มุกเหลี่ยมเพชร





มุกดา...ตำรวจสาวผู้มากความสามารถ ถูกคุณแม่นัดบอดกับพัชระ...หนุ่มหล่อเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง สาวแสบอย่างหล่อนมีหรือจะยอม ในเมื่อเธอใช้สารพัดวิธีจัดการไล่ผู้ชายออกไปจากชีวิตได้หมดแล้ว คงไม่มีทางละเว้นผู้ชายคนนี้เช่นกัน ถ้าหากว่าจะไม่มีเรื่องการโจรกรรมเพชรอะดอเรลล่ามูลค่ากว่าห้าร้อยล้านเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องวุ่นๆกรุ่นความลับผสมกับการสืบสวนสไตล์อรพิมที่จะทำให้คุณหลังหักอีกครั้ง(รึเปล่า)....







บทนำ

ท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรีที่ไร้แสงจันทร์และแสงดาว ลมเย็นพัดผ่านมาบางเบาปะทะกับร่างสันทัดของผู้ชายสามคนที่ใช้ลวดสลิงโรยตัวลงมาจากดาดฟ้าของโรงแรมเวสต์มารีนอย่างเงียบกริบ ชุดดำที่ทุกคนสวมล้วนกลืนไปกับความมืด หน้าตาแต่ละคนถูกปกปิดด้วยหมวกผ้าสีดำซึ่งคลุมมิดชิดเหลือแค่ช่องสำหรับดวงตา จมูกและปาก

ทั้งสามคนหยุดเมื่อถึงชั้นสิบเก้า...ต่ำกว่าดาดฟ้าลงมาสองชั้น ชายคนหนึ่งใช้อุปกรณ์บางอย่างที่มีห่วงสำหรับยึดติดกับกระจกและใช้มีดพิเศษตัดกระจกรอบเจ้าอุปกรณ์นั้นเป็นวง ก่อนดึงมันหลุดออกมา เกิดเป็นช่องว่างขนาดตัวคนลอดเข้าไปได้ เขาปล่อยให้อีกสองคนเข้าไปก่อน ค่อยตามไปเป็นคนสุดท้าย เขาทิ้งลูกน้องคนหนึ่งไว้ เพื่อเฝ้าทางออก และคอยจัดการกับยามรักษาความปลอดภัยที่จะเดินตรวจตราบริเวณรอบๆนั้นทุกครึ่งชั่วโมง ส่วนอีกคนย่องตามเขาไปบนพื้นที่ปูพรมสีแดงโดยอาศัยแสงสีเหลืองนวลจากโคมไฟติดผนังนำทาง

ระหว่างทางพวกเขาช่วยกันจัดการกับกล้องวิดีโอวงจรปิดที่ติดอยู่บนเพดาน ด้วยการใช้รีโมทคอนโทรลที่เตรียมมา กดเลือกให้ภาพที่ส่งไปยังจอมอนิเตอร์หยุดนิ่ง ก่อนดึงสายไฟที่เชื่อมต่อจากตัวกล้องออกมาต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก โหลดภาพที่เตรียมไว้ป้อนเข้าไป และสั่งให้จอมอนิเตอร์แสดงภาพทางเดินว่างเปล่าที่มีตัวเลขแสดงเวลาบนจอภาพเดินต่อไปเรื่อยๆแทน ก่อนจะพากันวิ่งอย่างเงียบกริบไปจนสุดทางเดิน

ชายคนแรกส่งสัญญาณมือให้คนที่ตามมาหยุดดูต้นทาง ส่วนตัวเขาใช้กุญแจผีไขประตูไม้บานใหญ่ซึ่งสลักลวดลายเป็นรูปเถากุหลาบปลดล็อกอย่างง่ายดาย เมื่อเข้าห้องได้ ทั้งคู่แยกย้ายกันไปจัดการกับกล้องวงจรปิดในห้องเช่นเดียวกับด้านนอก ก่อนมายืนกวาดตามองไปรอบห้องสี่เหลี่ยมโล่งกว้างที่ค่อนข้างมืด มีเพียงแท่นทรงสี่เหลี่ยมสีดำสูงราวเอวตั้งเอาไว้ตรงกลาง ส่วนบนสุดของแท่นนั้นครอบเอาไว้ด้วยกระจกใสทรงสี่เหลี่ยมสูงเกือบครึ่งฟุต ติดไฟดวงเล็กๆไว้ที่มุมทั้งสี่ ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นของที่ส่งประกายระยิบระยับล้อแสงไฟที่สาดส่องอยู่บนแท่นนั้นได้เป็นอย่างดี

“สวยจริงๆ...” เสียงชายคนหนึ่งพึมพำออกมาอย่างลืมตัว ทำท่าจะผวาเข้าหาแท่นกลางห้องนั้น หากคนที่เป็นผู้นำมาตลอดคว้าแขนอีกฝ่ายเอาไว้

“จะทำอะไรวะไอ้โก้...อย่าลืมสิว่าในห้องนี้ยังมีสัญญาณอินฟาเรดติดตั้งไว้อีก ขืนเดินเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวพวกแม่..ง ได้แห่กันมาหมดหรอก” เอกกระซิบเตือนเสียงเข้ม

“โทษทีพี่ ฉันลืมตัวไป ไม่คิดว่าของจริงจะสวยกว่าที่เห็นในรูปขนาดนี้” คนถูกดุขอโทษเสียงอ่อย หากสายตายังไม่อาจละจากประกายแพรวพราวของเครื่องประดับที่ตั้งโชว์อยู่กลางห้องได้

“มีสติกลับมาก็ดีแล้ว เอ็งยืนอยู่ตรงนี้แหล่ะ ข้าจะเข้าไปเอาเอง”

ลูกพี่หยิบแว่นอินฟาเรดจากกระเป๋าเล็กๆที่คาดไว้ตรงเอวออกมาสวม ทำให้เห็นเส้นสีแดงพาดผ่านจากผนังห้องด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ตัดกันไปตัดกันมายิ่งกว่าใยแมงมุม เขาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก้าวขาข้ามเส้นสีแดงที่เห็นเส้นแล้วเส้นเล่าอย่างระมัดระวัง กล้ามเนื้อยืดหยุ่นที่อาศัยความชำนาญจากการฝึกฝนมาหลายวัน ทำให้เขาผ่านเข้าไปถึงใจกลางของลำแสงพวกนั้นได้ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที

เขาถอดแว่นอินฟาเรดออก กดรหัสสิบหกหลักที่จำได้ขึ้นใจบนแผงควบคุมที่อยู่ข้างแท่นสีดำนั้น ทำให้ฝาด้านบนของกระจกใสที่ครอบอยู่บนแท่นเปิดออก

ประกายระยิบระยับจากของที่วางอยู่บนแท่นนั้นดูเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม

Adorella…อะดอเรลล่า !

