เพลิงพราย





ศมน...นักเขียนนิยายรักโรแมนติก กุ๊กกิ๊ก หวานแหวว แต๋วจ๋า (แต่นิสัยห้าวๆ ลุยๆ ได้ยูโดสายดำ ดูไม่เข้ากับการเป็นนักเขียนเล้ย....) เจ้าของนามปากกา "ดารกา" ผู้มีบทประพันธ์ได้รับการนำไปสร้างละครหลายต่อหลายเรื่อง วันดีคืนดี คุณเธอก็นึกอยากเปลี่ยนแนวการเขียนของตัวเอง มาลองเขียนนิยายลึกลับสยองขวัญสั่นประสาทดูบ้าง หากเธอกลับไม่มีจินตนาการบรรเจิดเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้... เลย (ก็เธอเป็นคนไม่กลัวผีนี่นา...ทำไงดีล่ะทีนี้)


โชคดีที่เธอมีเพื่อนแสนดีอย่างอุมาพร ผู้บังเอิญได้รับมรดกตกทอดบ้านเรือนไทยโบราณมาหลังหนึ่ง (ช่างบังเอิญเหลือเกิน...บังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ...^ ^) เจ้าตัวจึงไปอาศัยความน่ากลัวของบ้านหลังนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจเติมเต็มในนิยายตัวเองดูสมจริงสมจังขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ลงมือเขียน ข้อมือก็มาเดี้ยงซะก่อน...


เพราะอะไรหรือคะ...ก็เพราะคนข้างล่างนี่ไง


พฤกษ์....สารวัตรหนุ่มตัวโต หน้าโหด ประมาณว่าหน้าเหมือนโจรห้าร้อยมากกว่าตำรวจ (แต่น่ารักนะ...ขอบอก) ได้รับคำสั่งให้สืบหาปลายรุ้ง...ดาราสาวซึ่งหายสาบสูญไปหลายเดือน เขาได้เจอกับศมนโดยบังเอิญ ทำให้รู้ว่าเธอเป็นเจ้าของบทประพันธ์ที่ปลายรุ้งแสดงก่อนหายตัวไป จึงพาตัว(และหัวใจ)มาพัวพัน หวังจะสืบคดี(และพิชิตใจสาว)นี้ให้สำเร็จ








บทนำ

ร่างสมส่วนของหญิงสาวในชุดเสื้อกางเกงวอร์มสีน้ำเงินเข้มก้าวออกจากประตูกระจกด้านหลังของอาคารสูงกว่ายี่สิบชั้น ลัดเลาะผ่านทางโรยกรวดแคบๆซึ่งปลูกต้นเข็มชูช่อดอกสีแดง ตรงไปยังสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ซึ่งโค้งรับกับตัวตึกสีเหลืองนวล รอบสระปลูกต้นปาล์มเรียงเป็นแนว มีต้นลีลาวดีกระจายอยู่ห่างๆ ต้นลีลาวดีแต่ละต้นต่างชูกิ่งก้านราวกับนิ้วมือกางชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า ตรงโคนมีต้นไม้เล็กๆรอบล้อม แยกจากพื้นหินสีน้ำตาลอ่อนของสระว่ายน้ำ

ดอกลีลาวดีสีขาวนวลออกดอกบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอ่อนๆชวนให้คนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างเก้าอี้ชายหาดสีขาวรู้สึกสดชื่น

ดวงตากลมโตบนใบหน้าเรียวได้รูปเหลือบไปยังโคมทรงกลมสีขาวขุ่นบนแท่นทรงกระบอกสีดำสูงราวเมตรที่ตั้งอยู่รอบสระว่ายน้ำ โคมซึ่งให้ความสว่างเรืองรองท่ามกลางความมืดมิดของผืนฟ้ายามเที่ยงคืนแข่งกับแสงระยิบระยับวิบวับของดวงดาว ไร้แสงสีเงินยวงของดวงจันทร์เฉกเช่นทุกครา ก่อนจะกวาดสายตาไปยังสระว่ายน้ำซึ่งเงียบเชียบปราศจากผู้คน มีเพียงการเคลื่อนไหวของผิวน้ำที่ถูกสายลมพัดจนกระเพื่อม เกิดเป็นระลอกคลื่นเคลื่อนคล้อยไปอย่างเชื่องช้า

แสงจากหลอดไฟที่ประดับอยู่ภายในสระนั้น สะท้อนความใสกระจ่างของน้ำกระทั่งแลเห็นพื้นกระเบื้องด้านล่างเป็นตารางสี่เหลี่ยมสีฟ้าสดใส...

หญิงสาวถอดเสื้อและกางเกงออกอย่างไม่รีบร้อน วางพาดไว้กับเก้าอี้ข้างกาย ยืดกายขึ้นเต็มที่อวดเรือนร่างเพรียวบาง หากสมบูรณ์ด้วยกล้ามเนื้อเหมือนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำในชุดว่ายน้ำ...เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม ก่อนจะเดินไปยังขอบสระ ไต่ลงบันไดและหย่อนตัวลงไปในน้ำช้าๆ

น้ำในสระค่อนข้างอุ่นผิดกับอากาศเย็นชื้นและลมหนาวที่พัดผ่านมาเป็นระลอก ทำให้คนที่ได้สัมผัสคลี่ยิ้มด้วยความพึงใจ ก่อนยืนพิงกำแพง หลับตานิ่ง ปล่อยให้ความอบอุ่นของสายน้ำซึมซับไปทั่วกาย ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อจนรู้สึกว่าร่างกายอุ่นได้ที่ จึงคว้าแว่นตาว่ายน้ำที่คล้องอยู่ตรงคอขึ้นมาสวมแล้วเริ่มแหวกว่ายไปตามธารน้ำเบื้องหน้า

หญิงสาวยกแขนจ้วงน้ำผ่านลำตัวไปเป็นจังหวะ ตีขาสองข้างขึ้นลงสลับไปมา ดวงตามองผ่านกระจกพลาสติกสีส้มไปยังขอบสระเบื้องหน้า ก่อนจะม้วนตัวก้มศีรษะลงสู่พื้นกระเบื้อง ใช้เท้าถีบกำแพง ดีดตัวว่ายย้อนกลับมาทางเดิม


ทำเช่นนี้กลับไปกลับมาจนเริ่มเหนื่อย รู้สึกหัวใจเต้นแรงมากขึ้น ลมหายใจคล้ายจะขาดห้วง คิดว่าเธอออกกำลังกายมานานพอสมควร น่าจะกลับขึ้นห้องพักผ่อนได้แล้ว

ทว่า... ยังไม่ทันทำได้ตามใจคิด เจ้าตัวกลับรู้สึกว่าร่างกายเกิดอาการแปลกๆ

ขาที่เคยขยับสลับไปมาได้อย่างว่องไว กลับกลายเป็นเหน็บชา...ไร้ความรู้สึก

เกิดอะไรขึ้น?

ตะคริว?

หญิงสาวใจหายวาบ หัวใจร่วงไปอยู่ปลายเท้าด้วยความตกใจ พยายามตะเกียกตะกายพาตัวเองไปให้ถึงฝั่งโดยไว หากขาที่เคยตีน้ำสลับไปมาได้อย่างง่ายดายกลับหนักอึ้ง ร่างกายที่เคยเคลื่อนไปข้างหน้า กลับเหมือนหยุดนิ่ง ทั้งยังคล้ายจะถูกดึง ถูกฉุดด้วยแรงบางอย่างให้จมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง

ร่างบางพยายามยกแขนจ้วงลงน้ำเป็นจังหวะถี่ๆ แหวกว่ายให้ถึงขอบฝั่งตรงหน้า ทว่าระยะทางไม่ถึงห้าเมตรกลับดูยาวไกลนับหมื่นโยชน์

พื้นกระเบื้องที่เคยเห็นเป็นสีฟ้ากลับกลายเป็นสีเทา...แลทะมึน

พื้นที่อยู่ต่ำลงไปไม่เกินสองเมตรกลับแลลึกล้ำ...สุดหยั่ง

คนกำลังแหวกว่ายหัวใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ รู้สึกเหมือนกับว่าน้ำอุ่นกำลังดีในสระเปลี่ยนเป็นเย็นลงราวกับน้ำแข็งขั้วโลกจนมือเท้าของเธอแข็ง ชาไปหมด

ด้วยความตกใจ เจ้าตัวรีบอ้าปากเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ หากร่างทั้งร่างกลับถูกดึงให้จมลงสู่พื้นน้ำเบื้องล่างเสียก่อน ทำให้เธอสำลักน้ำผสมคลอรีนเข้าจมูกและปากไปเต็มที่

หญิงสาวรู้สึกแสบร้อนตั้งแต่ลำคอจนถึงกลางอก แสบราวกับแผลสดที่ถูกราดด้วยน้ำเกลือ เธอรีบถีบตัวทะลึ่งพรวดขึ้นสู่ผิวน้ำ ไอติดกันเป็นชุด ทรวงอกสะท้อนขึ้นลงถี่ๆด้วยอาการหอบ ทว่ายังไม่ทันสูดหายใจเข้าปอดได้เต็มที่ เท้าที่ไร้ความรู้สึกของเธอคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นฉุดให้ลงสู่เบื้องล่าง ทำเอาเธอจมดิ่งลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง

เจ้าหล่อนไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือตัวเองอย่างไร เพราะเท้าทั้งสองข้างนั้นหนักอึ้ง ไม่อาจขยับได้ จึงได้แต่ใช้มือตะกุยตะกายอยู่ในน้ำ กระเสือกกระสนหาทางพาตัวเองขึ้นมาเหนือน้ำ ขณะที่จมูกและปากพยายามกลั้นลมหายใจ เก็บอากาศไว้ในปอดให้ได้นานที่สุดจนทรวงอกอัดแน่น เจ็บปวดไปหมด

ดวงตาสองข้างเริ่มพร่าเลือน ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยว แลดำมืด มองไม่รู้ว่าด้านไหนเป็นผิวน้ำที่ควรจะโผพุ่งขึ้นไปเพื่อเอาชีวิตรอด

ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว ต้องปล่อยลมหายใจออกมา หากไม่มีอากาศสูดกลับเข้าไปแทนที่ มีแต่น้ำจำนวนมากมายที่ไหลผ่านปากและจมูก ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดราวกับมีลูกไฟร้อนๆวิ่งลงไปแผดเผาอยู่ในอก

ร่างในชุดว่ายน้ำสีเข้มดิ้นรนอย่างทุรนทุราย ก่อนจะแน่นิ่งและจมลงสู่พื้นเบื้องล่างช้าๆ...

* * * * * * * * * * * * * * * * *

จบบทนำ

TOP




Create Date : 29 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 20:08:43 น.
Counter : 978 Pageviews.

1 comments
  
อ่านจบแล้วคะ
สยองพอสมควร ผูกเรื่องราวได้ดี จนวางไม่ลง
ตื่นเต้นลุ้นหาฆาตกรตัวจริงไปตลอดเรื่องเลย
โดย: สินีนาถ จงพิเชฐกุล IP: 124.120.248.201 วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:4:54:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Orapim.BlogGang.com

อรพิม
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]