BANGKOK :: ไหว้พระเก้าวัด
ตามธรรมเนี่ยมของปีใหม่ ก็ต้องไปทำบุญตักบารต แต่เนื่องจากตื่นไม่เคยทันตะวันขึ้นเลย ก็เลยอาศัยทำบุญเก้าวัดทุกปี เพราะไม่ต้องตื่นเช้ามากนักนั่นเอง สำหรับปีนี้ ก็เหมือนเดิมทำบุญเก้าวัดในกรุงเทพฯ ปีที่แล้วไปได้ไม่ครบเก้าวัด แต่ปีนี้ได้เก้าวัดตามตั้งใจ สำหรับปีนี้เปลี่ยนคนไปด้วยไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่ไปกับจักรกฤษณ์ ปีนี้จักรกฤษณ์มีหวานใจแล้วน่าจะไม่ว่าง แต่ก็ดีใจกับเพื่อนด้วย เพราะหามานานเหลือเกิน

ปีนี้เลยไปกับเจ้าโอ๊ตเพื่อนที่มหาวิทยาลัย เราเริ่มนัดหมายกันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เวลา 9.30 น. นั่งรถ ปอ. สาย 59 ไปลงสนามหลวง ไปลงที่อู่จอดรถแล้วเดินอ้อมใต้สะพานตรงไปที่ถนนพระอาทิตย์ วัดแรกสำหรับวันนี้คือ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร คติประจำวัด "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง" นี่ขนาดไปเช้าแล้วนะ คนก็ยังคงเยอะเหมือนทุกปีเลย ที่วัดนี้ใจดีมีเลี้ยงกาแฟและอาหารด้วยล่ะ ลืมบอกไปว่าปีนี้การท่องเที่ยวทำเก๋แจกสมุดปั๊มตราแต่ละวัดด้วยล่ะเวลามาไหว้พระในแต่ละวัด








จากนั้นก็เดินต่อไปเพื่อไปวัดสระเกศ แต่หาไม่เจอเดินหลงเข้าซอยตรงสะพานผ่านฟ้าเดินตามคนอื่นมาเรื่อยๆ ก็เจอวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร คติประจำวัดคือ "วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป" วัดสุทัศน์ก็อยู่ตรงเสาชิงช้านั่นเอง








ออกจากวัดสุทัศน์จะไปไหนดีล่ะเนี่ย ยืนเลือกไม่ถูกกันอยู่ตั้งนาน ถามทางคนแถวนั้นตั้งสองรอบว่าวัดบวรอยู่ที่ไหน ก็ได้ความว่าวัดบวรอยู่ข้างวัดชนะสงคราม โอ้มายก๊อต ไม่เดินกลับไปแน่ๆ เอาวัดใกล้ๆ ก่อนแล้วกัน แต่เดินไปๆ มาๆ ก็เจอพระวิษณุ นารายณ์ ก็เอาซะหน่อย เครื่องไหว้เค้าก็แปลกๆ ดี ก็ทำตามคนอื่นเค้าไป



พอถึงกำแพงสีขาวใหญ่ก็เริ่มเหนื่อย ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลยแว๊บเข้าไปสวนสราญรมย์ก่อน บรรยากาศข้างในร่มรื่นดี เพราะมีต้นไม้เจอแถมสวยด้วยเพราะจัดเป็นซุ้มๆ นั่งเมื่อยกันได้สักพัก ก็ไปต่อดีกว่าเดี๋ยวไม่ทัน เลยเดินตามกำแพงสีขาวมาเรื่อยๆ ก็เจอวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์ คติประจำวัดคือ "ร่มเย็นเป็นสุข"







จากนั้นถัดจากวัดโพธิ์ไปก็เจอวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว คติประจำวัดคือ "เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย" วันนี้เปิดให้เข้านมัสการพระแก้วมรกตด้วยล่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงคน เยอะมากๆ เจอเรื่องขำๆ ของหลวงพ่อด้วยล่ะ ท่านแจกธนบัตรของหลวงพ่อคูณ แต่คนก็แย่งกันขอ ท่านเลยให้จัดแถว คนก็ไม่ยอมจัด ตอนแรกท่านบอกว่ามีร้อยใบ พอคนไม่เข้าแถวท่านว่าไม่แจกล่ะ หมดล่ะ หลวงพ่อคูนโทรมาบอกว่าอยากซื้อไปซื้อที่วัดหลวงพ่อคูน หลวงพ่อนี้เข้าข่ายมุสานะเนี่ย