เพชรสีชมพูรูปหยดน้ำที่สวยที่สุดในโลก หนักกว่ายี่สิบกะรัตและมีมูลค่ากว่าห้าร้อยล้านบาท ประดับอยู่บนสร้อยทองคำขาวล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดเล็กๆนับสิบ ช่างเย้ายวนชวนให้ลุ่มหลงเหลือเกิน

เอกใจเต้นแรง ความรู้สึกอยากครอบครองเข้าครอบงำจิตใจจนเขาแทบจะหยิบมันขึ้นมาไว้ในมือทันที หากสำนึกที่ยังเหลืออยู่น้อยนิดเตือนสติเอาไว้ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบก้อนหินก้อนหนึ่งซึ่งมีน้ำหนักเท่ากับสร้อยเพชรนั้นออกมา ก่อนสับเปลี่ยน วางแทนที่สร้อยคอเส้นนั้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าเครื่องเซ็นเซอร์ที่ใช้จับการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของเครื่องเพชรบนแท่นนั้นไม่อาจจับได้ถึงความผิดปกติ จึงไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังห้องยามรักษาความปลอดภัย

เอกถอนใจยาว ยัดสร้อยเพชรใส่ถุงกำมะหยี่สีดำที่เตรียมมา ก่อนยัดถุงนั้นใส่กระเป๋าตรงเอวอีกที จากนั้นจึงสวมแว่นอินฟาเรดและพาตัวเองฝ่าสัญญาณเตือนภัยที่มองไม่เห็น ออกไปสมทบกับลูกน้องที่ประตูห้อง

“รีบไปกันเหอะ ไม่รู้ป่านนี้ไอ้ตุ้ยเป็นยังไงบ้าง” หัวหน้าทีมสั่ง วิ่งนำย้อนกลับไปยังหน้าต่างที่ลอบเข้ามา พบว่า ณ ที่นั้นนอกจากตุ้ย...ผู้ร่วมงานอีกคนแล้วยังมีร่างพนักงานรักษาความปลอดภัยนอนคอพับคออ่อนอยู่อีกสองคน

“ไงวะ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า” เอกถาม พอเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าก็รีบชวนให้ไปจากที่นั้น

“ดี ! งั้นพวกเรารีบไปกันก่อนที่จะมีใครโผล่มาอีก”

พูดจบ เขาปีนผ่านช่องกระจกที่ถูกตัดออกไปเป็นแรก ยึดร่างตัวเองไว้กับลวดสลิง กดปุ่มที่เข็มขัดทำให้ลวดยืดยาว หย่อนร่างของเขาลงไปยังพื้นเบื้องล่างโดยมีลูกน้องอีกสองคนตามไปติดๆ

ทว่าเพียงปลายเท้าของเขาแตะพื้น อะไรบางอย่างกลับร่วงลงมากองอยู่แทบเท้า

เอกกะพริบตา จ้อง ‘ร่าง’ ที่นอนแน่นิ่งห่างจากเขาไปไม่กี่คืบอย่างตกตะลึง ไม่ได้รู้สึกเลยว่าทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยเศษเนื้อและเลือดของเจ้าสิ่งนั้นจนเปรอะไปหมด

“ตุ้ย !” เอกคราง น้ำเสียงแทบจะไม่พ้นริมฝีปาก

“ไอ้ตุ้ย !” โก้เพิ่งทิ้งตัวลงมาถึงพื้น ส่งเสียงร้องอย่างตระหนก ยืนอ้าปากค้างมองร่างที่มีคอบิดผิดรูปดวงตาเบิกค้างและกะโหลกศีรษะแตกมีเศษวุ้นขาวๆกระจายเกลื่อนพื้นอย่างตกใจ

“มันตกลงมาได้ยังไงวะ” พอหายตกใจ เอกเงยหน้ามองไปด้านบน พบว่าหน้าต่างบนตึกทุกบานปิดสนิท รอบด้านเงียบกริบ ไร้วี่แววของพนักงานรักษาความปลอดภัย “หรือว่ามันใส่ลวดคล้องกับเข็มขัดไม่ดี เลยร่วงลงมา”

“จะยังไงก็ช่างเหอะ พวกเรารีบไปกันดีกว่า เสียงมันตกกระทบพื้นดังขนาดนั้น เดี๋ยวได้มีคนแห่มาดูแน่” โก้ชวนเสียงสั่น เหลียวมองรอบตัวอย่างระแวง

“เออ...เอ็งพูดถูก พวกเรารีบไปกันดีกว่า” เอกว่าพลางปลดลวดสลิงออกจากเข็มขัดและวิ่งนำโก้หนีกลับไปที่รถตู้สีขาวซึ่งจอดซ่อนอยู่ไม่ไกล โดยไม่สนใจร่างไร้วิญญาณของเพื่ือนร่วมทีมอีก

พอขับรถพ้นจากโรงแรม ทั้งเอกและโก้ค่อยหายใจโล่งขึ้น หากยังไม่มีใครเอ่ยปาก ทั้งคู่นั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเองเงียบๆ กระทั่งโก้เห็นรถกำลังมุ่งหน้าไปทางดินแดง ไม่ได้ไปพระโขนงตามที่ตกลงกันไว้ทีแรก เขาทำหน้าเลิกลั่ก มองถนนแล้วหันหน้ามองลูกพี่อย่างแปลกใจ

“พี่เอกจะไปไหน ทางนี้ไม่ใช่ทางไปที่นัดพบนี่”

