วิเคราะห์ระบบป้องันภัยทางอากาศแบบเอส-300แบบถึงแก่น ตอนที่4 Самоходный Зенитный Ракетный Комплекс С-300ПМУ อัลมาส เอส-300 พีเอ็มยู เอส-300 พีเอ็มยู คือ รุ่นส่งออกรุ่นแรกของซีรี่ส์เอส-300พี ซึ่งเหมือนกันกับเอส-300พีเอส แต่ต่างกันตรงที่ มีแท่นยิงแบบใหม่เพิ่มมาให้เป็นตัวเลือกคือ รถกึ่งพ่วงแบบ5P85T ซึ่งลากโดยหัวลากแบบ6x6 KrAZ-260 จุดต่างจากแท่นยิงเดิมแบบ5P85 คือ มีเครื่องก้เนิดไฟฟ้าในตัว และออกแบบมาให้ยิงแล้วหนีได้ดีกว่าแบบเดิม แต่ก็ลดทอนความสามารถในการเคลื่อนที่ในที่ทุรกันดารไปมาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนเท่านั้น 5P85TE TEL 5P85TE TEL Самоходный Зенитный Ракетный Комплекс С-300ПМУ-1 อัลมาส เอส-300พีเอ็มยู-1 ในส่วนของเรดาร์นั้น เรดาร์แบบ 30N6 แฟลปลิด ได้ถูกปรับปรุงเป็นรุ่น 30N6E1 ซึ่งเพิ่มความสามารถในการนำวิถีลูกจรวดแบบใหม่ คือ 48N6 โดยทางผู้ผลิตอ้างว่า สามารถต่อตีเป้าหมายที่มีหน้าตัดเรดาร์ขนาด0.02ตร.ม. แต่ไม่ระบุพิสัยที่ต่อตีและยังเพิ่มความสามารถในการเป็นเรดาร์ค้นหาแบบอัตโนมัติอีกด้วย เรดาร์30N6E1 ยังคงติดตั้งบนเสาพับเก็บได้แบบ 40V6M ได้ เรดาร์แบบ76N6 แคลมเชลล์ยังคงอยู่ แต่เรดาร์แบบ 36D6 ทินชิลด์ถูกเอาออกจากระบบนี้ เอส-300พีเอ็มยู-1 ยังเพิ่มเรดาร์ใหม่เข้ามาในระบบนั่นคือ เรดาร์ค้นหา3มิติแบบ64N6E Big Bird (นกยักษ์ !!!) ซึ่งติดตั้งบนรถบรรทุกแบบ 8X8 MAZ-7910 ซึ่งสามารถพับเก็บหรือยกขึ้นได้ภายใน5นาที เรดาร์ค้นหาแบบ3มิติ 64N6 เรดาร์แบบ 64N6 บิ๊กเบิร์ดเป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความสามารถในการต่อตีอากาศยาน และช่วยในการสกัดกั้นขีปนาวุธพื้นสู่พื้น เรดาร์นี้ ทำงานในย่านความถี่ 2GHz และเป็นเรดาร์แบบเฟสอาเรย์ ที่มีพื้นที่ของตัวส่งคลื่นเรดาร์ใหญ่กว่าเรดาร์แบบSPY-1 Aegis ถึง30% อีกทั้งยังมีความยาวคลื่นที่ยาวกว่าเล็กน้อย(เรดาร์ยิ่งมีความยาวคลื่นมาก ยิ่งตรวจจับได้ไกล และเรดาร์แบบความยาวคลื่นยาวนี้ ทำให้มีความสามารถในการตรวจจับบ.ที่มีระบบล่องหนได้ดีด้วย-ผู้แปล ) ซึ่งทำให้มันเป็นเหมือนเรดาร์spy-1แบบเคลื่อนที่ได้ ซึ่งไม่มีระบบไหนในฝั่งตะวันตกเทียบเท่า เรดาร์แบบ64N6E นี้ เป็นเรดาร์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆของระบบ เรดาร์แบบ64N6E นี้ ติดตั้งบนฐานเรดาร์ ที่เป็นเคบินในตัว สามารถหมุนได้360องศารอบตัว ตัวเรดาร์เป็นเรดาร์แบบเฟสอาเรย์ ที่ติดตั้งตัวลดสัญญาณรบกวนไว้ บนเสาที่ยื่นออกไป ด้านหน้า เรดาร์มีตัวตรวจจับทั้งหมด2700ตัวในแต่ละหน้าของเรดาร์ เรดาร์มี2หน้า ดังนั้นเรดาร์ตัวนี้จะมีพื้นที่การกวาดจับด้านหน้าเป็นมุม90องศา และด้านหลัง 90องศา โดยใช้การหมุนทางกลเพื่อให้ครอบคลุม360องศา รอบตัวในแนวราบและ ใช้การหมุนทางอิเล็กทรอนิคส์ในการหมุนกวาดแนวราบและการหมุนกวาดแนวดิ่ง เรดาร์แบบ6N6E นี้ เป็นเรดาร์ที่มีคลื่นความถี่แบบกระโดด และยังมีช่องสัญญาณพิเศษสำหรับหยุดยั้งการรบกวนทางอิเล็คทรอนิคส์ อีกทั้งยังมีความสามารถในการระบุทิศทางของแหล่งที่มาของการรบกวนนั้นอีกด้วย ในการประมวลผลนั้น ใช้การประมวลผลแบบMTI(Moving Target Indicator )แบบเดียวกับระบบอำนวยการรบแบบAegis ซึ่งสามารถเจาะจงพื้นที่เล็กๆพื้นที่หนึ่งเพื่อค้นหาแบบละเอียดได้ เรดาร์64N6E มีความสามารถในการตรวจพบเป้าหมายขนาดบ.