จากวัดพระแก้ว เดินอ้อมไปก็ถึง ศาลหลักเมือง คนเยอะมากๆ ผูกผ้าสีกันแทบจะไม่รู้ว่าอันไหนคือหลักเมืองเลยล่ะ





หลังจากไหว้พระแล้ว เราก็เดินทางต่อมาที่ท่าเรือชื่อท่าช้างเพื่อลงเรือข้ามฟากมาที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดระฆัง คติประจำวัดคือ "ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ" ค่าข้ามเรือก็สามบาทโดยปกติ ตรงนี้ก็ได้ชมวิวแม่น้ำไปในตัว ปีนี้น้ำเยอะจัง





จากนั้นก็นั่งรถสองแถวคนละสิบบาทเพื่อมุ่งหน้าสู่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง คติประจำวัดคือ "ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน" ตอนแรกโอ๊ตบอกว่าเดินดูไหมเพื่อนระยะทางก็พอๆ กับย้อนกลับจากท่าช้างไปท่าเตียนนั่นแหละ พอได้ขึ้นรถขับมาถึงวัด เป็นไงล่ะเพื่อนใกล้ไหม ทางไกลมากขอแนะนำนั่งสองแถวนะถูกต้องที่สุดแล้ว




เข้ามาก็เจอเรื่องแปลกคือ มีคนล้อมต้นไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่า สาละ แล้วก็พากันตบมือดังๆ ใกล้ดอกไม้ ว่ากันว่ามันจะบานล่ะ แต่ไหงคราวนี้ไม่บานกันเลยล่ะ สงสัยเที่ยวดึกเมื่อคืนแน่ๆ จากรูปมันบานอยู่แล้วล่ะ




ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ผ้าป่าลอยฟ้า ที่จัดขึ้นทุกๆ ปีใหม่ไอเดียบรรเจิดมาก ดูแล้วแปลกดี



เมื่อชื่นชมสถาปัตยกรรมได้สักพักก็ต้องรีบไปต่อที่วัดกัลยาณนิมิตร คติประจำวัดคือ "เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี" ค่ารถสองแถวก็อีกสิบบาท ภายในวัดเหมือนกำลังบูรณะอยู่ เพราะสภาพทรุดโทรมลงไปเยอะ แต่คนเยอะทุกปี แถมวัดนี้ใจดีมีของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านทุกปี ปีนี้หลวงพ่อท่านแจกโปรเตอร์พระคาถาชินบัญชรล่ะ





จากนั้นเราก็นั่งรถย้อนกลับมาวัดอรุณเพื่อลงเรือข้ามฟาก เพราะว่าที่วัดกัลยาณนิมิตรไม่มีท่าเรือ คราวนี้เราเจอปัญหาล่ะ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร คติประจำวัด "เสริมสร้างความคิดอันเป็นศิริมงคล" อยู่ไหนหว่า แต่ด้วยความที่จำเจดีย์ได้ อ้าวมันคือเจดีย์ภูเขาทองนิหว่า ไม่ไหวแล้วถ้าเดินไปไม่รอดแน่ เลยนั่งสาย 44 ไปลงผ่านฟ้า แล้วเดินเข้าไปภูเขาทอง วัดสระเกตุจะอยู่เลยทางเข้าภูเขาทองไปอีก ตอนนี้คนเริ่มน้อยแล้วเพราะหกโมงเย็นแล้ว แต่บนภูเขาทองก็ยังมีคนเดินขึ้นไปอยู่นะ ตอนกลางคืนสวยมาก





จากวัดสระเกตุ เราก็เดินต่อมาที่ผ่านฟ้าเข้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตรอกข้าวสาร เพื่อมายังวัดชนะสงคราม แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอแยกก่อนสะพานให้เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปจนสุดจะเจอกับวัดบวรนิเวศวิหาร คติประจำวัดคือ "พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต" เป็นวัดสุดท้ายสำหรับวันนี้กว่าจะมาได้เค้าก็ปิดแล้วล่ะ เลยต้องกราบกันข้างนอกแทน