“ใช่...ข้าจะไม่ไปตามนัด แต่จะเอาเพชรไปขาย เพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้น่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน เรื่องอะไรจะเอาไปแลกกับเงินแค่สามล้านวะ”

“แต่ถ้ามันรู้ว่าพวกเราหักหลังแล้วไปแจ้งความ...” โก้ท้วง น้ำเสียงลังเล

“เอ็งจะกลัวอะไร มันเป็นคนว่าจ้าง ถ้าแจ้งความ มันก็ติดตะรางด้วยเหมือนกัน” เอกไม่สนใจ แถมเหยียบคันเร่งมากขึ้น ให้รถพุ่งทะยานไปตามถนนโล่งๆเบื้องหน้า ตั้งใจจะออกจากกรุงเทพฯให้เร็วที่สุดเพื่อไปหาที่กบดาน รอจนเรื่องเงียบ ก่อนหาทางขายเพชรที่ขโมยมา

“เอ็งคิดดูนะ ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว ถ้าข้าเอาเพชรไปขายได้มาร้อยล้านจริง เอ็งกับข้าเอาไปคนห้าสิบล้าน ห้าสิบล้านเชียวนะโว้ย...” เอกตะล่อม หน้าตากระหยิ่ม หารู้ไม่ว่าได้จุดประกายความคิดบางอย่างให้กับคนข้างกาย

ห้าสิบล้านเหรอ...ถ้าได้ห้าสิบล้านจริง เขาก็รวยแล้วสิ....

โก้ตาเป็นประกาย ความกังวลหายวับไป เหลือแต่ภาพเพชรสีชมพูที่ส่องประกายระยิบระยับล้อแสงไฟกับเงินห้าสิบล้านที่กำลังจะลอยมา

แต่จะว่าไป...ถ้าเขาเป็นเจ้าของเพชรคนเดียว เขาไม่จำเป็นต้องแบ่งเงินให้ใครไม่ใช่เหรอ...

ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ปรายตามองคนขับที่ยังขับรถไปยิ้มกริ่มไปด้วยสายตาอ่านไม่ออก


***********************

จบบทนำ





บทที่ 1

หนึ่งเดือนก่อน

มุกดาลอบระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ระวังไม่ให้สตรีข้างกายซึ่งยังพูดกับเธอไม่หยุดตั้งแต่เข้ามานั่งในร้านอาหารแห่งนี้จับได้ ดวงตากลมโตสีนิลเหลือบมองผ่านประตูกระจกใสไปยังสระน้ำกลางสวนซึ่งมีดอกบัวสีชมพูจางกำลังบานอวดโฉมโชว์เกสรสีเหลืองนวลท่ามกลางใบบัวสีเขียวอย่างเบื่อหน่าย

เฮ้อ ! ไม่รู้ว่าต้องทนมานั่งกินข้าวกับผู้ชายแบบนี้อีกกี่ครั้งแม่ถึงจะพอใจ...

รู้งี้...ไม่กลับมาพักร้อนที่บ้านซะก็ดีหรอก...

หญิงสาวคิดเซ็งๆ กระนั้นใบหน้ารูปไข่อันมีเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักก็ยังประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆแถมยังทำท่าตั้งอกตั้งใจฟัง ผงกศีรษะรับ เข้าจังหวะกับเสียงสนทนาของผู้เป็นมารดาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะจนคนพูดไม่มีโอกาสรู้ตัวเลยว่าสิ่งที่นางกำลังพูดนั้นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาลูกสาวออกไปได้ภายในเวลาไม่ถึงเศษเสี้ยววินาที

“....เขาเป็นถึงกรรมการผู้จัดการใหญ่ของร้านสตาร์ไดมอนด์ ดูแลกิจการของครอบครัวจนสามารถขยายสาขาไปยังจังหวัดใหญ่ๆทั่วประเทศและยังมีตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศอีก แม่เจอเขาแล้ว ท่าทางเอาการเอางาน หน้าตาหล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังฮอลลีวู้ดซะอีก มุกเห็นแล้วจะต้องชอบแน่ๆ....”

เสียงอ่อนๆของประไพยังดังผ่านหูไม่ขาดสาย หากมุกดาไม่ใส่ใจจะฟังสักเท่าไรเพราะเธอฟังมารดาซึ่งเป็นปลื้มกับคู่ดูตัวคนนี้มากพูดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบรอบจนเธอแทบจะท่องได้ทุกคำอยู่แล้ว

“....คนนี้ดีกว่าทุกคนที่แม่เคยแนะนำ เขาไม่เจ้าชู้ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวเตร่....”

ได้ยินสรรพคุณอันเลอเลิศของคู่ดูตัวแล้ว คนฟังลอบกลอกตา ส่ายหน้าคนเดียว

คุณสมบัติอย่างนี้สาวๆน่าจะตอมกันเกรียว ไม่น่าจะต้องให้พ่อแม่จัดการหาคู่ให้ ไม่รู้ว่าตานี่มีอะไรผิดปกติแอบแฝงอยู่รึเปล่า ถึงได้อยู่เป็นโสด ไม่มีแฟนจนอายุสามสิบกว่า

หรือว่าเขาเป็นเกย์ !

มุกดาขมวดคิ้ว ก่อนยกมุมปากขึ้นน้อยๆ

ที่จริงถ้าเขาเป็นเกย์ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้มีข้ออ้างสลัดเขาทิ้งเหมือนคนอื่นๆ

หญิงสาวอมยิ้ม ก่อนปั้นหน้าเฉย ถอนสายตาจากดอกบัวสีชมพูหวานกลับเข้ามาในร้านอาหารที่ดัดแปลงมาจากบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่

ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยค่อนข้างลึกและคดเคี้ยวยิ่งกว่าเขาวงกต คนไม่รู้จักจริงๆคงหาไม่เจอ ดีที่มารดาของเธอเคยมาแล้วจึงนำทางมาได้ถูก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมต้องนัดกันในที่ลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ แต่พอได้เห็นสวนเขียวๆที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ให้บรรยากาศร่มรื่นในอาณาเขตร้านแล้วเธอก็เข้าใจและเปลี่ยนเป็นชอบใจแทน

