เรื่องของคนที่แตกต่าง สวัสดีครับ ก็อย่างที่ผมเคยเขียนไปว่าผมเป็นคนที่แตกต่าง วันนี้ก็เลยคิดว่าจะเอาเรื่องของคนแปลกๆ คนนึงมาเล่าครับ พูดง่ายๆ ก็คือเรื่องเกี่ยวกับตัวผมเอง เพราะอยากให้สังคมไทยได้รู้มากขึ้นว่ายังมีคนแบบนี้อยู่ในสังคมนี้ด้วย ในเอนทรี่แรกสุดของกลุ่มบล๊อกนี้ ผมเคยเขียนเอาไว้ว่าผมไปทำแบบทดสอบบุคลิกภาพบนเวบและผลที่ได้คือ INTJ ซึ่งเปรียบบุกคลิกได้กับนักวิทยาศาสตร์โดยสถิติแล้วคนที่มีบุคลิกแบบนี้จะมีอยู่แค่ประมาณ 2-4% ของจำนวนประชากรโลกเท่านั้นเอง ![]() คนที่มีบุคิลกแบบ INTJ จะเป็นคนที่มีความคิดซับซ้อน คนอื่นจะเข้าใจความคิดได้ยาก มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก มาตรฐานสูงมาก รู้และเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องที่สนใจ (แต่ถ้าไม่สนใจก็อาจไม่รู้อะไรเลยก็ได้) สื่อสารและเข้าสังคมไม่เก่ง แสดงความรู้สึกไม่เก่ง ใช้เหตุผลเป็นหลัก ชอบมองหาทางเลือกใหม่ๆ ชอบอยู่เงียบๆ ...ซึ่งนั่นคือผมเลย ด้วยบุคลิกแบบนี้ทำให้ผมมีอะไรหลายๆ อย่างที่ต่างจากคนอื่นทำให้ผมเข้ากับคนอื่นได้ไม่ง่ายนัก ผมมีเพื่อนร่วมรุ่นอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทมากนักเพื่อนสมัยมัธยม(ม.ต้น, ม.ปลาย) ก็ไม่ค่อยมีที่สนิทมากๆ ญาติๆ ก็เข้ากับพี่ๆ น้องๆ ในชั้นเดียวกันได้ไม่มากนัก...จะให้ถูกน่าจะเรียกว่าแทบจะเข้ากับใครไม่ได้เลยดีกว่าครับ บางคนก็จะมองผมว่าเป็นเด็กเนิร์ด ![]() ความแตกต่างของผมเริ่มมีให้เห็นมาตั้งแต่สมัยที่ผมยังเด็กแล้วก็เป็นในทุกๆ ด้านครับ เรียกได้ว่าอะไรที่คนส่วนใหญ่เป็นกันผมมักจะไม่เป็น อะไรที่คนส่วนใหญ่มักจะสนใจผมก็ไม่ค่อยจะสนใจ แต่มักจะไปสนใจสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนทั่วไปจะเข้าใจผมได้โดยไม่นั่งคุยกันอย่างละเอียด สไตล์การแต่งตัวของผมไม่เคยจะไปแต่งตามกระแสหรือแฟชั่น ตั้งแต่ผมเริ่มแต่งตัวเองผมก็ไม่ใช้อะไรที่เหมือนคนทั่วไปสักเท่าไหร่แล้ว ตัวอย่างเช่นผมชอบใส่เสื้อผ้ากางเกงแบบ Loose Fit พวกสลิมนี่ไม่เอาเลย คนส่วนใหญ่มักจะชอบใส่ยีนส์เพราะมองว่าดูดีแต่ผมก็ชอบใช้กางเกงคาร์โก้(ชนิดที่ไม่เป็นแฟชั่น)มากกว่าเพราะใช้งานสะดวก คล่องตัว มีช่องให้เก็บของมากกว่า สีก็ชอบใช้สีมืดๆ หรือไม่ก็สีที่ออกซีดๆ ไม่ชอบสีสดๆ....เสื้อน้ำเงินเข้มกับกางเกงดำนี่ผมใส่มาได้พักใหญ่ๆ (เป็นปี) ถึงค่อยเห็นคนใส่ออกมาเดินตามห้างกันอย่างปัจจุบัน เมื่อก่อนไม่ค่อยมีคนใส่กันหรอกครับ ![]() ด้วยสไตล์ที่ไม่ค่อยจะเหมือนคนอื่นๆ นี้ผมก็เลยหาเสื้อผ้าสไตล์ของตัวเองใช้ไม่ค่อยได้ สุดท้ายผมก็ต้องไปหาซื้อจากญี่ปุ่นมาใช้ครับ นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้รู้ว่าเสื้อผ้ากางเกงชนิดไหนเรียกว่าอะไรบ้าง (แรกๆ ก็มึนไปหมดเพราะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรบ้างก็ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ) ![]() ความแตกต่างของผมมีมาตั้งแต่เด็ก เมื่อตอน 3-4 ขวบ (แม่เล่าให้ฟัง) ผมก็เริ่มถามว่า ชิงช้าสวรรค์มันหมุนได้ยังไง เมื่อ 6-7 ขวบ ผมอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น ในขณะที่ทุกคนในตอนนั้นสนใจกันแต่ภาษาอังกฤษ ผมเริ่มสนใจปลาคาร์พครับทำให้เป็นตัวจุดประกายให้เริ่มสนใจภาษาญี่ปุ่นอีกอย่างในความรู้สึกของผมสมัยเด็กๆ คือถ้าเรารู้อะไรที่คนอื่นไม่รู้มันน่าจะเจ๋งดี ภาษาอังกฤษน่ะใครๆ ก็เรียน (ผมเรียนโรงเรียนคริสต์ทำให้ต้องเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ ป.1) เราน่าจะรู้อะไรที่คนอื่นไม่รู้ เหมือนกับว่าการรู้ในสิ่งที่คนอื่นๆ ก็รู้น่ะมันธรรมดาไป แต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นในตอนนั้นครับ ![]() ผมเถียงกับผู้ใหญ่ว่าการ์ตูนญี่ปุ่นมีคุณภาพสูงกว่าการ์ตูนวอลท์ดีสนี่ย์ ในขณะที่ทั้งแม่ผม ญาติๆ หรือใครก็ตามจะเชียร์ให้ดูการ์ตูนวอลท์ดีสนี่ย์กันแทบทั้งนั้นทุกคนให้เหตุผลว่า วอลท์ดีสนี่ย์เป็นการ์ตูนที่มีคุณภาพกว่าการ์ตูนของญี่ปุ่น วาดภาพละเอียดกว่า นุ่มนวลกว่า แต่ตอนนั้นผมดูการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วผมรู้สึกว่ามันน่าดูกว่า มันมีหลายๆ อย่างที่วอลท์ดีสนี่ย์ไม่มี แต่เพราะยังเด็กก็เลยอธิบายไม่ได้ว่าทำไมผมถึงได้คิดอย่างนั้น ทุกวันนี้ผมก็ยังเถียงกับหลายๆ คนเรื่องนี้อยู่แต่ต่างจากเดิมตรงที่ทุกวันนี้ผมอธิบายได้ ![]() ด้วยวิธีการเรียนรู้ในแบบของผมทำให้ผมไม่ชอบที่จะนั่งเรียนในชั้นเรียน การนั่งเรียนอะไรซ้ำซากในชั้นเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ สำหรับผมแล้วความรู้มีอยู่ทุกที่รอบตัว ไม่ใช่เฉพาะในห้องเรียน เวลานั่งเรียนในชั้นผมมักจะชอบนั่งวาดรูปเล่นบ้าง นั่งเหม่อบ้าง เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ครูสอนนั้นผมเข้าใจแล้ว คือผมฟังจนเข้าใจ พอเข้าใจแล้วก็จะไม่สนใจอีก ทำให้ครูและเพื่อนร่วมชั้นมักจะมองผมว่าเป็นเด็กขี้เกียจและไม่ตั้งใจเรียน พอผมจบป.4 ก็ย้ายไปเรียนนานาชาติ ผมก็ยังทำแบบเดิมอีก คือไม่ได้แสดงท่าทีว่าตั้งใจเรียน แต่พอเวลามีเทสท์ย่อยผมกลับทำได้ทำให้เพื่อนในชั้นบางคนถึงกับไปปล่อยข่าวลือว่าผมเลี้ยงกุมารทองเลยทีเดียว ![]() ![]() ในวัยมัธยมของผม คนส่วนใหญ่มักจะนิยมทำตามอเมริกากันเป็นส่วนใหญ่ชอบทุกอย่างที่เป็นของฝรั่ง ในตอนนั้นผมกลับชอบของญี่ปุ่นครับ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมาก เพราะของที่ผมชอบมันหาไม่ได้ในพวกฝรั่งอย่างของทางอเมริกา เช่น การ์ตูน เกมแบบคอนโซล โมเดลพลาสติกอย่างกันดั้ม(ผมเป็นแฟนเรื่องกันดั้มตั้งแต่คนไทยยังไม่ค่อยจะฮิตกัน) เรือ รถ เครื่องบิน รถถัง ของ Tamiya กับ Hasegawa ในยุคเดียวกันนั้นเองที่วัยรุ่นไทยคลั่งแฟชั่นย้อมผมสไตล์วงดนตรีร็อคของญี่ปุ่นจนแต่งตัว ย้อมผมและทำทุกอย่างโดยบอกว่าเป็นแบบญี่ปุ่นกันไปหมด (ซึ่งมันก็ไม่ได้เหมือนญี่ปุ่นจริงๆ) แต่ผมก็ไม่ทำแถมว่าคนอื่นที่ทำด้วยว่าไร้สาระ เพราะผมไม่ชอบการที่คนเราแห่ทำตามกระแสจนทำอะไรเหมือนกันไปหมด อีกอย่างคือผมไม่ชอบอะไรที่มันมากเกินไปครับ ตอนนั้นผมก็ชอบญี่ปุ่นครับไม่ใช่ไม่ชอบเพียงแต่ผมชอบที่มันเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ (ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่) แต่ผมไม่ชอบพวกที่แห่แต่งตัวย้อมผมกัน อย่างในปัจจุบันที่อะไรๆ ก็ต้องเกาหลีนี่ผมก็ไม่ชอบหรอกครับ มันมากเกินไป ![]() ![]() พอใกล้ๆ จะเป็นวัยม.ปลาย ใครๆ ก็เริ่มสนใจผู้หญิงกัน แต่ผมก็ไม่ค่อยจะสนใจส่วนหนึ่งก็เพราะมันมีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่า และอีกข้อที่ผมมารู้สึกเอาตอนเรียนมหาวิทยาลัยคือ วัยเรียนเป็นวัยที่เราน่าจะมีชีวิตเพื่อตัวเราเอง ทำทุกอย่างที่เราอยากทำ ไม่ใช่ทุ่มเทเวลาว่างที่มีไม่มากนักมาคอยตามเอาใจใครสักคน ในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมก็ยังชอบการ์ตูนอยู่ ซึ่งผมก็ทำการ์ตูน 2D อนิเมชั่น ของตัวเองมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วครับ (นี่ก็ต่างจากคนอื่นๆ อีกเหมือนกัน...ผมชอบ 2D มากกว่า 3D ทั้งที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจกันแต่ 3D ทุกคนพูดกันแต่ว่า 3D ดีกว่าทั้งนั้น แต่ผมก็ยังชอบ 2D มากกว่า ผมคิดว่ามันดีกว่า 3D ในหลายๆ ด้าน) ตอนเข้าปี 1 ผมก็ได้เจอกับคนชอบการ์ตูนเหมือนกัน เพื่อนผมคนนั้นก็วาดการ์ตูนด้วย ตอนแรกก็ดีใจครับที่ได้เจอคนชอบการ์ตูนเหมือนกัน ![]() (นี่เป็นรูปที่ผมทำไว้เมื่อสัก 10 กว่าปีมาแล้ว ผมเป็นคนดีไซน์ไม่ใช่คนวาดแต่ก็ลงสีเองกับมือ) แต่ว่าพอคุยๆ กันไปแล้วก็ได้รู้ว่าเพื่อนคนนั้นไม่ได้มีไอเดียหรือมุมมองในเรื่องการ์ตูนเหมือนผม เพราะเขามองว่าการ์ตูนก็คือการ์ตูน เราต้องทำให้มันเป็นการ์ตูนจะทำให้มันสมจริงมากไม่ได้ แต่ผมคิดว่าการ์ตูนมันเป็นสื่ออย่างหนึ่งที่จะเล่าเรื่องไม่ต่างจากหนังที่ใช้คนแสดง แถมยังสามารถลบจุดด้อยหลายๆ อย่างของการใช้คนแสดงได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเป็นธรรมชาติในการแสดง มุมกล้อง สวิทชิ่งรวมถึงการกำหนดรูปร่างหน้าตาท่าทางของคาแรคเตอร์ด้วย สุดท้ายแล้วผมก็รู้ว่าถึงบางครั้งผมจะเจอคนที่คล้ายกับผมได้ มันก็ได้แค่ผิวๆ พอคุยลงลึกๆ ไปแล้วก็จะรู้ว่ามันยังมีความแตกต่างกันอยู่อีกไม่น้อย ทำให้ผมก็ยังไม่สามารถที่จะพูดคุยในเรื่องที่สนใจได้อย่างเต็มที่นักครับ ลองสังเกตุดูครับ ใครมีลูกหลาน พี่น้อง เพื่อนหรือคนใกล้ตัวที่มีลักษณะแบบนี้ก็อย่าเพิ่งไปตำหนิเขาที่มีมุมมอง ความคิด หรือทำอะไรไม่เหมือนสังคม ไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง ไม่แน่คนนั้นอาจจะมีบุคลิกแบบ INTJ ก็ได้ โดย นาย nyo ภาพประกอบเนื้อหาจากอินเตอร์เน็ต สวัสดีครับ ทักทายวันตักบาตรเทโว
![]() โดย: ต้นกล้า อาราดิน
![]() ไอเดียเริ่ด
โดย: ืno name IP: 118.173.60.98 วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:13:41:24 น.
เราก็ intj คำอธิบายก็โคตรตรง -0- เลยค่ะ
โดย: mena IP: 49.230.168.178 วันที่: 15 ธันวาคม 2557 เวลา:8:40:22 น.
เราเป็นผู้หญิง ที่เป็น INTJ เป็นคนที่ไม่ตามกระแสเหมือนกัน แบะค่อนข้างจะเป็นคนที่ เพื่อนๆส่วนใหญ่บอกเข้าถึงยาก คาดเดาไม่ได้ เราไม่ชอบอยู่ในกรอบ และมีเป้าหมายอยู่ในมือเสมอ แต่เราเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรหรือสนใจอะไรแค่อย่างเดียวนะ เราชอบฟังคนขี้โม้ๆพูดกัน และเราเอาไปวิเคราะหฺและหาคำตอบ แบบไม่บอกใคร และแอบเอาไว้โชว์เทพ เราเปนคล้ายๆ แกกอรี เฮาส์ ในซีรีส์ เรื่อง HOUSE เหมือนกัน แต่ไม่มากเท่าเค้า 555
โดย: pang INTJ IP: 202.176.88.46 วันที่: 11 กันยายน 2558 เวลา:18:28:32 น.
สวัสดีเพื่อนร่วมไทป์ทั้ง 2 คนนะครับ
ได้ยินว่า INTJ ผู้หญิงนี่หายากกว่าผู้ชายอีก (^ ^) โดย: nyo
![]() สวัสดีชาวINTJ เราก้เป็นสาวINTJนะสนใจมาเป็นเพื่อนแก้งส์ในไลน์กันไหมเราว่าน่าจะเป็นอะไรที่แปลกๆดี
โดย: Jojosung IP: 58.11.75.205 วันที่: 16 ตุลาคม 2558 เวลา:1:37:51 น.
