9 วัน 4 ประเทศ ชะโงกทัวร์ยุโรป
เอ้า... มาเร็วๆๆๆๆๆ

เร่เข้ามามุงกันเร็วๆ เข้า(หาลูกค้านิดนึง)

เพิ่งกลับมาจากชะโงกทัวร์ค่ะ กำลังตื่นเต้นอยากแบ่งปันประสบการณ์กันหน่อย

สำหรับใครที่คิดอยากไปเซอเวย์ยุโรปแต่ลังเลใจไม่รู้จะไปดีไม่ไปดี
ไปเองดี หรือไปกับทัวร์ดี (หรือไปที่อื่นดี)

เผื่อว่ารีวิวนี้จะช่วยท่านได้... (ปานนั้นเชียว)

หลังจากที่ตัวเองลังเลใจอยู่พักใหญ่ก็ตัดสินใจเลือกซื้อทัวร์ไปยุโรป 9 วัน (รวมวันเดินทาง)

ไปมันคนเดียวนี่แหละ ก็ในเมื่อเพื่อนฝูงก็ไม่มี (ไม่ว่าง+ไม่มีเงิน)
ญาติพี่น้องก็ไม่สน (ญาติๆ ยอมให้ไปก็ดีแล้ว)
เพื่อนร่วมงานก็ไม่มี (งานอิสระค่ะคุณขา)
ไปมันคนเดียวนี่ละว้า...

ตอนแรกแอบกลัวจะเหงาอยู่หน่อยๆ แต่ก็เอาวะ... เราพร้อมแล้ว ไม่ไปเดี๋ยวเกิดไม่ว่าง+ไม่มีเงิน+ไม่สบาย ขึ้นมาทีหลังแล้วจะมานึกเสียใจอีก

ไปก็ไป...


และแล้วทริปกะทันหันก็เริ่มต้นขึ้นตอน 4ทุ่มวันที่ 14 ตุลาคม
ไกด์นัดที่หน้าเคาท์เตอร์อิยิปต์แอร์ เดินวนอยู่สองรอบก็ไม่เจอ(ที่จริงจำหน้าไกด์ไม่ได้) เลยโทรหากว่าจะเจอตัว

โหลดกระเป๋าเสร็จสรรพก็ช้อปปิ้งคิงพาวเวอร์ซะหน่อย เอ๊ย ไม่ใช่ ไปรอขึ้นเครื่อง เที่ยวบิน MS ออกตอน 00.45 น. กว่าจะได้ขึ้นเครือ่งแทบหลับคาเก้าอี้ เพราะเลยเวลานอนไปมาก แต่ในที่สุดก็มาถึงอิยิปต์จนได้

มีพี่ที่ไปด้วยกันตั้งชื่อเช้าวันนั้นว่า "ฟ้าสางที่อิยิปต์"



ที่จริงทัวร์ของเราเป็นทัวร์ยุโรป 3ประเทศ คืออิตาลี สวิส ฝรั่งเศส แต่เนื่องจากบินโดยอิยิปต์แอร์ และต้องรอเปลี่ยนเครื่องเกือบ 5 ชั่วโมง โปรแกรมจึงแถมการทัวรือิยิปต์ให้อีก 1 วัน จะได้ไม่ต้องรอ ซึ่งก็ชอบตรงนี้ถึงเลือกทัวร์ 4 ประเทศ

วันที่บินมีคนไทยอีกกลุ่มบินมาลำเดียวกัน นั่งรอเปลี่ยนเครื่องด้วย
เครื่องลงที่อิยิปต์ ตี 5 รอเปลี่ยนเครื่องบินตอนราวๆ 10.30 น.

แต่กรุ๊ปเราไม่ได้รอ หัวหน้าทัวร์ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ขอเข้าเมืองไปเที่ยวเป็นลักษณะซิตี้ทัวร์ 1 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่ทุกคนจะต้องทิ้งพาสปอร์ตไว้กับเจ้าหน้าที่ที่สนามบิน โดยประสานงานกับคาหนักทัวร์ (ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ที่ co กับอิยิปต์แอร์)

รออยู่พักใหญ่ ในที่สุดเราก็เดินทางเข้าอิยิปต์โดยไม่มีพาสสปอร์ตติดตัว
อากาศยามเช้าตรูวันที่ 15 ตุลาคมที่ไคโรค่อนข้างหนาว จำได้ว่า 18 องศา แถมยังมีลมเย็นๆ พัดมาตลอด

ทางคาหนักทัวร์ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี จัดรถบัสขนาด 50 ที่นั่งมารับ (ทั้งกรุ๊ปมี 16 คน นั่งกันสบายเลย) พร้อมไกด์ชาวอิยิปต์ชื่ออาลี (ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่าไม่ใช่อาลีบาบา)
จอดให้ถ่ายรูปกันจุดแรก เป็นมัสยิดชื่อดังของไคโร ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้
-*-


ถ่ายรูปกันราวๆ 10 นาที ไม่ได้เข้าด้านในเพราะไม่ได้อยู่ในโปรแกรม

แล้วอาลีก็พาไปจุดล่องเรือชมแม่น้ำไนล์เพราะเห็นว่ายังเช้าอยู่
จะไปพิพิธภัณฑ์ก็ยังไม่เปิด

ค่าล่องเรือ 20 ยูเอสดอลล่า ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่มีใครล่องเรือสักคน
หรือว่ายังไมหายเหนือ่ยจากการเดินทางก็ไม่รู้

บางคนออกความเห็นว่าแม่น้ำไนล์ดูใกล้ๆ แล้วเหมือนแม่น้ำเจ้าพระยา -*-

ท่าเรือเขาก็สวยงามได้ที่ทีเดียว

(ทุกจุดที่มีนักท่องเที่ยวลงจากรถทัวร์จะมีตำรวจถือปืน(คาดว่าเป็นเอ็ม 16) นั่งเฝ้าอยู่ เพื่อความปลอดภัย อยากถ่ายรูปมาให้ดูแต่กลัวโดนตำรวจด่า-*-)



จากนั้กน็เดินทางเข้าเมือง ในทีสุดก็มาถึงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไคโร

ที่เก็บโบราณวัตถุชื่อดังระดับโลกหลายชิ้น อย่างหน้ากากฟาโรห์ตุตันคาเมน (คนอิยิปต์ออกเสียงว่าตุตันคามุน) ทำจากทองคำแท้ ซึ่งงดงามมากๆๆ

ไอ้เราก็ตื่นเต้น เพราะเคยเห็นแต่ในหนังสือมาตั้งแต่ยังเด็ก พอดีเป็นคนชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับอิยิปต์มานานแล้วเลยยิ่งตื่นเต้นใหญ่

ด้านหน้าจะมีศิลปะวัตถุซึ่งสร้างขึ้นใหม่ แต่เลียนแบบของจริง ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันตามสบาย เพราะด้านในจะห้ามถ่ายรูปทั้งหมด (ฝากกล้องไว้ที่ทางเข้า)

ขนาดของทำขึ้นใหม่ก็ยังเรียกความสนใจจากเราได้ไม่น้อย


ด้านหน้ามีรูปเหมือนคลีโอพัตราด้วย

นักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดที่มาเยือนอิยิปต์จะเป็นฝรั่ง ชาติเอเชียที่นิยมมามีแค่ญี่ปุ่น(กับคนจีนอีกนิดหน่อย) คนไทยนี่น้อยมากๆ

เงินที่ใช้ในอิยิปต์จึงนิยมใช้ดอลล่ากันหมด เราเลยไม่เคยได้ยลโฉมปอนด์อิยิปต์ (ราวๆ 6 บาทไทย) ราคาข้าวของก็ไม่ถูกไม่แพง แล้วแต่จะต่อรองกันได้

หลังจากไกด์พาทัวร์จบก็ให้เวลาได้เดินเล่นกันอีก 30 นาที (เห็นไหมไม่ได้ชะโงกซะหน่อย)

จากนั้นก็ตรงไปยังโรงงานน้ำหอม

อิยิปต์ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งหัวน้ำหอมชื่อดังของโลก (ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อน)

จริงๆ เขาก็จะพาเราไปช้อปปิ้งนั่นละ แต่ของอย่างนี้ต้องมีศิลปะกันหน่อย

ไปถึงเขาก็จะมีเครื่องดื่มต้อนรับ พร้อมกับรายการลิสรายชื่อกลิ่นต่างๆ ให้คนละใบ

แล้วก็เริ่มเปิดการขายโดยให้ทดลองแต่ละกลิ่น
คนสาธิตน่ารักมากเพราะพูดไทยเป็นบางคำ เป็นต้นว่า "น้ำหอม" "สองหยด"
มีเกร็ดการใช้นำหอลแบบตลกๆ มาเล่าด้วยไม่ให้เบื่อ

แล้วก็ให้เราลองจนเป็นที่พอใจ ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร
หลายคนก็ได้หัวน้ำหอมติดมือกลับบ้านไป ราคาต่ำสุดอยู่ที่ ขวดเล็กขนาด 50 ml 15 ยูเอสดอลล่า