ยิ่งได้เข้ามาในตัวบ้าน เห็นไอเดียในการจัดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องอาหารให้เป็นห้องอาหารสำหรับแขกเลือกนั่งรับประทานอาหารได้ตามอัธยาศัย เธอก็ยิ่งชอบมากเข้าไปใหญ่

โต๊ะอาหารที่เธอนั่งตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ผนังห้องทาสีส้มอ่อน มีเก้าอี้นวมสีเขียวตองพร้อมกับหมอนอิงสีส้ม ตัวโต๊ะเป็นกระจกสี่เหลี่ยมใสตั้งอยู่บนขาโครเมี่ยม ผนังด้านหนึ่งมีทีวีจอแบนสี่สิบสองนิ้วติดกำแพง อีกด้านเป็นระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกใสเห็นสวนและสระน้ำด้านนอก ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องนั่งเล่น

“ลองน้ำมะตูมดูสิ หอมหวานชื่นใจจริงๆ”

เสียงมารดาชวน ทำให้คนที่คอยแต่ผงกหัวทำท่ารับฟังมาตลอดรู้สึกตัว เลิกทำตัวเหมือนเครื่องรับฟังที่ดีแล้วส่งยิ้มรับคำ ก้มหน้าดูดน้ำสีน้ำตาลอ่อนในแก้วอย่างว่าง่าย ขณะเดียวกันก็ถือโอกาสเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเรือนทองฝังเพชรที่มารดาซื้อมาฝากตอนไปเที่ยวอิตาลี

เที่ยงสิบห้าแล้ว....ยังไม่มาอีก คนอะไรไม่รักษาเวลาซะบ้างเลย

แอบบ่นแล้ว มุกดาก็ชะงัก หัวใจเต้นผิดจังหวะไปนิด เมื่อเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับผู้ชายตัวโตที่กำลังเดินตามหลังผู้หญิงวัยกลางคนในชุดผ้าไหมสีม่วงเข้าพอดี

พัชระเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี สะดุดตาสาวอย่างที่ประไพคุยไว้จริงๆ เขาหล่อระดับเทพ เข้าขั้นเป็นพระเอกหนังฮอลลีวู้ดได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นเรือนร่างสูงโปร่ง ท่าทางสง่างามราวกับเจ้าชาย หรือใบหน้าคมเข้มกระชากใจสาว เสียแต่ว่าใบหน้าที่ให้ความรู้สึกเข้มแข็งพร้อมลุยทุกสถานการณ์นั้นกลับเคร่งขรึม ริมฝีปากบางเฉียบปราศจากรอยยิ้ม แถมดวงตายังคมกริบแลประดุจเหยี่ยวกำลังจะล่าเหยื่อเสียอีก ทำให้ความหล่อ มีเสน่ห์ถูกทอนลงไป เหลือทิ้งไว้แต่ความรู้สึกครั่นคร้าม เฉียบขาด น่ายำเกรง

...ท่าทางน่ากลัว หน้าตาไม่รับแขกแบบนี้เอง สาวๆถึงได้วิ่งหนีแทนที่จะวิ่งไล่จับ

“สวัสดีค่า คุณประไพ” เสียงกังวานใสของสตรีวัยไล่เลี่ยกับมารดาของเธอดังขึ้น

คนที่กำลังแอบวิจารณ์หนุ่มตัวโตตรงหน้าจึงละสายตาจากเขามาที่เจ้าของเสียงแทน เห็นดวงหน้ากลมประกอบด้วยผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวยกำลังส่งยิ้มกว้างให้เธอกับประไพ รอยยิ้มที่แผ่กระจายไปถึงดวงตาซึ่งปัดมาสคาร่าจนขนตางอนยาวเป็นแพหนา ทำให้คนที่เห็นอดยิ้มตอบไม่ได้

ดูเหมือนแม่กับลูกชายจะนิสัยต่างกันราวฟ้ากับดิน มุกดาคิดขำๆ

“สวัสดีค่ะคุณมรกต สวัสดีจ้ะเพชร” ประไพทักทายสตรีร่างบางตรงหน้าก่อนรับไหว้ชายหนุ่มที่เดินตามมา

“นั่นคงเป็นหนูมุกสิคะ แหมหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ” มรกตยิ้มทัก นั่งลงข้างกายประไพ ทำให้ลูกชายต้องนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างมุกดา

“ค่ะ...มุกดาลูกสาวของดิฉันเอง...” คนเป็นแม่แนะนำ หน้าตายิ้มแย้ม

มุกดารีบยกมือไหว้มรกตและพัชระพร้อมส่งยิ้มหวานให้ ก่อนรอยยิ้มจะจางลง เมื่อเห็นใบหน้าเรียบเฉยของผู้ชายตัวโต

คนอะไร...จะยิ้มให้หน่อยก็ไม่ได้ สงสัยหน้าคงถูกโบกปูนเอาไว้ มุกดาค่อนแล้วหันกลับไปให้ความสนใจมรกตซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ

“ได้ยินคุณประไพว่าหนูมุกเรียนอยู่ที่อเมริกาหรือจ๊ะ”

“ค่ะ มุกเรียนการโรงแรมอยู่ค่ะ แต่ไม่ได้เรียนการโรงแรมตั้งแต่แรกหรอกนะคะ มุกเริ่มจากเรียนแฟชั่นดีไซน์ก่อน แต่เรียนไปแล้วไม่ค่อยชอบท่าไหร่ เลยเปลี่ยนไปเรียนทำอาหารแทน แต่ก็ไม่เวิร์คอีก” หญิงสาวแสร้งนิ่วหน้า ถอนใจอย่างอ่อนใจ “หลังจากเปลี่ยนไปเรียนอีกหลายอย่าง ในที่สุดก็มาจบที่การโรงแรมนี่แหล่ะค่ะ”

มรกตทำตาปริบๆ ไม่คิดว่าหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมุกดาจะเรียนไม่เอาไหนแบบนี้ ขณะที่พัชระเพียงขมวดคิ้วมองหน้าคนพูด ไม่ออกความเห็น

