ตะวันบนพื้นน้ำ ตอนที่ 10.1 สูญเสีย มือบางรีบกระชากหนังสือพิมพ์จากเจ้าของสายตาไล่เรียงตามตัวอักษรคนถูกแย่งนิ่งเฉยไม่ว่ากล่าวจากอาการเร่งร้อน และหน้าซีดทำให้อีกคนพลอยกังวล 'ดับอนาถ บ้านคุ้มกัน' เวลากลางดึก เพลิงได้ลุกไหม้เผาผลาญ บ้านใหญ่ ของบ้านคุ้มกันสาเหตุคาดว่า เกิดจากแก๊สระเบิด รายงานผู้เสียชีวิต นับร้อยๆศพ ++นายเอ ขาวบ้านแถบนั้นเล่าว่าเนื่องจากเป็นวันรวมพลทำให้ ผู้คนมารวมตัวเพื่อทำพิธีซึ่งจัดขึ้นทุกปีทำให้เหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว++ สภาพแวดล้อมข้างกายหมุนเวียนจนน่าอึดอัดเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ล้มหายตายจากไปเพียงชั่วข้ามคืนบ้านคุ้มกันเป็นเพียงชื่อเพื่อบังหน้า ฐานะจริงนั้นสำนักคุ้มกัน "ลุง ทำไมลุงตั้งชื่อง่ายจังค่ะ" "มันจะได้ไม่ยากไง" คำตอบของเจ้าสำนักเรียกความขบขันจากรอบข้างได้อย่างดี "ลุง" เสียงสะท้านยามเรียก หยาดน้ำไหลคลอรอบดวงตาไม่มี ลุง น้า พี่น้องรวมมิตร หยาดน้ำไหลรินไม่ขาดสายความเศร้าอาดรูเกาะกิน "สาม สาม สาม" ไร้การตอบสนองสองร่างกอดกันถ่ายทอดพลังใจ แม้ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เจ้าของข้าวก็ไม่ตอแยซักถาม อาการเพื่อนใหม่น่าเป็นห่วงกล่องข้าวถูกทอดทิ้ง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะเหือดหายไปในพริบตา ลาก่อน บ้านคุ้มกัน กริ๊งๆๆๆ เสียงออดปลุกให้ชีวิตหนึ่งชีวิตรู้สึกตัวพักหนึ่งก่อนกลับสู่ความเฉื่อยชา "สาม กลับกับเรานะ" บัวผยุงร่างบางออกจากห้อง "ไม่เป็นไร เรากลับเองได้" ปลดมือเพื่อนออกจากแขน "ไม่เป็นไร" สองขาก้าวไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย แสงตะวันจางแสงอ่อนลง ทิวาราตรีกำลังจะเข้าครอบคลุม ร่างบางเดินตามลำพัง ไม่คำนึงถึงช่วงเวลา ภาพความทรงจำถึงคนในสำนักยังคงวนเวียนเสียงหัวเราะ ร้องไห้ แจ่มกระจ่างชัด รอยยิ้มบนริมฝีปาก สว่างขึ้นราวคนบ้า สติสะตังไม่อยู่ในโลกใบนี้เสียแล้ว ลืมกระทั่ง "ถ้าเจ้าไม่ขึ้นรถก่อนมืด เจ้าจะได้เห็น......นรก" ตะวันแสงสุดท้ายลาลับ ไอเย็นยะเยือกแผ่กระจายออกจากเรือนแหวนบนนิ้วชี้จากเบาบางค่อยๆหนาแน่นขึ้นเรื่อย จนครอบคลุมทุกอณูของสรรพภางค์กายอุณหภูมิเริ่มลดฮวบฮาบอย่างไม่ทันตั้งตัว นรกเยือกแข็ง หนาวจนตาย !!! ความเย็นยังไม่อาจเรียกสติของหญิงสาวได้ "สาม เจ้าหายไปไหนมา" เสียงมาก่อนตัวเสียอีก อีกฝ่ายไม่รับรู้ "สาม" มือหนาเริ่มเขย่าเรียกไร้การตอบสนอง "สาม" ช้อนอุ้มร่างบางขึ้นนั่งข้างคนขับ ประตูบานหนา ไม่ต้องเปิดกุญแจ ร่างสองร่างผ่านเข้าด้านในอย่างง่ายดาย เวทย์ที่ร่ายไว้ยังไม่จางแม้จิตใจจะไม่รู้สึกแต่ร่างกายเริ่มประท้วง เจ้าของร่างไม่อยู่ในสภาวะปัจจุบันอีกต่อไปร่างบางถูกวางลงบนเตียงนุ่ม ฝ่ามือหนาส่งไออุ่นประกบบ่าไล่ความหนาวเย็น "สาม" แก้มบางถูกกระทบเรียกสติแววตาเบือนมาสบก่อนหยาดน้ำไสจะไหลลงราวปีบแตก "สำนัก ไม่เหลือ สำนัก" จากข้อมูลเพียงน้อยนิดทำให้ชายหนุ่มเริ่ม เดาได้ รอยยิ้มเหยียดปรากฎขึ้นวูบหนึ่งเร็วจนหญิงสาวไม่มีโอกาส ได้เห็น!!! ร่างบางนั่งนิ่งบนเตียงกว้างพึมพำซ้ำซากวกวนอีกร่างผลิวกาย ออกด้านนอกผละจากหญิงสาวผู้บอบช้ำ ออกท่องยามราตรี "ก๊อกๆๆๆ" หญิงสาวผมยาวกำลังหวีผมหน้ากระจก แอ๊ด ประตูบานเล็กเปิดกว้าง "เซอไพร์" "นากิม" สองร่างตะคองกอดเข้าหลังบานประตูบานเดิม
.. บล๊อกบอกว่ายาวไปขอตัดเป็นสองตอน |
บทความทั้งหมด
|