เกี่ยวกับนามสกุลของไฟล์เพลงใน internet .. เรื่องที่ผมจะเอามาเล่าให้ฟังต่อไปนี้ จะบอกว่า คนส่วนใหญ่รู้กันอยู่แล้วครับ แต่มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ยังเข้าใจไม่ถูกต้องกันอยู่ เพราะมีคนมาถามผมหลายครั้งเหมือนกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็เอามาบอกกล่าวกันใน blog เลยก็แล้วกัน ที่ผมจะพูดคือ มีคนเข้าใจว่าไฟล์ .swf นั้นเป็นไฟล์เพลง ... ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่เลยครับ ไฟล์ swf นั้นย่อมาจาก Shockwave Flash (ที่มาที่ไปของคำนี้ เดี๋ยววันหลังผมมาเล่าให้ฟังครับ ว่า Flash เกิดมาได้ยังไง และทำไมเป็น Shockwave) ซึ่งแต่เดิมเลย จุดประสงค์ของการทำ Flash (เรียกสั้นๆ อย่างนี้นะครับ ง่ายกว่า) นั้น เป็นการวาดภาพในลักษณะของ Vector (งงคำว่า Vector กันอีกหรือเปล่าครับ .. ถ้างง ให้ลองเปิดไฟล์ Flash ที่เป็นการ์ตูนอะไรก็ได้สักอันใน IE นะครับ เปิดแบบเป็น swf เลยนะ ไม่ใช่เปิดด้วยเว็บ แล้วยืด IE เข้าๆ ออกๆ จะเห็นว่าภาพมันไม่แตก ไม่เสียเลย นั่นแหละ .. Vector) แล้วมาในยุคหลัง จึงเริ่มมีการใส่เสียงเพลงลงไปได้ เพื่อให้การนำไฟล์ Flash ไปวางไว้บนเว็บมีลูกเล่นมากขึ้น (ผมขอเรียกการเอาเพลง ไม่ว่าจะเป็น mp3 หรือ wma ไปใส่ใน Flash ว่า ... การ "ครอบ" ครับ) เอาล่ะ เรารู้แล้วว่าจริงๆ แล้ว Flash หรือ .swf เนี่ย มันคืออะไร แล้วทำไมคนหลายๆ คนจึงเข้าใจว่ามันคือไฟล์เพลง??? คงจะมีหลายปัจจัยครับ ที่ทำให้คนเข้าใจผิดกันอย่างนั้น ผมจะลองใล่ประเด็นเลยนะครับ 1. เพราะจะเอาเพลงไปวางไว้บนเว็บฟรี แต่เค้าห้ามวางไฟล์ .mp3 บางคนเลยเอา Flash มาครอบ mp3 ซะเลย 2. เพื่อป้องกันการขโมยไฟล์เพลง ป้องกันยังไง อย่างน้อยก็มีหน้ากากครอบเอาไว้ละครับ จริงๆ ตรงนี้ทำได้หลายแบบเลย ไว้วันหลังมาคุยกัน 3. ไม่ได้ป้องกันสมรภูมิรบอะไรเลย แต่เพื่อให้มีหน้ากากสวยงามเฉยๆ ฯลฯ .. (แปลว่าอาจจะมีเหตุผลอื่นอีก แต่ตอนนี้ผมยังนึกไม่ออก) แล้วคราวนี้ คนที่เค้าเอาไฟล์ mp3 หรือ wma ไปครอบด้วย swf เนี่ย เค้าจะเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจธรรมชาติของเว็บ ของอินเตอร์เนต คือถ้ามีการให้ฟังเพลงบนอินเตอร์เนต แล้วเอาไฟล์เพียวๆ ของ mp3 หรือ wma ใส่ลงไป คนก็ไม่ฟังกันพอดี เพราะขนาดมันค่อนข้างใหญ่ ดังนั้น ผู้ที่ทำ swf เพื่อให้เป็นไฟล์(ที่บรรทุก)เพลงที่ฟังกันบนเว็บ ก็จะทำการ Encode เพลงด้วย bitrate ต่ำๆ เพื่อให้ขนาดไฟล์มันเล็กลง เป็นผลทำให้เสียงจะห่วยสนิท เสียงแย่ บางเพลงเสียงเบสหายไปเลยก็มี นักร้องบางคนที่ร้องเหมือนแมวอยู่แล้ว ก็เหมือนจับแมวไปอยู่ในโอ่งแล้วขังเอาไว้เลย ดังนั้น เพลงที่ให้ฟังบนเว็บที่เห็นเป็น .swf จึงมีขนาดไฟล์ที่ค่อนข้างเล็ก แต่ก็อย่างที่บอกครับ ว่ามันไม่ใช่ไฟล์เพลง .. เป็นแค่ Container เท่านั้นครับ ตัว SWF มันบรรทุกไฟล์เพลงเอาไว้ มันจึงเล่นเพลงได้ แต่มันไม่ใช่ตัวเพลงครับ เรื่องที่จะบอกก็มีแค่นี้ล่ะครับ .. แฮก แฮก หมายเหตุ : การนำเพลงมาใส่ใน Flash สามารถอ่านได้ที่ blog ของคุณรำเพยครับ >> คลิกเพื่ออ่าน blog เรื่องใส่เพลงใน Flash << อ่านแล้วเหมือนจะเข้าใจ แล้วพออ่านไป อ่านไปแล้ว เหมือนตัวเองลงไปอยู่ในโอ่งแทน
555 งงเจ้าค่ะ ปล. bg สวยจังน้า ทรายซ้วยสวย น่าจะมีลูกบอลวางข้างๆ อีกซักลูก อิอิ โดย: cocoa butter วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:4:17:33 น.