ประไพที่เจอ ‘มุก’ ไล่หนุ่มของลูกสาวแบบนี้มาหลายทีแล้วรีบขัดยิ้มๆ

“ลูกผู้หญิงจะให้เรียนสูงๆไปทำไมคะ อีกหน่อยแต่งงานไปก็แค่คอยดูแลบ้านดูแลสามี ไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาสักเท่าไหร่ เอาแค่ว่านิสัยใจคอเข้ากันได้ดี มีความรับผิดชอบดีกว่า อีกอย่างดิฉันว่ายายมุกเรียนมาอย่างละเล็กอย่างละน้อยแบบนี้ก็ดีแล้ว พอจบมาจะได้ทำป็นหลายอย่าง ถึงจะไม่เชี่ยวชาญแต่นับว่ามีความรู้อยู่บ้าง”

ข้อแก้ตัวของมารดาทำเอามุกดาอึ้ง หัวเราะไม่ออก ไม่คิดว่าแม่จะหาเหตุผลข้างๆคูๆถูไถไปได้ เจ้าตัวจึงได้แต่แกล้งปั้นหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ช่วยเลื่อนจานทอดมันที่พนักงานประจำร้านนำมาเสิร์ฟไปตรงหน้าชายหนุ่ม เพื่อให้มีที่ว่างพอสำหรับวางจานอาหารที่เหลือ

รอจนพนักงานประจำร้านตักข้าวใส่จานให้ทุกคนและเดินจากไป มรกตจึงพูดบ้าง

“จริงอย่างคุณประไพพูดนะเพชร แม่ว่าแค่นิสัยใจคอเข้ากันได้ดี ลองๆคบหากันไปดูก่อน เรื่องเรียนเรื่องเล็ก”

“คุณมุกกลับมาเยี่ยมบ้านหรือครับ” พัชระไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ หากชวนหญิงสาวคุยเรื่องอื่น

“มุกกลับมาเยี่ยมบ้านสองเดือนค่ะ ปลายเดือนหน้าจะกลับเมกาไปเรียนต่อ”

คำบอกเล่าของเธอทำให้ท่าทางเคร่งเครียดของคนถามคลายลง มุกดาคาดว่าอีกฝ่ายคงไม่เต็มใจจะมานัดบอดกับเธอเหมือนกัน ถึงได้ทำหน้าบอกบุญไม่รับ ตั้งป้อมวางท่าขู่เธอแบบนี้

“ถึงจะกลับไปเรียน แต่เดี๋ยวนี้การสื่อสารไร้พรมแดนนะจ๊ะ” ประไพรีบเสริม มรกตพยักหน้ารับ เห็นด้วยเต็มที่

“ถ้ายังไงระหว่างอยู่เมืองไทย ให้เพชรรับหนูไปกินข้าวดูหนังบ้างดีมั้ย เห็นคุณประไพว่าหนูไม่ค่อยมีเพื่อนที่นี่เท่าไหร่” มรกตช่วยปูทาง หวังสานสัมพันธ์ระหว่างลูกชายกับมุกดา

“จะเป็นการรบกวนคุณพัชระเปล่าๆ...” มุกดาทำเสียงอ่อย แสร้งเหลือบตามองคนหน้าขรึมข้างกายอย่างเกรงใจ หากในใจหวังเต็มที่ให้อีกฝ่ายปฏิเสธ

“รบกงรบกวนอะไรกัน เพชรเต็มใจอยู่แล้ว” คนเป็นแม่ออกรับแทนลูกชายเสร็จสรรพ ทั้งยังเอื้อมมือไปสะกิดแขนลูกชายให้ช่วยเออออตามด้วย

“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมยินดี” ชายหนุ่มตอบเสียงนุ่ม หากใบหน้าราบเรียบจนคนฟังไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายยินดีจริงหรือแค่รับคำไปแกนๆ

เฮ้อ....ดันเจอผู้ชายตามใจแม่ สงสัยเธอต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องชิ่งหนีอีกแล้วสิ...

มุกดาคิดอย่างหงุดหงิด หากริมฝีปากกลับคลี่ยิ้ม ตอบรับเสียงหวาน

“ดีเหมือนกันค่ะ มุกอยากจะซื้อเสื้อผ้าใหม่อยู่พอดี กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วร้อนเหลือเกิน เสื้อผ้าที่เอามาด้วยดูจะไม่ค่อยเหมาะ คุณพัชระจะได้ช่วยมุกเลือก” หญิงสาวเริ่ม ‘หาเรื่อง’ ให้อีกฝ่ายสลัดเธอทิ้ง เพราะรู้อยู่ว่าผู้ชายรายไหนรายนั้น ไม่ชอบเดินตามผู้หญิงที่เขาไม่ได้สนใจไปช็อปปิ้งหรอก

และได้ผล เมื่อเธอเห็นอีกฝ่ายลอบถอนหายใจเบาๆ ทำเอาเธอแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ ต้องรีบก้มหน้า เสตักเต้าหู้ทรงเครื่องเข้าปากกลบรอยยิ้มบนริมฝีปาก

“พาหนูมุกไปช็อปปิ้งเสร็จแล้ว เพชรพาน้องไปชมร้านของเราด้วยสิ เผื่อหนูมุกอยากจะซื้อแหวนหรือสร้อยเพชรไปใส่เล่นบ้าง” มรกตสั่งลูกชาย

“ถ้าไปแล้ว มุกช่วยเลือกเครื่องเพชรมาให้แม่สักชุดนะ อาทิตย์หน้าแม่ต้องไปงานแต่งงานลูกสาวเพื่อน จะได้ใส่ไปร่วมงานพอดี” ประไพช่วยเสริมเป็นลูกคู่

“ได้ค่ะ มุกจะเลือกให้แม่สักชุดสองชุด” หญิงสาวรับคำเป็นมั่นเหมาะ แสร้งทำไม่รู้เรื่องที่มารดากับมรกตช่วยกันต้อนหน้าต้อนหลัง หาโอกาสให้เธอกับพัชระสนิทสนมกัน

