็ก มีรายละเอียดสไตล์โกธิก ซึ่งเป็นที่นิยมในยุควิคตอเรีย 
เชิงเทินหรือราวสะพานประดับด้วยลายดอกกุหลาบสีขาวแห่งยอร์ค  กุญแจรูปกากะบาด

ของสังฆมณฑลยอร์ก และสิงโตแห่งอังกฤษ

มีตราแผ่นดิน York  อักษร V & A อักษรย่อของ Queen Victoria และ Prince Albert 



ถึง York Museum Gardens แล้ว (google map บอกว่าจากที่พักถึง gardens เราเดินกันไป
1.3 ไมล์ หรือ 2 กม.
เศษแล้วค่ะ) 






 York Museum Gardens  ตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1830 โดย Yorkshire Philosophical Society (สมาคมปรัชญายอร์คเช่อร์)  ได้รับมอบที่ดินจากสมาคม มีเงื่อนไขเพื่อสร้างสวนพฤกษศาสตร์บนที่ดินนี้  เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แรก ๆ ของประเทศ ที่ตั้งตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิม 

 


พอเข้าไปในสวน เห็นคุณยายกับหลาน  มีเชือกคล้องที่มือคุณยาย  และเหมือนปลายอีก
ด้านผูกคอหลานเอาไว้   จริง ๆ เชือกผูกกับเจ้าจ๋อที่เกาะหลังหลาน ตกลงจูงหลาน หรือ
หรือจูงเจ้าจ๋อนะ





ในปี 1960 สวนและ York Museum ได้ถูกมอบให้อยู่ในความดูแลของ สภาเมืองยอร์ค
(City of York Council)  และตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ก็ได้รับการจัดการโดย
กองทุนพิพิธภัณฑ์ยอร์ค (York MuseumsTrust)





York Museum Garden มีชื่อเสียงจากการรวบรวมต้นไม้ พันธ์ุไม้ ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้ประเภทหัว และดอกไม้ที่น่าทึ่ง สามารถชนะรางวัล Gold Award ในงานพันธ์ุไม้เบ่งบานในยอร์คเช่อร์ (Yorshire in Bloom)  ถึง 3 ปีติดต่อกัน  ได้รับการยกย่องเป็น อย่างสูงในภูมิภาค






ภายในบริเวณสวน จะเห็นซาก  St Mary's Abbey  ซึ่งเป็นสถานประกอบการเบเนดิกติน
(คณะนักบวชคาทอลิคที่ใช้ชีวิตในอาราม ตามหลักวินัยของนักบุญเบเนดิกต์)  ที่ใหญ่ที่สุดและ  
ร่ำรวยที่สุดในตอนเหนือของอังกฤษ  ทั้งยังเป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่สุด แห่งหนึ่งใน
ยอร์คเช่อร์ --













ในปี 1539 ช่วงระหว่างการล่มสลายของอาราม สมัยพระเจ้า Henry VIII  อารามถูกปิด
 และถูกทำลายลงภายหลัง



อาคารหลังนี้ คือ  
The Hospitium (เกี่ยวกับคำว่า hospitality - การต้อนรับ) เป็นส่วนหนึ่งของ St. Mary's Abbey ช่วงสมัยกลาง เข้าใจว่าอาคารถูกใช้เป็นเรือนพักแขก เช่นพ่อค้า ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้พักในอารามหลัก เช่นเดียวกับนักบวช 






หินปูพื้นล่างส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงทศวรรษ 1300 ประตูโค้งสร้างภายหลัง ราวปี 1500

จาก York Museum Gardens  ไปต่อที่ 
York Cathedral - มหาวิหารยอร์ค ค่ะ 

แม่เปี๊ยกพาเที่ยว York ให้รายละเอียดของ
York Cathedral ไว้เยอะ ตามลิงค์ได้เลยค่ะ
(ตอน 10 # วันสุดท้ายที่ York)  https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kapeak&
month=10-2015&date=12&group=41&gblog=30









รายละเอียดของ York Cathedral อยู่ในบล๊อค 10 ของแม่เปี๊ยก ลิงค์ข้างต้นค่ะ

 




























York Cathedral หรือ York Minster  เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่งดงามที่สุดในยุโรป  กระจกและหินสี แกะสลักร้อยเป็นเรื่องราวของนิมิตรสวรรค์บนดิน  เป็นเวลากว่า 1,000 ปีแล้ว  ที่ผู้คนมายังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้  






แต่มหาวิหารมีเรื่องราวย้อนไปกว่า 2,000 ปี จนมาถึงการกำเนิดของคริสต์ยุคใหม่ ในสมัยโรมันยอร์ค (Roman York คือ เมื่อ York ถูกปกครองโดยชาวโรมัน ช่วง ศต. ที่ 1 - 2)


