มาฆบูชา
วันมาฆบูชา ความหมายคืออะไร คำว่า "มาฆะ" นั้น เป็นชื่อของเดือน 3 ย่อมาจากคำว่า "มาฆบุรณมี" หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3
พิธีทำบุญวันมาฆบูชานี้ ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีมาในสมัยใด อย่างไรก็ตามในหนังสือ "พระราชพิธีสิบสองเดือน" อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ของ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" มีเรื่องราวเกี่ยวกับการประกอบราชกุศลมาฆบูชาไว้ว่า ประเทศไทยเริ่มกำหนดพิธีปฏิบัติในวันมาฆบูชาเป็นครั้งแรกในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการประกอบพิธีเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2394 ในพระบรมมหาราชวังก่อน โดยมีพิธีพระราชกุศลในเวลาเช้า นมัสการพระสงฆ์จากวัดบวรนิเวศราชวรวิหารและวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร จำนวน 30 รูป ฉันภัตตาหารในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อถึงเวลาค่ำ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ทรงจุดธูปเทียนนมัสการ พระสงฆ์ทำวัตรเย็นและสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์ เมื่อสวดจบทรงจุดเทียน 1,250 เล่ม รอบพระอุโบสถ มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ 1 กัณฑ์ เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลี และภาษาไทย ส่วนเครื่องกัณฑ์ประกอบด้วย จีวรเนื้อดี 1 ผืน เงิน 3 ตำลึง และขนมต่าง ๆ เมื่อเทศนาจบ พระสงฆ์ 30 รูป สวดรับ ในสมัยรัชกาลที่ 4 นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกประกอบพิธีด้วยพระองค์เองทุกปี แต่มีการยกเว้นบ้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องจากบางครั้งตรงกับช่วงเสด็จประพาสก็จะทรงประกอบพิธีมาฆบูชาในสถานที่นั้น ๆ ขึ้นอีกแห่ง นอกเหนือจากภายในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาการประกอบพิธีมาฆบูชาได้แพร่หลายออกไปภายนอกพระบรมมหาราชวัง และประกอบพิธีกันทั่วราชอาณาจักร ทางรัฐบาลจึงประกาศให้เป็นวันหยุดทางราชการด้วย เพื่อให้ประชาชนจากทุกสาขาอาชีพได้ไปวัด เพื่อทำบุญกุศลและประกอบกิจกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย วันมาฆบูชา กับหลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติ หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติคือ "โอวาทปาติโมกข์" ซึ่งเป็นหลักคำสอนสำคัญอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เพื่อนำไปสู่ความหลุดพ้น หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 ดังนี้ หลักการ 3 คือหลักคำสอนที่ควรปฏิบัติ ได้แก่ 1. การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม) 2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตามกุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม) 3. การทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัย ซึ่งทั้ง 3 หลักการข้างต้น สามารถสรุปใจความสำคัญได้ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" นั่นเอง อุดมการณ์ 4 ได้แก่ 1. ความอดทน อดกลั้น คือ ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจา ใจ 2. ความไม่เบียดเบียน คือ งดเว้นจากการทำร้าย หรือเบียดเบียนผู้อื่น 3. ความสงบ ได้แก่ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย วาจา ใจ 4. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา วิธีการ 6 ได้แก่ 1. ไม่ว่าร้าย คือ ไม่กล่าวให้ร้าย โจมตีใคร 2. ไม่ทำร้าย คือ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น 3. สำรวมในปาฏิโมกข์ คือ เคารพระเบียบวินัย กฎกติกา รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคม 4. รู้จักประมาณ คือ รู้จักความพอดีในการบริโภค รวมทั้งการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ 5. อยู่ในสถานที่สงัด คือ อยู่ในสถานที่ที่มีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม 6. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ คือ การฝึกหัดชำระจิตใจให้สงบ มีประสิทธิภาพที่ดี กิจกรรมวันมาฆบูชาที่ควรปฏิบัติ การปฏิบัติตนสำหรับพุทธศาสนิกชนในวันมาฆบูชา คือ ในตอนเช้า ควรไปทำบุญตักบาตร ไปวัดเพื่อฟังพระธรรมเทศนา หรือจัดสำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหาร ช่วงบ่าย ฟังพระแสดงพระธรรมเทศนา เจริญสมาธิภาวนา เมื่อถึงตอนค่ำ นำดอกไม้ ธูป เทียน ไปเวียนเทียน 3 รอบ ที่พระอุโบสถ โดยการเวียนเทียนนั้นจะเวียนขวา จำนวน 3 รอบ และช่วงเวลาที่เดินอยู่นั้นให้ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นอกจากนี้พุทธศาสนิกชนควรบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามสถานที่ต่าง ๆ และรักษาศีล สำหรับตามบ้านเรือน สถานที่ราชการ จะมีการประดับธงชาติ ธงธรรมจักร