จากนั้น ประไพนั่งคุยกับมรกตเบาๆ ทิ้งให้มุกดาคุยกับพัชระไปเรื่อย หญิงสาวสรรหาเรื่องความสวยความงามและแฟชั่นมาคุยกับชายหนุ่มโดยไม่สนใจท่าทีเบื่อหน่ายของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาชัดเจน เรียกได้ว่าเธอแทบจะเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวตลอดการรับประทานอาหาร ก่อนตบท้ายด้วยการนัดให้ชายหนุ่มจะมารับเธอไปช็อปปิ้งในวันเสาร์ที่จะถึง

“นัดกันแล้ว อย่าลืมแลกเบอร์กันนะ มีอะไรจะได้โทรคุยกันได้สะดวก” มรกตกำกับยิ้มๆ มองมุกดาอย่างพอใจ

“มุกบอกเบอร์ไปก่อนสิจ๊ะแล้วค่อยให้เพชรโทรกลับจะได้มีเบอร์เก็บไว้ในเครื่องทั้งคู่” ประไพสะกิดลูกสาวที่เพิ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยืนอยู่ข้างตัวเธอ

มุกดาบอกเบอร์โทรศัพท์มือถือให้พัชระและรอจนชายหนุ่มโทรกลับตามคำสั่งมารดา ก่อนเอ่ยปากล่ำลาอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นมุกไปก่อนนะคะ เจอกันวันเสาร์ค่ะ” หญิงสาวย้ำถึงนัดเดทของเธอกับเขาอีกครั้งพร้อมยกมือขึ้นไหว้ลามรกตและพัชระ

“ครับแล้วเจอกัน” ชายหนุ่มรับไหว้และหันไปลาประไพบ้าง

มุกดาเดินตามมารดาออกไปอย่างสงบเสงี่ยม ใบหน้าแย้มยิ้มอ่อนหวาน ไม่บ่งเลยสักนิดว่าเจ้าตัวกำลังเซ็งอย่างหนัก

จะไม่ให้เซ็งได้ยังไง ในเมื่อที่แล้วมา เธอจะสลัดคู่ดูตัวได้ภายในนัดครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวโนเนะ น่าเบื่อ โง่เง่า หรือซุ่มซ่ามจนฝ่ายชายทนไม่ได้ แต่ครั้งนี้ดูจะไม่ได้ผล เพราะท่าทางฝ่ายชายจะเกรงอกเกรงใจมารดาของเขาเหลือเกิน เขาคงไม่กล้าขัดใจแม่ เป็นฝ่ายบอกปัดเธอก่อนแน่

หญิงสาวถอนใจยาว หากดวงตากลมโตจะเป็นประกายมุ่งมั่น

แต่เอาเหอะ เธอจะลองเล่นตามน้ำไปสักระยะแล้วค่อยหาทางชิ่งหนีเขาทีหลัง ให้มันรู้ไปสิ..ว่าคนอย่างมุกดาจะเอาตัวรอดจากนัดบอดครั้งนี้ไม่ได้ !

****************************

ติดตามต่อได้ในหนังสือค่ะ


TOP







Create Date : 29 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 20:41:17 น.
Counter : 1677 Pageviews.

34 comments
  
ตามมาจาก web โน้น มาสวัสดีค่ะ
โดย: นิว IP: 61.213.181.82 วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:07:34 น.
  
เนื้อเรื่องสนุกแล้วปกยังสวยมากอีก รับรองต้องซื้อมาเก็บไว้อ่านแน่นนอนค่ะ
โดย: chattha IP: 10.20.93.158, 203.146.104.42 วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:29:08 น.
  
ชอบค่ะชอบ นางเอกเป็นคนในเครื่องแบบ อิอิ
แล้วจะไปหามาอ่านนะคะ วันก่อนไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ ยังไม่เห็น เดี๋ญวพรุ่งนี้ไปร้านซีเอ็ด
โดย: เรือไฟ วันที่: 8 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:12:39 น.
  
อ่านแล้วค่ะ ขอบอกว่าสนุกมากค่ะ
โดย: laddaler IP: 203.170.19.2 วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:50:20 น.
  
ไปสอยมาอ่านจบแล้วค่ะ สนุกจนวางไม่ลงเลย รอเรื่องใหม่อยู่นะคะ
โดย: กาแฟเย็น IP: 202.151.7.30 วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:09:32 น.
  
ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคะ


ปล. ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ตอบ แต่แอบแวะเข้ามาดูบ่อยๆค่ะ เพราะงั้นมีอะไรทิ้งเม้นท์ไว้ได้เลยค่า

^___________^
โดย: อรพิม วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:19:01:12 น.
  
อยากอ่านเรื่องเก่าๆ ค่ะ จะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ
โดย: kat IP: 58.137.190.243 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:39:48 น.
  
ลองถามไปที่สนพ.นะคะ ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังมีอยู่รึเปล่า
โดย: อรพิม วันที่: 2 พฤศจิกายน 2553 เวลา:19:30:15 น.
  
Got all your books; love your writing.
What and when for the next story ka?
Going back home next year in Feb, hope to buy more books...
love
โดย: patcharee IP: 72.70.244.59 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:02:16 น.
  
เรื่องใหม่น่าจะออกสักต้นปีหน้าค่ะ เพราะตอนนี้กำลังตรวจทานต้นฉบับอยู่ ถ้าเสร็จเร็วก็น่าจะส่งให้บอกอได้ภายในปลายเดือนนี้ อย่างช้าไม่เกินปลายเดือนหน้า

ถ้ายังไงมาอัพเดทข่าวๆคราวหนังสือเล่มใหม่ได้ในบล็อกนะคะ
โดย: อรพิม วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:09:55 น.
  
สอยมาเรียบร้อยค่ะ มุกดา น่ารักมากค่ะ อ่านไปยิ้มไป
โดย: แสนดี IP: 61.90.100.205 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:27:03 น.
  
ถ้าชอบแนวนี้ คิดว่าคุณแสนดีน่าจะชอบเรื่องวิญญาณป่วนรักเหมือนกันค่ะ อดใจรอนิดนะคะ
โดย: อรพิม วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:40:37 น.
  
ขอถามคุณอรพิมว่า ค่ายเป่าจินจงจะทำเรื่อง มุกเหลี่ยมเพชร จริงเหรอป่าวคะ
โดย: หนูดี IP: 182.53.35.201 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:42:25 น.
  
จริงค่ะ ทางเป่าจินจงได้ซื้อลิขสิทธิ์นิยายเรื่องมุกเหลี่ยมเพชรไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ไม่ทราบว่าจะสร้างเมื่อไหร่ ใครแสดง คิดว่าคุณหนูดีคงต้องติดตามข่าวทางทีวีหรือหนังสือพิมพ์ต่อไปค่ะ
โดย: อรพิม วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:18:54:26 น.
  
ได้ค่ะ ขอบคุณที่ตอบค่ะ และจะรอชมผลงานเรื่องนี้ด้วยค่ะ ดีใจกับคุณอรพิมด้วยนะคะ ที่จะได้ดูละครที่เป็นผลงานของอรพิมค่ะ
โดย: หนูดี IP: 182.53.38.205 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:16:01:12 น.
  
โดย: อรพิม วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:19:43:14 น.
  
โดย: ทองม้วนไส้หมูหยอง วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:10:45:49 น.
  
หวัดดีครับ ได้ข่าวว่าค่ายเป่าจินจงได้ตัวพระเอก-นางเอกแล้ว เป็น โฬม พัชฏะ กับ เชอรี่ เข็มอัปสร ถ้าวางตัวแบบนี้ อยากทราบว่าคุณอรพิมมีความเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ
โดย: ทองม้วนไส้หมูหยอง วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:10:48:07 น.
  
นิยายสนุกมากค่ะ ต้องหามาครอบครอง ยิ่งรู้ว่าค่ายเป่าจินจง ได้วางตัวเป็น โฬม-พัชฏะ & เชอรี่-เข็มอัปสร แล้ว อยากทราบความเห็นของคุณอรพิม ตามคุณทองม้วนไส้หมูหยอง ความเห็นที่ 18 ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: On Of Us IP: 118.174.21.114 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:12:33:53 น.
  
คำถามนี้ตอบยากนะคะ เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวละครที่เขียนในนิยายจะปรากฏขึ้นในรูปแบบละคร แต่เมื่อทางผู้จัดได้ตัวผู้แสดงมาแล้วก็ดีใจค่ะ และคงจะรอดูนิยายเรื่องนี้อย่างใจจดจ่อเช่นกัน
โดย: อรพิม วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:19:07:12 น.
  
ขอบพระคุณมากค่ะ
โดย: On Of Us IP: 118.174.21.114 วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:15:56:49 น.
  
เพิ่งรู้จากน้องเป๊กมี่เหมือนกันค่ะว่าเรื่องนี้จะทำเป็นละคร แต่เพิ่งรู้จากที่นี่หล่ะว่าเป็นค่ายเป่าจินจง

นางเอกน่าจะโอเคนะคะ เชอร์รี่เล่นบทไหนก็น่ารักอยู่แล้ว ส่วนพระเอก คงต้องรอดูกันต่อไป เพราะรู้สึก(เอง)ว่าโฬมเล่นละครทีไรดูไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เหมือนเวลาถ่ายโฆษณาหรือถ่ายแบบอ่ะค่ะ..

แต่จะรอดูค่ะ...
โดย: rainoflove (rainoflove ) วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:16:53:16 น.
  
โฬมเหมาะกับลุคแบบนี้นะค่ะ แต่ต้องดูบทละครว่าส่งเสริมหรือเปล่า ที่แล้วมาในปีที่แล้วบทไม่ค่อยส่งเสริมเท่าไร และบทที่ได้รับจะย้อนยุคและเรียบร้อยทำให้ไม่ได้แสดงความสามารถไม่ได้เต็มที่หรือไม่หลากหลายอารมณ์ การแต่งตัวดูเชยๆ หรือได้แสดงฝีมือแต่ติดที่องค์ประกอบรวมๆทำให้ขัดใจบ้าง เชื่อว่าพระนางคู่นี้เคมีเข้ากันแต่อย่าทำให้นางเอกดูแก่กว่าพระเอกเท่านั้น ส่วนองค์ประกอบรวมๆคงต้องลุ้นกันแล้วค่ะ เราเป็นอีกคนนึงที่รอดูค่ะ
โดย: น้ำ IP: 58.9.139.116 วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:9:28:04 น.
  
เรื่องนี้นางเอกต้องเป็นรุ่นน้องมากพอควร เพราะจะเรียกพระเอกว่าพี่เพชร ตลอดเลย โฬมเล่นได้อยู่แล้วในบทที่อายุประมาณนี้ ที่หลายคนเห็นว่าไม่ค่อยมีเสน่ห์ หรือไม่เข้าตากรรมการ นั่นเป็นเพราะ production มากกว่า บทที่ไม่เวิร์ค ไม่ส่ง ทั้งที่โฬมตีโจทย์ของตัวละครได้ดีทีเดียวค่ะ.
โดย: On Of Us IP: 118.174.21.114 วันที่: 7 เมษายน 2554 เวลา:17:33:25 น.
  
ตามมาจากพันทิพ ถ้านางเอกเรียกพระเอกว่าพี่เพชร ตลอด ถ้าพระเอกจะเป็นโฬม ขอเปลี่ยนนางเอกที่เด็กกว่าโฬม ตามอายุนักแสดง จะดีกว่าไหม แต่ถ้ายืนนางเอกเป็นเชอรี่ ก็หาพระเอกเป็นคนอื่นแทน ชอบโฬมนะ แต่อยากได้ละคร ที่เหมาะสมมากกว่า
โดย: ครีม IP: 182.53.146.148 วันที่: 10 เมษายน 2554 เวลา:14:04:30 น.
  
แนะนำให้ดู "หยกลายเมฆ" ละครยอดเยี่ยมปี 2552 ที่โฬมรับบทเป็น พอลลี อาชีพ jewelry designer ระดับท็อปของฮ่องกง เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเยี่ยมของค่ายละคร broadcast thai television

ในเรื่อง หนุ่ม พอลลี ยังถูกว่าที่พ่อตาลุ้นว่า เมื่อไหร่จะเป็นเจ้าของร้านเพชรพลอยเสียที

กับผลงานเรื่องนี้ โฬมได้รับคำชมจากแฟนละครมากทั้งรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา บุคลีกดี เสียงนุ่มทุ้มหู และการแสดงเยี่ยม โดยเฉพาะกับฉากอารมณ์หลายฉากในเรื่องนี้ และได้รับการเสนอชื่อติดหนึ่งในห้าของนักแสดงนำยอดเยี่ยมฝ่ายชายปี 2552 ด้วย

โดย: xiaomei IP: 58.9.75.70 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:0:21:59 น.
  