ถ้าซื้อ 4 ขวดจะมีกล่องกำมะหยี่แพคให้ พร้อมแถมขวดใส่น้ำหอมเป็นแก้วเป่า งานแฮนเมด ซึ่งขวดสวยมากๆๆๆ (อยากได้แต่ขวดไว้ตั้งโชว์55)

น้ำหอมเพียงหยดเดียวก็หอมได้ทั้งตัว แถมบางกลิ่นยังเป็นที่มาของน้ำหอมชื่อดังบางรุ่นของชาแนล เสียด้วยซ้ำ(จำกลิ่นได้เพราะที่บ้านมีอยู่ขวด) เท่ากับว่าซื้อที่นี่ 15เหรียญก็กลิ่นเดียวกับชาแนลเลย55

นี่ก็แอบถ่ายรูปขวดมาให้ดู


ถัดจากโรงงานน้ำหอม สมาชิกหลายคนเริ่มบ่นว่าหมดแรงซะแล้วเพราะว่าบินตั้งแต่เที่ยงคืนเมื่อคืน นี่ใกล้เที่ยงแล้ว แถมเวลาที่อิยิปต์ช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง ทำให้เกิดอาการแจคแล๊ค รู้สึกเหมือนวันมันยาวนานผิดปกติ

แต่เรายังลุยกันต่อ

นี่เป็นภาพหน้าร้านเสื้อผ้าไว้ขายหนักท่องเที่ยว โดยมีหนุ่มน้อยชาวไคโรยิ้มสู้กล้อง


เราว่าชาวไคโรเป็นมิตรนะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่ออิยิปต์ไปเยอะมากๆๆ แล้วไอ้ที่ว่าผู้ชายอิตาลีหน้าตาดีที่สุดในโลกน่ะไม่รู้หรอกนะ เพราะนาทีเริ่มรู้ว่า ผู้ชายอิยิปต์ก็หน้าตาดีไม่แพ้กันเลย55+

ภาพนี้จากริมฝั่งถนนหน้าโรงงานน้ำหอม มองเห็นยอดปิรามิดกิซาอยู่รำไร

จากโรงงานน้ำหอม มุ่งหน้าไปต่อที่โรงงานกระดาษปาปิรุส

ตอนแรกเราเข้าใจว่าน่าจะมีสมุดที่ทำจากกระดาษปาปิรุสขาย (กะจะมาเหมาเลย) แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่

โรงงานกระดาษปาปิรุสจะสาธิตการทำกระดาษ
โดยการนำต้นก๊ก มาปอกเปลือกออกแล้วสไลด์เป็นแผ่นบางๆ
รีดน้ำออกให้หมด ทิ้งไว้ 12 วัน แล้วน้ำมาสานเป็นแผ่นกระดาษ

ทีนี้ก็ใช้เครื่องบีบอัดให้เป็นแผ่นเรียบๆ ทิ้งไว้อีก (ถ้าจำไม่ผิด) 12 วัน
ก็จะได้แผ่นกระดาษซึ่งมีความทนทานเป็นเลิศ
ใช้น้ำเทลงไปก็ไม่สะเทือน มีอายุอยู่ได้เป็นร้อยปี(ขั้นต่ำ)
ถ้าเก็บดีๆ อยู่ได้หลายพันปี เหมือนทีเราเห็นในพิพิธภัณฑ์

ส่วนนี่เป้นรูปสาวชาวไคโรผู้สาธิตการทำกระดาษ
เธอหน้าตายิ้มแย้มรับแขกดีมากๆ เป็นมิตรมากๆ


ภายในโรงงานก็จำหน่ายกระดาษปาปิรุสซึ่งวาดภาพ(ลอกเลียน) แบบอิยิปต์โบราณ หลายภาพสวยมากๆ จนอยากหอบหิ้วกลับเมืองไทย แต่ต้องยอมถอดใจเพราะราคาสูงมาก อย่างภาพที่เห็นด้านหลังของผู้สาธิตการทำกระดาษ แผ่นนึงตกเป็นเงินไทยก็ราวๆ 5000 บาท ต่อรองได้นิดหน่อย

สุดท้ายเราเลยได้ภาพปฏิทินแบบอิยิปต์ติดมือกลับบ้านมา 1 แผ่น
ขนาดเล็ก ราคา 15 ยูเอส พร้อมเขียนชื่อเราลงไปให้ด้วย

ส่วนภาพด้านล่างเป็นรูปฟาโรห์ซึ่งเขียนกระดาษปาปิรุสเหมือนกันแต่ใช้เทคนิคการทิ้งไว้ 21 วัน กระดาษจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ดูอาร์ตไปอีกแบบ


ช่วงบ่ายวันแรกในที่สุดเราก็มาถึงปิรามิดกิซา
หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ยุคเก่าของโลก
และเป็นเพียงชิ้นเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน (ในโซนยุคเก่า)

