ขนมจีน น้ำยา พักนี้งานตุ๊กยุ่งมาก ๆ เลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีเวลามาอัพบล็อกมากแค่ไหน เอาเป็นว่าจะพยายามเข้ามาบ่อย ๆ นะคะ แต่ถ้าหากไม่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมบล็อกเพื่อน ๆ ก็อย่าโกรธกันนะคะ ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วย สัญญาค่ะว่าจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จ เพราะคิดถึงทุกคนเหมือนกัน วันนี้ตุ๊กชวนมาทำขนมจีน น้ำยากันค่ะ ตุ๊กชอบกินขนมจีนมาก แต่ว่า กินกี่เจ้ากี่เจ้าก็ไม่ถูกใจเรา เพราะมันไม่เหมือนกับที่แม่ใหญ่เคยทำให้กินสักที ด้วยความอยากกินตุ๊กก็เลยมั่วเอาค่ะ แต่ขอคุยนิดนึงว่า มั่วครั้งนี้ได้ดีนะคะ อร่อยด้วย (ฮุ ๆ ชมตัวเองซะงั้น) มาดูหน้าตาก่อนนะคะ ว่าน่ากินไหมเอ่ย ส่วนจานนี้เป็นแบบแกงใต้อ่ะค่ะ ได้สูตรจากพี่เมย์แห่งครัวไกลบ้านมา ตุ๊กเคยให้ลิงค์ไว้แล้วนะคะ ตามไปดูที่สูตรน้ำพริกกะปินะ แต่พี่เมย์เขาใช้หน่อไม้ ตุ๊กเปลี่ยนเป็นมะเขือเปราะแทนค่ะ น่ากินไหมคะ มาดูจานแรกกันก่อนนะคะ จานนี้เกิดจากความคุ้นเคยทั้งสิ้นค่ะ เพราะตุ๊กไม่เคยถามแม่ใหญ่สักทีว่าทำ อาศัยรสชาติที่คุ้นเคยแล้วเดาส่วนผสมเอาค่ะ ส่วนผสมประกอบด้วย 1. พริกแกงแดง 1 ช้อนกินข้าว 2. กระชาย (1) 4 ชิ้น (ชิ้นละประมาณ 2 นิ้ว) 3. กระชาย (2) 7 - 8 ท่อน (ชิ้นละประมาณ 2 นิ้ว) 4. ปลาทูน่าในน้ำแร่ 2/3 กระป๋อง 5. น้ำปลาร้าต้มสุก 6. น้ำปลา 7. หัวกะทิ 1 ทัพพี 8. หางกะทิ 3 ถ้วยตวง จริง ๆ แล้วแม่ใหญ่ตุ๊กคงไม่ใช้ปลาทูน่าทำหรอกค่ะ แต่แม่บ้านสมัยใหม่แบบเราจะไปหาปลาช่อนได้ที่ไหนอ่ะ ก็เลยหยวน ๆ แล้วกันนะคะ ใช้ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือหรือว่า น้ำแร่ก็ได้ ตามสะดวกเลยจ้า เรามาเตรียมส่วนผสมกันค่ะ นำกระชายขูดเปลือกสีน้ำตาลออก ให้เหลือแต่ส่วนเนื้อสีเหลืองนะคะ (อันนี้คุณครูที่โรงเรียนสอนทำอาหารกำชับนักหนาว่าต้องทำค่ะ เพื่อความเรียบร้อย แต่บางทีรีบ ๆ ตุ๊กก็ไม่ขูดค่ะ อิ ๆ) เสร็จแล้วล้างน้ำให้สะอาดพักไว้ก่อนจ้า วันนี้ไม่มีแรงเป็นแม่ศรีเรือนโขลกน้ำพริกแกงหรอกค่ะ ก็เลยอาศัยน้ำพริกแกงเจ้าประจำ น้ำยาชนิดนี้ต้องให้มีกลิ่นกระชายจัดนิดนึง ก็เลยต้องตำกระชายเพิ่มลงไป ตุ๊กเอากระชาย (1) ตำเข้ากับพริกแกง แล้วก็นำปลาทูน่ากระป๋องใส่ตำให้เข้ากันค่ะ (ถ้าใครชอบแกงที่น้ำใสกว่าตุ๊กจะใส่ปลาทูน่าแค่ 1/2 กระป๋องก็ได้นะคะ) นำหัวกะทิตั้งไฟให้แตกมัน