ชื่อเราในpantip คือ1905325 jojorujirat เราไม่ค่อยเขียนหรือเล่นอะไรในพันทิฟเท่าไหร่ ถ้าสนใจมาเล่นไลน์กันก้มาแปะเบอร์ไลน์ไว้ได้ที่ message FB : Jojo rujirat
ถ้าอยากลองดูว่าคนแบบเดียวมาคุยกันเเล้วจะเป็นยังไง ก้ลองเเมสเสจมาในเฟสนะ อยากมีเพื่อนทั้งชายหญิงเลยที่เป็นINTJ โดย: Jojosung IP: 58.11.75.205 วันที่: 16 ตุลาคม 2558 เวลา:1:43:53 น.
ผมก็intj ผมชอบความคิดของคุณ นิสัยคล้ายกับผม เลย ครับ 555
โดย: ทราา IP: 1.46.13.254 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:8:59:32 น.
เราก็ INTJ นะ ^^ よろしくお願いします。
โดย: SHIZENiGO IP: 1.47.231.86 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:23:50:05 น.
よろしくお願いします
หวัดดีคร้าบ (^ ^)...คุณ ทราา กับ คุณ SHIZENiGO..ได้เห็นพวกเดียวกันมาเรื่อยๆ เลย ![]() โดย: nyo
![]() https://visionconner.wordpress.com/
อันนี้เป็นblog ของเรามีเขียนเกี่ยวกับ intj ในนี้ ยังไงก็แวะมาพูดคุยกันได้ โดย: pang intj IP: 49.49.240.219 วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:18:26:32 น.
โหหหหดูปีพศที่ต่างๆกันในคอมเม้นเเล้วเจ๋งดีเเหะ
ตอนเเรกที่รู้ว่าตัวเองเป็นก็งงมากค่ะคือก็รู้ว่าตัวเองเเปลกนิดหน่อยเเต่พอรู้ความเป็นมาเเล้วก็อ๋อเรื่องของสมองคนเรานี่น่าสนใจ.... ผู้หญิง intj คนอื่นเป็นเหมือนเราไหมคะเเบบไม่อยากมีลูก ไม่สนใจผู้ชาย คือไม่ใช่ทอมนะ เเต่รู้สึกเรื่องพวกนี้มันน่าเบื่อไงไม่รู้อ่ะ เราชอบเล่นเกม ดูบอลเเละชอบตัดสกินเฮด พอรู้ว่าเออมันไม่เเปลกหรอกก็โล่งใจเคยคิดอยากไปหาจิตเเพทย์หลายหนเเค่อยากคุยด้วยเฉยๆ เเต่พอคนรอบข้างรู้ก็เเบบ โหหหตกใจบ้านเเตก คือเเค่อยากให้คนอื่นเข้าใจสิ่งที่เราเป็น โดย: NNop IP: 1.47.235.79 วันที่: 2 ตุลาคม 2559 เวลา:21:36:57 น.
เเต่ขอ ค้านหนึ่งเสียงถึงอุดมคติของคุณ nyo ว่า อนิเมะดีกว่า การ์ตูนนะคะ ด้านเนื้อหาการถ่านทอดอนิเมะดีกว่าอยู่เเล้ว เเต่กราฟฟิคให้วอลท์ดิสนีย์เถอะค่ะ ทุกครั้งที่ดูยังอดคิดไม่ได้เลยว่าคนทำเก่งมากๆทั้งการลงสีเเละการเคลื่อนไหวของตัวละคร
โดย: NNop IP: 1.47.235.79 วันที่: 2 ตุลาคม 2559 เวลา:21:52:34 น.
ตอบ คุณ NNop (ไม่รู้ว่าจะกลับมาอ่านหรือเปล่า 555)
บอกก่อนว่าเรื่องอนิเมกับดิสนี่ย์นั้นผมเทียบพวกที่เป็น 2D เท่านั้นนะครับ 3D ไม่เกี่ยว หลายคนที่ผมเคยคุยด้วยมักเอามารวมกัน... ทีนี้ว่ากันที่งานภาพ...ด้านงานภาพก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้ผมมองว่าอนิเมทำได้ดีกว่าดิสนี่ย์ครับ เรียกได้ว่าเป็นจุดหลักจุดใหญ่อีกจุดหนึ่งเลย คือที่ผมคิดว่าอนิเมมันดีกว่าของดิสนี่ย์ก็เพราะผมมองถึงจุดต่างๆ พวกนี้ครับ..... - ความเป็นคนหรือความเป็นมนุษย์ (ในเมื่อเรื่องมันเป็นเรื่องของคน...ตรงนี้ไปผูกอยู่กับการเขียนบทด้วย) - การแสดงออก (มีผลกับความเป็นคน ความเป็นธรรมชาติและความสมจริง...ตรงนี้ก็ไปผูกอยู่กับการเขียนบทด้วย) - ความเป็นธรรมชาติและความสมจริง (ตรงนี้งานสีก็มีผลมาก) - การตัดภาพหรือสวิทชิ่งและมุมกล้อง (ซึ่งมีมุมหรือรูปแบบใหม่ๆ มาให้เห็นอยู่เรื่อย ผมมองว่ามันวัดความครีเอทเลยล่ะ) - เอฟเฟ็คท์ต่างๆ (มีผลความความเป็นธรรมและความสมจริง...ต้องทำให้พอดีมากไปน้อยไปก็ทำให้ออกมาไม่ดี) - การเคลื่อนไหว (ความลื่นไหล ความ smooth ต้องมาพร้อมกับความสมจริงและเป็นธรรมชาติ อนิเมมีเรื่องที่ทำการเคลื่อนไหวเนียนๆ แบบดิสนี่ย์ด้วยนะครับ แต่ดูเป็นธรรมชาติกว่าไม่ดูเยอะเกินไป และต้องเป็นอีกเกรดนึง ต้องเลือกเรื่องหน่อยเพราะไม่ได้ทำแบบนั้นทุกเรื่อง) ....ถ้าเคยดูเยอะๆ แล้วสังเกตุ(มากๆ) จะเห็นได้เลยว่าอนิเมทำได้ดีกว่าดิสนี่ย์มากครับ เพราะทุกอย่างมันลงตัวกว่า เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีกว่า(จุดเล็กๆ ที่ทางฝรั่งมองข้าม เช่นสัญชาตญาณของคน) แต่ก็ต้องว่าเป็นเรื่องๆ ไปครับ ไม่ใช่ว่าไปคว้าอนิเมเรื่องไหนมาก็จะเหนือกว่าดิสนี่ย์ไปซะหมด ส่วนที่ผมบอกว่าอนิเมของญี่ปุ่นมีคุณภาพสูงกว่านั่นคือผมเอาตัวเกรดบนของทั้ง 2 ค่ายมาเทียบกัน เมื่อพูดกันแบบยกค่ายก็ต้องเอาระดับบนที่เรียกว่าเจ๋งของทั้งคู่มาชนกัน ถ้าเอาเกรดบนค่ายนึงไปเจอเกรดธรรมดาอีกค่ายมันก็ไม่แฟร์จริงมั้ยล่ะครับ เรื่องก็ส่วนหนึ่ง บทก็ส่วนหนึ่ง ภาพก็ส่วนหนึ่ง เสียงก็ส่วนหนึ่ง ความครีเอทก็อีกส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทั้งหมดผมให้และหักคะแนนหมดแล้วผมสรุปสุดท้ายว่าอนิเมมีคุณภาพสูงกว่าของดิสนี่ย์ครับ เรื่องคุณภาพมันก็เรื่องนึงซึ่งผมก็พิจารณาตามที่บอกมา (อธิบายไปตามที่นึกออกในขณะที่ตอบ อาจไม่ครบ และคนอื่นอาจพิจารณาต่างไปจากผมก็ได้) ส่วนเรื่องความชอบมันก็เป็นอีกเรื่องครับ....เพราะงั้นถ้าคนอื่นจะชอบสไตล์ดิสนี่ย์มากกว่า ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ คนเรามันชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ![]() อย่างไรก็ตามยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความเห็นครับ ปล. ที่จริงผมว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอนิเมเต็มๆ อยู่เหมือนกันครับ แต่เรียบเรียงยังไม่เสร็จ ถ้าอันนั้นเขียนเสร็จก็จะมีคำอธิบายสำหรับจุดต่างๆ ให้เห็นภาพได้เลยว่าเพราะอะไรผมถึงให้คะแนนอนิเมมากกว่าดิสนี่ย์ โดย: nyo
![]() 555 นึกว่าจะไม่มาตอบซ้ะเเล้ว
ที่จริงก็เเวะมาบ่อยเเหละค่ะเเบบอยากหาคนที่คุยภาษาเดียวกัน เรื่องอนิเมะไม่เถียงเเล้วค่ะ 555 อารมณ์คงเหมือนคนเล่นdota กับ hon เถียงกัน #เเล้วเเต่ความชอบอ่ะเนอะ ได้ฟังความคิด คุณ nyo ก็ชอบนะคะประมานว่าไม่เคยได้เจอหรือคุยกับใครที่นิสัยหรือการถ่ายทอดความคิดเหมือนกัน(เหมือนเหงาอ่ะเรา) เเละประทับใจความมุ่งมั่นของคุณ nyo นะคะ ขอให้สำเร็จค่ะ โดย: Nnop IP: 182.52.4.183 วันที่: 18 ตุลาคม 2559 เวลา:23:26:28 น.