นี่เป็นภาพจากบนรถโคช ยังเป็นแต่ไกลอยู่

ยิ่งใหญ่อลังการมากจริงๆ

มีอูฐเดินๆ อยู่ด้วย
ตามราวการทัวร์มักจะเขียนว่าไม่รวมค่าบริการขี่อูฐ แต่พูดตามตรง
ไม่อยากขี่เลย มันดูน่าสงสาร(หรือคิดไปเองก็ไม่รู้)

เอ่อ ลืมเล่าไปนิด ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไคโรจะมีห้องมัมมี่กษัตริย์
ซึ่งถ้าต้องการเข้าชมต้องเสียเงินเพิ่มต่างหาก 20 ยูเอส

ไอ้เราก็ตั้งใจไปชมเต็มที่ ปรากฏว่าทั้งกรุ๊ป อีก 15 คนไม่มีใครกล้าเข้าเลย
กลัวภาพติดตา (-*-) เพราะแค่มัมมี่ทั่วไปที่เห็นในพิพิธภัณฑ์ก็มากเกินพอแล้ว

เราก็ไม่อยากให้คนอื่นเสียเวลาก็เลยไม่ได้เข้าชมไปด้วย แต่ว่านะ...

จากการเยือนอิยิปต์เพียง 1 วัน(เป็นของแถมอีกต่างหาก) ทำให้เราตั้งใจว่าโอกาสหน้าจะมาทัวร์อิยิปต์สัก 8 วันให้จงได้ ทริปหน้าค่อยว่ากัน55

****

กลับมาที่กิซาต่อ ให้ดูว่าหิน 1 ก้อนนั้นใหญ่ขนาดไหน (แน่ละหนักก้อนตั้ง 1-2 ตันเชียวนะ)



นี่ด้านหน้ามีสฟิงซ์ ซึ่งทรุดโทรมไปมาก เฝ้าอยู่
แต่ก็ยังอลังการอยู่ดี


เหนื่อยแล้วเข้าที่พักกันดีกว่า
คืนแรกที่ CATARACT HOTEL ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท สวยมากๆๆ


ไม่อยากจะเชื่อว่าที่นี่คือกรุงไคโร
สระว่ายน้ำสวยมาก ตอนเช้าๆ มีฝรั่ง(หล่อล่ำมั่งไม่ล่ำมั่ง)มาว่ายน้ำเล่น
เรานั่งกินอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ของโรงแรม (มีอาหารพื้นเมืองให้ชิมด้วย)อยู่ใกล้ๆ สระว่ายน้ำ เลยมีอาหารตาด้วย55+


เดี๋ยวจะมาต่อตอนหน้าค่ะ...

ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม



Create Date : 29 ตุลาคม 2552
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 20:20:00 น.
Counter : 2361 Pageviews.

5 comments
แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya
(10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)
วัดตะโหมด Wat Tamod, Phatthalung. nanakawaii
(11 เม.ย. 2567 09:28:07 น.)
สักการะองค์พญานาคใหญ่ที่สุดในไทย วัดถ้ำแจง เพชรบุรี นายแว่นขยันเที่ยว
(8 เม.ย. 2567 12:34:14 น.)
ตะวันยอแสง ที่ ภูคกงิ้ว พายุสุริยะ
(7 เม.ย. 2567 18:27:17 น.)
  
ตามมาอ่านครับ มันดีๆ ^^
โดย: Aun IP: 202.44.4.21 วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:3:05:24 น.
  

รอตอนหน้าค่าา :))
โดย: The Enjoy! Story วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:3:35:28 น.
  
รอด้วยคนครับ

เอามาลงไวๆนะ
โดย: หนุ่ม IP: 110.164.31.225 วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:1:11:56 น.
  
ภาคต่อมาเมื่อไหร่ แวะไปเรียกที่บ้านด้วยนะคะ
รออ่านคะ :)
โดย: I am Kae Vy วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:16:36:14 น.
  
มีต่อเมื่อไรคะ กำลังจะไปทัวร์ทริปลักษณะนี้ต้นปีหน้าค่ะ
ไม่ทราบว่าไปกับ บ.อะไร ราคาเท่าไรคะ เท่าที่อ่านมา 2 ตอนก็โออยู่
ทริปที่จะไปจะแวะเนเธอร์แลนด์กับเบลเยี่ยมด้วย คงจะเป็นชะโงกของแท้เลยค่ะ
จาก app.007@hotmail.com
โดย: app.007@hotmail.com IP: 117.47.177.37 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:46:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Meaw-angle.BlogGang.com

meaw-angle
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด