แอนอิจฉา สร้อยขิมกับแอน กราบพระประธานในโบสถ์เสร็จแล้วก็ออกมาเดินชมวัด ผ่านป้ายติดบนกำแพงเขียนว่า "คุณเมตตา อารีประเสริฐ บริจาคปัจจัยเป็นจำนวน 14 ล้าน บาท เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์โบสถ์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2546" แอนอ่านแล้วทำจมูกย่น " ต้องประกาศด้วย มีเงินก็บริจาคได้อยู่แล้ว " สร้อยขิมขำท่าขวางๆของแอน " อย่างนี้เขาเรียกอิจฉา" สร้อยขิมว่า แอนฉุนกึก " ไม่ได้อิจฉา อิจฉาเรื่องอะไร ใครอยากทำอะไรก็ทำไปสิ แต่ประกาศอย่างนี้ มันทำบุญเอาหน้าไม่ใช่เหรอ " สร้อยขิมหยุดเดิน หันไปพิจารณาป้ายนั้นอีกครั้ง ก่อนจะพูดช้าๆ อย่างไตร่ตรอง แอนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ " เรื่องนี้มันมองได้หลายมุมนะ เอากลางๆก่อนละกัน ป้ายนี้วัดอาจจะอยากทำให้เอง โดยที่คุณเมตตาไม่ได้ขอก็ได้ วัดอาจจะรู้สึกว่าเขาให้มาก อยากจะตอบแทน เพราะไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี เลยประกาศเกียรติคุณให้คนอื่นได้รู้ จะได้อนุโมทนา ส่วนคุณเมตตาเขาก็มีจิตกุศลละ ไม่ใช่ว่ามีเงินก็ทำได้อย่างที่แอนว่า คนมีเงินที่ไม่ทำบุญก็มีเยอะไป ส่วนเรื่องป้ายถ้าเขาจะขอให้วัดทำ หรือวัดทำให้เอง ก็ไม่น่าเป็นไร ก็เขาทำจริงๆ " " เขาว่าทำบุญไม่ต้องประกาศไม่ใช่เหรอ " แอนแย้ง สร้อยขิมทำท่านึก " ถ้าดูตามหนังสือโอวาท 4 ของเหลี่ยวฝาน เรื่องวิธีทำความดีแล้วก็ใช่ คือท่านมองว่า การทำบุญแบบปิดทองหลังพระ เป็นความดีที่แท้จริง แต่ในเมื่อมันก็ทำป้ายขึ้นมาแล้วอย่างนี้ เราก็มองในแง่สร้างศรัทธาให้คนอื่นก็ได้ แต่บางคนเขาก็ถือว่า ถ้าประกาศแล้ว มันเหมือนได้รับผลบุญมาก่อนส่วนหนึ่งแล้ว เวลาผลบุญมาจริงๆ อาจจะได้รับไม่เต็มที่ " " อ๋อ เก็บมัดจำไปแล้ว " แอนหัวเราะ " แต่ที่สำคัญ ที่พูดมานี่มันเรื่องของคนอื่นหมดเลย แอนต่างหากที่ควรจะมองตัวเอง " " มองยังงาย " แอนงอน อะไร คุยกันดีๆมาว่าเรา " อาจารย์สอนให้รักษาใจตัวเองนะ เวลามีอารมณ์มากระทบ รับกระทบได้ แต่อย่าให้กระเทือน รู้ทันอารมณ์ แล้วรักษาใจให้อยู่เหนือความยินดียินร้ายเสียได้ อย่างเนี๊ยะ ที่ไปอิจฉาเขาเนี่ย กระเทือนแล้ว เรียกว่าอยู่ๆเดินมาเก็บบาปในวัดซะแล้ว เราควรจะอนุโมทนากับเขา เก็บบุญให้ตัวเราดีกว่า " " มาด้วยกันรึเปล่าเนี่ย " แอนว่า " บอกว่าไม่ได้อิจฉา จับตาดูสิ ยังเย็นอยู่ " " อิจฉาหมายถึง การไม่ยินดีในคุณความดีของคนอื่น แอนควรจะยินดีที่คุณเมตตาเขาบริจาค เพราะแอนเองบริจาคไม่ไหวหรอก เอ้า! อนุโมทนาซะ " แอนยกมื้อไหว้อย่างเด็กดี แล้วแลบลิ้นให้สร้อยขิม " อีกอย่างหนึ่ง อาจารย์สอนว่า อย่ามัวไปเพ่งโทษคนอื่น ใครจะทำอะไร เป็นกรรมของเขา เขาทำอะไรยังไงเขาก็ได้อย่างนั้น แต่เราเพ่งโทษเขานั้น เราคิดไม่ดี แสดงว่าเราทำไม่ดีอยู่ เพราะการเพ่งโทษเป็นสิ่งไม่ดี ให้เลิกเพ่งโทษคนอื่น แต่ดูตัวเองว่าทำอะไรดีแล้วหรือยัง " " ไปไหนกับเธอดีอย่าง เหมือนหนีบพระไตรปิฎกไปด้วย แล้วอาจารย์สอนอะไรเธออีกละ " " อาจารย์สอนว่า เวลาเจอคนชั่ว เราต้องดีใจว่าโชคดีที่เราไม่ต้องชั่วอย่างเขา " สร้อยขิมพูดหน้าตาเฉย " จริงอะ นี่เธอว่าฉันชั่วเหรอ " แอนจะวางมวย สร้อยขิมหัวเราะ " ในภาษาธรรมะ ก็มีแต่คนดีกับคนชั่ว ทำผิดนิดเดียว ท่านก็เรียกว่าชั่วแล้ว อย่างเธอนี่ยังไม่เข้าขั้นนั้นหรอก รู้ตัวแล้วอย่างนี้ก็อภัยได้ " " วันหลังมาวัดหัดเก็บบุญให้มากๆ ระวังใจอย่าให้คิดอะไรเป็นอกุศลเลย ต้องรู้ให้ทันอารมณ์ ถ้าจะคิดไม่ดี ก็ให้เปลี่ยนมุมมองไปทางด้านดีซะ ให้ใจเราเป็นบุญ ถ้าไม่ได้ก็เฉยไปเลยดีกว่า รักษาใจให้ดีไว้ อยู่ดีๆ ไปยอมให้เรื่องของคนอื่นมาสร้างบาปให้เราได้ยังไง จริงมะ " สร้อยขิมขอคะแนนเสียง แอนพยักหน้าหนักแน่นอย่างเข้าใจในคำแนะนำ " ใช่ มันขาดดุล" "ช้อปปิ้งบุญ" ขวัญ เพียงหทัย ปล. เปลี่ยนชื่อตัวละครนิดหน่อยนะคะ อนุโมทนา กับที่รักด้วยนะจ๊ะ ที่นำเรื่องดีๆ มาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน น้องเกดเองก็จะได้บุญไปด้วยนะ และพี่โดมก็จะพยามยามหาโอกาสทำบุญเช่นกันจ๊ะ
โดย: รักเดียวของพี่โดมคือน้องเกดคนเดียวตลอดไป IP: 203.209.107.59 วันที่: 20 พฤษภาคม 2548 เวลา:10:33:48 น.
|
บทความทั้งหมด
|