แล้วนำเครื่องแกงที่เราเตรียมไว้ลงผัดค่ะ ผัดให้หอมเลยนะคะ (จะเห็นว่าตุ๊กใส่ปลามากเกินไป มันเลยข้นมากน่ะค่ะ) ตุ๊กว่ามันแห้งไปค่ะ ก็เลยเอาหางกระทิใส่ลงไป 1 ทัพพี ผัดให้หอมได้ที่แล้ว ก็ใส่หางกระทิที่เหลือลงไปค่ะ วันนี้เราจะอาศัยปรุงรสเค็มด้วยน้ำปลาร้าต้มนะคะ ถ้าใครไม่กินปลาร้า ก็ใช้น้ำปลาแทนนะคะ พอน้ำแกงเดือดก็เตรียมปรุงรสได้เลย ปลาร้าต้องเติมตอนน้ำแกงเดือด ๆ นะคะ เดี๋ยวเหม็นคาว วันนี้ตุ๊กเติมไปประมาณ 3 ทัพพี แบบในรูป แต่ยังเค็มไม่พอ ก็เลยใส่น้ำปลาไปอีกนิดหน่อยค่ะ เดือดแล้วก็ปิดไฟเลยจ้า เอากระทะไปล้างนะคะ เดี๋ยวเรามาเตรียมแกงเนื้อใส่มะเขือสไตล์ใต้ ๆ กันค่ะ แกงเนื้อนี้ก็ไม่ได้ตำพริกแกงค่ะ ซื้อน้ำพริกแกงมาจากใต้ มาดูส่วนผสมกันนะคะ ส่วนผสมประกอบด้วย 1. เนื้อหมู/เนื้อวัน 200 กรัม 2. พริกแกง 1 ช้อนกินข้าว 3. มะเขือเปราะ 4 - 5 ลูก 4. หัวกะทิ 1 ทัพพี 5. หางกะทิ 3 ถ้วย 6. น้ำปลา 7. ใบกะเพรา 8. พริกหนุ่ม 1 เม็ดหั่นเฉียง (ไม่มีพริกชี้ฟ้าค่ะ) ขั้นแรกเอาหัวกะทิตั้งให้แตกมันค่ะ นำพริกแกงลงไปผัดให้หอมและแตกมันค่ะ ต้องผัดให้แน่ใจว่าสมุนไพรในเครื่องแกงสุกหมดนะคะ เวลาแกงรสชาติจะได้ไม่เฝื่อน ใส่เนื้อที่หั่นไว้ลงไปผัดค่ะ เติมหางกระทิ ต้มให้เดือดค่ะ ใส่พริกหนุ่มลงไป (ตุ๊กชอบกินแบบนุ่ม ๆ ใครไม่ชอบเอาไว้ใส่ทีหลังมะเขือนะคะ) ชิมรสดูนะคะว่าเค็มได้ที่หรือยัง เพราะพริกแกงบางเจ้าเค็มอยู่แล้วค่ะ ถ้าเค็มไม่พอ ก็ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำปลานะคะ เสร็จแล้วตั้งให้เดือดแล้วใส่มะเขือเปราะที่หั่นไว้ลงไป เคล็ดลับการที่ป้องกันไม่ให้มะเขือดำนะคะ ให้หั่นตอนที่ใกล้ ๆ จะใส่แกง แล้วก็เอาแช่น้ำเกลือไว้ เวลาใส่ไปในน้ำแกงให้กดให้มะเขือจมน้ำแกงนะคะ เท่านี้มะเขือก็จะไม่ดำแล้วค่ะ พอมะเขือสุกนุ่มดี ก็เตรียมตักเสริฟเลยจ้า วันนี้ตุ๊กไม่ค่อยมีผักติดบ้าน มีแต่ผักบุ้งก็เลยเอามาลวกไว้กินกับขนมจีนน้ำยาค่ะ ชอบแบบไหนเลือกกันเลยนะคะ แบบแรกขนมจีนน้ำยา สูตรสาวอ่างทองค่ะ (ถ้าใครมีใบแมงลัก หรือถั่วงอกเพิ่มยิ่งเด็ดเลยค่ะ) ส่วนจานนี้ราดแกงแบบใต้ ลองทำดูนะคะ รับรองเด็ดจ้า ชอบทานขนมจีนมากๆ เลยฮับ
ทานกับอะไรก็ได้ ตอนเด็กๆ ชอบทานกับน้ำพริก พอโตขึ้นมาชอบทานกับแกงเขียวหวาน เมนูนี้ของคุณตุ๊กทำได้เพลินตาจริงๆ ครับ หง่าวๆๆ โดย: เหมียวหล่อ (myth ) วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:23:22:19 น.
|
ตุ๊กจ้ะ