โฬมมีอายุจริงน้อยกว่านางเอกหลายคนที่แสดงด้วยประมาณ 2-3 ปีเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ศรีริต้า เจนเซ่น เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ พรชิตา ณ สงขลา ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เฌอมาลย์ บุญศักดิ์ อิศริยา สายสนั่น สุนิสา เจทท์ ซึ่ง เข็มอัปสร สิริสุขะ ก็อายุมากกว่าโฬมประมาณ 3 ปีเช่นเดียวกับนางเอกที่เอ่ยนามมาข้างต้น

โดยบุคลิกหน้าตาแล้ว โฬมมักจะถูกจับให้รับบทที่มากกว่าอายุจริงมาตลอด สำหรับการประกบคู่กับนางเอกที่แสดงด้วยกัน โดยเฉพาะศรีริต้า เจนเซ่นถือว่ามีเคมีเข้ากันที่สุด จนแฟนละครนับว่า "โฬม-ริต้า" เป็นพระ-นาง คู่ขวัญอีกคู่หนึ่งมาตั้งแต่ประมาณสี่ปีก่อนกับผลงานละครเรื่องแรกของโฬมคือ "สร้อยแสงจันทร์"

ใน "หยกลายเมฆ" การแสดงของ โฬมและเจนี่ ก็แสดงได้คู่ถูกใจแฟนละครมาก มีเคมีเข้ากันดีไม่ต่างจาก "โฬม-ริต้า" โดยเฉพาะฉากคิสซีนที่บ้านพักชายทะเลเป็นที่กรี๊ดกร๊าดถูกใจบรรดาคอละครยิ่งนัก
โดย: xiaomei IP: 58.9.75.70 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:0:32:30 น.
  
การมาพบกันของ โฬม และ เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ นับว่า เป็นการจับคู่ใหม่ที่น่าสนใจ เรื่องฝีมือการแสดงของนักแสดงไม่น่ามีปัญหาอะไร ถ้าบทละครดี ฝ่ายคอสตูมเมคอัพฝีมือเยี่ยม ผู้กำกับเก่ง ทีมงานเจ๋ง ละครเรื่องนี้ก็จะเป็นละครที่ดีน่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่งทีเดียว

ด้วยเนื้อหาและพล็อตเรื่องที่ทันสมัย น่าสนุก น่าติดตาม ไม่ซ้ำซากจำเจ ไม่มีตัวอิจฉานางร้ายที่น่าเบื่อ แต่มีศัตรูหัวใจที่น่ากลัวยิ่งกว่า อินเทรนด์เข้ากับยุคปัจจุบัน เป็นหลักอยู่แล้ว
โดย: xiaomei IP: 58.9.75.70 วันที่: 14 เมษายน 2554 เวลา:0:39:15 น.
  
อยากอ่านอ่ะค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลย แต่ยังไงก็ต้องไปหามาอ่านให้ได้ค่ะ

และเห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านที่ว่าโฬม เหมาะกับบทนี้มาก เพราะ เท่าที่อ่านดูคาแรกเตอร์ของพระเอก คล้าย ๆ คุณทรงรบ ผีดิบหุ่นยนต์จาก แกะรอยรัก + คุณพอล ลี จากหยกลายเมฆ เลยอ่ะ

ที่เหลือก็แค่บทโทรทัศน์ +คอสตูมเลิศ ๆ เท่านี้ก็ฉลุยแล้วล่ะค่ะ





โดย: ลูกตาล IP: 180.183.225.68 วันที่: 15 เมษายน 2554 เวลา:15:43:05 น.
  
ได้ซื้อมาอ่านแล้วค่ะ บทเพชรเหมาะกับโฬม ส่วนมุกอยากให้ปรับบทนางเอกบุคลิกโตขึ้นอีกนิดเหมาะกับเชอร์รี่เช่นกัน นิยายสนุกดีนะค่ะสาธุขอให้บทละครออกมาดีกว่าจะได้ดังระเบิด
โดย: น้ำ IP: 58.9.101.165 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:17:46:06 น.
  
ตอนนี้ได้ข่าวว่าเปลี่ยนนางเอกแล้วค่ะ จากเชอรี่เป็น ซูซี่ สุษิรา แทน (เพิ่งออกสีสันบันเทิงเมือคืนนี้เอง)
โดย: สาต๋า IP: 61.19.51.100 วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:13:12:42 น.
  
ไว้โอกาสหน้าขอโฬมกับเชอรี่นะค่ะ อยากดูเหมือนกัน
โดย: น้ำ IP: 110.171.8.94 วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:10:46:58 น.
  
แล้วรู้หรือยังล่ะ "วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"
อยากบอกอะไรก็จะรับรู้ไว้...ว่าฉันก็เป็นเหมือนเธอ..
อยากบอกให้เธอได้รู้ไว้เธออยู่ในใจฉันเสมอไม่เคยลืม
เวลาเจอก็ดีใจถึงแม้ว่าไม่ได้พูดได้คุยกับเธอก็ตาม
แต่อยากให้รู้ว่า "ยังรัก" เสมอ เช่นกัน
โดย: 9607 IP: 118.172.160.138 วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:10:20:35 น.
  
ในที่สุด "มุกเหลี่ยมเพชร" โดย อาตู่ นพพล โกมารชุน และทีมงาน เป่าจินจง ได้สร้างสรรค์เป็นละครแนวโรแมนติก แอ๊คชั่น ได้เวลากำหนดแพร่ภาพทางไทยทีวีสีช่อง 3 แล้วค่ะ

เริ่ม 4 มกราคมนี้ หลังข่าวภาคค่ำ
โดย: aiwen^mei วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:23:00:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Orapim.BlogGang.com

อรพิม
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]