ขับไล่ได้ 140-150ไมล์ทะเล โดยใช้เวลาในการกวาด 12วินาทีต่อ1รอบ สามารถค้นหาเป้าหมายได้พร้อมกัน 200เป้าหมาย และสามารถติดตามได้6-12เป้าพร้อมกันเพื่อทำการต่อตีต่อไป การเพิ่มความสามารถทางด้านการตรวจจับที่เพิ่มสูงขึ้นมาก และภารกิจในการต่อต้านขีปนาวุธที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ลูกจรวดแบบ 5V55ไม่มีความสามารถพอต่อการปฏิบัติการ ลูกจรวดแบบ48N6 จึงถูกนำมาใช้ ซึ่งเพิ่มทั้งความสามารถในด้านความเร็วและพิสัยบินขึ้นมาก โดยมีความสามารถในการต่อตีเป้าหมายที่เป็น อากาศยานได้ในระยะ 81ไมล์ทะเล ขีปนาวุธที่21.5ไมล์ทะเล มีพิสัยต่อตีใกล้สุด 1.6-2.7ไมล์ทะเล เพดานบินต่ำสุดอยู่ที่ 20-30ฟีตเหนือพื้นดิน ความเร็วของลูกจรวดอยู่ที2200ม./วินาที หรือ มัค6(เร็วจริงๆ) สามารถยิงได้1ลูกทุกๆ3วินาที โชคในการยิงอยู่ที 80-93% ในการยิงเป้าหมายอากาศยาน ถ้าเป็นขีปนาวุธทางยุทธวิธี จะอยู่ที่ 50-77% ส่วนอาวุธปล่อยนำวิถีแบบครุยส์จะอยู่ที่ 40-85% ใน1กองร้อยของเอส-300พีเอ็มยู-1 ตามมาตรฐานของกองกำลังป้องกัภัยทางอากาศของสหภาพโซเวียต จะประกอบไปด้วย เรดาร์ควบคุมการยิงแบบ30N6E1 แฟลปลิด ,เรดาร์เตือนภัยล่วงหน้าระดับต่ำ/เรดาร์ตรวจจับ แบบ76N6 แคลมเชลล์, แท่นยิงแบบ5P85S/5P85T(หรือรุ่นSE/TE ในรุ่นส่งออก) 12แท่นยิง ใน1กองพัน ประกอบไปด้วย 6กองร้อย ซึ่งใช้เรดาร์แบบ64N6Eร่วมกัน และควบคุมด้วยบก.เคลื่อนที่แบบ54K6E 1คัน ลูกค้าส่งออกรายแรกของระบบนี้คือสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนำเข้า 4-6กองร้อยในช่วงปี1991-1994และยังสั่งซื้อเพิ่มเป็นระยะๆ โดยใน1กองร้อยมีราคาประมาณ 100ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีการสั่งซื้อระบบS-300F (SA-N-6) ซึ่งเป็นระบบสำหรับติดตั้งบนเรือ โดยติดตั้งบนเรือไทป์51ซี แต่ตัวเลขที่แน่นอนของการสั่งซื้อทั้งหมดไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับระบบอาวุธปล่อยพื้น-สู่-อากาศแบบเอส-300พีเอส/พีเอ็มยู เอส-300พีเอ็ม/พีเอ็มยู-1และเอส-300พีเอ็มยู-2ที่จะกล่าวภายหลัง นั่นคือเรดาร์เตือนภัยล่วงหน้า/ตรวจจับแบบ 96L6 ซึ่งเป็นเรดาร์แบบเฟสอาเรย์ ที่ใช้การกวาดแนวดิ่งแบบอิเล็กทรอนิกส์ และใช้การกวาดเชิงกล โดยสร้างมาเพื่อทดแทนเรดาร์แบบแคลมเชลล์และทินชิลด์ เรดาร์แบบ96L6(และ96L6Eในรุ่นส่งออก)มีให้เลือกติดตั้ง3แบบคือ แบบกึ่งเคลื่อนที่ ,แบบกึ่งเคลื่อนที่ ติดตั้งบเสาแบบพับเก็บได้แบบ 40V6M/MD และรุ่นเคลื่อนที่แบบติดตั้งบนรถแบบ MZKT-7930 ทางผู้ผลิตยืนยันว่า มีพิสัยตรวจพบ 160ไมล์ทะเล ติดตามเป้าหมายได้ 100เป้าหมายพร้อมกัน และยังติดตั้งระบบพิสูจน์ฝ่ายในตัว ระบบเรดาร์นี้ ยังสามารถส่งข้อมูลไปให้เรดาร์ควบคุมการยิงแบบ30N6E/E1/E2 แฟลปลิดได้ เป็นระบบดิจิตอลผ่านทางสายเคเบิลในระบบเอส-300พีเอ็มยู/พีเอ็มยู-1 และสายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือผ่านระบบไมโครเวฟในระบบเอส-300พีเอ็มยู-2 เรดาร์แบบ96L6 สามารถพับเก็บได้ภายใน5นาที แต่ถ้าหากเป็นรุ่น กึ่งเคลื่อนที่หรือกึ่งเคลื่อนที่ที่ติดตั้งบนเสาแบบพับเก็บได้จะใช้เวลาประมาณ 30-120นาที ....
โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:5:57:26 น.
สุดเจ๋งเลยครับ
//www.realbiz5.com โดย: virot IP: 58.147.35.251 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:14:34:30 น.
ขอบคุณคับ
โดย: nidman2005 IP: 58.9.78.243 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:13:59:51 น.
|
บทความทั้งหมด
|