เรื่องอนิเมก็แล้วแต่ชอบแหละครับ
![]() คนเราชอบต่างกันได้อยู่แล้วไม่แปลกครับ ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน เข้าใจความรู้สึกที่ว่าเหมือนเหงาเพราะมันหาคนคุยเซนส์คล้ายๆ กันได้ยากใช่มั้ยครับ สุดท้าย ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ โดย: nyo
![]() ตอนนี้โจ้ คุณ nyo เเละเอ๋ มีกลุ่มไลน์กันอยู๋
หากสนใจจะมาคุยกันเเบบ INTJ ติดต่อบอกไลน์ไอดีที่คุณnyo ได้นะคะ ![]() โดย: JoJo (สมาชิกหมายเลข 1905325
![]() ปล.เป็นกลุ่มที่เงียบเเละลับเเละน้อยๆตามประสาคนไม่ค่อยคุยจริงๆค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ เด้งไลน์เดังเดือนละหน 555
โดย: JoJo (สมาชิกหมายเลข 1905325
![]() ก็ส่ง ID ไลน์มาทางหลังไมค์หรือเมลก็ได้
ในกลุ่มก็ถือว่าส่งไลน์กันน้อยมากจริงๆ แหละครับ 5555 ![]() โดย: nyo
![]() INTJ เหมือนกันค่ะ แต่ดันมองว่าคนอื่นนี่แปลกจัง ทำไมเหมือนกันได้ซะขนาดนั้นนะ? 55555555555 (อย่าไล่เตะเราน้า คนอื่นๆ) มีกรุ๊ปไลน์ เฉพาะ INTJ ด้วยหรือคะนี่ ดีจัง 555
โดย: alselyu IP: 27.145.130.34 วันที่: 5 เมษายน 2560 เวลา:12:45:36 น.
Hi I'm an INTJ เป็นมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเหมือนใคร พูดได้ว่าสวนกระแสพวกINTJ คงเข้าใจดี. สวัสดีทุกคน. เราเป็นผู้หญิงได้ยินว่ายากน่าจะจริงๆคนรอบข้างเรา เรายังไม่เห็นใคนที่เป็นINTJ อยากเจออยากคุยบ้างสักครั้งจะรู้สึกเข้าใจกันรึป่าว เพราะเราเชื่อว่าINTJจะรู้สึกได้ว่าใช่ไม่ใช่
โดย: ปอ IP: 58.10.65.151 วันที่: 13 เมษายน 2560 เวลา:11:43:12 น.
ถ้าสนใจเข้ากลุ่มไลน์ INTJ ก็ติดต่อผมทางอีเมลก็ได้ครับ
โดย: nyo
![]() ตอนนี้กลุ่มไลน์ INTJ ได้เปิดเพจ INTJ Thailand บน Facebook ขึ้นมา เอาไว้เป็นชุมชนออนไลน์ให้ชาว INTJ มาเจอกันได้ครับ ใครที่สนใจก็ไปตาม url ด้านล่างนี้เลย
https://www.facebook.com/intjthailand/ โดย: nyo
![]() |
บทความทั้งหมด
|