อืมม ก็อย่างที่พี่เวอร์บอก คงเป็นเพราะเดี๋ยวนี้หลายๆคนเอาเพลงใส่แฟลชล่ะมั้ง คนเลยคิดว่า swf เป็นไฟล์เพลง
โดย: ทองมา วโรช ฤทธิ์ดล วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:9:53:27 น.
แห่ะๆ เวลาดูดเพลงมาลงก็มั่วไปหมดค่ะ เด๋ว swf เด๋ว ram เด๋วอะไรนักม่ะรู้ พอมั่วถูกทีก็เฮ! ค่ะ (เพราะม่ะรู้เรื่องอะไรเลย)กร๊ากกกกกก
ขอบคุณเฮียกึ่งที่สอนนะคะ โดย: ถั่วแดงเย็น วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:11:02:07 น.
เปลี่ยนbgอีกแร้วหรอคะพี่เวอร์....สวยดีค่ะ
แวะมาวิ่งเล่นค่ะ....ช่วงนี้มรึนๆ อ้ะค่ะ..อีคอมมัน ไม่รักดีน่ะ....แอบมีสปายเข้ามาคบหาดั้วะ..หุๆ อย่างงเซงงงเรยยย...ไปแระ...ไปกำจัดมาน ก่อง T_T.....แว๊บบบบ โดย: Mu_in_love (Mu_in_love ) วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:13:01:37 น.
กั๊กๆๆๆๆ มีคนบอกว่าไม่เข้าใจจริงๆด้วย เขียนตอนตีสามก็อย่างนี้แหละน้า ป๋มสรุปเป็นภาษาสอนหนังสือนะน้านะ
ฮะแฮ่ม ที่น้ากึ่งเค้าสาธยายมาน่ะยกตัวอย่างง่ายๆหน่อยก็เทียบแบบนี้แล้วกัน -รูปแบบไฟล์เสียงแบบต่างๆ เทียบเป็นอาหารหลากชนิด -browser แบบต่างๆ เทียบกับคนกินอาหาร บางคนชอบกินอย่างนึง ไม่กินอีกอย่างนึง ก็ประมาณนั้นแหละ -Flash file เทียบเป็นจานใส่อาหาร เพราะงั้นจาน (flash file) น่ะ ยังไงก็ใส่อาหาร(ไฟล์เสียงรูปแบบต่างๆ)มาให้คน(browser แบบต่างๆ) ถือเอาไปกินได้ไงคะ จบการอธิบายแบบต๊องๆของรำเพย พอใช้ได้มะน้ากึ่งฮับ โดย: รำเพย วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:18:14:42 น.
แหงบๆ บางคนกินอาหารจากหม้อจากกะทะได้
บางคนเลือกของกิน ต้องเอาใส่จาน ลืมตรงนี้ไปฮับ โดย: รำเพย วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:18:27:00 น.
อ่าาาา ไม่เข้าใจกันหลายคนแฮะ งั้นผมเอาข้อเปรียบเทียบมาเป็นตารางให้ดูกันเลยละกันนะครับ
ตารางแรกนี้ จะเป็นตารางที่แสดงว่าไฟล์ทั้งสามชนิดที่ผมพูดถึง มีชนิดของไฟล์เป็นอะไรบ้าง และตารางที่สองนี้จะพูดถึงขนาดไฟล์ที่เหมาะ และไม่เหมาะที่จะเอามาอยู่บนเว็บ จะเห็นว่าทั้ง MP3 และ WMA นั้น หากเป็นไฟล์เพลงที่ฟังบนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบปกติแล้วนั้น จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าจะเอาขึ้นเว็บ ก็ต้องมาทำการ Encode เสียใหม่ ให้มีขนาดลดลง ซึ่งขนาดที่ลดลงนี่แหละ สามารถที่จะเอาไปวางไว้บนเว็บได้เลย ซึ่งก็คงเห็นกันทั่วๆ ไปว่ามีไฟล์ MP3 หรือ WMA ที่สามารถ "ฟังได้เลย" บนเว็บเยอะอยู่เหมือนกัน และไฟล์ขนาดเล็กๆ ของ MP3 และ WMA นี่เอง ที่เป็นไฟล์ที่เค้าเอามาใส่ใน SWF เพื่อ "ครอบ" หน้ากาก หน้าตาอีกทีนึง ... นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมไฟล์ SWF ที่เป็นเพลง มีขนาดเล็กกว่าไฟล์ MP3 หรือ WMA (ที่เราเปิดฟังที่เครื่อง , ที่โหลดมา , ที่ซื้อมา) ... น่าจะช่วยขยายความเข้าใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ เพิ่มเติมอีกนิด ... ไฟล์เพลงที่ว่าเนี่ย มันเป็น "เพลง" เหมือนกัน แต่การจะนำไปใช้กับอะไร มันก็ต้องดูด้วย ก็เหมือนกับเราจะ Post รูปลงใน webboard แล้วถ้าเค้าบอกว่า รูปของเราขนาดไฟล์ใหญ่ไป เราก็ไปย่อไฟล์รูปใน Photoshop นั่นล่ะครับ .. แบบเดียวกันเลย สรุป - SWF ไม่ใช่ไฟล์เพลง - ขนาดไฟล์ SWF ที่เป็นเพลง (โดนครอบ) ที่เล็ก เพราะคนทำเค้าย่อไฟล์เพลง"จริง" ให้มันเล็ก ก่อนจะเอามาใส่ใน SWF - ไฟล์ MP3 หรือ WMA ก็ทำให้มันเล็กได้ โดยการ Encode ใหม่ และปรับ bitrate ในการ encode ให้ "คุณภาพต่ำ" ลงไป - ไฟล์ MP3 หรือ WMA ที่ใช้ฟังกันอยู่ที่เสียงดีๆ ไม่เหมาะกับการนำไปขึ้นเว็บ ถ้าจะเอาขึ้น ให้กลับไปดูข้อเมื่อกี้อีกครั้ง โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:18:52:46 น.
ขอเสริมมั่ง ไม่จำเป็นที่เพลงที่ฝังอยู่ในไฟล์ swf จะต้องมีขนาดเล็กเสมอไปนะกั๊บ ถ้าencode ให้Bitrateสูงๆ ก็จะได้คุณภาพดี ฟังเพราะเหมือนกัน (แต่ไฟล์ก็จะใหญ่ไปด้วย)
โดย: หมาร่าหมาหรอด วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:21:30:14 น.
พี่หมาพูดถูกอะ เพยตั้ง bitrate 8 กะให้เพลงมันเล็กๆ มันก็เล็กนะฮับ แต่ว่าฟังไม่ได้เลยฮับ
ตั้งไว้ 16 ก็พอไหว แต่ให้ดีต้องสูงกว่าน้านนนน โดย: รำเพย วันที่: 6 เมษายน 2548 เวลา:23:15:10 น.
ใช่แล้วครับ คุณหมาร่าพูดถูกครับ
การ Encode เพลงนั้น bitrate จะเป็นอัตราส่วนกันกับคุณภาพของเพลงครับ ปกติที่ผมทำจาก CD เพลงที่ซื้อมาไว้ฟังที่เครื่องคอมเนี่ย อย่างต่ำผมจะตั้งไว้ที่ 128 แต่ถ้าชุดไหนที่ชอบมากๆ จะตั้งไว้ที่ 160 หรือ 192 ครับ ไฟล์จะใหญ่มาก แต่่ว่าคุณภาพเสียงก็จะดีตามไปด้วยครับ โดย: กึ่งยิงกึ่งผ่าน วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:1:45:32 น.
ผมลองอัพบิตเรทถึง 300 กว่า
ปรากฏว่า ไม่ต่างจาก 192 เลย แถมเปลืองที่กว่าด้วย โดย: Shelling Ford` วันที่: 7 เมษายน 2548 เวลา:14:09:57 น.
|
บทความทั้งหมด
|
งง น้ากึ่งเขียนอะไร งง อย่ามาทำป๋มสับสนจิน้า