ก็เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ เวลาหนึ่งทุ่มตรงพอดี แต่ก็ยังหลงกันอีกรอบ เพราะเดินเข้าถนนตรอกข้าวสาร เดินไปเดินมามาโผล่ใต้สะพานบรมชนนีได้ยังไงก็ไม่รู้ ก็เดินกันอีกไปที่อู่จอดรถ ปอ. 59 กว่าจะถึงเล่นเอาปวดน่องกันไปเลยล่ะ แต่ก็อิ่มบุญนะจะบอกให้ มาดูหน้าตาของสมุดสะสมสแตมป์บัตรไหว้พระเก้าวัดกันดีกว่า แต่ที่เห็นปั๊มไม่ครบเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่นั่งแค่สี่โมงเย็น อันนี้ขอ Comment การท่องเที่ยวนิดหนึ่ง ไหนๆ ก็ทำงานแล้วน่าจะอำนวยความสะดวกถึงหกโมงเย็น เพราะหลายคนไปปั๊มหลังสี่โมงเย็นก็แห้วๆ ไปตามๆ กัน มีแต่คนถามหาโต๊ะการท่องเที่ยว เราเองก็ได้มาแค่เนี๊ยะเหมือนกัน



แต่วันนี้ด้วยความที่มีการวางระเบิดทั่วกรุงเทพฯ ทำให้วันนี้ตรอกข้าวสารเต็มไปด้วยทหารรักษาการณ์ เลยทำให้ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ออกมาเดินกันเป็นปกติ ที่น่าสงสารในวันนี้คงเป็นเหล่าทหารที่ต้องตรึงกำลังรักษาการณ์ กับตำรวจท่องเที่ยวที่ต้องคอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวไม่ว่าชาวไทย หรือชาวต่างชาติ

ว่างๆ ไม่รู้จะไปที่ไหน ก็ไปไหว้พระเก้าวัดเสริมศิริมงคลรับปีหมูทองกันนะจ๊ะ

ข้อมูลการเดินทางที่ถูกต้องเพื่อความสะดวก ควรไปตามลำดับต่อไปนี้ เริ่มที่วัดชนะสงคราม แล้วไปวัดบวรซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นย้อนกลับทางตรอกข้าวสารเพื่อไปต่อยังวัดสระเกศหรือวัดภูเขาทอง จากทางออกเดินทางซ้ายมาเรื่อยๆ ตรงป้อมแล้วเดินต่อไปวัดสุทัศน์ จากนั้นไปต่อที่วัดโพธิ์ วันพระแก้ว แล้วกลับมาท่าช้างข้ามฟากไปวัดระฆัง นั่งสองแถวต่อไปวัดอรุณ และวัดกัลยาณนิมิตร ตามลำดับ ส่วนใครที่ไม่อยากเดินให้ลำบาก ขสมก เค้ามีบริการรถ ขสมก ทัวร์เก้าวัด ก็ลองเข้าเว็บของ ขสมก ดูจะมีรายละเอียดจ้า

ส่วนวันนี้เราได้อธิษฐานว่า ขอให้เราและครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหาย จงพบเจอแต่ความสุข สมหวัง ร่ำรวยเงินทอง สุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน ตลอดปี 2007 นี้ด้วยเทอญ สาธุ .. อะรับบุญกันไปนะจ๊ะ







Create Date : 02 มกราคม 2550
Last Update : 4 กันยายน 2558 16:31:33 น.
Counter : 1550 Pageviews.

4 comments
ทริปอเมริกา #2 - ต่อเครื่องที่มะนิลา+ผ่านตม.แบบ fast trackที่นิวยอร์ค ฟ้าใสทะเลคราม
(18 เม.ย. 2567 18:15:13 น.)
สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
++ พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม ++ wicsir
(13 เม.ย. 2567 10:29:52 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
  
Sa Tuu kaaaaa

Happy New Year
โดย: law of nature วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:5:29:57 น.
  


สวัสดีปีใหม่ค่ะ

โดย: รักดี วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:9:49:40 น.
  








สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้คุณจขบและครอบครัวมีแต่ความสุข
โรคภัยไม่มี
มีโชคมีลาภมีเงินมีทอง
รวยๆ เฮงๆ ตลอดปีและก้อตลอดไปค่ะ


โดย: icebridy วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:11:50:58 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงค่ะ
โดย: jeab (annyjeab ) วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:9:49:55 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Patthanid.BlogGang.com

patthanid
Location :
ราชบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]

บทความทั้งหมด