เราวน ๆ อยู่แถว York Cathedral แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ  



ด้านหลังคือ สำนักงานกฏหมาย อากาศเย็นสบาย นักกฏหมายคงขี่จักรยานกันมา



















ป้ายชี้ทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง  จะไปไหนก็ดูป้าย สะดวกด้วย สวยด้วย  แล้วก็มาถึงร้านอาหารกลางวันของเรา

Draker's Fish & Chips -  79 Low Petergate, York  มีคำโมษณาว่า ร้านก่อตั้งเมื่อปี 1984  มาเปิดที่ York ปี 2010 --- เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ดำเนินการโดยครอบครัวที่นานที่สุดในเมือง มีบริการทั้งนั่งทานที่ร้าน และสั่งกลับบ้าน มีสโลแกนว่า 
"Traditional Yorkshire fish and chips. Quality produce, quality prices --- ยอร์คเช่อร์ฟิชแอนด์ชิปส์แบบดั้งเดิม -- ผลผลิตคุณภาพ  ราคาคุณภาพ"






ไปถึงน่าจะบ่ายแล้ว คนยังเข้าแถวรอออกมานอกร้าน แต่ก็ไม่นาน แถวขยับไปเรื่อย ๆ  จนถึงเรา พนักงานถามว่ามากี่คน แล้วบอกให้ตามขึ้นไปชั้นบน -- ตอนเดินขึ้นไป ผ่านชั้นล่าง มีคนเต็มอยู่  ---





 แต่ข้างบนไม่มีใครสักคน ทุกโต๊ะว่างสะอาดเอี่ยม สักพักมีขึ้นมาอีก 2 คน แล้วก็ไม่มีใครอีก รู้สึกบรรยากาศการกินดีมาก ๆ ค่ะ


 















ขณะเดินไป The Shambles  ผ่านลานขายของมือสอง คนขาย คนซื้อ สูงอายุเหมือนกัน  

จากนั้น เมย์พาไป York Shambles เพื่อถ่ายรูป และดูร้านค้า (เย็นวานฝนตก ร้านปิดค่ะ)   รวมทั้งไป  Shambles market ที่เป็นตลาดกลางแจ้งด้วย เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 - 17.00 น. มีทั้งเสื้อผ้า ของที่ระลึก ผักสด ผลไม้ ดอกไม้ เนื้อสัตว์ เอาว่ามีทุกอย่างละค่ะ





 
 

  
 
 
 


 





















เที่ยวตลาดแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับ  ยังมาแวะ Cliffords' tower อีก




 


  ขึ้นบันไดไป 55 ขั้น  ข้างบนก็ไม่มีอะไร ขึ้นไปก็ถ่ายรูป  แล้วก็เดินลงมาอีก 55 ขั้น 

แล้วก็เดินกลับที่พัก  ยังไม่จบค่ะ --- 2 คนกับเมย์ เดินเลยที่พักไปอีกนิดหน่อย บรรยากาศเงียบสงบ





 




อย่างไรก็ต้องกลับมาที่  71 B & B, Fulford - York 
วันนี้เดินไปกลับราว  3 ไมล์ ตาม google map  ถ้าตามเราว่าคงสัก 7 - 8 กม. ได้


 



เช้าวันรุ่งขึ้น แม้จะอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ได้เวลาลากกระเป๋าต่อไปลอนดอนแล้วค่ะ
ขอบคุณเมือง York แสนสวย อย่างที่หมอเจมส์ เฮเรียต บอกไว้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม  บล๊อคหน้าก็ถึงลอนดอนแล้วค่ะ

 

อ่าน York ย้อนหลัง 2 ตอน ได้ตามลิงค์นี้ค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=payaichow&month=09-08-2021&group=10&gblog=12
ตอน 6 -จาก "หมอเจมส์ เฮเรียต" แห่ง Yorkshire ถึง York

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=payaichow&month=12-08-2021&group=10&gblog=13
ตอน 7 - The New Walk, York Castle Museum & the Shambles


 




Create Date : 17 สิงหาคม 2564
Last Update : 22 สิงหาคม 2564 19:15:14 น.
Counter : 641 Pageviews.

0 comments
ถนนสายนี้..มีตะพาบ ( 349) วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร peeamp
(8 เม.ย. 2567 12:38:27 น.)
ตะวันยอแสง ที่ ภูคกงิ้ว พายุสุริยะ
(7 เม.ย. 2567 18:27:17 น.)
ประวัติน่าสนใจ เจดีย์เอียง เกาะเกร็ด สมาชิกหมายเลข 4313444
(6 เม.ย. 2567 20:33:48 น.)
:) peaceplay
(4 เม.ย. 2567 08:14:28 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Payaichow.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 1920579
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]