Thing that I knew when I visited Indonesia
เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโอกาส คว้าตั๋วโปรไปท่องอินโดนีเซียมา 1 สัปดาห์ 
ด้วยความที่เออีซีกำลังจะมาในไม่ช้านี้แล้ว แต่ความรู้เกี่ยวกับประเทศนี้ยังนับว่าน้อยมาก
สิ่งที่ได้ไปพบเห็นที่นั่นจึงถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และหลายอย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ขอย้ำว่าเฉพาะผู้เขียนเท่านั้น เป็นสิ่งที่ผู้เขียนเพิ่งได้รู้และคิดว่าคงจะดี
หากข้อความนี้จะทำให้ใครหลายคนเข้าใจอินโดนีเซียมากขึ้น

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
มาเริ่มกันเลย...

Thing that I knew when I visited Indonesia

1. อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ข้อนี้พอทราบ แต่ที่เพิ่งทราบคือ ถ้าถามว่าเป็นนิกายไหน สุหนี่ หรือ ชีอะ คำตอบที่ได้คือ เป็นนิกายแบบอินโดนีเซีย..

กล่าวคือ เป็นวิถีมุสลิมที่ผสมกับความเชื่อดั้งเดิม และวิถีชีวิตในแบบของชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเท่าที่ผู้เขียนเห็น ก็ค่อนข้างจะปรับตัวให้เข้ากับการก้าวไปของโลกอยู่ไม่น้อย เช่น การคุมกำเนิด ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด ผูหญิงไม่คลุมศีรษะก็ได้ แต่ในขณะเดียวกันผู้หญิงแต่งงานแล้วก็ยังคลุมศีรษะกันเป็นปกติ เพราะถือคำสัญญาว่าจะให้สามี เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นเส้นผม (ยกเว้นเครือญาติ)

ปัจจุบันอินโดนีเซียมีประากรราว 242 ล้านคน เป็นมุสลิมเกือบทั้งหมด ยกเว้นเกาะบาหลีซึ่งนับถือศาสนาฮินดู ปนกับความเชื่อท้องถิ่นและมีบางกลุ่มนับถือศาสนาคริสต์อยู่บ้าง

ถูกชาวอินโดถามว่าเลดี้บอยของไทย สวยจริงไหม - ทำให้ได้รู้ว่าเลดี้บอยที่อินโดฯ ก็มีเช่นกัน แต่ชีวิตพวกเธอจะต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน ช่วงค่ำๆ ถึงได้ออกมาทำงานกลางคืน ไม่ใช่ปะปนอยู่ทั่วไปในสังคม(หรือถ้ามีก็น้อย) เพราะสังคมยังไม่ยอมรับ พอเล่าว่าเลดี้บอยที่ไทย มีอยู่ในทุกอาชีพในสังคม คนที่ถามดูจะตกใจมาก

2. อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีจำนวนเกาะมากที่สุดในโลก ราวๆ 17000เกาะ มีขนาดตั้งแต่เก้าอี้นั่ง ไปจนถึงเกาะใหญ่ที่สุดคือเกาะสุมาตรา มีพื้นที่เกือบๆ 2ล้านตามรางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าไทยราว 4 เท่า) ว่ากันว่าหากจะเดินทางเที่ยวเกาะ วันละ 1 เกาะ จะต้องใช้เวลาทั้งหมด เกือบ 47 ปี ถึงจะไปได้ครบ - นี่คือสิ่งที่พอจะทราบมาก่อนหน้านี้ ส่วนที่น่าแปลกใจคือ..

เกาะนิวกีนี มีจังหวัดที่ชื่อ จัวหวัดปาัปัว และจังหวัดปาปัวตะวันตก 

ซึ่งดูจากแผนที่แล้ว ถูกแบ่งเป็นเส้นตรงผ่าครึ่งกับ ประเทศปาปัวนิวกีนี ตรงนี้ยังไม่ทราบประวัติความเป็นมา เพียงแค่เพิ่งรู้ว่า ปาปัว เป็นส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียเท่านั้น

วันหนึ่งได้พบชาวปาปัวมาเที่ยวที่ยอร์คยากาต้า ลักษณะของชาวปาปัว คือ ตัวใหญ่ ผิวสี ถักผมเป็นเส้นๆ พูดง่ายๆ ว่าเหมือนพวกชนเผ่าดั้งเดิมประจำเกาะซึ่งแตกต่างกับชาวอินโดนีเซีย (ซึ่งหน้าตาแบบเอเชีย) อย่างมาก

3. อินโดนีเซีย ปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นหัวหน้า - สิ่งที่เพิ่งทราบคือ นอกจากนี้ยังมีท่านสุลต่าน ปกครองอยู่ใน 4 รัฐด้วย และยังเป็นพระรางวงศ์ที่ส่งตำแห่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น (เฉพาะผู้ชายเท่านั้น)

สุลต่านองค์ปัจจุบันของยอร์คยากาต้า ไม่มีบุตรชาย และมีราชินีเพียงพระองค์เดียว (มีบุตรสาวด้วยกัน) ไกด์เล่าว่ามีคนเสนอให้พระองค์รับสนมเพิ่มเพื่อจะได้มีทายาท แต่พระองคืปฏิเสธ เพราะอยากให้ยึดขนบนี้ไว้ คือแต่งงานมีคู่ชีวิตเพียงคนเดียว (เหมือนนางสีดากับพระราม ซึ่งเป็นวรรณคดีที่รู้จักกันโดยทั่วไปในอินโดนีเซีย เหมือนเมืองไทย)