เพื่อระลึกถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ข้อเสนอแนะการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในวันมาฆบูชา กิจกรรมวันมาฆบูชาเกี่ยวกับครอบครัว กิจกรรมที่ครอบครัวควรทำในวันมาฆบูชา อย่างเช่น การทำความสะอาดบ้าน จัดแต่งที่บูชาประจำบ้าน ชักชวนครอบครัวไปทำบุญตักบาตร ฟังศีล ฟังธรรม บำเพ็ญกุศล ปฏิบัติธรรม รวมทั้งควรศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอน และความสำคัญของวันมาฆบูชาด้วย กิจกรรมวันมาฆบูชาเกี่ยวกับสถานศึกษา ในสถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญอีกแห่ง โดยภายในสถานศึกษาควรมีการร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา เช่น จัดนิทรรศการให้ความรู้ ประกวดเรียงความ ตอบปัญหาธรรมะ บรรยายธรรม หรือร่วมกันทำบุญ ตักบาตร เวียนเทียน บำเพ็ญกุศล อีกทั้งประกาศเกียรติคุณนักเรียนผู้ทำประโยชน์ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี กิจกรรมวันมาฆบูชาเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน ควรประชาสัมพันธ์ในที่ทำงาน และจัดให้มีการบรรยายธรรม หรือบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกัน ร่วมทำบุญ บำเพ็ญกุศลร่วมกัน กิจกรรมวันมาฆบูชาเกี่ยวกับสังคม ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็น วัด มูลนิธิ สมาคม สื่อมวลชน สนามบิน สถานีรถไฟ ฯลฯ ควรช่วยกันประชาสัมพันธ์ความสำคัญของวันมาฆบูชา อาจเป็นการพิมพ์เอกสารให้ความรู้ จัดให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกอบายมุข โดยรณรงค์ให้ช่วยกันทำประโยชน์ต่อสังคมแทน อาจช่วยกันปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ ฯลฯ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดกิจกรรมในวันมาฆบูชา พุทธศาสนิกชนจะมีความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชา รวมทั้งหลักธรรมต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความตระหนักต่อความสำคัญของพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะชาวพุทธ และยังเป็นการช่วยธำรงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป .........................................................
ขอขอบคุณที่มาจาก : https://www.skm.ssru.ac.th/news/view/20696 สวัสดีวันพระใหญ่นะครับ
พึ่งจะรู้ว่า วันมาฆบูชา เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย พอมาดูข่าว ก็เจอแต่ข่าวลูกหลานทอดทิ้งพ่อแม่ที่เจ็บป่วย เอาเงินบริจาคพ่อแม่ที่ยากจน ไปใช้หมด ดูแล้วก็ได้แต่ปลงนะครับ โดย: multiple วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:38:10 น.
โดย: The Kop Civil วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:40:19 น.
วันนี้ละเรื่องชั่วได้ถือเป็นเรื่องดีครับ จริงๆ ก็ควรละให้ได้ทุกวันน่ะแหละ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:42:18 น.
สวัสดีครับคุณ**mp5**
เข้ามาทบทวนประวัติความเป็นมาวันมาฆบูชาด้วยครับ บางครั้งใครมาถาม ผมก็เล่าให้ฟังได้ไม่ถนัด เพราะลืมรายละเอียดไปบ้าง ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:04:08 น.
มาทบทวนประวัติวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาวพุทธครับ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:20:08 น.
สวัสดี จ้ะ น้องเอ็ม
สาธุ จ้ะ บล็อกวันนี้ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ความเป็นมาและความสำคัญของวันมาฆบูชา อย่างละเอียดมากกว่าที่เคยเรียนมาเยอะ จ้ะ โหวดหมวด ข้อคิดและธรรมะ โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:57:35 น.
สาธุค่ะ
ได้มาทบทวนวันมาฆะบูชาอีกครั้งค่ะ โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:53:44 น.
สวัสดีครับ จากบล็อก - อบคุณสำหรับกำลังใจ ครับ โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:17:55:30 น.
ขอบค ุณที่แวะไปส่งกำลังใจนะค้าาา
โหวตหมดแย้ววว แปะใจไว้ก่อง โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:15:23:03 น.
อนุโมทนาสาธุ บุญจากการเผยแพร่พระพุทธศาสนาครับ
และขอบคุณมากครับพี่ ที่แวะไปเยี่ยมเยียนที่บล็อค โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:19:54:01 น.
สาธุธรรมค่ะ ยินดีด้วยเช่นกันนะคะกับสายสะพายที่ได้รับค่ะ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต nonnoiGiwGiw Diarist ดู Blog กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog ชีริว Travel Blog ดู Blog ตะลีกีปัส Food Blog ดู Blog เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog **mp5** Dharma Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 มีนาคม 2564 เวลา:18:41:17 น.
สาธุๆๆค่ะแวะมาส่งกำลังใจและเก็บข้อคิดดีๆจากธรรมมะกลับบ้านค่ะ
โดย: nin77 วันที่: 8 มีนาคม 2564 เวลา:20:15:46 น.
|
บทความทั้งหมด
|
มาฆะสวัสดี ครับ