Day 2 Magome-juku หมู่บ้านโบราณ บนเส้นทางสาย Nakasendo ด้วยภาพแค่ไม่กี่ภาพ ที่เห็นจากใน X (aka Twitter) ทำให้เราเปลี่ยนแผนที่ควรจะเที่ยวคันไซ มาเที่ยวชูบุแทน ภาพถนนลาดลงเนินเขาในหมู่บ้าน บ้านไม้แบบโบราณ มีฉากหลังเห็นภูเขาสีเขียวน้ำเงินนี่แหละ ที่ทำให้เปลี่ยนใจ ![]() พอหาข้อมูลเพิ่ม หมู่บ้านนี้มีชื่อว่า Magome-juku ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ เป็นหนึ่งในจุดพักแรมบนเส้นทางสาย Nakasendo ที่เชื่อมระหว่างโตเกียว-เกียวโตในสมัยเอโดะ ซึ่งสมัยนั้นยังต้องใช้การเดินหรือใช้สัตว์ต่างเป็นพาหนะ ทำให้การเดินทางใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ เลยมีจุดแวะพักเป็นระยะๆ ว่ากันว่าเมื่อก่อนมีถึง 60 ที่ แต่ปัจจุบันไม่มีคนเดินเท้าทางไกลขนาดนั้นแล้ว เลยเหลือที่อนุรักษ์ไว้แค่ 5-6 หมู่บ้านนี่แหละ วันนี้ค่อนข้างเดินทางหลายต่อนิสนึง เริ่มจากนั่งรถไฟจากโอซาก้ามานาโกย่า เราเลือกนั่งรถไฟขบวน Hinotori เป็นรถของ Kintetsu เพราะราคาถูกกว่าชินคันเซ็น(นิดหน่อย) และขึ้นรถไฟสถานี Osaka Namba ได้ คือ เดินไปได้จากที่พัก ไม่ต้องไปงงที่สถานีโอซาก้าอีก ทีแรกคิดจะประหยัดนั่งรถบัส แต่นั่งนาน 4 ชม. เสียเวลาเที่ยวมาก นั่งเครื่องมาตั้งไกลขอใช้เงินแก้ปัญหาบ้าง ![]() แล้วไม่ได้จองตั๋วมาก่อน เลยได้อะดรีนาลีนรัชแต่เช้า เพราะจะไปรอบเช้าสุด 7 โมง แต่ 6 โมงกว่า=ออฟฟิศขายตั๋วยังไม่เปิด กรี๊สสส สุดท้ายมีเจ้าหน้าที่โผล่มาช่วยกดตั๋วจากตู้ด้วยความไวแสงไว้ได้ และเดชะบุญพกเงินสดไว้ติดตัวบ้าง เพราะตอนแรกกะจ่ายด้วยการ์ด แต่ตู้ขายตั๋วไม่รับซักใบ (ทั้งเครดิตการ์ด/ทราเวลการ์ด)จากที่คิดว่าซื้อตั๋วแล้ว จะมีเวลาซื้ออาหารห่อไปกินมื้อเช้าบนรถไฟ กลายเป็นต้องรีบวิ่งมาขึ้นรถไฟให้ทันก่อนนะคะเธอ ขึ้นมาละจ่ะ โล่งกว้างทางสะดวก เพราะขึ้นต้นสาย ![]() ใช้เวลาเดินทาง 2.15 ชม. ก็มาถึงนาโกย่า ไม่ให้เสียเวลา เอากระเป๋าไปเก็บล็อกเกอร์ในสถานีก่อน เที่ยวเสร็จค่อยมาเอา ![]() ไปต่อค่ะพี่สุชาติ เปลี่ยนสายขึ้นรถไฟท้องถิ่นต่อไปอีก 2 ชม. ลงสุดสายที่สถานี Nakatsugawa ดูวิวนอกกระจกก็รู้ ว่าอยู่ในป่าเขาลำเนาไพรแล้ว ![]() จากหน้าสถานีรถไฟ Nakatsugawa ก็นั่งรถเมล์อีกต่อก็จะถึงที่หมายแล้ว มาโกเมะเป็นป้ายสุดท้าย ไม่ต้องกลัวนั่งเลยป้าย ที่ว้าวคือ ด้วยความตจว. บนรถรับแต่เหรียญเท่านั้น กรณีมีเหรียญไม่พอ จะมีเครื่องแตกแบงค์ให้เป็นเหรียญอยู่ข้างคนขับ แล้วตอนจะลงค่อยเอาเหรียญไปหยอดเครื่องจ่ายค่าโดยสารอีกที หลายขั้นตอนเนอะ มีกระเป๋ารถเมล์แบบไทยซะก็จบ 5555 ![]() ในที่สุดก็มาถึงจนได้ เย้!!! ![]() มาคนเดียว เลยขอน้องฝรั่งที่นั่งรถเมล์มาด้วยกันถ่ายรูปให้ ที่ประหลาดใจคือคนที่นั่งรถมาลงด้วยกันที่นี่มีฝรั่งประมาณครึ่งนึง ที่นี่ดังในหมู่ชาวตะวันตกเหรอ ![]() จะบ่ายโมงยังไม่ได้กินอะไรเลย เจอคาเฟ่เลยรีบถลาเข้าไปรับกาแฟด่วนๆๆ ![]() ได้กาแฟกะครัวซอง แฮปปี้ละ คาโบและคาเฟอีนถึง ไปต่อได้ ![]() ขึ้นเขาขึ้นเนินก็ไม่หวั่น ที่มาโกเมะจะเจอกังหันน้ำอยู่ข้างทางเป็นระยะ ริมทางมีคูน้ำ ได้ยินเสียงน้ำไหลตลอด ![]() เดินเที่ยวได้แบบชิลๆ ตอนแรกยังคิดว่าขึ้นเนินแล้วจะเหนื่อย แต่ไม่เลย เพราะแวะข้างทางทุกห้าก้าว มีความน่ารักในทุกเซนติเมตร ![]() สองข้างทางก็เปิดเป็นร้านขายของพวกงานหัตถกรรม ของฝาก อาหาร มีที่พักด้วย ![]() ระยะทางในหมู่บ้านไม่ไกลมาก แค่ 600 เมตร ก่อนมาก็กลัวจะไม่สวยเท่าที่เห็นจากรูป กลัวเฟลเหมือนกัน แต่พอได้มาแล้ว รู้สึกคิดไม่ผิดจริงๆที่ดั้นด้นมา ![]() คูน้ำยังดูสะอาดกว่าอ่างล้างหน้าที่บ้านเราอีก ![]() ![]() เนื่องจากมีแต่บ้านไม้เก่า ก็ต้องมีจุดป้องกันอัคคีภัยด้วย ![]() เดินมาจนถึงจุดบนสุดของหมู่บ้าน จะมีจุดชมวิว จากนี้ถ้าเดินต่อไปอีก จะเป็นเทรลเข้าป่า เชื่อมไปยังอีกหมู่บ้านนึงซึ่งเป็นจุดพักแรมโบราณเช่นกัน ![]() เรามาแค่จุดชมวิวก็พอ วานคนแถวนั้นถ่ายรูปอีกแล้ว แหะๆ อยากได้รูปสวยต้องกล้าเอ่ยปากขอค่ะ ![]() บรรยากาศดีมาก ลมเย็นๆ เสียงนกร้อง แนวภูเขาใหญ่โตข้างหน้า ชอบความรู้สึก "เรามันก็ตัวนิดเดียว" นี่มาก ![]() แล้วก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม เตรียมเหรียญ 570 เยน ไว้ขึ้นรถเมล์ขากลับ ![]() ยังไม่วายมีเรื่องให้ตื่นเต้นอีกเล็กน้อย ตอนรถเมล์กลับมาถึงสถานี Nakatsugawa เราลงรถเมล์เป็นคนที่ 3 กำลังเดินเข้าสถานี จู่ๆมีผู้ชายวิ่งตีนหมาแซงผ่านหน้าเราไป ... ชักเอ๊ะ เอ๊ะๆ หรือว่ารถไฟเข้านาโกย่ากำลังจะออก เราเลยวิ่งสปีดตามไปติดๆ แถมต้องวิ่งขึ้นสะพานลอยไปชานชาลา ขณะกำลังวิ่งขึ้นบันได อิผู้ชายคนตะกี้สะดุดล้มหน้าคว่ำอีก แต่เค้าลุกวิ่งต่อเร็วมาก เราก็ตามไปติดๆ เข้ารถไฟทันเสียงเตือนหวุดหวิด สรุปมีผู้เข้ารอบ 3 คนจากรถเมล์คันนั้นที่สามารถวิ่งทันขึ้นรถไฟรอบไวสุด ที่เหลือรอรอบต่อไปอีก ครึ่งชม.นะคะ ประเทศไทยต้องภูมิใจในตัวเราแน่ๆ วันนี้พักโรงแรม Oriental Express Nagoya Sakae ทำเลดี ราคาก็ดี ราคาแพงกว่าแคปซูลแถวสถานีนาโกย่าแค่ 4-500 เยน แต่ได้นอนเป็นกิจลักษณะ ![]() ทำเลที่ว่าดี คือ นี่! ดองกี้ห่างไปแค่ข้ามถนน ไม่ต้องแบกหามถุงช้อปปิ้งไกล แถมใกล้ทางลงรถไฟใต้ดินมาก 20-30 เมตรได้ ![]() มื้อเย็นรางวัลคนขยัน อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า ปลาไหลย่าง Hitsumabushi ต่างจากที่อื่นตรงที่ ปลาไหลจะย่างจนหนังแห้งกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อชุ่มฉ่ำ เรามากินที่ Hitsumabushi Shirakawa ร้านมีหลายสาขาในนาโกย่า สั่งแบบไซส์มินิ ก็อิ่มอยู่นะ ![]() อีกอย่างที่พิเศษ คือ สามารถกินได้ 3 แบบ คือ กินปลาไหลกับข้าว กินแบบใส่เครื่องเคียง(สาหร่าย/วาซาบิ/ผักดอง) และกินแบบเติมน้ำซุปเป็นข้าวค้ม มีเขียนวิธีกินมาให้ในเมนูด้วย ![]() เดินเที่ยวย่านซาคาเอะกลางสายฝน แวะถ่ายรูป Nagoya TV Tower ก่อนกลับไปนอน ![]() |
บทความทั้งหมด
|