4. จาร์กาต้า คือเมืองหลวงของอินโดนีเซีย ซึ่งแออัดมาก - ในความจริงที่ได้รู้ คือ จาร์กาต้า อารมณ์เหมือนกรุงเทพเมื่อสัก15-20ปี ก่อน ที่เห็นภาพของรถเมล์เก่าๆ วิ่งบนถนนที่ซ่อมแซมตลอด แล้วจะมีชายวัยรุ่น หรือหนุ่มๆ ยืนโหนตัวตรงประตูรถเมล์ ออกมาด้านนอกครึ่งตัว 

การจราจรในจาร์กาต้านั้นถือว่าบัดซบมาก หากคิดจะไปธุระหลายแห่ง อาจสามารถไปได้เพียง 1-2แห่ง ในวันเดียวเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้นอกจากทำใจซะ

ทางด่วน, ด่านเก็บค่าผ่านทางมีจำนวนมากมายมหาศาล ค่าทางด่วนตั้งแต่ 4000รูเปี๊ยะขึ้นไป 

สิ่งที่ได้เห็นอีกอย่างคือ จะมีการจัดโซน ภายในเมือง ถ้ารถเก๋งมีผู้โดยสารไม่ถึง 3 คน ห้ามขับเข้าโซนนี้ๆๆๆ ทำให้เกิดอาชีพ รับจ้างนั่งเข้าเมือง สังเกตุได้ว่าจะยืนรอกันใกล้ๆ ถนนที่มีการจัดโซน

อีกอาชีพหนึ่งคือ โบกรถ เพื่อให้กลับรถ ถ้ากลับรถตรงไหน มีคนโบกให้ คุณจะต้องจ่ายค่าโบก เท่าไหร่ก็ได้ ส่วนมากจ่ายกันที่ 5000 รูเปี๊ยะ (ราวๆ 16 บาท)

5. เงินตรา - ค่าเงินอินโดนีเซียนั้นน่าปวดหัวใช้ได้เลย 1000 รูเปี๊ยะ มีค่าราวๆ 3.3 บาทไทย นอกจากหน่วยจะเยอะแล้ว ยังมีเหรียญให้งงเล่นอีกตั้งแต่เหรียญ 25, 50, 100, 500, 1000 โชคยังดีไม่ค่อยเจอเหรียญ 25,50, 100 สักเท่าไหร่ ส่วนมากใช้วิธีปัดๆ ไปเลย ไม่ต้องทอนกัน

ส่วนธนบัตรมีมากถึงธนบัตรราคา 100000 รูเปี๊ยะหรือราวๆ 330 บาท

คำเตือน - ร้านอาหาร เวลาคิดเงิน ยิ่งทานหลายอย่าง ไปกันหลายคน ถ้าบิลมาเป็นเขียนลายมือ ให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าทุกรายการถูกต้อง และยังไม่พอต้องลงบวกด้วยว่ายอดรวมสุดท้ายถูกต้องด้วย เพราะการ "แกล้ง" เขียนเลขผิด นั้น เกิดขึ้นเป็นปกติ สำหรับนักท่องเที่ยว

6. อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย  เพราะมีพื้นที่และค่าแรงถูกมาก แรงงานหาได้ง่าย แต่มีข้อเสียตรงที่อาจมีความเสี่ยงทางการเมืองทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุน

สิ่งที่เพิ่งทราบคือ - การช้อปปิ้งในประเทศนี้สนุกมากเพราะเนื่องจากเป็นประเทศที่มีโรงงานอุตสาหกรรมยี่ห้อดังๆ มากมาย ทำให้มีการผลิตเสื้อผ้า รองเท้า จากวัสดุที่มีคุณภาพเยอะมาก คุณสามารถหาซื้อเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ในคุณภาพที่ค่อนข้างดีมาก ในราคาต่ำมากได้สบายๆ แต่มีข้อเสียคือแบบออกจะเชยสักหน่อย ต้องตามหากันนิดนึงถึงจะได้แบบสวยๆ มาครอบครอง

นอกจากเสื้อผ้ารองเท้าแล้ว พวกของที่ระลึกทั้งหลายยังมีราคาค่อนข้างถูก หากใครไม่มีภูมิ รับรองว่ามาเที่ยวไม่กี่วัน ได้หอบของกลับบ้านกันบานตะไท ตย. เช่น กล่องใส่กระดาษทิชชี่ ทำจากไม้ วาดเป็นลายเขียนสี ของที่ระลึกจากบาหลี ซื้อจากย่านแหล่งท่องเที่ยว ราคาชิ้นละราวๆ 50 บาทเท่านั้น

7. อินโดนีเซียมีภูเขาไฟเยอะมาก และยังเป็นภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต คือไม่รู้ว่าวันไหนมันจะปะทุขึ้นมาอีก หากมีเวลาแนะนำให้ไปทัวร์ชมภูเขาไฟดูสักครั้งแล้วจะติดใจในความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติ





Create Date : 08 สิงหาคม 2556
Last Update : 8 สิงหาคม 2556 15:00:39 น.
Counter : 3598 Pageviews.

1 comments
เลี้ยงรุ่น 15/ 04 / 2024 tanjira
(19 เม.ย. 2567 17:52:18 น.)
วัดพุทไธศวรรย์ ดาวริมทะเล
(18 เม.ย. 2567 17:54:51 น.)
สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
++ พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม ++ wicsir
(13 เม.ย. 2567 10:29:52 น.)
  
อยากถามว่าอบรมไกด์กับมหาลัยอะไรคะ?
โดย: ภริดา IP: 223.24.170.179 วันที่: 10 ธันวาคม 2561 เวลา:23:53:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Meaw-angle.BlogGang.com

meaw-angle
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด